ป้ายหาเสียงพรรคประชาธิปัตย์โผล่ที่เว็บประชาไท

ป้ายหาเสียงประชาธิปัตย์บนเว็บประชาไท

เว็บประชาไทถือว่าเป็นเว็บที่โดนไล่ปิดตลอดช่วงที่มีการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน(ตอนนี้ยังบล็อกอยู่) จะเรียกได้ว่าเป็นสื่อคนละฝั่งกับรัฐบาลของคุณอภิสิทธิ์คงไม่ผิดมากนัก ที่เว็บประชาไทจะมีบทความหลากหลายแง่มุมของบ้านเมืองให้ได้อ่านจึงแวะเวียนไปบ่อยๆ วันนี้เข้าไปเจอป้ายหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์โผล่ที่เว็บประชาไท ทำให้อมยิ้มได้เลย ภาพนี้คงไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายนัก อารมณ์เดียวกับเสื้อแดงนั่งโต๊ะเจรจากับรัฐบาลเลยนะ เลยขอจับภาพประวัติศาสตร์นี้ไว้หน่อยแล้ว! ความจริงแล้วมันเป็นเพียงโฆษณาจาก Google Adsens ที่เป็นแบบซุ่มจะแสดงเนื้อตามเว็บไซต์ที่มีเนื่อหาที่สอดคล้องกับเนื้อหาของโฆษณาที่พรรคประชาธิปัตย์ซื้อโฆษณาออนไลน์กับทาง Google ไว้ แต่เท่าที่เปิดดูเว็บต่างๆยังไม่เจอโฆษณาของพรรคอื่นนะ พรรคประชาธิปัตย์น่าจะมีทีมที่ใช้สื่อออนไลน์ในการหาเสียงเข้มแข็งกว่าพรรคอื่นๆ เว็บไซต์ก็ทำออกมาได้ดูดีสุดแล้ว

สรุปคือพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่รู้หรอกว่าเนื้อหาโฆษณาที่ตัวเองทำจะไปโผล่ที่ไหนบ้าง ส่วนประชาไทก็ไม่รู้หรอกว่าโฆษณาอันไหนจะมาโผล่ที่เว็บไซต์ตัวเอง แต่แล้วทั้งสองก็มาบรรจบกันได้ด้วย Google! ใครอยากเห็นภาพป้ายหาเสียงพรรคประชาธิปัตย์โผล่ที่เว็บประชาไทบ้าง ก็เข้าไปที่เว็บประชาไทแล้วกดรีโหลดบ่อยๆเดียวเจอเอง

ปล. ผมเขียนถึงการเลือกตั้ง แถมมีคำว่าพรรคประชาธิปัตย์ โฆษณานั้นน่าจะมาโผล่ที่บล็อกนี้ด้วยเหมือนกันนะ

เปิดใช้ Google Instant Search ใน Chrome

Google Instant Search คือการค้นแบบแสดงข้อมูลทันทีตั้งพิมพ์อักษรตัวแรก และจะเดาคำศัพท์ให้ด้วย เคยเขียนถึงเหมือนกัน “Google instant ค้นหาเร็วขึ้น ถูกใจมากขึ้น” ใน Google ต่างประเทศเปิดใช้มานานแล้ว คิดว่าหลายคนคงได้ลองใช้กันบ้างแล้ว ถ้าใครยังไม่ได้ลองใช้ก็เข้าไปใช้ที่ https://www.Google.com (.com ไม่ใช่ .co.th) ซึ่งใน Google Chrome ก็ถูกยัดฟีเจอร์นี้เข้ามาด้วยใน Omnibox เรียกภาษาชาวบ้านมันก็คือช่อง URL+Search ของ Google Chrome นั้นเอง แต่ Google Instant Search ใน Google Chrome จะยังตั้งเป็น Disable ไว้ แต่เราก็เปิดให้มันทำงานได้

แม้จะเปิดให้ทำงานได้แต่ก็ยังใช้ได้ไม่สมบูรณ์นัก ทำงานได้แค่ส่วนที่เป็น URL ของเว็บ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราจะพิมพ์ www.facebook.com หน้าเว็บจะแสดงตั้งแต่คำว่า www.fa แล้ว ทำให้เปิดเว็บต่างๆได้เร็วขึ้นเยอะเลย ส่วนการพิมพ์คีย์เวิร์ดยังแสดงเป็นแค่หน้าขาว คงต้องรอให้บ้านเราใช้ Instant Search ได้ก่อนมันจึงจะทำงานได้

การที่มันเดาเว็บที่เราจะเข้าแล้วเปิดให้ดูเลย แค่นี้ก็เพียงพอที่จะเปิดใช้งานมันแล้ว

ขั้นตอนการเปิด Google Instant Search ใน Google Chrome

  1. เปิดใช้ Google Chrome เข้าไปที่ Options

    Google Chrome Options

  2. เลือก Basics >>ติ๊กเลือก Enable Instant for faster searching and browsing

    Enable instant search

  3. เรียบร้อยทดลองใช้งานได้เลย ลองเปิดบล็อกตัวเอง www.amphur.in.th มันก็แสดงผลตั้งแต่คำว่า amp แล้ว

    Amphur.in.th with Chrome instant search

ใครที่อยากรู้จัก Google Instant มากกว่านี้เข้าไปดูได้ที่ https://www.Google.com/instant/

ดูหนังฟรีที่ Youtube

Youtube-Movies

Youtube Movies เป็นแหล่งรวมของหนังแบบเต็มเรื่อง(ถูกลิขสิทธิ์) เปิดตัวมาได้สักพักหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ สิงหาคม 2010 แต่ไม่ได้จริงจังที่จะดูว่ามันมีหนังเรื่องอะไรบ้างที่น่าดู พอมาช่วงๆหลังเริ่มลองเปิดดูว่ามีหนังอะไรเจ๋งๆบ้าง พบว่ามีหนังบู๊ของ บรู๊ซ ลี และเฉินหลง แม้เก่าแต่ชั้นเลิศในระดับที่เรียกได้ว่าเป็นตำนาน ให้ได้เลือกดูหลายเรื่องเลย นอกจากนัั้นก็มีหนังสารคดีระดับรางวัลเวทีระดับโลกอีกหลายเรื่อง นับว่าเป็นแหล่งบันเทิง และสาระชั้นดี ขอแนะนำหนังที่น่าดูใน youtube movies ให้ทุกท่านได้ลองดู มีทั้งเรื่องที่ดูแล้ว และคิดจะดูรวมกันนะครับ

หมวด Action & Adventure

หมวด Animation & Cartoons

หมวด Documentary & Biography

หมวด Comedy

ยังมีหมวดอื่นๆอีกที่น่าสนใจ ลองเปิดแล้วเลือกๆดูครับ เชื่อว่าต้องมีสักเรื่องที่จะโดนใจ

 

วิธีสั่งพิมพ์ด้วย Google Cloud Print

การทำงานของ Google Cloud Print

จากตอนที่แล้วที่เขียนถึงวิธีการติดตั้ง Google Cloud Print ตอนนี้จึงมาต่อในเรื่องของการสั่งพิมพ์จากคนละเครื่อง คนละอุปกรณ์ ผ่านทาง Smart phone, tablet ในการสั่งพิมพ์จากอุปกรณ์พวกนี้สามารถใช้งานได้เลย เมื่อเข้าไปใช้งาน Gmail, Google Docs ต้องการพิมพ์เอกสารที่แนบมากับอีเมล หรือเอกสารที่อยู่ใน Google Docs ก็คลิกที่เมนูพิมพ์ได้เลย

iOS

อันนี้ไม่ใช้เรื่องยากเลย เมื่อกดที่ Print รายชื่อของเครื่องพิมพ์ที่เราแอดไว้ก็จะโชว์ขึ้นมา เราก็สั่งพิมพ์ข้ามโลกได้เลย

แล้วถ้าเป็น PC , Notebook ทั่วไปจะมีปัญหานิดหน่อย เพราะถ้าจะสั่งพิมพ์มันจะเรียกเครื่องพิมพ์ในระบบ Windows ขึ้นมา ไม่ใช่เครื่องพิมพ์ที่เป็น Cloud Print วิธีแก้ไขง่ายๆคือ ถ้าจะสั่งพิมพ์ก็ให้แปลงเครื่องเราให้เป็น iPad หรือ iPhone ก่อน เมนูพิมพ์ที่ทำสำหรับอุปกรณ์นั้นๆจึงจะโผล่ขึ้นมา เพราะเครื่องของเราไม่ใช่ Chrome OS แต่เป็นแค่ Chrome Browser

วิธีเปลี่ยนคือใช้ User Agent Switcher ที่เป็น Add-on ของ firefox ของ Chrome ก็มีแต่ไม่ค่อยเวิร์ค พอติดตั้งเสร็จก็ เลือกใช้ User Agent เป็น iPhone หรือ iPad

เปลี่ยน PC ให้เป็น iPhone หรือ iPad

จากนั้นเข้าใช้งาน Gmail หรือ Google Docs ก็สั่งพิมพ์งานได้แล้ว

สรุปว่าจะสั่งพิมพ์ผ่านทาง Google Cloud Print ในคอมพิวเตอร์ ต้องใช้ Firefox กับ User Agent Switcher ช่วย

จบ

วิธีติดตั้ง Google Cloud Print

Google Cloud Print มันตามมาพร้อมกับ Chrome OS เพราะว่าถ้าเครื่องมันมีแต่ browser อย่างเดียวแล้วจะพิมพ์เอกสารยังไง ซึ่งแสดงว่า ณ ตอนนี้กระดาษยังมีความจำเป็น แต่คิดว่าต่อไปอันใกล้กระดาษจะต้องถูกลดบทบาทลงเรื่อยๆ และจะถูกแทนที่ด้วยสื่อดิจิตอลเกือบหมด(แต่จะไม่หมดไป) ตอนแรกก็คิดว่ามันจะแก้ปัญหายังไง และแล้ว Cloud Print ก็คือการแก้ปัญหานั้น

Google Cloud Print

Google Cloud Print แบ่งเครื่องพิมพ์เป็นสองกลุ่มย่อย คือเครื่องพิมพ์ที่เสียบอยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เรียกว่า “Classic printer” กับเครื่องพิมพ์ที่รองรับ Cloud Print แบบเต็มตัวคือสั่งงานผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้เลย เรียกว่า “Cloud Ready Printers” โดยแอดที่อยู่ของเครื่องพิมพ์เข้าไปก็ใช้ได้แล้ว ตอนนี้มียี่ห้อ HP เท่านั้นที่รองรับ

วันนี้ได้ลองเล่น Google Cloud Print รู้สึกว่ามันทำงานได้จริง แชร์เครื่องพิมพ์ให้เพื่อนผ่านอินเทอร์เน็ตได้ แต่ข้อเสียก็ต้องมีแน่นอน นั้นคือ คุณต้องต่ออินเทอร์เน็ตจึงจะสั่งพิมพ์ได้ ขอเริ่มวิธีการติดตั้ง Google Cloud Print ณ บัดนี้ครับ (เรียกว่าเปิดการทำงานน่าจะถูกมากกว่า)

วิธีติดตั้ง Google Cloud Print

  1. เปิด Google Chrome ขึ้นมา
  2. คลิกที่ไอคอนประแจ เข้าสู่เมนู Customize and control

    Setting

  3. เลือก Options

    Options

  4. เลือก Under the hood

    Under the Hood

  5. เลือนลงไปข้างล่าง ในส่วนของ Google Cloud Print เลือก Sign in to Google Cloud Print

    เลือก Google Cloud Print

  6. ล็อกอินบัญชีของ Gmail

    Sign in

  7. เลือก “OK” เสร็จเรียบร้อยแล้ว หรือว่าอยากจะลองกด “Print a Test Page” เพื่อลองพิมพ์ดูก่อนก็ได้

    success

  8. ลองเข้าไปจัดการเครื่องพิมพ์ เลือก “Manage Print Settings…” (อยู่ที่เดียวกับข้อ 5 นั้นแหละ)

    Manage Print Settings

  9. รายชื่อของเครื่องพิมพ์ที่เชื่อมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ถูกเพิ่มเข้าไปใน Google Cloud Print ของบัญชีเรา และถ้าต้องการจะแชร์เครื่องพิมพ์ของเราให้เพื่อน ก็คลิกที่เครื่องพิมพ์นั้น เลือก Actions>>Share การแชร์เครื่องพิมพ์จะทำหรือไม่ อันนี้แล้วแต่ลักษณะการใช้งานของแต่ละคนนะครับ ถ้าจะใช้คนเดียว ขั้นตอนติดตั้ง Google Cloud Print เสร็จตั้งแต่ข้อที่ 7 แล้ว

    Printers on Cloud

  10. เพิ่มอีเมลของเพื่อนที่เราต้องการแชร์เครื่องพิมพ์ให้ลงไปได้เลย

    เพิ่มอีเมลของเพื่อน

  11. เสร็จสิ้นตอนนี้ เพื่อนของเราก็สั่งพิมพ์ผ่าน Google Cloud Print บัญชีของเราได้เช่นกัน

ตอนนี้เราสามารถสั่งพิมพ์งานจากที่ไหนก็ได้ เช่นสั่งพิมพ์จาก smart phone, tablet, PC ตราบใดที่มีอินเทอร์เน็ต และเครื่องที่ต่อกับเครื่องพิมพ์ต้องต่ออินเทอร์เน็ตด้วยนะ แต่ไม่จำเป็นต้องเปิด Google Chrome ค้างไว้

ส่วนเรื่องวิธีการสั่งพิมพ์ เทคนิคการสั่งพิมพ์จากคนละเครื่อง จะเขียนในตอนหน้าแล้วกัน

-ตอนที่ 2 วิธีสั่งพิมพ์ด้วย Google Cloud Print

เปลี่ยนจาก Chrome Dev channel เป็น Stable channel

Google Chrome Dev to Stable Channel

Google Chrome มีรุ่นให้เราเลือกใช้ทั้งหมด 4 รุ่น(channel) คือ

  • รุ่นจริงให้ใช้ทั่วไป (Stable channel): https://www.Google.com/Chrome?platform=win
  • รุ่นก่อนปล่อยจริง (Beta channel): https://www.Google.com/Chrome/eula.html?extra=betachannel
  • รุ่นพัฒนา (Dev channel): https://www.Google.com/Chrome/eula.html?extra=devchannel
  • รุ่นทดสอบของใหม่ (Canary build): https://tools.Google.com/dlpage/Chromesxs
  • สายการพัฒนาจะเรียงไปจาก Canary ที่อยากใส่อะไรก็ใส่เข้าไป –>Dev ก็พัฒนาให้ดีขึ้น–>Beta ใช้งานก่อนปล่อยจริง–>Stable รุ่นจริง ปล่อยให้ใช้ทั่วไป

    ที่จริงแล้วใครอยากเลือกใช้ Channel ไหนก็เลือกได้เลย เวอร์ชั่นของรุ่นที่อยู่ด้านบนมันก็จะใหม่มากกว่า มีของใหม่ให้เล่นมากกว่า แต่ก็แลกมาซึ่งความไม่เสถียร และบั๊กต่างๆแถมมา ปกติใช้ Dev channel อยู่ เพราะติดตามตั้งแต่เวอร์ชั่นเก่าที่รุ่น Dev ค่อนข้างมีอะไรให้เล่นมากกว่าเยอะ เช่น พวก Extension, Web Apps, GPU,V8, Setting UI เป็นต้น แต่ตอนนี้สิ่งเหล่านั้นส่งไปถึงรุ่น Stable หมดแล้ว และรู้สึกว่ารุ่น Dev กับ Stable ไม่มีอะไรใหม่กว่ากันอย่างชัดเจน

    ดังนั้นคิดว่าการเลือกใช้รุ่น Dev channel ไม่ค่อยคุ้มกับบั๊ก หรือความเสถียรที่ต้องเสี่ยง วันนี้เลยเปลี่ยนจาก Dev channel มาเป็น Stable channel

    การเปลี่ยนนั้นจะพบปัญหานิดหน่อย เมื่อเราถอนการติดตั้ง Dev channel แล้วติดตั้ง Stable channel มันจะฟ้อง ว่า Profile ที่เราใช้มันเป็นของเวอร์ชั่นที่ใหม่กว่า บางอันจะใช้ไม่ได้ แนะนำให้ลงเวอร์ชั่นที่ใหม่กว่านี้ ความจริงเราจะปิดไป แล้วใช้เลยก็ได้ไม่มีปัญหา แต่มันขัดใจ เหมือนมี error ติดเครื่อง

    ดังนั้นเราจะทำตามคำแนะนำที่ถูกต้องนั้นคือ เราจะสร้าง User Profile ขึ้นมาใหม่สำหรับ Stable channel ส่วนอันเก่าที่เป็นของ Dev Channel เราก็จะเก็บไว้เผื่ออยากกลับไปใช้ก็ยังไม่ได้หายไปไหน วิธีทำมีดังนี้

    1. ปิด Google Chrome ก่อน
    2. Start menu > Run ถ้าเป็น Windows 7 ก็คลิกปุ่ม start แล้วพิมพ์ Run ลงช่อง Search แล้ว Enter เลย
    3. พิมพ์ข้อความเหล่านี้ลงในช่อง Open แล้วก็คลิก OK
      -Windows XP ใช้:  %USERPROFILE%\Local Settings\Application Data\Google\Chrome\User Data\
      -Windows Vista หรือ 7 ใช้:  %LOCALAPPDATA%\Google\Chrome\User Data\
      มันคือการเข้าไปที่โฟว์เดอร์ User Data จะเปิดหาเองตามที่อยู่ของมันก็ได้ แต่วิธีนี้สะดวกดี

      เปิดโฟว์เดอร์เก็บข้อมูลของ Google Chrome

    4. ให้เปลี่ยนชื่อโฟว์เดอร์ Default ซึ่งเป็นข้อมูล User Profile ของ Dev channel เป็นชื่ออะไรก็ได้อย่างเช่น Dev_Default
    5. เสร็จแล้ว ต่อไปเมื่อเราเปิด Google Chrome อีกครั้ง มันจะสร้างโฟว์เดอร์ Default ขึ้นมาใหม่ สำหรับเก็บข้อมูล User Profile อันใหม่ของเรา

    จากนั้นก็เข้าไปล็อกอินเพื่อ Sync ข้อมูลอันเก่าเข้ามา เพียงเท่านี้การเปลี่ยนจาก Google Chrome Dev channel มาเป็น Stable channel ก็สมบูรณ์แบบแล้วครับ ถ้าอยากจะกลับมาใช้ User Profile อันเก่าก็แก้กลับมาเป็นชื่อ Default (ส่วนอันที่ใช้อยู่ก็ต้องเปลี่ยนชื่อใหม่ด้วยเดี๋ยวซ้ำ)

    ข้อมูล: https://www.Google.com/support/Chrome

     

    หมดยุคของ Google Friends Connect ไปนานแล้ว

    Google Friends Connect Widget

    Google Friends Connect ถูกติดในบล็อกนี้มาตั้งแต่เริ่มเขียน เรียกได้ว่ามันคือ กลุ่ม Social network เล็กๆที่มีเว็บไซต์หรือบล็อกเป็นจุดเชื่อม สามารถใส่คอมเม้นต์พูดคุยกันได้ ถ้าจะอธิบายง่ายๆ มันเหมือน Facebook Social Graph นั้นเอง แต่ก่อน Google Friends Connect ใช้ Google Account ในการล็อกอินแล้วเพิ่ม Twitter และ Open ID ตัวอื่นเพิ่มเข้ามาด้วย แต่ Facebook บล็อคไม่ยอมให้ใช้ ID ของตัวเอง ก็แน่อยู่แล้วเพราะ Facebook ก็มีของตัวเองเหมือนกัน

    ในบล็อกนี้มีเพื่อนอยู่ 97 คน นิ่งมานานแล้ว แสดงให้เห็นว่าไม่มีใครใช้แล้ว ทุกคนมุ่งไปที่ Facebook Page มากกว่า เพราะคนใช้เยอะ และมันดูเข้าใจมากกว่าเหล่าแบนด์ต่างๆก็ใช้อย่างแพร่หลาย เราเลยชินที่จะกด Facebook Like ในหน้า Fan Page มากกว่า ตอนนี้น้อยเว็บที่ยังมี Google Friends Connect ติดอยู่ คงเรียกได้ว่ามันหมดยุคไปนานแล้ว

    ถึงเวลาแล้วที่บล็อกนี้จะถอดออกบ้าง ลาก่อน Google Friends Connect

    Google ออก extension สำหรับผู้ใช้ Chrome ช่วยบล็อคเว็บไม่พึงประสงค์

    Personal Blocklist Extension for Google Chrome

    ช่วงนี้มี Content farms ระบาดในโลกอินเทอร์เน็ตยากหนัก มันคือกลุ่มเว็บที่มีเนื้อหาคุณภาพต่ำ แต่ปั๊มออกมาเป็นจำนวนมาก ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อทำอันดับในการค้นหา มีธุรกิจจ้างเขียนเนื้อหาในลักษณะนี้ออกมามากมาย มันจึงกระทบกับผู้ใช้ แทนที่จะเจอเว็บที่ดี มีเนื้อหาตามต้องการ กับเจอแต่เว็บขยะ Google ก็คิดวิธีใหม่ขึ้นมา(น่าจะมีวิธีอื่นอีกมากมาย) คือให้คนที่เจอช่วยแจ้ง ช่วยกันบล็อค ด้วยการสร้างส่วนเสริมสำหรับ Google Chrome เป็นเครื่องมือช่วยให้ผู้ใช้ได้แจ้งบล็อคเว็บไซต์เหล่านั้นได้ง่ายขึ้น Google Chrome Extension ตัวที่ว่าคือ Personal Blocklist (by Google) ใครที่ใช้ Google Chrome อยู่เข้าไปติดตั้งได้เลย

    วิธีการใช้งานก็ง่ายๆ เมื่อติดตั้ง ส่วนเสริมนี้แล้ว เวลาค้นข้อมูลในเว็บ Google ในส่วนของผลลัพธ์ของการค้นหาจะมีลิงค์ให้คลิกบล็อคเพิ่มเข้ามาใต้รายการเว็บไซต์ ถ้าเห็นแล้วว่ามันเป็นพวก content farms ก็คลิกบล็อคมันซะ แล้วเว็บไซต์นั้นจะไม่โผล่มาในหน้าค้นหาของคุณอีกเลย และข้อมูลส่วนนี้ที่เราคลิกบล็อคไป Google เขาจะเอาไปจัดการปรับปรุงผลการค้นหาใหม่ให้ดีขึ้น (เว็บไซต์ที่โดนคลิกบล็อคเยอะๆ คงหายไปจากผลการค้นหาเป็นแน่แท้)

    เห็นว่าไม่เหมาะสมก็คลิกบล็อคมันซะ

    แล้วถ้าเผลอคลิกบล็อคเว็บไซต์ธรรมดา ที่ไม่ใช่พวกเว็บ Content farms มันหายไปแล้วจะทำไง? ง่ายๆครับ เลื่อนลงไปข้างล่างสุด จะมีปุ่ม Show เว็บที่เรากดบล็อค

    แสดงเว็บไซต์ที่ถูกบล้อค และยกเลิกการบล็อค

    เมื่อกดมันจะแสดงจะแสดงเว็บไซต์ที่เราคลิกบล็อคออกมาในกล่องสีแดงๆ จากนั้นคลิก Unblock แล้วมันก็จะกลับมาดังเดิม นอกจากนั้นยังเข้าไปจัดการกับรายชื่อเว็บไซต์ที่เราคลิกบล็อคเพิ่มเติมได้อีกเมื่อคลิกที่ icon ของ Extension ด้านบนขวาของ Google Chrome ได้ด้วยนะ

    ขอให้ค้นเจอในสิ่งที่ต้องการนะครับ

    ข้อมูลจาก: https://Googleblog.blogspot.com

    Google APIs & Developer Products ในแบบตารางธาตุ

    Google APIs

    เคยเขียน HTML5 Elements ในแบบตารางธาตุ วันนี้เจอ Google APIs & Developer Products ในแบบตารางธาตุจาก Engadget เลยเอามาลงไว้อีกครั้ง ตัว APIs ถูกแยกกลุ่มต่างๆเป็นสี และกลุ่มได้ดังนี้

    • Mobile
    • Search
    • Gadgets
    • Data APIs
    • Social
    • Misc
    • Ads
    • Geo
    • Tools
    • Chrome

    เวลาเอาเมาส์ไปวางที่ กลุ่มด้านบนจะมีแถบสีดำขึ้นตามตัวที่อยู่ในกลุ่ม เมื่อคลิกที่ตัว APIs นั้นจะลิงค์ไปที่หน้าโค้ด และรายละเอียดการใช้งาน สรุปว่ามันเป็นหน้า bookmark APIs ต่างๆให้เป็นกลุ่ม เป็นระบบง่ายต่อการเข้าถึง

    เข้าไปดูได้ที่ https://code.Google.com/intl/th/more/table/

    10 เหตุผลที่ควรใช้ Gmail และ 17 เหตุผลที่ชอบ Gmail

    10 reasons to use Gmail

    10 เหตุผลที่ควรใช้ Gmail เอามาจากโฆษณาของ Google จาหหน้านี้ https://mail.Google.com แต่อีก 17 ข้อ ข้างหลังที่เพิ่มเข้ามด้วยเป็นเหตุผลส่วนตัวที่ใช้ Gmail เป็นอีเมลหลักในตอนนี้ เอามาแชร์ไม่ได้เชียร์ ไม่มีเทคโนโลยีไหนดีสุด มีแต่เหมาะกับคุณหรือไม่ ฉะนั้นอย่าไปบังคับให้ใครใช้ตามคุณ ให้เขาลองและตัดสินใจเอง

    1. ให้พื้นที่ฟรี ถึง 2.8 GB (และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ)
    พื้นที่เยอะขนาดนี้ คุณสามารถเก็บอีเมลได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องลบทิ้งอีกแล้ว
    2. รองรับการใช้งานภาษาไทย
    เปลี่ยนภาษาบนหน้าจอเป็นอังกฤษหรือไทยตามใจคุณ และแน่นอน Gmail รองรับการส่งข้อความด้วยภาษาไทย
    3. หาอีเมลกี่ครั้งก็เจอ
    ด้วยระบบเสิร์ซอัจฉริยะของ Google คุณก็หาอีเมลหรือแชท ได้เร็วเพียงแค่พริบตา
    4. หมดกังวลเรื่องสแปม
    Gmail บล็อกสแปมก่อนที่มันจะเข้าอินบ็อกของคุณ
    5. คุยกับเพื่อนได้ในทันที
    โปรแกรมแชทและอีเมลที่ติดตั้งมาพร้อมกัน ทำให้คุณไม่ต้องเปลี่ยนหน้าจอสลับไปมาให้ยุ่งยากอีกแล้ว
    6. เช็คเมลผ่านมือถือ
    อ่าน Gmail บนมือถือได้ง่ายๆ เพียงแค่ใส่ URL https://gmail.com/app บนมือถือของคุณ
    7. จัดอีเมลเรื่องเดียวกันให้เป็นหนึ่งเดียว
    อีเมลเรื่องเดียวกันที่มีการโต้ตอบไปมาหลายครั้งจะถูกจัดเก็บไว้ด้วยกันโดยอัตโนมัติ คุณจึงหาและอ่านอีเมลทั้งหมดได้ทันที
    8.เซฟอัตโนมัติ
    Gmail ช่วยเซฟและบันทึกร่างอีเมลที่กำลังเขียนอยู่โดยอัตโนมัติ หมดกังวลเรื่องเขียนอีเมลค้างไว้แล้วหายไปก่อนส่งออก
    9. Labels
    จัดระเบียบให้อีเมลของคุณแบบง่ายๆ ด้วยการแยกเก็บไว้ใน Label
    10. เปลี่ยนมาใช้ Gmail ง่ายแค่คลิ๊ก
    โอนถ่ายข้อมูลติดต่อทั้งหมดจาก Outlook, Hotmail, Yahoo! และอีเมลอื่นๆ เข้ามาใช้ใน Gmail ได้อย่างง่ายดาย

    ผมขอเสริมของตัวเองเข้าไปด้วย อีก 17 ข้อ เอาเท่าที่คิดออก

    1. มันเอาอีเมลจาก hotmail เข้ามาอ่านใน Gmail ได้ (ใช้ POP3)
    2. เมื่อเอาอีเมลจาก hotmail, yahoo เข้ามา เวลาจะส่งอีเมลเราสามารถ เลือกหัวอีเมล ว่าส่งจากอีเมลไหนก็ได้
    3. สมัคร Gmail แล้วใช้ Account เดียวกันนี้ใช้บริการอื่นๆของ Google ได้หมด (Reader,Docs,Calendar,etc.)
    4. Priority Inbox แยกอีเมลที่สำคัญของคุณมาให้ ทำให้ง่ายต่อการเช็คอีเมล ผมใช้ดูการตอบโต้ของคนที่ยังเล่น Google Buzz อยู่
    5. ล็อกอินอีเมลของ Gmail หลายบัญชีพร้อมกันได้
    6. มีบ๊อบอัพแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีอีเมลใหม่เข้ามา
    7. แนบไฟล์เข้าอีเมล ใช้วิธีลากเข้าไปวางได้เลย (Drag and Drop)
    8. ตั้งเวลาส่งอีเมลได้ (ใช้ร่วมกับ Boomerang )
    9. มีธีมให้เลือกมากมาย ตั้งเป็น random ยิ่งทำให้ได้เห็นธีมหน้าตาแปลกๆ ไม่น่าเบื่อ
    10. มีกล่อง Sent mail เก็บรวบรวมอีเมลที่เราเคยส่งไว้ให้ ตรวจสอบและเป็นตัวยืนยันว่าเราส่งจริงๆได้ (ใช้กับพวกที่บอกว่า ไม่ได้รับ ส่งจริงหรอ?)
    11. ค้นอีเมลเจอทั้งไฟล์ใน Docs และประวัติการ chat ด้วย
    12. เปิดอ่านอีเมลได้แม้ไม่ได้ต่ออินเทอร์เน็ต (Offline mode)
    13. ตั้ง filter อีเมลได้ง่าย จะบล็อคอีเมลนั้น ลบ หรือสั่งให้ label เลยก็ได้
    14. มีฟีเจอร์ใหม่ๆให้ทดลองใช้มากมาย ใน Gmail Labs
    15. มีคีย์ลัดในการใช้งาน ทำให้สะดวกและเร็วขึ้นเยอะ
    16. เมื่ออีเมลมีไฟล์แนบมาด้วยหลายไฟล์ จะมี “Download all attachments” มาให้ ไม่ต้องมานั่งคลิกดาวน์โหลดทีละไฟล์
    17. ไฟล์เอกสารที่แนบมากับอีเมลสามารถ เปิดได้เลย(view)โดยไม่ต้องดาวน์โหลดลงเครื่องก่อน และบันทึกเข้า Google Docs ได้เลย

    ข้อเสียมันก็มีนะ บางทีมันก็กรอง spam ไม่ได้เหมือนกัน มีหลุดๆมาบ้างเหมือนกัน, อย่าบอกว่ามันพื้นที่เยอะไม่ต้องลบอีเมล ถูกต้องไม่ต้องลบอีเมลแต่พื้นที่ไม่พอต้องซื้อเพิ่ม แต่ดีที่ไม่แพงมาก(ขั้นต้น $5=20GB)และใช้ได้กับบริการอื่นๆด้วย บางฟีเจอร์เจ้าอื่นเขาก็มีเหมือนกันนะ

    Exit mobile version