หลายวันมานี้ได้เห็นโฆษณาอันหนึ่งบ่อยมาก อาจเพราะว่าค้นคำว่า “the best of tablet for artist” บ่อย จึงมีโฆษณาเกี่ยวกับแท็บเล็ตโผล่มาให้เห็น โฆษณาของผลิตภัณฑ์ที่ว่าคือ reMarkable: The paper tablet นิยามด้วยแท็บเล็ตที่ได้ฟิลลิ่งเหมือนกระดาษ(อ่าน เขียน เสก็ต)
หนังสือที่ถูกกล่าวถึงหรือถูกอ้างอิงในหนังสืออีกเล่มที่เคยอ่าน ทำให้หนังสือแต่ละเล่มมักจะมีการเชื่อมโยงถึงกัน ยกตัวอย่างเช่น เราอ่านหนังสือประวัติของ Isaac Newton ในหนังสือบอกว่า The Principia คือ ผลงานปฎิวัติวงการของเขา หนังสือที่เราอยากอ่านเล่มต่อไปย่อมเป็น The Principia หรือไม่ก็หนังสือที่เขียนอธิบายเกี่ยวกับ The Principia (แค่ยกตัวอย่างนะครับ มิอาจเอื้อม แต่ก็อยากซื้อมาประดับชั้นหนังสือนะ)
ผลงานของนักเขียนคนเดิม บ่อยครั้งที่จะดูว่านอกจากเล่มที่กำลังอ่านอยู่นั้น มีผลงานอื่นอะไรอีกที่น่าสนใจ เช่น เราอ่าน Surely You’re Joking, Mr. Feynman! เป็นไปได้หรือที่จะไม่ตามอ่าน What Do You Care What Other People Think?
ในเว็บไซต์ต่างๆ เช่น Goodread, Time, Nature, Wired, etc. ก็มักจะมีลิสต์หนังสือแนะนำให้เลือกติดตาม ในช่วงหลังๆที่ไม่รู้ว่าจะหาหนังสืออะไรมาอ่าน ช่องทางนี้ถูกเลือกใช้บ่อยๆ
นอกจากนี้ คนดัง ผู้มีอิทธิพลของโลก มหาเศรษฐี CEO หรือคนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะในด้านต่างๆ ก็มักจะมีหนังสือแนะนำกันทั้งนั้น ปีที่แล้ว Mark Zuckerberg ก็ลิสต์หนังสือที่เปลี่ยนใหม่ทุกๆ 2 สัปดาห์ สุดท้ายได้ออกมา 23 เล่ม Ayearofbooks.net
แต่ถ้าอยากรู้ว่า CEO แต่ละคน เช่น Mark Zuckerberg, Sam Altman, Bill Gates, Larry Page, Elon Musk, etc. มีลิสต์หนังสือแนะนำอะไรบ้าง เข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์นี้ Bookicious.com
ใน Bookicious จะเป็นการแนะนำหนังสือแบบรวบร่วมจากสื่อต่างๆ ที่ CEO แต่คนเคยบอกไว้ หรือเคยในสัมภาษณ์ไว้ ทำให้เราง่ายที่จะติดตามหนังสือตามบุคคลที่เราสนใจ หนังสือบางเล่มก็ได้รับการแนะนำจากหลายคน เช่น Sapiens by Yuval Noah Harari, The Innovator’s Dilemma by Clayton M. Christensen เป็นต้น ถ้าหลายคนแนะนำ แสดงว่าหนังสือเล่มนั้นก็น่าจะได้รับการการันตีในระดับหนึ่งว่าต้องดีแน่ๆ
แต่คนที่อยากพูดถึงเป็นพิเศษ นั้นคือ Bill Gates ดูจะเป็นคนที่จริงจังกับการอ่านมากที่สุด เขามีบล็อกที่เขียนรีวิวถึงหนังสือที่เขาอ่านอย่างสม่ำเสมอ บางครั้งก็ทำออกมาเป็นลิสต์ให้ได้ตามอ่านกันเลย และหนังสือก็มีหลากหลายแนว จึงขอแนะนำสำหรับคนที่คิดอะไรไม่ออก และกำลังตามหาลิสต์หนังสือน่าอ่านครับ
-Die Physik des Fußballspiels อธิบายหลักฟิสิกส์เกี่ยวกับการเล่นฟุตบอล
-Titanic: Mit Physik in den Untergang อธิบายหลักการฟิสิกส์เกี่ยวกับการจมของเรือไททานิค
-James Bond und die Physik อธิบายหลักการฟิสิกส์ในหนังเจมส์ บอนด์
เป็นหนังสือที่อ่านสนุก ถ้าใครเป็นแฟนผลิตภัณฑ์ของ Apple จะอ่านสนุกมากขึ้น ได้รู้ถึงวิวัฒนาการการออกแบบผลิตภัณฑ์เชิงอุสาหกรรมของ Apple แนวความคิด ภาษาการออกแบบ ความใส่ใจถึงขั้นหมกมุ่นของทีมออกแบบ ขั้นตอนการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคขั้นสูงของ Apple ที่น่าทึ่ง เป็นหนังสือที่อ่านสนุกอีกเล่มหนึ่งเลยทีเดียว
รายละเอียดอื่นๆที่เขียนไว้ตอน update status ตาม page ที่อ่านถึง
page 108: “นักออกแบบที่สำคัญอย่างมากในการวางรากฐานแนวทางการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple ที่ถือว่าเป็นหัวใจและเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก แนวทางของเขาจะใช้ Design นำ Engineer แนวทางของนักออกแบบผู้นี้คือออกแบบผลิตภัณฑ์เสร็จสิ้นแล้วค่อยไปคุยกับฝ่าย Engineer เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นทำงานได้จริง ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ Apple ดูโดดเด่นสวยงาม นักออกแบบท่านนี้ คือ “Robert Brunner” ชายผู้จ้าง Johnny Ive เข้ามาทำงานที่ Apple”
page 114: “อ่านถึงตรงนี้ กลายเป็นว่า Steve Jobs ต่างหากที่เป็นคนวางรากฐานการใช้การออกแบบขับเคลื่อนองค์กร แต่เมื่อเขาถูกไล่ออกจากบริษัท Apple วิธีคิดแบบเก่าๆก็กลับมา วิศวกรมีอำนาจมากว่า และ Robert Brunner ก็เป็นคนพยายามนำมันกลับมาอีกครั้ง”
หลายคนคิดว่าเขาเป็นคนที่น่าจะขึ้นมาเป็น CEO ของ Apple แทนสตีฟ จ๊อบส์ ด้วยซ้ำไป เพราะดูจากความเข้ากันกับแนวทางการทำงานของสตีฟ จ๊อบส์ และวัฒนธรรมการทำงานของ Apple ด้วย แต่ดูเหมือนเขาไม่อยากยุ่งกับงานบริหารด้านอื่นเลย เขาสนใจแค่เรื่องออกแบบ และคนที่เป็น CEO จะต้องเป็นคนทำให้เขาได้ในสิ่งที่เขาต้องการด้วย และดูเหมือนทิม คุกจทำหน้าทีได้อย่างดีเยี่ยม
เคยมีคนคิดว่าจอนนี่ ไอฟฟ์จะลาออกจาก Apple หรือไม่ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ยากมากๆ ถ้าจะเกิดขึ้นน่าจะเป็นตอนที่สตีฟ จ๊อบส์ ลงจาก CEO และเสียชีวิตไปในเวลาต่อมา ช่วงนั้นน่าจะมีการแย่งชิงอำนาจของลูกรักลูกชังกันตอนหัวเรือไม่อยู่ แต่กลับเป็นว่าจอนนี่ ไอฟฟ์ได้อำนาจมากขึ้นแทบจะเรียกว่าในบริษัท Apple ทีมงานของเขาดูจะเป็นคนคุมบริษัททั้งหมดอยู่แล้ว โอกาสที่เขาจะไปจาก Apple เหมือนจะผ่านไปแล้ว อีกอย่าง ทิม คุก ก็อยู่ข้างเขาเต็มตัว โอกาสที่จะจาก Apple ไปน่าจะมีน้อยมากๆ นอกเสียจากจะวางมือเอง
จอนนี่ ไอฟฟ์ถูกมองว่าเป็นไอคอนคนใหม่แทนสตีฟ จ๊อบส์ในบริษัท Apple ไปแล้ว ทุกคนดูจะคาดหวังผลงานการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ จากทีมของเขามากกว่าทุกทีมใน Apple และเราก็เชียร์อยู่เช่นกันให้เขาทำมันสำเร็จ