QuizUp เกมแข่งตอบคำถามสำหรับแฟนพันธุ์แท้ (ดาวน์โหลดฟรี)

เกม QuizUp

QuizUp เป็นเกมเล่นตอบคำถามแข่งกันแบบ 1-1 ในหัวข้อเรื่องที่สนใจ ล่าสุดมีคำถามมากว่า 400,000 คำถาม ตามหัวข้อมากกว่า 620 เรื่อง มีระบบ Social network สามารถแชทกันได้ คะแนนจากการแข่งขันจะสะสมเป็น exp แล้วจัดอันดับคะแนนตามหัวข้อเรื่องนั้นๆโดยจัดอันดับตามระดับคะแนนจากผู้เล่นทั่วโลกหรือเลือกจัดอันดับภายในประเทศก็ได้ ประกาศให้ชาวโลกรู้ว่าฉันเป็นแฟนพันธุ์แท้เรื่องนี้

สามารถที่จะทำ Challenge กับเพื่อนตามหัวข้อที่เลือกได้ ทำให้เแข่งกันในกลุ่มเพื่อนๆที่ชอบเรื่องเดียวกันได้ ในหนึ่งเกมการแข่งขัน จะมีทั้งหมด 7 คำถาม แต่ละคำถามมีตัวเลือก 4 ตัวเลือก มีตอบคำถามเวลา 10 วินาทีต่อหนึ่งข้อ คะแนนเต็มข้อละ 20 คะแนน ถ้าตอบช้าคะแนนจะลดลงเรื่อยๆ ข้อสุดท้ายจะเป็นคะแนนคูณสอง(นำมาดีสุดท้ายคู่แข็งพลิกกลับมาชนะเพราะข้อสุดท้ายซะงั้น) ดังนั้นคะแนนเต็มคือ 160 คะแนน (6×20)+(1×40)

ขอบอกว่าคำถามแต่ละคำถามไม่ง่ายเลยนะ ถ้าไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ในเรื่องนั้นจริงๆ เดาได้ยากเลยล่ะ ในการแข่งขันกันตอบคำถาม มีเวลาบีบให้ตอบเร็วๆทำให้เกมตื่นเต้นและสนุกมากขึ้นเยอะเลย และเราก็จะเห็นคะแนนของคู่แข่งที่ตอบปัญหาในข้อเดียวกันนั้นตลอดการแข่งขันด้วย เมื่อจบการแข่งขันจะมีการสรุปผลการแข่งขัน การตอบคำถามแต่ละข้อเป็นอย่างไร คะแนนที่ได้ ค่าคะแนนประสบการณ์ถ้าชนะคู่แข่งจะได้รับโบนัสคูณคะแนนที่ได้จากการตอบคำถามเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ยกตัวอย่างหัวข้อในการแข่งขันที่น่าสนใจ

หัวข้อใน QuizUP
  • Business/ Android/ Apple/ Google/ Microsoft/ Tech
  • Sport/ Soccer/ Man Utd/ Liverpool/ Chelsea/ Arsenal/ Real Madrid/ Bayern Munich/ FC Barcelona
  • Games/ DotA/ Final Fantasy/ Halo/ PlayStation Games/ World of Warcraft
  • Music/ The Beatle/ Coldplay/ Eminem/ Grammys/ Michael Jackson/ Pop/ Kpop
  • Geography/ Asia/ US/ UK
  • Movies/ Batman/ Harry Potter/ LOTR/ James Bond/ Marvel / Pixar/ Oscar/ Star Wars
  • Science/ Biology/ Chemistry/ Computer Science/ Medical
  • Educational/ Math/ Words/ Grammar/ Spelling
  • Nature/ Cats/ Dogs/ Birds

วิธีการเล่น

วิธีการเล่นเกม QuizUP เลือกหัวข้อ>>เลือกเพื่อนที่จะแข่งด้วยหรือสุ่มเอง>>เล่นเกม
  1. ดาวน์โหลดและติดตั้งเกม QuizUP ลงสมาร์ทโฟนมีทั้ง Android และ iOS (ลิงค์โหลดด้านล่าง)
  2. เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ล็อกอินเข้าระบบ ใช้บัญชีของ Facebook, Twitter หรือ Google ก็ได้ในการสมัครเล่นเกม
  3. เลือกหัวข้อที่จะเล่นเกมตามความชอบ ความถนัด
  4. เลือกเล่นเกมเลยก็ได้ ระบบจะสุ่มหาเพื่อนที่อยู่ในเกมมาแข่งกับเราโดยอัตโนมัติห รือจะ Challenge กับเพื่อนในเกมก็ได้เช่นกัน
  5. เริ่มเล่นเกม อ่านโจทย์และกดตัวเลือกที่ถูกต้องในเวลาที่กำหนด

บทสรุป

ต้องมีบางเรื่องที่เราสนใจมากๆจนเป็นแฟนตัวยงหรือแฟนพันธุ์แท้อยู่อย่างแน่นอน ลองเลือกดูในหัวข้อนั้นขึ้นมาแล้วให้ระบบสุ่มหาเพื่อนมาแข่งขันกับเรา พยายามเก็บคะแนนให้เราเป็นอันดับหนึ่งในเรื่องนั้นๆให้ได้ ให้รู้ไปเลยว่าเรื่องนี้ฉันจะเป็นที่หนึ่ง เป็นเกมที่สนุกมากเลยทีเดียว อยากให้ได้ลองเล่นกัน

หัวข้อที่เป็นอันดับหนึ่งในไทย เกม QuizUP

ล่าสุดตอนนี้ผมได้ไปจองตำแหน่งอันดับหนึ่งในเมืองไทยของหัวข้อต่างๆเหล่านี้ไว้แล้ว ใครอยากล้มแชมป์กดเข้าไปเล่นในหัวข้อเหล่านี้ได้เลยครับ

  • Action-Advanture Movies
  • Apple
  • Google
  • Android
  • Microsoft
  • Tech
  • The Internet
  • Batman Movies

ดาวน์โหลดเกม QuizUP

   

รวม 10 ร้านอาหารโปรดของผม กินแล้วต้องกลับไปกินอีก

บล็อกที่แล้วเขียนถึง “10 เรื่อง และหนังสือ 10 เล่มในดวง” เลยคิดว่าน่าจะเขียนถึงร้านอาหารบ้างดีกว่า ปกติเวลาไปกินข้าวที่ร้านที่ไม่เคยไปก็จะถ่ายรูปไว้ ไม่ได้ถ่ายรูปแชร์นะ แต่ทำเป็นบันทึกไว้ เคยเขียนถึงแล้วใน “Evernote Food แอพช่วยบันทึกเมนูและร้านอาหารที่เคยไปกินมาแล้ว” ต้ังแต่บันทึกมาก็ปีกว่าๆแล้ว ทำให้มีข้อมูลของร้านอาหารเยอะพอสมควรเลย บางทีว่างๆก็เปิดมาดูว่าร้านนี้อยู่ไหน ไปกินกันตอนไหน สนุกดีเหมือนกัน การจะนำรายชื่อ 10 ร้านอาหารที่ชอบมาแชร์เลยไม่ยากนัก ในบันทึกมีทั้งที่ต่างจังหวัดและในกรุงเทพฯ แต่ขอคัดเลือกมาเฉพาะร้านในกรุงเทพฯเป็นหลักครับ ส่วนใหญ่ก็จะเน้นที่ตัวเองกินแล้วอร่อยและคุ้มค่า ราคาประหยัด เริ่มเลยแล้วกัน

10 ร้านอาหารโปรดที่กินแล้วต้องกลับไปกินอีก

Kozo Sushi (โคโซ ซูชิ)

1. ร้าน Kozo Sushi (โคโซ ซูชิ) เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น อยู่ที่ชั้น 3 ตึกธนิยะ สีลม แผนที่ ตอนกลางวันมีบุฟเฟ่ต์ซูชิสายพาน เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ไปกินค่อยข้างบ่อย กินบุฟเฟ่ต์ไม่กี่ครั้งนะ ส่วนใหญ่ไปชอบกินชุด ข้าวหน้าปลาดิบ ร้านนี้วัตถุดิบดีเยี่ยม ไม่แพงมาก ป้าพนักงานคุยกับลูกค้าดี บริการเยี่ยม เป็นร้านโปรดอีกหนึ่งร้านที่กลับไปกินบ่อยมาก ยกให้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นอันดับหนึ่งในดวงใจ

เฮง เฮง ข้าวมันไก่ตอน-ไก่ต้ม

2. ร้าน เฮง เฮง ข้าวมันไก่ตอน-ไก่ทอด ร้านอยู่ตรงหน้าห้างเอ็มโพเรียม สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ แผนที่ ร้านนี้รู้จักครั้งแรกตอนไปเล่นเกม ingress ที่สวนเบญจศิริ ในกลุ่มก็จะเรียกกันว่า “ข้าวมันไก่ ingress” ยิงเสาในสวนเสร็จก็จะต้องออกมากินข้าวมันไก่ที่นี้ เนื้อนุ่ม น้ำซุปอร่อย ชอบมากๆ แม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้ไปเล่นเกมแล้ว แต่ก็หาเวลาแวะไปกินอยู่เรื่อยๆ ยกให้เป็นร้านข้าวมันไก่ที่อร่อยที่สุดของ กทม.

อัลปาก้า วิว (Alpaca View)

3. ร้าน Alpaca View (อัลปาก้า วิว) ร้านอยู่ที่ ซ.ลาดพร้าว-วังหิน 71 แผนที่ ถือว่าไกลจากที่ทำงานมากแต่ก็ไปกัน ร้านอาหารแนวคาวบอย สไตล์คันทรี่ มีวงดนตรีเล่นเพลงสดให้ฟัง แต่ที่เราไปที่นี่มักจะอยู่ในห้องคาราโอเกะกันเป็นส่วนใหญ่ อาหารถือว่ายอดเยี่ยมเลยครับ ชอบเมนูแนะนำของทางร้าน “ซอลมอนแซ่บเวอร์” แต่ที่ชอบมากคงเป็นบรรยากาศ และเพลงในคาราโอเกะก็มีให้เลือกเยอะ ออกมานั่งข้างนอกชมวิว แล้วกลับเข้าไปร้องเพลงต่อ เป็นอีกร้านที่กลับไปบ่อย ยกให้เป็นร้านอาหารคาราโอเกะอันดับหนึ่ง

Eat Am Are (อีทแอมอาร์)

4. ร้าน Eat Am Are (อีท แอม อาร์ สเต็ก) ร้านสเต็ก ที่ซอยรางน้ำ ตรงข้ามเซ็นจูรี่ แผนที่ ความจริงมีหลายสาขาอยู่รอบๆอนุเสาวรีย์ แต่จะไปตรงสาขาซอยรางน้ำเป็นหลัก เมนูที่อยากแนะนำคือ “สเต็กหมูพริกไทยดำ” หมูนุ่มมาก อร่อยมากๆ กินกับส้มตำอร่อยเลย เพื่อนบอกว่าคนอะไรกินสเต็กกับส้มตำ ขอบอกว่าอร่อยครับต้องลอง แต่มาร้านนี้ต้องระวังคนรอคิวเยอะมาก ต้องเผื่อเวลาหรือเลี่ยงช่วงคนเยอะตอนค่ำๆ ร้านนี้ก็เป็นอีกร้านที่ไปกินบ่อยเพราะอร่อยและราคาก็ไม่แพง ยกให้เป็นร้านสเต็กอร่อยราคาประหยัดอันดับหนึ่ง

Inaho (อินาโฮ)

5.ร้าน Inaho (อินาโฮ) ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบบุฟเฟ่ต์ ราคาประหยัด อยู่ที่ชั้น 2 ตึก Space one ถนนพระราม 4 ตรงข้ามสวนลุม แผนที่ ไปร้านนี้กันมีจุดประสงค์หลักคือ ไปกินปลาดิบเลยครับ คุ้มมากๆ สั่งปลาดิบไปหลายๆจานเลยครับ เขาจะรวมมาเสิร์ฟทีเดียว ส่วนเมนูของทอดก็อร่อยเหมือนกันครับ ถ้าใครที่ชอบแซลมอนรับรองว่าร้านนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ ยกให้เป็นร้านบุฟเฟ่ต์แซลมอนอันดับหนึ่ง

สมศักดิ์ ปูอบวุ้นเส้น

6.ร้าน สมศักดิ์ ปูอบ ร้านปู-กุ้งอบวุ่นเส้น ที่อร่อยมาก อยู่ที่ซอยเจริญรัถ 1 ขึ้นไป BTS ลงที่สถานีวงเวียนใหญ่ แล้วค่อยลงเดินไปที่ร้าน แผนที่ ปกติแล้วก็เฉยๆกับพวกปู กุ้งอบวุ้นเส้น แต่พอมาเจอร้านนี้เข้า ต้องบอกว่าอร่อยมาก ปูสด เนื้อแน่นๆ กุ้งตัวโต เนื้อแน่นอร่อย วุ้นเส้นก็อร่อย ราคาก็สุดจะคุ้มค่า พอกินเสร็จบอกเลยว่ามีโอกาสต้องกลับไปกินอีก ร้านนี้คนเยอะเหมือนกัน มาแล้วอาจจะต้องรอคิว ยกให้เป็นร้านปูอบวุ้นเส้นอันดับหนึ่ง

ร้านอาหาร MAiSEN (ไมเซน)

7. ร้าน MAiSEN (ไมเซน) ร้านทงคัตสึ ร้านอยู่ที่ ชั้น B สีลมคอมเพล็ค แผนที่ เป็นร้านขายข้าวทงคัตสึเป็นหลัก มีเมนูอื่นๆอยู่บ้าง ปกติเป็นคนที่มีประสบการณ์ที่ไม่ได้ดีกับข้าวหมูทอดกรอบๆแบบนี้เลย แต่ที่ร้านไมเซนทำให้เราชอบทงคัตสึขึ้นมาได้เลย มีกระหล่ำมาเสริมเรียกน้ำย่อยก่อน เมนูที่นี้จะจัดเป็นชุดน่ารักๆ “ข้าวทงคัตสึ(สันนอก)หน้าไข่มัน” มันอร่อยมาก ข้าวก็นุ่ม อร่อยสุดๆไปเลย ใครที่ไม่ชอบทงคัตสึแบบผมต้องลองไปกินดู แล้วคุณอาจจะเปลี่ยนใจมาชอบมันได้เหมือนผม ยกให้เป็นร้านทงคัสสึกลับใจ(จากไม่ชอบเป็นรักเลย)

Road Q House

8. ร้าน Roadhouse Barbecue (โรดเฮ้าส์บาร์บีคิว) ร้านนี้อยู่ที่แยกถนนสุรวงค์กับถนนพระราม 4 ตรงมุมตรงข้ามสภากาชาด แผนที่ เป็นร้านที่เราไปนั่งดื่มเบียร์กันครับ มีดนตรีให้ฟัง อาหารไม่ได้หวือหวามาก พวกไส้กรอกกินแกล้มอร่อย แต่มีเบียร์หลากหลายยี่ห้อให้เลือกลองลิ้มรส บรรยากาศดี ที่สำคัญใกล้ที่ทำงาน เดินแป้ปเดียวถึง ยกให้เป็นร้านเบียร์บรรยากาศเยี่ยม

Sushi Masa

9. ร้าน Sushi Masa (ซูชิ มาสะ) ร้านอาหารญี่ปุ่นอีกแล้ว ร้านอยู่ในซอยพญานาค ลง BTS สถานีราชเทวี เดินเข้าซอยแป้บเดียวถึง แผนที่ ร้านนี้ทำซูซิได้เยี่ยมยอดมาก วัตถุดิบปลาดิบก็สุดยอด ร้านนี้ราคาพอสมควรนานๆไปที และคนจะเยอะแทบจะตลอดเวลา แถมไม่รับจองด้วยนะ ต้องไปต่อคิว ยกให้เป็นร้านซูชิอันดับหนึ่ง

เจียง ลูกชิ้นปลา

10. ร้านเจียง ลูกชิ้นปลา ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา อยู่ที่ชั้น 2 ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต แผนที่ ปรกติเป็นคนเกลียดลูกชิ้นปลามาก จากประสบการณ์ที่ผ่านมา แม้ตอนสั่งลูกชิ้นปิ้งกิน ลูกชิ้นปลาไม่เคยถูกเรียกชื่อเลยแม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่จำความได้ มันไม่อร่อยเอาเสียเลย วันนั้นไปกินกับเพื่อนๆพี่ๆที่ทำงาน ลองกินดูไม่ได้คิดอะไรเลย อร่อยซะงั้น เกิดมาเพิ่งจะกินลูกชิ้นปลาอร่อยก็วันนั้นแหละ งง ตัวเองมาก ร้านเจียง ลูกชิ้นปลา น่าจะมีหลายสาขาอยู่ตามห้างทั่วไป ลองไปชิมดูได้ครับ ยกให้เป็นร้านลูกชิ้นปลาร้านเดียวที่กินอร่อย

รวม 10 ร้านอาหารโปรดของผมเป็นไงบ้างครับ ต้องบอกว่าเลือกยากเหมือนกันนะครับ คัดมาตอนแรกเกือบ 20 ร้านเลยนะ แล้วก็พยายามตัดออกเรื่อยๆจนออกมาได้ดังที่เห็น ลองไปแวะชิมตามร้านต่างๆกันตามสะดวกเลยนะครับ อร่อยหรือไม่อร่อยค่อยมาแชร์กันได้ครับ

หวังว่าจะมีร้านที่ถูกใจ และกลับไปกินอีกบ่อยๆเหมือนผม

มาแชร์ หนัง 10 เรื่อง หนังสือ 10 เล่ม ในดวงใจกันครับ

หนัง 10 เรื่องในดวงใจ

เห็นเพื่อนๆหลายๆกลุ่มแชร์หนังที่ชอบ บางกลุ่มแชร์หนังสือที่ชอบ แบบที่นึกได้แล้วเขียนเลย ไม่ต้องคิดเยอะ พอแชร์แล้วก็แท็กชื่อเพื่อนคนอื่น เหมือนท้าเทน้ำแข็งเลยนะ เราก็อยากนำเสนอของเราบ้าง แต่จะรวมไว้ที่เดียวเลยจะได้ง่าย ทั้งหนังและหนังสือ

หนัง 10 เรื่องในดวงใจของฉัน

หัวข้อนี้ค่อนข้างยากเพราะมีหนังที่เราชอบหลากหลายเรื่องหลากหลายแนว เอาเป็นว่าคิดออกเขียนเลย แล้วค่อยมาเติมรายละเอียดทีหลัง

  1. The Matrix (1999)
  2. My Neighbor Totoro (1988)
  3. The Dark Knight (2008)
  4. Pan’s Labyrinth (2006)
  5. Good Will Hunting (1997)
  6. A.I. Artificial Intelligence (2001)
  7. A Beautiful Mind (2001)
  8. Life Is Beautiful (1997)
  9. Fight club (1999)
  10. The Lord of the Rings: The Return of the King (2003)
หนังสือ 10 เล่มในดวงใจ

หนังสือ 10 เล่มที่ชอบ

พอเป็นหนังสือมีแค่ไม่กี่แนวที่อ่านและชอบ นักเขียนที่ชอบก็ไม่กี่คน

  1. อาเพศกำสรวล-วินทร์ เลียววาริณ
  2. เรื่องเล่าจากร่างกาย- ชัชพล เกียรติขจรธาดา
  3. มนุษย์กับจักรวาล-ชัยวัฒน์ คุประตกุล
  4. Steve Jobs by Walter Isaacson
  5. ความสุขของกระทิ-งามพรรณ เวชชาชีวะ
  6. รามานุจัน-Robert Kanigel, นรา สุภัคโรจน์ แปล
  7. ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล -วินทร์ เลียววาริณ
  8. ศพใต้เตียง-สรจักร ศิริบริรักษ์
  9. พุทธทาสกับเซ็น-พุทธทาสภิกขุ
  10. The Drunkard’s Walk-Leonard Mlodinow, กฤตยา รามโกมุท และ นพดล เวชสวัสดิ์ แปล

และสุดท้ายขอชวนเพื่อนๆมาแชร์รายชื่อหนัง หนังสือ ในดวงใจกันครับ เอาแบบที่คิดออกในทันที

MyPermissions ตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของเราถูกใครดึงไปใช้งานบ้าง

MyPermissions เว็บไซต์ช่วยตรวจสอบบริการต่างๆดึงข้อมูลอะไรที่เป็นส่วนตัวของเราไปใช้บ้าง

หลายๆครั้งที่เราสมัครเข้าใช้งานเว็บไซต์ เกมส์ หรือบริการออนไลน์ตัวใหม่ๆ ด้วยบัญชีของ Facebook หรือ Twitter ตามแต่เจ้าของบริการจะเปิดให้เราเข้าใช้งานโดยการดึงข้อมูลของเราจาก social network ของเราเองมาใช้ ทำให้คนใช้งานก็สะดวก คนให้บริการก็ได้สมาชิกมากขึ้นจากความสะดวกนั้น จนหลายๆครั้งเราคนใช้งานไม่ได้ตรวจสอบดูเลยว่าในแต่ละครั้งบริการเหล่านั้นขอข้อมูลส่วนตัวอะไรของเราบ้าง และบางอันที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ก็ควรหยุดให้เขาเข้ามาดึงข้อมูลของเราไปใช้ (ข้อมูลส่วนตัวของฉันนะ)

ความเป็นส่วนตัว(permission) ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือผู้ให้บริการจะแนะนำบริการต่างๆได้ตรงตามความต้องการของเราเพราะเราให้ข้อมูลที่ละเอียด ส่วนข้อเสียก็คือบางเรื่องที่เป็นเรื่องส่วนตัวมากๆเราก็ไม่อยากให้ใครได้ข้อมูลเหล่านั้นไป มันอาจจะหมายถึงความปลอดภัยทั้งทรัพย์สินและร่างกายของเรา ต้องระวังในการเปิดเผย ควรให้ข้อมูลเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

ถ้าเป็นคนที่ชอบท่องโลกอินเตอร์เน็ต ลองเล่นโน่นนี้นั้นไปเรื่อย ยากที่จะตามไปดูว่าให้ข้อมูลส่วนตัวของเราที่อยู่ใน social network ให้ใครไปบ้างและเขาได้ข้อมูลอะไรไปบ้าง ก็เป็นเรื่องน่ากังวลอยู่ไม่น้อย แล้วก็มาเจอเว็บไซต์นี้ครับ ตัวช่วยตรวจสอบ permission ให้เรา

เว็บไซต์ MyPermissions จะช่วยตรวจสอบให้เราว่าข้อมูลของเราใน social network เช่น Facebook, Twitter, Google+,Instagram ฯลฯ ถูกนำไปใช้ที่ไหนบ้าง และขอใช้ข้อมูลอะไรบ้าง เช่น location, contact list, photo เป็นต้น เยี่ยมมากๆ

ตัวอย่าง เข้าไปดูรายละเอียดการอนุญาติให้เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว สามารถเพิกถอนการเข้าถึงได้

เมื่อตรวจดูแล้วบ้างอันที่เราไม่ได้ใช้งานแล้วก็ควรหยุดการให้เข้าถึงข้อมูลของเรา ซึ่งเราสามารถเข้าไปแก้ไขและเพิกถอนสิทธิ์(revoke)การเข้าถึงข้อมูลของแต่ละเว็บไซต์หรือบริการต่างๆที่ดึงไปใช้งานได้ ถ้าเราติดตั้งเป็น extension ของ MyPermission ใน browser ของเราก็จะมีการแจ้งเตือนทุกครั้งที่มีการขอใช้ข้อมูลส่วนตัวของเรา ถือว่ามีประโยชน์มากๆครับ

เข้าไปใช้งาน MyPermissions ได้ที่เว็บไซต์ https://mypermissions.com

Search within my feedly and ‘next & previous’ buttons

Search within my feedly

หลังจากที่ Google Reader ถูกสั่งปิดบริการไป ก็มีหลายบริษัทต่างๆพร้อมใจกันตบเท้าออกมาทำ Reader แข่งกัน ที่ได้ลองใช้ก็มี AOL Reader, Digg Reader, feedly สุดท้ายเราก็เลือกทีจะย้ายมาใช้ feedly การใช้งานโดยทั่วไปเมื่อเทียบกับ Google Reader ก็เรียกได้ว่าใช้ได้ดีเลยทีเดียว หากแต่ก็มีสองอย่างที่เราใช้ประจำใน Google Reader แต่ใน feedly ยังไม่มี ซึ่งเราก็อยากให้มีมากๆด้วย คือ

  1. ฟีเจอร์การค้นหาใน feedly ของเราเอง บางครั้งเราอยากอ่านเฉพาะเนื้อหาที่เราสนใจที่เกี่ยวกับคีย์เวิร์ดบางคำ ซึ่งเราอยากรู้ว่าในแต่ละสำนักข่าวมีความคิดเห็นเกี่ยวเรื่องๆเดียวกันแตกต่างกันอย่างไรบ้าง การค้นหาใน feed ตอบโจทย์เรื่องนี้ได้อย่างดี เพราะเราคัดเว็บไซต์ที่เราสนใจไว้แล้วถึงได้ดึง feed เว็บไซต์เหล่านั้นมาไว้ ซึ่งพอเปิดเข้าไปใน Suggestion ของ feedly ก็พบว่ามีคนอยากได้ฟีเจอร์นี้เหมือนเราเยอะเหมือนกัน และก็ได้รับการโหวตเป็นอันดับหนึ่งด้วย ซึ่งทีมงานก็รับรู้แล้วและเข้าไปอยู่ในแผนงานการพัฒนาแล้ว วางใจได้ระดับหนึ่งว่าเราจะได้ใช้แน่นอน
  2. อีกอย่างที่ถือว่าเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ กับรูปแบบการใช้งานของเราเอง คือ ปุ่ม next, previous สองอย่างนี้เป็นสิ่งที่รู้สึกว่ามันยังขาดอยู่ ติดนิสัยตั้งแต่ใช้ Google Reader มา โดยเราจะใช้เมาส์คลิกมากกว่ากดปุ่มคีย์บอร์ด j,k เพื่อเลื่อน article ถัดไป ซึ่งเราพบว่า ใน AOL Reader ก็มีปุ่มนี้อยู่นะ แต่ใน Digg Reader และ feedly กลับไม่มีซะงั้น อีกอย่างปุ่ม j,k ใช้ได้เฉพาะตอนที่คีย์บอร์ดเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ต่างจาก Google Reader ที่ตอนกด  ่, า ก็ใช้งานได้เหมือนกัน จะเห็นได้ว่าตอนนี้ก็มีคนเข้าไปโพส suggestion ไว้เหมือนกันฝากเพื่อนที่ใช้ feedly ทุกท่านเข้าไปโหวตให้เป็นฟีเจอร์ต่อไปที่ต้องทำด้วยนะครับ คลิกเข้าไปโหวตได้ที่ Add a next/previous button or arrow. (not using keyboard shortcuts)

หวังว่า feedly จะพัฒนาต่อๆไปให้เทียบชั้น Google Reader ให้ได้ เพราะยังไงเราก็ยังชอบอ่านข่าว บล็อก บทความ ผ่านทาง RSS อยู่ดี เพราะมันเก็บไว้อ่านได้ และเราคัดไว้แล้วว่าเว็บไหนน่าอ่าน และไว้ใจในเนื้อหาได้ ยังไงซะ Google Reader ก็ยังเป็นตัวที่ดีที่สุดที่เคยใช้ อาจจะเพราะความเคยชินด้วยส่วนหนึ่ง พยายามจะปรับตัวให้เข้ากับ feedly แล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ชินสักที แต่อย่างน้อยก็อยากได้สองฟีเจอร์ข้างบนเพิ่มอยู่ดี อาจจะทำให้อ่านได้คล่องตัวเหมือนเดิมก็เป็นได้ สุดท้ายฝากเข้าไปคลิกโหวตให้ทีมงานเพิ่มปุ่ม next/previous ให้ด้วยนะครับ

บันทึกรายการหนังในรอบปีที่ไปดูมาแล้ว

รายการความบันเทิงในชีวิตของผมเองมีการบันทึกไว้ค่อนข้างเป็นระบบ ตั้งแต่รายการเพลงที่ฟัง หนังที่ดู หนังสือที่อ่าน อาหารที่กิน ถูกบันทึกไว้ให้ตัวเองหยิบขึ้นมารำลึกในภายหลังได้อย่างสะดวกที่สุด อีกอย่างรายการเหล่านี้สะท้อนความเป็นตัวตนของเราได้เป็นอย่างดี ทำให้รู้ว่าแท้จริงแล้วเราชอบอะไรแบบไหนเป็นพิเศษ เคยเขียนบล็อกถึงการบันทึกเรื่องพวกนี้อยู่บ่อยๆ

สิ่งที่ช่วยบันทึกรายการความบันเทิงส่วนตัว มีดังนี้ครับ

  • Last.fm เก็บบันทึกเพลงที่ฟัง
  • Goodreads เก็บบันทึกหนังสือที่อ่าน
  • Food เก็บบันทึกอาหารและร้านอาหาร
  • Picasa เก็บบันทึกภาพถ่าย
  • และ imdb เก็บบันทึกหนังที่ไปดูมาแล้ว 

ถ้านอกเหนือจากรายการต่างๆเหล่านี้ก็จะบันทึกลงบล็อกไว้ให้ได้มากที่สุดครับ

ในวันนี้สิ่งที่อยากจะแชร์นั้นคือรูปแบบการบันทึกรายการหนังที่ดูมาแล้วของผมเอง ในที่นี้จะไม่ได้แยกว่าหนังที่ได้ดูนั้นดูที่ไหนอย่างไร จะเป็นหนังในโรง หนังแผ่น หรือแม้แต่หนังที่ดูผ่านทางเคเบิลทีวีก็ตาม ทุกเรื่องที่ได้ดูก็จะถูกบันทึกลงลิสต์ ณ เวลานี้ผ่านมาแล้ว 7 เดือน เลยครึ่งปีมาแล้วหนึ่งเดือน เราดูหนังไปแล้ว 49 เรื่อง เป็นหนังใหม่-เก่าที่ไม่เคยดู ในรายการนี้จะบันทึกเฉพาะหนังที่ไม่เคยดูเท่านั้น ซึ่งบางทีหนังที่เคยดูแล้วหยิบขึ้นมาดูอีกครั้งจะไม่ถูกบันทึกลงในรายการนี้เลย

วิธีการบันทึกของผมนั้นใช้ imdb.com เป็นตัวช่วยบันทึก โดยการล็อกอินเข้าระบบในเว็บไซต์ จากนั้นสร้างลิสต์ของตัวเองขึ้นมา เมื่อไปดูหนังกลับมาก็ไม่ลืมที่จะเข้าไปที่หน้ารายละเอียดของหนังเรื่องนั้นใน imdb.com แล้วกดบันทึกลงในลิสต์ที่เราสร้างไว้ ทำแบบนี้ทุกครั้งที่ไปดูหนังมา เริ่มทำแบบนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว พบว่าวิธีนี้สะดวกดีเลยทีเดียวครับ

วิธีการบันทึกหนังลงลิสต์ของ imdb

  1. ทำการสร้างลิสต์ใหม่ขึ้นมา (สมัครสมาชิกและล็อกอินเข้าระบบก่อน) คลิกสร้างลิสต์ใหม่ Create a new list

    Create a new list

  2. เลือก list เป็นรายการของรายชื่อหนัง ใส่ชื่อของลิสต์ตามที่ต้องการในที่นี้ผมต้องการบันทีกรายการหนังที่ได้ดูตลอดทั้งปี 2013 จึงตั้งชื่อว่า “Watchlist in 2013”

    New List

  3. เมื่อต้องการบันทึกหนังที่ไปดูมาแล้วลงในลิสต์ที่สร้างไว้ เข้าไปที่รายละเอียดของหนังเรื่องนั้น กด Watchlist เลือกลิตส์ที่ต้องการเพิ่มหนังเรื่องดังกล่าวลงไปในลิสต์ เป็นอันเสร็จสิ้น

    add to watchlist

เข้าไปดู Watchlist ของผมใน imdb ได้ที่ลิงค์นี้ครับ Watchlist in 2013Watchlist in 2012

ขอชวนทุกท่านมาสร้างลิสต์หนังของตัวคุณเองครับ แล้วเอาลิสต์หนังของคุณมาแชร์กันบ้างนะครับ ผมอยากรู้ว่าคุณชอบดูหนังแนวไหน เรื่องอะไรบ้าง

Evernote Food แอพช่วยบันทึกเมนูและร้านอาหารที่เคยไปกินมาแล้ว

Evernote Food

เวลาไปกินข้าวที่ร้านอาหารร้านใหม่ที่ไม่เคยไปกินมาก่อน ผมมักชอบจะบันทึกรายละเอียดเบื้องต้นของร้านนั้นไว้ มีประโยชน์สำหรับการเอามาอวดเพื่อนหรือเอาไว้แนะนำบอกต่อถ้ามันอร่อย แอพพลิเคชั่นที่ใช้สำหรับบันทึกนั้นเป็นส่วนหนึ่งของ Evernote ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “Evernot Food” มีให้โหลดทั้ง Android และ iOS

เคยใช้ตั้งแต่ตอนเล่น iPod Touch ตอนนี้ในมือถือ Android ก็ต้องมีแอพนี้อยู่ การใช้งานค่อนข้างไม่ยุ่งยาก ถ่ายรูปอาหารที่เราสั่งมาทาน หรือสถานที่ร้าน บรรยากาศ ใส่รายละเอียดชื่อร้าน ระบุตำแหน่งลงในแผนที่ ซึ่งข้อมูลบางส่วนจะถูกดึงมาจาก Foursquare ทำให้สะดวกมาขึ้นถ้าต่ออินเทอร์เน็ตตอนบันทึก แต่ไม่มีเน็ตก็ยังบันทึกได้ แล้วเมื่อต่อเน็ตโปรแกรมจะ Sync เข้าไปเก็บใน Evernote ให้อัตโนมัติหรืออัตโนมือก็ได้เช่นกัน โดยใช้บัญชีเดียวกันกับ Evernote เลย

เราก็บันทึกเก็บไว้ตั้งแต่ร้านหรูในห้างไปจนถึงร้านตั้งขายข้างถนน หลังจากที่บันทึกมานานพบว่าเป็นคลังร้านอาหารที่เยอะพอสมควรส่วนใหญ่ก็อยู่ใกล้กับที่ทำงาน ที่พัก สะดวกมากขึ้นตอนหยิบขึ้นมาให้เพื่อนได้ดูว่าร้านนี้อยู่ตรงไหน เคยไปทานมาแล้ว รสชาดอาหารเป็นอย่างไรบ้าง บางครั้งเมื่อทานเสร็จอาจต้องเปิดแอพมาลงความเห็นไว้ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่อันนี้ไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่นัก ทำแค่ถ่ายรูปร้าน เมนูอาหาร อาหารที่สั่ง กินจนอิ่มแต่มักจะลืมให้ความคะแนนบ่อยๆ แต่เมื่อเปิดมาดูภายหลังก็ยังพอจำได้นะว่าอร่อยหรือไม่อย่างไร

Evernote Food for Android

นอกจากนี้ใน Evernote Food ยังมีฟีเจอร์อื่นอีก เช่น การค้นหาร้านอาหารที่ใกล้กับจุดที่เราอยู่(Restaurants) ข้อมูลการทำอาหารเมนูใหม่ๆ(Explore Recipes) ยอมรับว่าไม่ค่อยได้ใช้งานเลย หลักๆมีเพียงบันทึกเมนูอาหารและร้านอาหารที่ไปทานมา(My Meals) เท่านั้น ซึ่ง Evrnote Food ก็ทำหน้าที่ตรงนี้ได้อย่างดีเยี่ยม และแน่นอนว่าเมื่อใช้บัญชีของ Evernote เราก็สามารถเข้าถึงข้อมูลตรงนี้ได้จากหลายๆอุปกรณ์ทั้งมือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ นับว่าสะดวกมากๆเลยทีเดียว

สรุปว่าชอบแอพพลิเคชั่นตัวนี้มากครับ เลยเอามาแนะนำเพื่อนๆ ใครที่ชอบถ่ายรูปอาหาร แทนที่จะมีแค่รูปอาหาร ก็บันทึกรายละเอียดของร้านไว้ด้วยเลยด้วยก็ดีนะครับ

ดาวน์โหลด Evernote Food ได้ที่ Google Play Store และ App Store 

วิธีติดตั้ง Folcon Pro

Folcon Pro เป็น Twitter Client อีกตัวหนึ่งสำหรับ Android ที่นักพัฒนาทำออกมาได้ดีและได้รับความนิยมอย่างมาก แต่กลับเกิดปัญหาคนใช้เยอะเกินไป(ทั้งที่ยอมจ่ายเงินและโหลดเถื่อน) ทำให้ token ที่ Twitter ตั้งไว้ให้นักพัฒนา 100,000 token ต่อหนึ่ง application เลยเต็ม ทำให้เกิดปัญหาเข้าใช้งานไม่ได้ ทางผู้พัฒนาก็มีการแก้ปัญหาหลายครั้ง ทั้งการให้ลงทะเบียนใหม่ แต่จนแล้วจนรอดก็เต็มทุกครั้ง อีกส่วนหนึ่งต้องเรียกว่าเป็นการกันท่าของ Twitter เองที่ไม่อยากให้มีการพัฒนา Client มาแข่งกับของตัวเอง ล่าสุดผู้พัฒนา Folcon Pro เลยปล่อยให้โหลดฟรีเสียเลย แล้วให้คนใช้ทั่วไปเข้าไปขอ API key เอง หรือ อธิบายง่ายๆคือใครอยากใช้ก็เข้าไปลงทะเบียน application อะไรก็ได้สักตัว แล้วเอา API key ที่เชื่อมต่อกับ Twitter มาใส่ให้ Folcon Pro ปัญหาเรื่อง API token จำกัดจึงหมดไป เรียกได้ว่าของใครของมัน ไม่ใช่มาจากผู้พัฒนาคนเดียวอีกแล้ว เป็นการดัดหลัง Twitter อีกทางหนึ่งเหมือนกัน อาจต้องรอดูว่า Twitter จะแก้ไขปัญหานี้ต่อยังไง หรือจะปล่อยเลยตามเลย

มาถึงวิธีติดตั้งกันครับ เรียกได้ว่าทำได้เท่ และ Geek ดีทีเดียว มีสูตรลับด้วยนะ ขั้นแรกเราต้องเตรียม API Key ก่อน แล้วค่อยเอาไปลงใน Folcon Pro

ขั้นตอนลงทะเบียนรับ API Key

  1. เข้าไปที่ https://dev.twitter.com เพื่อจะขอ API key ล็อกอิน user twitter เข้าไป
  2. กดตรงรูปของเราที่มุมขวา เข้าไปที่ “My applications”

    My application

  3. คลิกเลือก “Create a new application”
  4. ใส่รายละเอียดเข้าไปให้ครบ ที่น่าสนุกคือช่องใส่ชื่อ(Name) ตอนเราทวีตมันแสดง via: ชื่อนี้ครับ เช่น เราทวีตจะมีบอกว่า via: twitter for Mac, twitter for Android, Echofon แล้วแต่เราเลยครับ อยากได้ชื่ออะไรก็ใส่เข้าไปได้เลย ส่วนเว็บไชต์ที่บังคับให้ใส่ ใส่อะไรไปก็ได้ ต้องมี https:// นำหน้าด้วยนะ
  5. คลิกเลือก Yes,I agree ในส่วนของ “Developer Rules Of The Road” ใครอยากอ่านรายละเอียดข้อกำหนดก่อนก็ได้นะครับ
  6. เราสร้าง Application ตัวหนึ่งขึ้นมาแล้ว เข้าไปที่แท็บเมนู “Settings” ด้านบน เปลี่ยน Application Type ให้เป็น “Read, Write and Access direct messages” จากนั้นเลือนลงไปคลิก Update

    Application type

  7. กลับไปที่เท็บเมนู “Details” บันทึก “Consumer key” กับ “Consumer secret” ไว้ ผมเอาลงไว้ที่ Google Keep ตอน copy ไปลงแอฟจะได้ทำได้ง่ายขึ้น

    Consumer key

เราได้ API key มาแล้ว ต่อไปก็วิธีติดตั้ง Folcon Pro ลงมือถือหรือแท็บแล็ต

ขั้นตอนการติดตั้ง Folcon Pro

  1. เข้าไปดาวน์โหลด Falcon Pro ได้ที่ getfalcon.pro ติดตั้งลงเครื่องให้เรียบร้อย (ต้องปรับ setting ของเครื่องให้อนุญาติติดตั้ง apk นอก store ได้ด้วยนะ)
  2. เปิดเข้าไปที่หน้า login
  3. กดที่มุมทั้ง 4 ของหน้าจอให้มี 4 สีโผล่ขึ้นมา (ตามรูป)

    Folcon Pro code

  4. กดตรงมุมสีส้มอีกครั้งให้มันหายไป (ดูตามรูป)

    Folcon Pro code 2

  5. จับเครื่องเขย่าครับ เขย่าครับๆ ไม่ได้เขียนผิด สักพักจะมีข้อความขึ้นมาว่า “Custom login unlocked!” และมีปุ่ม Custom login โผล่ขึ้นมา

    Folcon Pro code 2

  6. กดเข้าไป “Custom login” แล้วใส่ API Key ที่ได้จากขั้นตอนลงทะเบียนเพื่อรับ API Key ลงไป เพื่อความสะดวกผม Sync Google Keep เข้ามือถือให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยเข้าไป copy มาวาง ถ้ากดเองโอกาสผิดสูง

    AKI Key

  7. กด save แล้วก็เรียบร้อยแล้วครับ 

หน้าตาของ Folcon Pro ตามรูปครับ ในแต่ละทวีตถ้ามีรูปหรือวิดีโอที่แนบมาด้วยจะแสดงผลให้ดูด้วยเลย

Folcon Pro

ข้อมูลจาก: https://www.androidpolice.com

เกม Plants vs. Zombies Adventures ใน Facebook

Plants vs. Zombies

ช่วงนี้เล่นเกมนี้อยู่ครับ Plants vs. Zombies Adventures for Facebook ก่อนหน้านี้ได้เล่นใน iOS มาก่อนสนุกดีครับ ในเวอร์ชั่นใน Facebook นั้นแตกต่างจากเกมในอุปกรณ์พกพา (Android/iOS) อยู่บ้าง แต่คงคอนเซ็ปปลูกผักมายิงซอมบี้ที่กำลังจะเดินเข้าบ้าน

เป็นเกมง่ายๆ แต่เล่นไปเล่นมาก็ต้องใช้ความคิดและการวางแผนเหมือนกันนะ การออกแบบเกม Plants vs. Zombies ใน Facebook ตอนเริ่มเล่นนั้นทำได้งงมากๆ เพื่อนหลายคนเข้าไปครั้งเดียวก็ไม่เล่นต่อ เพราะงงกับระบบสอนวิธิีเล่น แต่อยากบอกว่าคลิกๆตามมันไปเรื่อยๆเดี๋ยวได้เอง จากนั้นก็มันส์ได้ Plants vs. Zombies for Facebook จะมีการเล่นอยู่สองส่วนคือ การดูแลบ้าน และ ออก Road Trip ไปเก็บตังค์ตามด่านต่างๆ

วิธีเล่นคร่าวๆคือเราปลูกผักที่บ้าน แล้วก็เอาขึ้นรถออกไปล่าซอมบี้เก็บตังค์มาอัพเกรดบ้าน เมื่อเลเวลสูงขึ้นซอมบี้จะเก่งขึ้นเรื่อยๆ ผักของเราก็จะถูกปลดล็อคชนิดใหม่ๆออกมาเรื่อยตามเลเวลของเราเช่นกัน การเลือกผักที่ถูกทางกับซอมบี้เป็นสิ่งสำคัญถ้าไม่ถูกทางก็เอาไม่อยู่ ยกตัวอย่าง

 Rocket Zombie มันมีจรวดติดหัวแถมมีเสก็ตอีกไม่ยอมกินผักด้วย ต้องเจอกับ Snow Pea ยิงทีเดียวจรวดหลุดหัวเลย

อีกตัวอย่าง Buckethead Zombie กับ  Football Zombie วิ่งเร็วกินเร็ว ผักตายหมด ยิงตายยาก ต้องมีตัวแก้ทางคือ  Magnet Plant จะดูดหมวกกันน๊อคมันออกแล้วยิงตายง่ายขึ้นเยอะ อื่นๆ Zombie ที่โดนแช่ในน้ำแข็งต้องเอา

 Flaming Pea ยิงทีเดียวแตกกระจาย

อันนี้เป็นสิ่งที่เล่นๆไปเดี๋ยวจะรู้เอง ไม่ใช่สูตรลับอะไร และขึ้นอยู่กับเทคนิคการวางแผนของแต่ละคนด้วย บางคนก็ชอบใช้ Wallnut ให้มันกิน แล้วเราก็ยิงไปเรื่อยๆ

มาเข้าเรื่องต่อไปดีกกว่าการเล่นแบบ Road Trip ในการเปลี่ยนด่านในแต่ละครั้งจะต้องมีการร้องขอให้เพื่อนช่วย ถ้าเพื่อนที่เรามีไม่พอตามจำนวนที่แต่ละด่านกำหนดเราสามารถจ่ายด้วย Zombuck(เงินในเกม) ได้ แต่พอด่านที่สูงขึ้นจำนวนเพื่อนที่ต้องขอให้ช่วยก็จะเยอะขึ้นด้วย และจำนวนเงินที่ต้องจ่ายก็เยอะตามไปด้วย โดยเฉพาะหลังจากด่านที่ 7 จ่ายด้วย Gem(เพชรสีแดง) หาเก็บเพิ่มไม่ได้ ต้องจ่ายเงินจริงซื้อ แต่ถ้าหากเรามีเพื่อนเยอะเรื่องพวกนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร งั้นขอชวนเพื่อนมารวมกลุ่มกันไปออก Road Trip กันครับ

เข้ามา Add Friend กันได้ที่กรุ๊ป Plants vs. Zombies Player กันนะครับ https://www.facebook.com/groups/524489237605821/

อยากเล่นเกม Plants vs. Zombies for Facebook คลิกที่นี้ครับ https://apps.facebook.com/pvzadventures/?fb_source=search&ref=br_tf 

Goodreads ค้นหาและแชร์หนังสือที่คุณชอบ

Goodreads

มี Social network อยู่เว็บหนึ่ง ที่มีหนังสือเป็นศูนย์กลางหลักของเว็บไซต์ เท่าที่ใช้มาได้สักระยะพบว่ามันถูกจริตผมอย่างมาก และขอเชียร์อย่างออกหน้าออกตาเลยนะ ในความคิดถ้าคนไทยเล่นเยอะกว่านี้น่าจะมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นอีกเยอะเลยล่ะ

การเก็บ log ในชีวิตประจำวันที่เกี่ยวกับสิ่งบันเทิงของผมในตอนนี้ ถือได้ว่าค่อนข้างเป็นระบบและราบเลื่อนดีมาก ดูหนังก็เก็บ Watchlist ไว้ที่ imdb, ถ้าฟังเพลงก็ใช้ Last.fm, อ่านหนังสือก็ต้อง Goodreads, ซึ่งทั้งสามอย่าง ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ แต่ก่อนจะเขียนลงบล็อกทั้งหมด เราพบว่าในแต่ละครั้งใช้พลังงานค่อนข้างเยอะในการเขียน ทำให้หลายๆอันเลยพลาดบันทึกเก็บไว้

ส่วนการใช้ Goodreads แต่ก่อนใช้งานบ้าง แต่พบว่าหนังสือที่เป็นภาษาไทยไม่ค่อยมีฐานข้อมูล ทำให้การเก็บ log ทำได้ไม่สะดวกนัก แต่ช่วงหลังๆเลยทำแบบนี้ครับ ไม่มีใช่ไหมเพิ่มเองเลย แล้วก็พบว่าการเพิ่มหนังสือเข้าไปใน Goodreads ทำได้ง่ายมาก เริ่มแรกค้นหาหนังสือในร้านขายหนังสือออนไลน์ครับ มีข้อมูลครบถ้วนทุกอย่างอยู่แล้ว ทั้งปก isbn ชื่อคนแต่ง ปีที่พิมพ์ จับวางได้เลย การเพิ่มหนังสือแต่ละเล่มทำเสร็จไม่ถึงหนึ่งนาที ครั้งหน้าถ้าเพื่อนเข้ามาค้นใน Goodreads ก็จะเจอหนังสือที่เราเพิ่มเข้าไปแล้ว ง่ายมาก อีกอย่างที่พบเมื่อเพิ่มหนังสือจำพวกแปลมาจากภาษาอื่น ในตอนท้ายจะมีช่องให้เราใส่เพิ่มเติมเข้าไปได้ว่าต้นฉบับคือหนังสือชื่ออะไร สุดท้ายแล้วมันจะรวมพวก rating, รีวิว ของต้นฉบับกับฉบับแปลภาษาต่างๆมาไว้ด้วยกันครับ เยี่ยมยอดมากๆ

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เรียกได้ว่าชอบมากๆคือ Progress เราสามารถที่จะอัพเดตสถานะการอ่านของเราว่าตอนนี้อยู่หน้าที่เท่าไหร่ คิดเป็นกี่เปอร์เซนต์จากหน้าที่เหลือ พร้อมกับเขียนบันทึกย่อสั้นๆไว้ได้ว่าที่อ่านผ่านมาแล้วนั้นมีประเด็นอะไรที่น่าสนใจและน่าบันทึกสั้นๆเก็บไว้ พร้อมทั้งช่วยบอกความก้าวหน้าได้ว่าหนังสือที่เราอ่านอยู่นั้นใช้เวลากับมันมากน้อยเพียงใดกว่าจะอ่านจบ สุดท้ายแล้วยังสามารถเอาบันทึกสั้นๆเหล่านั้นมารวมเขียนเป็นบล็อกสรุปเนื้อหาได้อีกทีหนึ่ง เจ๋งไหมล่ะ!

Goodreads App for iOS ก็ทำได้ดีมีประโยชน์ มีเมนูที่ใช้อยู่บ่อยๆก็คือ Progress และ Scan, ตัว Scan นั้น จะใช้กล้องอ่านบาร์โค้ดของหนังสือเล่มนั้น แล้วก็ค้นหาข้อมูลจากฐานข้อมูลภายในเว็บ แล้วมันจะรายงานรายละเอียดของหนังสือ จำพวก rating, รีวิวจากคนที่อ่านแล้ว ช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะซื้อเลยดีไหม หรือจะบันทึกไว้ก่อนก็ได้ว่าฉันจะอ่านหนังสือเล่มนี้ทีหลัง แหล่มมาก!

รายละเอียดเกี่ยวกับ Goodreads ที่น่าสนใจ

Goodreads เป็นเว็บไซต์ของผู้ที่รักการอ่าน มีสมาชิกผู้ใช้งานราว 13 ล้านคน, มีฐานข้อมูลหนังสืออยู่ราว 450 ล้านเล่ม เคลมตัวเองว่าเป็นเว็บไซต์ชุมชนนักอ่านและแชร์แนะนำหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดตัวตั้งแต่มกราคม 2007

สิ่งที่ Goodreads ทำได้ก็เป็นเหมือน social network ทั่วไป มีฟีเจอร์ทุกอย่างเกี่ยวกับการอ่านที่ควรจะมี

  • เพิ่มหนังสือที่ตัวเองอ่านเข้าไปได้ จะเทียบกับฐานข้อมูลเดิมด้วยหมายเลย isbn
  • แชร์ให้เพื่อนได้เห็นว่าตอนนี้เราอ่านหนังสือเล่มไหนอยู่ อ่านเล่มไหนจบไปแล้วบ้าง และกำลังสนใจเล่มไหนอยู่ ให้คะแนนหนังสือที่อ่านจบแล้ว
  • ค้นหาหนังสือในแนวที่ตัวเองสนใจ ติดตามดูหนังสือเล่มไหนที่กำลังได้รับความสนใจ
  • แนะนำหนังสือที่คุณน่าจะชอบ (อ้างอิงจากหนังสือที่คุณอ่าน)
  • ตั้งเป้าหมายในปีนี้จะอ่านหนังสือกี่เล่ม (Reading Challenge) จาก user ประมาณ 3 แสนกว่าๆที่ตั้ง challenge ไว้ของปีที่แล้ว(2012) คือ 58 เล่มต่อปีครับ แต่ทำสำเร็จกันไป หมื่นสองกว่าๆ ปีที่แล้วผมตั้งไว้ 10 เล่ม ทำสำเร็จ 200% อ่านได้ 20 เล่ม ปีนี้เลยจัดเต็มไป 50 เล่มเสียเลย ท้ายๆปีค่อยมาลุ้นว่าจะทำได้หรือไม่ สร้างแรงกระตุ้นได้ดีมากๆ
  • Tagging หนังสือที่อ่านอยู่ Progress ว่าต้องนี้อ่านถึงหน้าไหนแล้ว พร้อมเขียนโน๊ตสั้นๆกำกับไว้ได้
  • มีแอพพริเคชั่น Goodreads สำหรับ iOS ทำงานได้ดีมากเลยทีเดียว

แต่ส่วนใหญ่ในเว็บไม่ค่อยมีคนไทยเล่นเท่าไหร่ ฐานข้อมูลก็เป็นหนังสือภาษาอังกฤษซะส่วนใหญ่ ผมได้เห็นหนังสือหลายเล่มที่น่าสนใจมากๆจากเพื่อนๆที่แชร์ไว้ว่าตัวเองอ่านอะไรและก็ตั้งใจว่าจะหามาอ่านบ้างเช่นกัน ตอนนี้ผมอยากรู้ว่าพวกคุณๆอ่านอะไรกันอยู่ มันน่าสนใจไหม จึงขอเชิญชวนทุกๆท่านมาเล่น Goodreads ครับ  มาช่วยกันแชร์ มาช่วยกันเพิ่มข้อมูลหนังสือของไทยที่ดีๆให้กันและกันครับ มาสร้าง account ให้ลูกตัวเล็กของคุณแล้ว add หนังสือที่เขาอ่านไปแล้วลงไป น่าจะสร้างความภาคภูมิใจและแรงกระตุ้นให้เด็กรักการอ่านเพิ่มมากขึ้นก็ได้นะครับ

เข้าไปเลยที่ https://www.goodreads.com

Exit mobile version