“ฝนตกที่บ้านนอก” ตัดต่อใน YouTube Video Editor

YouTube Video Editor

ช่วงกลับบ้านที่ต่างจังหวัดได้ถ่ายวีดีโอตอนฝนตกไว้แบบสั้นๆ นึกอยากเอามาตัดต่อรวมกันครับ และก็รู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่า YouTube มีตัวช่วยตัดต่อออนไลน์ให้ใช้ เลยทดลองใช้งานดูครับ ขั้นตอนการทำของผมมีดังนี้ครับ

  1. อัพโหลดวีดีโอทั้งหมดขึ้นไปใน YouTube ซึ่งผมมีอยู่ 4 คลิป แบบความคมชัด 720p ถ่ายด้วย Cannon 600D
  2. เข้าไปที่ https://www.youtube.com/editor ส่วนของ User Interface แสดงให้เห็นดังรูปด้านบนครับ
    เมนู

    ส่วนคำคัญตรงเมนูด้านบนครับ เรียงตามลำดับ ได้แก่ วีดีโอของเรา, วีดีโอของคนอื่นๆที่จะนำมาใช้ได้, ดนตรีประกอบ, Transition และตัวอักษร ต่อไปก็เริ่มตัดต่อได้แล้ว

  3. คลิกลากวีดีโอที่ต้องการตัดต่อลงมาอยู่ในช่อง Timeline ด้านล่าง
  4. คลิกที่วีดีโอตรง Timeline สามารถปรับแต่งได้อีกนิดหน่อย เช่น หมุนวีดีโอ, Contrast, Brightness, Stabilize

    Video Effect

  5. นำเสียงเพลงเข้ามาประกอบ โดยลากเพลงที่ต้องการลงมาด้านล่างของวีดีโอ Timeline ปรับเสียง Balance ระหว่างเสียงในวีดีโอ และเสียงเพลง
  6. ใส่ข้อความประกอบวีดีโอเพิ่มเติมได้
  7. จากนั้นตั้งชื่อ Project แล้วกด Public ได้เลย YouTube จะใช้เวลาสักพักในการ Process เมื่อเสร็จก็นำไปแชร์ได้แล้ว

ผลงานของผมที่ใช้ YouTube Video Editor ตัดต่อออกมา จากไฟล์เริ่มต้นที่เป็น 720p ตัดต่อเสร็จก็เป็น 720p ครับ ชมผลงานได้เลยด้านล่างนี้ครับ

“RAIN AT HOME ” 

รายการที่ทำไป

  • ตัดต่อจาก 4 คลิป
  • ปรับ Contrast, Brightness และ ปรับช่วยกันสั้น (Stabilize)
  • ใส่เพลงประกอบ
  • ใส่ Transition
  • ใส่ข้อความ

การตัดต่อวีดีโอใน YouTube Video Editor ถือว่าใช้งานได้ดีเลยครับ อาจจะมีช้านิดหน่อยช่วงหลังปรับเปลี่ยน Effect และตัวอักษรที่จะใส่เข้าไปในวีดีโอตัวที่เล็กสุดยังรู้สึกว่าใหญ่เกินไปครับ

50 สุดยอดเว็บไซต์ ประจำปี 2012 คัดเลือกโดยนิตยสาร TIME

50 Best Websites 2012

เว็บไซต์ของนิตยสาร TIME จะรายงาน 50 สุดยอดเว็บไซต์ (50 Best websites ) เป็นประจำทุกปี เพราะมีเว็บไซต์ใหม่ๆ บริการออนไลน์ใหม่เกิดขึ้นทุกปี หรือบางทีก็ปรับปรุงเว็บไซต์เดิมใหม่จนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิมให้จดจำ แต่ทุกๆคนก็พยายามที่จะพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นตลอดเวลา เช่น เร็วขึ้น ประหยัดเงิน ประหยัดเวลามากขึ้น อำนวยความสะดวกมากขึ้น หรือบริการรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย นิตยสาร TIME นั้นค่อนข้างคัดเลือกเว็บไซต์ได้ดีมากๆ เป็นเรื่องน่าเสียดายถ้าเราไม่เอามาบันทึกเก็บไว้ ต้องยอมรับว่าหลายเว็บไซต์พึ่งจะเคยได้ยินชื่อเหมือนกัน แต่พอเข้าไปสำรวจพบว่าเป็นเว็บไซต์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ โดยเฉพาะในหมวด Web Tools ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานที่ต้องพึ่งอินเทอร์เน็ตแทบจะตลอดเวลาของยุคนี้เป็นอย่างดี ขอเชิญชวนให้ท่านลองเข้าไปสำรวจเว็บไซต์สุดยอดเหล่านี้ดูครับ จะได้รู้ว่าเว็บไซต์ดีๆ ไม่ได้มีแค่ Google, Facebook, Twitter …

50 สุดยอดเว็บไซต์ ประจำปี 2012

แบ่งตามหมวดต่างๆ ได้ดังนี้ (อยากทราบรายละเอียดของแต่ละเว็บไซต์เข้าไปดูได้ที่ที่มาท้ายเรื่อง) Web Tools

Entertainment

Game

Education

News and Information

Family and Kids

Shopping

วิเคราะห์การใช้งาน Facebook ของคุณด้วย Wolfram|Alpha

Wolfram|Alpha เป็นระบบค้นหาคำตอบอัจริยะ มันเก่งขึ้นเรื่อยๆ Siri ของ Apple ก็ดึงข้อมูลบางส่วนจาก Wolfram|Alpha ไปใช้งาน ถ้าอยากรู้จักมันให้ดีขึ้นลองอ่านบทความเก่าๆ ใน Tag  Wolframalpha ได้ครับ ผมเขียนถึงมันอยู่บ้างและก็ได้ใช้งานอยู่เป็นระยะ ความสามารถล่าสุดที่น่าสนใจของ Wolfram|Alpha ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปไม่นาน คือ “Facebook report” ครับ ลองมาดูว่ามันทำอะไรได้บ้าง

Facebook report by Wolfram|Alpha

Facebook report คือการวิเคราะห์การใช้งาน Faceook ของเรา โดยละเอียด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ยกตัวอย่าง ผลการวิเคราะห์

  • ข้อมูลส่วนตัว เกิดวันไหน ปีอะไร อีกกี่วันจะถึงวันเกิดอีกครั้ง
  • Activity ในแต่ละปีที่ใช้งานมา อัตราการโพส แชร์ลิงค์ อัพโหลดภาพ
  • ช่วงเวลาที่ใช้งานมากที่สุดในการโพส คำนวณคำที่ใช้โพส มีคีย์เวิร์ดอะไรเยอะที่สุดในโพส
  • เพื่อนคนไหนคอมเม้นต์ ใครแชร์ในโพสของคุณมากที่สุด
  • อัตราการใช้แอฟพิเคชั่น
  • ภาพไหนที่คุณโพสมีการคอมเมนต์และแชร์มากที่สุด
  • อัตราส่วนเพื่อนผู้หญิง-ผู้ชาย เฉลี่ยเพื่อนคุณมีสถานะอะไรบ้าง (โสด,แต่งงาน ฯลฯ)
  • ช่วงอายุของเพื่อน ใครแก่สุด ใครเเด็กสุด
  • เพื่อนอยู่ในประเทศอะไรบ้าง ใช้ภาษาอะไร ศาสนาอะไร
  • และอื่นๆ

วิธีการใช้งาน

เข้าไปที่เว็บไซต์ Wolfram|Alpha พิมพ์คำว่า facebook report ลงในช่องค้นหา enter

Facebook report

จากนั้นก็คลิกปุ่ม “Analyze My Facebook Data” ซึ่งระบบจะขออนุญาติเข้าถึงข้อมูล Facebook ของเราก็กดยอมรับไป สักพักระบบจะดึงข้อมูลของเราเข้ามา และรายงานผลการวิเคราะห์ให้ได้เห็น

Facebook report

ตัวอย่างการวิเคราะห์บัญชีของผมเอง คิดว่าถ้าเป็นบัญชี Wolfram|Alpha แบบ Professional คงจะได้ข้อมูลที่ละเอียดมากกว่า เพราะเทียบกับข้อมูลจากด้านบนของ Stephen Wolfram ของเขาเป็น account แบบ Pro ได้ข้อมูลการเชื่อมโยงของเพื่อน และอื่นๆที่ละเอียดกว่า

นอกจากนี้ยังสามารถกดแชร์ผลการวิเคราะห์ไปที่ social network อย่าง facebook, twitter, google+, linkedin ฯลฯ ได้ทันที

Share ผลการวิเคราะห์

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.wolframalpha.com/facebook

บทความ “ทำเงินบนโลกไอที (84) : So.cl อีกทางเลือกที่ไม่ใช่เฟซบุ๊ก”

เป็นบทความที่ได้เขียนไว้กับทาง CyberBiz : ผู้จัดการ Online ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2555 ยังไม่ได้เอามาบันทึกไว้ในนี้เลย ก็เลยมาเขียนถึงสั้นๆเก็บไว้

นั่งเล่น so.cl อยู่หลายวัน พยายามหาแง่มุมต่างๆของมัน เขียนส่งไปทั้งข้อความรวมกับภาพประกอบ 8 หน้ากระดาษ A4 เลยทีเดียว น่าจะยาวสุดเท่าที่เคยเขียนอะไรแนวนี้แล้วล่ะ กว่าจะเขียนออกมาได้ใช้พลังงานไปเยอะพอสมควรเลย ได้ค่าเรื่องมากินขนมนิดหน่อย แต่ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนั้นเท่าไหร่ ตอนตอบตกลงไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีค่าเรื่องให้ด้วย แต่รู้สึกดีที่ได้ทำมากกว่า ขอบคุณ @goople ที่ให้โอกาสได้ทำครับ

ตัดมาแปะไว้บางส่วน ตามไปอ่านต้นฉบับได้ที่ ลิงค์นี้ ครับ

ทำความรู้จัก So.cl สังคมออนไลน์เพื่อการศึกษาของไมโครซอฟท์

       ***ทำความรู้จัก So.cl สังคมออนไลน์เพื่อการศึกษาของไมโครซอฟท์
(บทความโดย พงษ์ศักดิ์ สาระภักดี)

ก่อนที่เราจะหาช่องทางทำเงินจากเว็บไซต์ใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นให้ได้นั้น สิ่งสำคัญที่สุดคงต้องรู้ก่อนว่ามันสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่ละส่วนนั้นมีคุณสมบัติอย่างไร ถูกสร้างมาเพื่อจุดประสงค์อะไร ข้อมูลเหล่านี้จะทำให้ง่ายต่อการนำไปต่อยอด หรือนำไปใช้ประโยชน์กับธุรกิจของเราให้แข็งแกร่งขึ้นได้ยังไง ดังนั้นการแนะนำสิ่งต่างเหล่านี้ก่อน น่าจะเป็นการชี้นำสู่ช่องทางทำเงินที่ดีที่สุด ดังนั้นเรามาทำความรู้จัก So.cl กันก่อนดีกว่าครับ

 So.cl (อ่านว่า “social”) เป็นสังคมออนไลน์จากไมโครซอฟท์ที่เปิดให้คนทั่วไปได้ใช้งานเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา หลังจากที่ปล่อยให้ใช้ในวงจำกัดมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2554 ไมโครซอฟท์ออกตัวชัดเจนว่าไม่ได้ออกแบบมาเพื่อแข่งกับ Facebook หรือ Twitter ที่ถือว่าเป็นสองเว็บไซต์สังคมออนไลน์ที่มีคนใช้งานมากที่สุดในโลกในตอนนี้

Facebook/Twitter ถูกเรียกว่าเป็น ”เครือข่ายทางสังคม”(social networking) ซึ่งเราค่อนข้างคุ้นเคยดีอยู่แล้ว เราสร้างสัมพันธ์กับคนรอบข้างด้วย ข้อความ คอมเม้นท์ ภาพถ่าย เกม ฯลฯ แต่ไมโครซอฟท์วางตัวให้ So.cl เป็น “สังคมแห่งการค้นหา” (social searching) กล่าวคือ สังคมออนไลน์ที่ผู้ใช้งานจะปฏิส้มพันธ์กันด้วยการแชร์ผลการค้นหาในสิ่งที่ตัวเองสนใจให้กันและกัน จะเห็นได้ว่าทั้งสองอย่างนี้มีจุดเหมือนและจุดต่างกันอยู่ในตัว

So.cl เกิดขึ้นจาก FUSE Labs ของไมโครซอฟท์ (ตัวอย่างผลงานของแล็บนี้ เช่น Docs.com, CompanyCrowd, Bing Social, Montage, Spindex เป็นต้น) เราจะเห็นว่าในปัจจุบันนั้นเว็บไซต์สังคมออนไลน์ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นในวัยเรียน ทางทีมงานของ Fuse Labs มองเห็นถึงศักยภาพของสังคมออนไลน์เป็นอย่างดี จึงพยายามที่จะเปลี่ยนเว็บไซต์ในลักษณะนี้ให้เข้าไปอยู่ในห้องเรียนให้ได้

So.cl จึงถูกออกแบบมาเพื่อเป็นสังคมออนไลน์สำหรับนักเรียน/นักศึกษาโดยเฉพาะ เป็นสังคมออนไลน์ที่จะแชร์ประสบการณ์ทางด้านการศึกษา ว่าในขณะนั้นพวกเขากำลังเรียนรู้อะไร อย่างไรบ้างโดยสามารถที่จะโพสเนื้อหาที่มีองค์ประกอบได้หลายอย่างพร้อมกัน เช่น ผลการค้นหา รูปภาพ วิดีโอ ข้อความ ลิงค์ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนมากที่สุดให้เพื่อนๆในกลุ่ม หรือในชั้นเรียนของตัวเอง เพื่อให้เกิดเป็นศูนย์รวมของการเรียนรู้ร่วมกัน โดยที่นักเรียน/นักศึกษาสามารถที่จะสร้างและปรับแต่งชุมชนออนไลน์ใน So.cl ให้เหมาะสมกับความสนใจของตัวเองและเพื่อนๆได้เอง

Mark Zuckerberg – Inside Facebook สารคดีจาก BBC

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก: ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอ, Facebook

ภาพยนต์สารคดี Mark Zuckerberg – Inside Facebook ของ BBC ออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2011 ความยาว 59 นาที ออนไลน์มาเป็นเดือนแล้วแต่ไม่มีเวลาได้ดูวันนี้นึกยังไงไม่รู้มาเปิดดู เรื่องอาจจะเป็นเรื่องที่เราพอรู้อยู่บ้างแล้ว แต่ก็ดูได้เพลินๆ เนื้อหามีบทสัมภาษณ์พิเศษของ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก, อาจารย์ ม.ฮาร์วาร์ด, เพื่อนสมัยเรียนมหาลัย(Joe Green-จำไม่ได้ว่าตาคนนี้อยู่ในหนังด้วยหรือเปล่า?) ,พนักงานใน Facebook  ประวัติความเป็นมาของ Facebook มีการหาความจริงจากหนังเรื่อง Social Network ด้วย (เป็นหนังอีกเรื่องที่เราชอบมาก) ที่สร้างจากหนังสือที่มองในมุมของคนคนเดียว มีข้อมูลค่อนข้างเป็นปัจจุบันเพราะมีทั้ง Timeline ที่เพิ่งเปิดตัวไป และสำนักงานแห่งใหม่

ในสารคดีชุดนี้แสดงให้เห็นว่า Facebook เอาข้อมูลของผู้ใช้อย่างเราไปทำมาหากินยังไง การโฆษณาที่เจาะเฉพาะกลุ่มได้ตรงเป้าที่สุดอย่างที่ Google เจ้าพ่อโฆษณาออนไลน์ทำไม่ได้ แม้ว่า Facebook จะเอาข้อมูลส่วนตัวเราไปใช้ แต่ก็เหมือนว่าทุกคนก็เต็มใจให้(หรือไม่รู้ว่าเอาไปใช้) อาจจะเป็นเพราะเราก็ได้ประโยชน์จาก Facebook เหมือนกันจะมองว่า Win Win ก็คงได้เพราะมันเป็นที่ทำให้เราได้พบปะเพื่อนของเรา และนี้อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เรามองข้ามเรื่องความเป็นส่วนตัวไป

เข้าไปดูสารคดีชุดนี้ได้ที่นี้ครับ https://www.youtube.com/watch?v=tlQbtNn3-vI

เว็บไซต์แนะนำผู้น่าติดตามใน Google+

Who to follow on Google+

ก่อนหน้านี้ได้แนะนำคนที่น่าติดตามใน Google+ ที่เป็นพนักงานของ Google และ Facebook ดูได้ตามลิงค์

ใน Twitter จะมีฟีเจอร์หนึ่งแนะนำคนที่คุณอาจสนใจ Who to follow ผมถือว่ามันมีประโยชน์พอสมควรเลย ใน Google+ ยังไม่มีฟีเจอร์นี้แต่ก็มีคนทำเว็บไซต์แนะนำคนน่าติดตามใน Google+ มาให้เราแล้ว โดยแยกกลุ่มให้อย่างดีเยี่ยม เว็บไซต์นั้นคือ https://www.recommendedusers.com เป็นผลงานของ +Alireza Yavari อีกอย่างที่ผมชอบในเว็บไซต์นี้คือ Circle ที่ทำขึ้นมีภาพประกอบตรงกลางวงทำให้รู้ว่าวงที่จะเลือกเกี่ยวกับอะไร ถ้า Circle ใน Google+ ใส่ภาพได้บ้างหรือมีภาพหมวดหมู่ให้เลือกใช้แทนจำนวนคนกับชื่อวงน่าจะดีไม่น้อย

เมื่อเราคลิกไปใน Circle ที่แนะนำจะพบหน้าตาประมาณนี้ครับ

ตัวอย่างในหมวด Artists Designers

คลิก Add to circles ใต้ชื่อคนที่เราสนใจ จะเปิดหน้า Profile ของคนนั้นขึ้นมา เราก็สามารถเอาเข้า Circles ได้เลย ถ้าคลิกที่หน้านี้แล้วนำเข้า Circles ได้เลยคงดี(ในอนาคตอาจจะทำได้ก็ได้) นอกจากนี้เขายังเปิดโอกาสให้เราแนะนำคนที่น่าสนใจตามหมวดหมู่เข้าไปได้นะครับ Suggestions & Recommendations

ในเว็บไซต์มีหมวดหมู่แยกคนที่น่าติดตามดังนี้

 Suggested Categories

  • Authors & Writers
  • Artists & Designers
  • Bloggers
  • Featured Users
  • Foodies
  • Googlers
  • Graphic Designers
  • Journalists
  • LGBT
  • Most Followed People
  • Musicians
  • Photographers
    -Most Followed
    -Inspirational
    -Landscape & Wildlife
    -Street Photographers
    -Portrait & Wedding
    -Other Categories
    -Photographers
  • Podcasters
  • Scientists
  • Tech Entrepreneurs
  • VCs & Angel Investors
  • Wall of Fame
  • Web Celebrities
  • Web Developers
  • Web Designers
  • Women in Tech
ยังไม่หมดครับ ในส่วนของ blog ยังแนะนำ album ภาพสวยๆจาก Google+ user ที่สวยๆมาให้เลือกดูอีกด้วย เป็นอีกจุดเด่นของ Google+ ที่ใส่ภาพขนาดใหญ่ลงไปได้ ( Facebook ภาพถูกย่อลง)
Photo Albums on Google+

ถือว่าเป็นเว็บไซต์ครบเครื่องเรื่อง Suggestions & Recommendations เกี่ยวกับ Google+ ที่ยอดเยี่ยมมาก

รวมผลงานออกแบบหน้าตา Facebook แบบใหม่

มีศิลปินหลายคนคงไม่ค่อยพอใจกับหน้าตาของ Facebook หรือ อาจจะแค่อยากลองออกแบบเว็บไซต์ Social network ที่มีคนใช้งานเยอะที่สุดในโลก อยากแสดงความสามารถว่าทำออกมาได้ดีกว่าปัจจุบัน มีหลายๆครั้งที่คนโชว์ความสามารถแนวนี้แล้วได้งานทำจริงๆ มีตัวอย่างให้เห็นเยอะแล้ว

การออกแบบหน้าตา Facebook ของแต่ละคนดูดีแตกต่างกันไป หลายอันทำออกมาได้น่าดู น่าใช้ขึ้นไม่น้อย เว็บไซต์ Hongkiat รวบรวมไว้ ผมเห็นว่าน่าสนใจเลยเอาแชร์ นอกจาก Facebook แล้วยังมีเว็บไซต์อื่นๆด้วยที่ศิลปินได้ออกแบบหน้าตาใหม่ให้ เช่น Google, Myspace, Youtube, IMDb เป็นต้น เข้าไปดูได้ที่ลิงค์ที่มาด้านล่างครับ

Facebook Concept Design

1. Barton Smith

Facebook-Facelift
Facebook Facelift

ผลงานแรกเป็นของ Barton Smith ในชื่อ The Facebook Facelift ปรับแต่งใหม่ทั้งหมด ทั้ง Home, Feed, Event, Photo ทำออกมาดูดีมาก เน้นโทนขาว เทา ฟ้า ใช้พื้นที่ได้เต็มจอ มีวีดีโอสาธิตการใช้งานด้วย เข้าไปดูผลงานของเขาแบบเต็มๆได้ที่ Barton Smith

2. Information Architects

Facebook by information architect

ผลงานโดยบริษัททำงานออกแบบโดยตรง Facebook ในแบบของพวกเขาถูกออกแบบมาให้เหมือนกับอีเมลแอพลิเคชั่น แบ่งออกเป็น 3 คอลัมน์ คือ ส่วนของ filter แยกกลุ่มของเนื้อหาที่จะแสดงใน information-stream ที่อยู่ตรงกลาง และ reaction ที่จะใช้โต้ตอบคอมเม้นต์ในหัวข้อนั้นๆ ดูรายละเอียดได้ที่ https://www.informationarchitects.jp

3. Justin Dauer 

Facebook by Justin Dauer

Facebook หาตาแบบใหม่ของ Justin Dauer ดูเรียบมีสไตล์คล้ายบล็อกเหมือนกันนะ ดึงเอารายละเอียดของผู้ใช้มาอยู่ด้านขวา เมนูสำคัญพร้อมกับ notification แสดงดูด้านบน ดูดีมาก รายละเอียดดูที่ pseudoroom design

4. Peter Knoll

Facebook by Peter Knoll

ตัวนี้เมนูด้านบนยังคงคล้ายๆกับหน้าตาของ Facebook ในปัจจุบัน และเน้นส่วนของ post ให้ใหญ่และเด่นมากขึ้น แต่ส่วน New Feed จะเหมือนกับ Google+ เลย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Peter Knoll

5. AndasoloARTS

Facebook by AndasoloARTS

การออกแบบ Facebook ตัวนี้มีโทนสีคล้ายกับของ Peter Knoll ส่วนที่แตกต่างออกไปคือส่วนของ New Feed ที่ใหญ่ขึ้นและดูดีขึ้น รายละเอียดดูที่ AndasoloARTS

6. Jonaska

Facebook by Jonaska

อันนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก AndasoloARTS โดยปรับปรุงส่วนของช่องโพส ช่องค้นหา และส่วนอื่นๆให้ดูดีขึ้น รายละเอียดที่ Jonaska

7. Czarny-Design

Facebook by Czarny Design

หน้าตาใหม่ของ Facebook ที่ออกแบบโดย Czarny Design จะเน้นไปที่การใช้เส้นโค้งในการออกแบบมากขึ้น เน้นช่องคอมเม้นต์ให้เด่นมากขึ้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Czarny-Design

การออกแบบหน้าตาใหม่ให้ Facebook ของแต่ละคนก็มีรูปแบบที่แตกต่างกัน หลายๆอันอยากให้เอาไปใช้จริงๆเลยนะ อย่างเช่นของ Justin Dauer ผมว่าเข้าขั้นน่าใช้เลยล่ะ แต่ทุกครั้งที่ Facebook มีการอัพเดตหน้าตาใหม่ช่วงแรกๆจะมีคนบ่นอยู่ซักพักจากนั้นก็จะชินและเลิกบ่นไปเอง ประมาณว่าเขาให้ใช้อะไรก็ต้องใช้ไป แต่ผมว่าเว็บไซต์ที่มีคนใช้งานเยอะขนาดนั้นเข้าต้องวิจัยและทดลองใช้มาก่อนอยู่แล้วจึงจะปล่อยให้คนทั่วไปใช้ และมันต้องเป็นมิตรกับคนใช้งาน ไม่ยุ่งยากเกินไป ซึ่งผมว่าปัจจุบัน Facebook ก็ทำได้ดีมากอยู่แล้ว

เห็นคนอื่นออกแบบ Facebook ในฉบับของเขา คุณอยากลองทำเองบ้างไหมครับ ใครทำแล้วแชร์มาให้ดูด้วยนะครับ

ที่มา: https://www.hongkiat.com/blog/concept-design-facelift-notable-websites

รวมภาพการออกแบบหน้าตา Facebook ของแต่ละคนทั้งหมด

 

รายชื่อพนักงาน Facebook ที่เล่น Google+

Popular person on Google+

เคยเอารายชื่อของพนักงานกูเกิลที่เล่น Google+ มาฝากแล้วเข้าไปดูได้ตามลิงค์ แต่มาดูอีกฝั่งที่เป็นคู่แข่งโดยตรงคือ Facebook จะเห็นได้ว่าเล่นกันเยอะเหมือนกัน ไม่เหมือนฝั่งกูเกิลที่แทบจะหาใครเล่น Facebook ไม่ได้เลย คงมีเล่นบ้างแต่คงไม่ใช้จริงเล่น สงสัยบริษัทห้ามแน่ๆ  ที่น่าสนใจคือ Mark Zuckerberg คือคนที่ถูกนำเข้า circle มากที่สุดในโลก(อ้างอิง) แม้จะไม่ได้โพสอะไรเลย น่าจะบอกได้ว่าคนส่วนใหญ่ที่เล่น Google+ รู้จักว่า Mark Zuckerberg เป็นใคร หรืออีกนัยหนึ่งคือรู้จัก Facebook หรืออีกนัยหนึ่งคือคนที่เล่น Google+ เล่น Facebook อยู่แล้ว ย้ำว่า Google+ กับ Facebook ทับเส้นกันอยู่แน่นอน

อีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ แม้ Google จะมี bot เก็บข้อมูลได้เก่งแค่ไหน(เอาไปทำ search) ก็คงจะสู้พลังแชร์จากคน 750 ล้านคนไม่ได้(สถิติคนเล่น Facebook ล่าสุด) จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ Google จะกลัว Facebook ที่มีคนช่วยเลือกข้อมูลให้ ยังไงซะคนก็ต้องดีกว่าคอมพิวเตอร์เลือก

จากข่าวที่ Google ยุบโปรเจคต่างๆแล้วดึงพนักงานมาทุ่มเทให้ Google+ แบบเต็มที ตอกย้ำว่าจะลุยทางนี้อย่างจริงจัง ก็ CEO ลงมาลุยเองเลย คนระดับหัวกะทิรวมกันมันต้องมีอะไรเจ๋งๆเกิดขึ้นแน่นอน(ผมเป็นสาวกนะ) ผมค่อนข้างเชื่อว่าโปรเจค Google+ จะไม่ล่มแน่! ไม่ได้ดูที่ยอดคนใช้ แต่ดูจากทิศทางที่กำลังมุงเดินไปของ Google มันคือการผูกบริการต่างๆที่ไปได้ดีอยู่แล้วของบริษัทมารวมกัน ถ้าจะล่มก็คงตอนที่บริษัทล่มไม่ใช่โปรเจคล่มเพราะมันคือทุกสิ่งของบริษัทแล้ว!!!

บางที Google อาจจะไม่ได้มองว่า Facebook เป็นคู่แข่งเลย ไม่คิดจะทำมาชนโดยตรงแต่ใช้เป็นกรณีศึกษา CEO อาจจะมองเห็นว่านี้คือทิศทางของโลกอินเทอร์เน็ตในอนาคต! เหมือนตอนที่เห็นอนาคตเมื่อครั้งที่คิดระบบค้นข้อมูลจน Google ถือกำเนิดขึ้นมา เราคงจะเรียก Google+  เป็น Facebook killer ไม่ได้! เพราะมันเป็น social network ที่เหมือนจะเอาจุดด้อยของหลายตัวๆมารวมกัน (Facebook, Twitter, Linkin, Flickr) แล้วปรับปรุงให้ดีขึ้น

พาไปลงทะเลไกลแล้ว..โพสนี้คือรายชื่อพนักงานของ Facebook ที่เล่น Google+ นะ ไปดูกัน

LIST OF FACEBOOK EMPLOYEES ON GOOGLE+

Founder/CEO
+Mark Zuckerberg

Executive Team
+Christopher Cox (VP, Product)
+Lori Goler (VP, Human Resources & Recruiting)
+Dan Rose (VP, Partnerships & Platform Marketing)
+Sheryl Sandberg (Chief Operating Officer)
+Elliot Schrage (VP, Global Comm., Marketing & Public Policy)
+Mike Schroepfer (VP, Engineering)
+Bret Taylor (Chief Technology Officer)

Directors
+Kate Aronowitz (Director of Design)
+Ethan Beard (Director of Facebook Developer Network)
+Peter Deng (Director of Product Management)
+David Fisch (Director of Business Development)
+Debbie Frost (Director of Comm./Public Affairs)
+Justin Osofsky (Director of Platform Partnerships)
+Blake Ross (Director of Product)
+Alex Schultz (Director of Growth)
+vaughan smith (Director of Corporate Development)

Product
+Paul Adams (Product Manager)
+Eric Antonow (Product Marketing)
+Will Cathcart (Product Manager)
+luke delorme (Product Manager)
+Rohit Dhawan (Lead Product Manager, FB Pages)
+Naomi Gleit (VP, User Feedback)
+Adrian Graham (Product Manager, FB Questions)
+Cat Lee (Platform Product Marketing)
+sam lessin (Product Manager)
+David Recordon (Senior Open Programs Manager)

Engineering
+Keith Adams (Software Engineer)
+Aditya Agarwal (Engineering Director)
+Arjun Banker (Software Engineer)
+Jing Chen (Software Engineer)
+Brent Goldman (Software Engineer)
+Benjamin Golub (Engineer, Platform)
+Adam Hupp (Software Engineer)
+Pedram Keyani (Engineer, Site Integrity)
+Tobie Langel (Software Engineer)
+Justin Mitchell (Engineer, FB Photos)
+Zach Rait (Engineer, Infrastructure)
+Arthur Rudolph (Software Engineer)
+Yariv Sadan (Engineer, Mobile)
+Luke Shepard (Engineering Manager)
+Mike Vernal (Engineer, Platform)

Design
+Nathan Borror (Product Designer)
+Eric Fisher (Social Design Strategist)
+Rob Goodlatte (Product Designer)
+Drew Hamlin (Product Designer)
+Greg Hoy (Design Recruiter)
+Francis Luu (Product Designer)
+Adam Mosseri (Product Design Manager)

Partner/Developer Relations
+Jeff Bowen (Platform Developer Relations)
+Jacqueline Chang (Strategic Partner Manager)
+Andy Katzman (Platform Partnerships)
+Vadim Lavrusik (Journalist Program Manager)
+andy mitchell (Strategic Media Partnerships)

Mobile
+Erick Tseng (Head of Mobile Products)

Research
+Pete Bratach (Technical Writer)
+Sean Bruich (Monetization Analytics)
+Cameron Marlow (Data Scientist)

Advertising/Marketing
+Kevin Colleran (Sales)
+Todd Miner (Head of Sales IT)
+eric toda (Ad Ops, Global Marketing Solutions)

Recruiting
+Richard Cho (Recruiting Manager)

via: https://Googlepluses.blogspot.com/2011/07/list-of-facebook-employees-on-Google.html

วิธีโพสที่ Google+ ไปโผล่ที่ Facebook และ Twitter ในครั้งเดียว

Start G+ extension for Chrome

Start G+ เป็นส่วนเสริมสำหรับ Google Chrome ที่จะช่วยให้เราโพสที่ Google+ ที่เดียว แต่ให้ไปแสดงข้อความที่ Facebook และ Twitter ในทีเดียวพร้อมกันแบบอัตโนมัติ นอกจากนั้นมันยังเพิ่มส่วนของ Gmail notification มาให้ด้วย

วิธีใช้งาน เข้าไปดาวน์โหลดและติดตั้ง Start G+ extension ก่อนตามลิงค์

ล็อกอิน

คลิกเพื่อล็อกอิน Twitter หรือ Facebook แล้วแต่ต้องการให้แชร์อัตโนมัติไปที่ไหนบ้าง

ทดลองโพสที่ Google+

จากนั้นก็โพสข้อความที่ Google+ แล้วติ๊กเลือกด้านล่างว่าจะให้แชร์ไปที่ไหนบ้าง แล้วคลิก Share ได้เลย

นอกจากนี้แล้ว ตัว extension ตัวนี้ ยังนำ Timeline (twitter) กับ status update (facebook)ของเรามาแสดงใน Stream ของ Google+ อีกด้วย

ปล.Extension สำหรับ Google+ ตัวอื่นๆดูได้ที่ รวมส่วนเสริม เล่น Google+ ให้สนุกขึ้น

ขอให้สนุกครับ

รายชื่อพนักงานของ Google ที่เล่น Google+

Google+ Circle

Google+ เปิดตัวในวงจำกัด(ณ ตอนนี้) คนดัง เซเลบที่เล่นก็ยังคงมีน้อย คาดว่าไม่นานคงจะเริ่มเล่นกันมากขึ้น แต่เหล่า Geek ทั้งหลายคงได้เล่นกันหมดแล้ว พนักงานของ Google (เขาเรียกกันว่า Googler) ก็คงได้เล่นโซเซียลเน็ตเวิร์คของบริษัทตัวเองก่อนคนอื่นแน่อยู่แล้ว ก็มีคน(Craig Kanalley ดูลิงค์ไปโปรไฟล์เขาที่ด้านล่าง)ทำลิสต์ของ Googlers ที่เล่น Google+ มาให้เราดู มีตั้งแต่ผู้ก่อตั้งบริษัทไปจนถึงโปรแกรมเมอร์เลยทีเดียว

เราก็มาเลือกคนที่น่าสนใจดึงลง Circle จะได้ติดตามเนื้อหาดีๆจากเขาเหล่านั้น คาดว่าน่าจะยังมีอีกเยอะ แต่เท่าที่เขาทำลิสต์มาให้ดู มันก็เยอะแล้วนะ ไปดูกันเลย!

รายชื่อพนักงานของ Google ที่เล่น Google+

Co-Founders
+Sergey Brin
+Larry Page

VPs/Senior VPs
+Vic Gundotra (Engineering)
+Bradley Horowitz (Product Management)
+Jeff Huber (Commerce & Local)
+Marissa Mayer (Local, Maps & Location Services)

Community Managers
+Melissa Daniels (Chrome OS)
+Brian Rose (Google+ Photos)
+Vanessa Schneider
+Toby Stein
+Natalie Villalobos

Product Managers
+Anish Acharya (Google+ Mobile)
+Shimrit Ben-Yair
+Amir Fish (Google+ Photos)
+Frances Haugen (Google+ Profiles)
+Caroline McCarthy (Marketing)
+Jonathan McPhie
+Christian Oestlien (Google+ Ads)
+Joe Rideout
+Punit Soni (Google+ Mobile)

Engineering Directors/Managers
+Chee Chew
+Dave Besbris
+Chris Millikin

Software Engineers
+Eric W. Barndollar (Google+)
+James Bogosian
+Andrew Bunner (Google+)
+David Byttow
+Eric Cattell (Social Graph Tech Lead)
+John Costigan (Google Profiles)
+Matt Cutts (Webspam)
+Pavan Desikan (Google+/Gmail)
+Kelly Ellis
+Trey Harris (Site Reliability)
+Griff Hazen
+Andy Hertzfeld
+Matt Keoshkerian
+Todd Knight
+Jean-Christophe Lilot
+Lan Liu
+Vincent Mo (Google+ Photos)
+Dobromir Montauk (Google+ Infrastructure)
+Stephen Ng (Gmail)
+Owen Prater
+Joseph Smarr (Technical)
+Martin Strauss
+Na Tang
+Yonatan Zunger (Social)

Consumer Operations Manager
+Michael Hermeston (Google+ Support)

Developer Advocates
+Chris Chabot (Developer Relations)
+Timothy Jordan

Designers
+Brett Lider (Product/User Experience)
+Jonathan Terleski (Google+)
+Charles Warren (User Experience Lead, Google Social)

Program Managers
+Julian Harris (Technical)
+Adam Lasnik (Google Map Maker)

Tech Lead Manager
+Natalie Glance (Google Shopping)

Test Engineer
+Erick Fejta (Tester for Google Storage)

Account Executive
+Dave Miller (Local & Education)

President, Enterprise
+Dave Girouard (Cloud Apps)

ที่มา: https://plus.Google.com/103399926392582289066/posts/LX4g7577DqD

Exit mobile version