MyPermissions ตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของเราถูกใครดึงไปใช้งานบ้าง

MyPermissions เว็บไซต์ช่วยตรวจสอบบริการต่างๆดึงข้อมูลอะไรที่เป็นส่วนตัวของเราไปใช้บ้าง

หลายๆครั้งที่เราสมัครเข้าใช้งานเว็บไซต์ เกมส์ หรือบริการออนไลน์ตัวใหม่ๆ ด้วยบัญชีของ Facebook หรือ Twitter ตามแต่เจ้าของบริการจะเปิดให้เราเข้าใช้งานโดยการดึงข้อมูลของเราจาก social network ของเราเองมาใช้ ทำให้คนใช้งานก็สะดวก คนให้บริการก็ได้สมาชิกมากขึ้นจากความสะดวกนั้น จนหลายๆครั้งเราคนใช้งานไม่ได้ตรวจสอบดูเลยว่าในแต่ละครั้งบริการเหล่านั้นขอข้อมูลส่วนตัวอะไรของเราบ้าง และบางอันที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ก็ควรหยุดให้เขาเข้ามาดึงข้อมูลของเราไปใช้ (ข้อมูลส่วนตัวของฉันนะ)

ความเป็นส่วนตัว(permission) ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือผู้ให้บริการจะแนะนำบริการต่างๆได้ตรงตามความต้องการของเราเพราะเราให้ข้อมูลที่ละเอียด ส่วนข้อเสียก็คือบางเรื่องที่เป็นเรื่องส่วนตัวมากๆเราก็ไม่อยากให้ใครได้ข้อมูลเหล่านั้นไป มันอาจจะหมายถึงความปลอดภัยทั้งทรัพย์สินและร่างกายของเรา ต้องระวังในการเปิดเผย ควรให้ข้อมูลเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

ถ้าเป็นคนที่ชอบท่องโลกอินเตอร์เน็ต ลองเล่นโน่นนี้นั้นไปเรื่อย ยากที่จะตามไปดูว่าให้ข้อมูลส่วนตัวของเราที่อยู่ใน social network ให้ใครไปบ้างและเขาได้ข้อมูลอะไรไปบ้าง ก็เป็นเรื่องน่ากังวลอยู่ไม่น้อย แล้วก็มาเจอเว็บไซต์นี้ครับ ตัวช่วยตรวจสอบ permission ให้เรา

เว็บไซต์ MyPermissions จะช่วยตรวจสอบให้เราว่าข้อมูลของเราใน social network เช่น Facebook, Twitter, Google+,Instagram ฯลฯ ถูกนำไปใช้ที่ไหนบ้าง และขอใช้ข้อมูลอะไรบ้าง เช่น location, contact list, photo เป็นต้น เยี่ยมมากๆ

ตัวอย่าง เข้าไปดูรายละเอียดการอนุญาติให้เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว สามารถเพิกถอนการเข้าถึงได้

เมื่อตรวจดูแล้วบ้างอันที่เราไม่ได้ใช้งานแล้วก็ควรหยุดการให้เข้าถึงข้อมูลของเรา ซึ่งเราสามารถเข้าไปแก้ไขและเพิกถอนสิทธิ์(revoke)การเข้าถึงข้อมูลของแต่ละเว็บไซต์หรือบริการต่างๆที่ดึงไปใช้งานได้ ถ้าเราติดตั้งเป็น extension ของ MyPermission ใน browser ของเราก็จะมีการแจ้งเตือนทุกครั้งที่มีการขอใช้ข้อมูลส่วนตัวของเรา ถือว่ามีประโยชน์มากๆครับ

เข้าไปใช้งาน MyPermissions ได้ที่เว็บไซต์ https://mypermissions.com

ชุด kit วาดภาพสีน้ำ วาดเมื่อไหร่ ที่ไหน ก็ได้ตามใจฉัน

ช่วงเดือนที่ผ่านมาเราสนุกกับการวาดรูปใน iPad ด้วยแอพพลิเคชั่น Paper by 53 และสไตลัส Pencil มาก มันทำให้วาดสนุกขึ้นมาก แต่อย่างไรก็ตามการวาดในจออิเล็กทรอนิกส์ก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่ได้อารมณ์ของการวาดจริงๆ ความรู้สึกวาด เขียนลงกระดาษตอนจับปากกา ดินสอ หรือพู่กันตอนลงสี ยังสู้ของจริงไม่ได้อย่างที่ใจอยากได้

แต่เพราะ iPad มันตอบโจทย์อย่างหนึ่งนั้นคือมันพกไปไหนมาได้ สะดวก เราหยิบขึ้นมาวาดได้ทันทีที่อยากวาด ซึ่งมันก็ทำหน้าที่ตรงนั้นได้อย่างดี แต่จะให้พกกระดาษ ชุดสีน้ำ น้ำ พู่กัน ไปไหนมาไหนก็ดูไม่สะดวกสักเท่าไหร่นัก

จนกระทั้ง…ด้วยความบังเอิญ วันหนึ่งอยากได้หมึกให้ปากกา ปากกาหมึกซึม Parker เพราะตัวที่ใช้อยู่มันมีกลิ่นที่ไม่ชอบเอาเสียเลย และโดนน้ำหรือความชื่นก็เลอะ ก็เข้าไปค้นใน Google ตามปกติ ทำให้ไปเจอบล็อกนี้ https://www.bbblogr.com ซึ่งเขียนรีวิวพวกปากกา สมุดสเก็ต หมึก ไว้ดีมากๆ ได้ความรู้เยอะมาก ต้องขอบคุณเจ้าของบล็อกจากใจจริง และในนั้นก็ทำให้รู้ว่ากลุ่ม Sketcher จะออกไปวาดรูปตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งเขาก็จะมีชุด kit แบบพกพาสำหรับออกไปวาดรูปที่ไหนก็ได้ ไปเที่ยว ไปกินกาแฟ กินข้าว เดินเล่น วาดที่ไหนก็ได้ตามใจ มันดูสะดวกมากๆ (มีสิ่งมหัศจรรย์แบบนี้อยู่บนโลกด้วย) เป็นที่มาของบล็อกนี้ที่อยากเขียนถึง “ชุด kit วาดสีน้ำ” เอาพอสังเขปตามที่ได้สัมผัส ได้ใช้งานครับ

อุปกรณ์ชุดวาดภาพสีน้ำ

  1. สมุดสเก็ตภาพ (Canson 120gsm, 110 บาท)
  2. ปากกาหมึกซึมแบบกันน้ำ (Unipin, 35 บาท)
  3. ชุดสีน้ำ (Koi Water Colors Pocket Field Sketch Box 18 colors, 425 บาท)
สมุด ปากกา สี มีอุปกรณืเท่านี้ก็พร้อมลุยออกไปวาดรูปแล้ว

มีแค่ 3 ชิ้นนี้ก็พร้อมออกไปวาดรูปนอกบ้านแล้วครับ ซึ่งที่ผ่านมาเกือบเดือนก็รู้สึกชอบและพอใจกับชุด kit นี้มาก เอาติดกระเป๋าไปไหนมาไหนตลอด นอกจากนี้ใครที่คิดว่ามันราคาแพงไปหน่อย ก็มี Sketcher หลายๆคนก็มีการทำชุด kit ด้วยตัวเองด้วยนะ โดยใช้พวกฝาขวดมาทำเป็นหลุมสี เอาฝาติดกับกล่องพลาสติกเล็กๆก็เท่และก็ใช้ได้จริงอีกด้วย https://www.sketchlandyard.com/1660/

ชุดวาดสีน้ำ Koi Water Colors Pocket Field Sketch Box

เปิดกล่องดูข้างในของกล่องชุดสีน้ำก้อน

ข้างในจะมีสีน้ำแบบเป็นก้อน และตัวพู่กันแบบมีแท็งน้ำอยู่ตรงด้ามจับ มีถาดสี (ใช้ไปได้สักพักแล้ว ของใหม่ไม่เละนะ) สิ่งที่สุดยอดน่าจะเป็นตัวสีน้ำที่เป็นก้อนแห้ง และพู่กันที่มีแท็งเก็บน้ำไว้ได้ ทำให้คิดอยากวาดเมื่อไหร่ก็ได้ มีน้ำให้ใช้ตลอดตราบใดที่ไม่ลืมเติมน้ำเข้าไปนะ

สีก้อนแบบ 18 สี

สีน้ำของ Sakura Koi จะมีให้เลือกแบบ 12, 18, 24 สี ราคาก็แตกต่างกัน ของผมเป็นกล่อง 18 สี ซื้อมาจากร้าน siam-market ที่ central world ครับ

พู่กันมีแท็งน้ำ

พู่กันที่มีแท็งน้ำ แท็งน้ำมีจุกปิดแน่น ตอนจะใช้ก็เปิดจุกออกแล้วหมุนหัวพู่กันเข้าไป เมื่อเราบีบเบาๆน้ำที่อยู่ในแท็งก็จะไหลออกมาที่ปลายพู่กัน แล้วเราก็ป้ายลงสีน้ำก้อน แล้วก็สนุกกับการระบายสีลงรูปวาดของเราได้เลยครับ สะดวกจริงๆนะเออ

อีกอย่างที่ทำให้ผมลุกขึ้นวาดรูป มองหาอุปกรณ์อะไรแบบนี้ ส่วนหนึ่งเพราะได้เห็นสมาชิกและกิจกรรมของกลุ่ม BANGKOK SKETCHERS GROUP ที่เอารูปสวยๆ มาแชร์ให้ดู ทำให้เกิดแรงบันดาลใจอยากออกไปวาดรูปบ้าง

สรุปว่าตอนนี้ก็สนุกกับการได้วาดแบบนี้มากครับ สวยไม่สวยอีกเรื่อง สนุกไว้ก่อน เข้าไปดูตัวอย่างรูปที่วาดได้ที่นี้ครับ https://sarapuk.tumblr.com

เล่าถึง Pencil by 53 ปากกาวาดรูปใน iPad

Pencil by 53 เป็น stylus สำหรับใช้งานกับ iPad ออกแบบมาให้ใช้งานกับแอพพลิเคชั่นที่ชื่อ Paper by 53 แต่ก็ใช้กับแอพพลิเคชั่นอื่นๆได้เช่นกันแต่จะใช้งานบางฟีเจอร์ไม่ได้ และต้องเป็นรุ่น iPads with a Retina display และ iPad mini ขึ้นมา เหตุที่เลือกซื้อ stylus ตัวนี้มาเพราะชอบที่จะวาดรูปเล่นใน iPad ด้วยแอพพลิเคชั่น Paper by 53 มากกว่าตัวอื่นๆ การที่ 53 ออกตัว stylus ที่เพิ่มความสามารถ ความสะดวกและลูกเล่นให้แอพพลิเคชั่นของตัวเองได้มากขึ้น จึงไม่ลังเลที่จะซื้อตัวนี้ อีกทั้งการออกแบบนั้นดูดีมากๆ ได้ลองวาดรูปด้วย Pencil มาได้สักพักหนึ่งแล้ว จึงนำมาแนะนำและเขียนถึงสักเล็กน้อย ผมชอบมันมากครับ

PENCIL by FiftyThree

Pencil by 53 มีให้เลือกสองแบบคือ ด้ามเป็นไม้ Wallnut มีแม่เหล็กที่ด้ามทำให้วางติดกับเคสของ iPad ได้ กับอีกแบบที่ด้ามเป็นอลูมิเนียม ราคาก็ต่างกันเล็กน้อย 59.95 USD(1,936 บาท)สำหรับด้ามไม้(Wallnut) และ 49.95 USD(1,613 บาท)สำหรับด้ามอลูมิเนียม(Graphite)

Pencil model

ตอนสั่งซื้อยังเป็นแบบพรีออเดอร์ต้องรอเกือบเดือนกว่าๆ ล่าสุดตอนนี้มีของพร้อมส่งแล้ว แต่ยังจำกัดการสั่งซื้อเฉพาะอเมริกาและแคนนาดาเท่านั้น ตอนที่สั่งฝากให้เพื่อนที่อเมริกาหิ้วเข้ามาให้ครับ โดยเลือกตัวที่ด้ามเป็นไม้

แกะกล่อง Pencil by 53

Packaging ของ Pencil by 53

Pencil ถูกบรรจุมาในกล่องกระดาษทรงกระบอกสวยงาม กระทัดรัด เปิดออกก็จะเจอ stylus เสียบอยู่ข้างในพร้อมกับ คู่มือและหัวสำรองของปากกาหัวท้ายอย่างละอัน

อุปกรณ์ที่มาให้มาในกล่อง Pencil

Pencil เวลาใช้งานจะเชื่อมต่อกับ iPad ผ่านทาง Bluetooth การเชื่อมต่อก็ง่ายมากแค่จิ้มลงปุ่ม Pencil ใน Paper app ไม่ต้องเข้าไป setting ให้วุ่นวาย (ต้องเปิด Bluetooth ใน iPad ก่อนนะ) และต้องมีการชาร์ตไฟให้ Pencil ด้วย ซึ่งสามารถใช้งานได้ราว 1 เดือนต่อการชาร์ตหนึ่งครั้ง ถึงแบตเตอรี่หมดก็ยังใช้งานเป็น stylus เขียนแบบธรรมดาได้ แต่จะใช้งานฟีเจอร์พิเศษไม่ได้เท่านั้นเอง

วิดีโอแนะนำการเชื่อมต่อ Pencil กับ iPad

ถอดส่วนหัวออกมาเพื่อนำไปชาร์ต
เสียบชาร์ตไฟกับช่องเสียบ usb

เมื่อไฟเต็มไฟ LED จะเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียว ดูวิดีโอแนะนำวิธีชาร์ตได้ที่ https://vimeo.com/79440652

เชื่อมต่อกับ iPad

การใช้งาน นอกจากจะเป็น stylus แบบธรรมดาใช้เขียน ใช้วาดแทนมือได้แล้ว เมื่อเชื่อมต่อกับ iPad และใช้แอพพลิเคชั่น Paper by 53 แล้วมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นมาดังนี้

ฟีเจอร์เด่นของ Pencil

1. Palm Rejection คือ สามารถว่ามือลงบนจอ iPad ได้เวลาเขียน โดยแอพพลิเคชั่นจะรู้ได้ว่าส่วนไหนเป็น Pencil ส่วนไหนเป็นมือ ทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนเขียนลงกระดาษจริงๆ อันนี้ต้องบอกว่ามีประโยชน์มากเพราะเวลาเขียนหรือวาดเลี่ยงยากที่มือเราจะไม่โดนจอเลย ทำให้เขียนได้ถนัดมากขึ้น

Palm rejection

2. Erase ด้านท้ายของ Pencil จะมียางที่เป็นวัสดุเป็นยางเหมือนกับด้านหัว มันคือยางลบ(เหมือนกับดินสอจริงๆเลย) ที่ตรงท้ายของด้ามจะเป็นยางลบเมื่อหมุนกลับด้านมาก็ลบได้เลย ความจริงที่แอพก็มียางลบให้แต่เมื่อมียางลบตรงท้ายมาให้ ทำให้สะดวกขึ้น ไม่ต้องสลับไม่มา การวาด การเขียนก็ไม่สะดุด ราบลื่นต่อเนื่อง

Erase

3. Blend นอกจากตรงท้ายมันจะเป็นยางลบแล้ว เมื่อเราถือ Pencil ไว้แล้วเอานิ้วลงไปถูที่จอ จะเป็นเหมือนเราเอานิ้วลงไปถูสีน้ำที่อยู่บนกระดาษจริงๆเลย เหมือนกับการเกลี่ยสี (Blend) ตรงนี้สามารถตั้งค่าให้รูปแบบการใช้งานแบบนี้เป็นอย่างอื่นได้นะ เลือกได้ 3 แบบคือ Blend, Draw และ Nothing

Blend

วิดีโอแนะนำ Pencil by 53

ความรู้สึกหลังใช้งาน

หัวของ Pencil เป็นยางอ่อนๆเวลาวาดเขียนให้ความรู้สึกเหมือนใช้พู่กันเลยทีเดียว ซึ่งมันดีมากถ้าใช้หัว brush แบบพู่กัน แต่จะคุมยากนิดหนึ่งเมื่อเลือก brush เป็นปากกา หรืออาจเพราะเราใช้ iPad mini จอธรรมดา ทำให้การวาดไม่ค่อยเต็มประสิทธิภาพเท่าไหร่ ถ้าเป็น iPad ตัวใหญ่น่าจะวาดสนุกกว่านี้แน่นอน อีกอย่างตัว Blend บางทีการใช้งาน Draw ด้วย Pencil มันก็โผล่มา จึงเลือกปิดไป แล้วเมื่อรูปไหนจะใช้ค่อยเปิดใช้งานซึ่งก็ให้ภาพที่น่าประทับใจ กินแบตน้อยตั้งแต่ได้มาเพิ่งชาร์ตไปสองครั้ง โดยรวมแล้วชอบมากครับ สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงคือฟีเจอร์ Blend ที่บางครั้งแยกไม่ได้ว่าเป็นนิ้วหรือปากกา รออัพเดตแล้วกัน

ผลงานที่ทดลองวาดด้วย Pencil 

FiftyThree blog

สิ่งหนึ่งที่ภูมิใจเล็กๆคือผลงานชิ้นหนึ่งของเราได้ลงใน tumblr ของ FiftyThree ด้วย ตัวลอยได้ไปหลายวันเลย เข้าไปกดไลค์ได้ที่นี้ครับ https://madewithpaper.fiftythree.com/post/79458033978/bright-light-little-lamp-made

เข้าไปดูผลงานอื่นๆได้ที่ https://sarapuk.tumblr.com

โคมเหงา

 

ทดสอบการใช้ Blend

 

ซูชิ

 

เรือใบในม่านหมอก

 

กล้องแพง

Tinkercad โปรแกรมออกแบบงาน 3D อย่างง่าย ใช้งานออนไลน์ผ่านหน้าเว็บ

Tinkercad

Tinkercad เป็นโปรแกรมออกแบบงานทางด้าน 3 มิติ ใช้งานผ่านทางเว็บบราวเซอร์ เป็นของบริษัท Autodesk บริษัทที่ทำโปรแกรม 3 มิติที่ดังๆอย่าง 3ds Max, Maya, AutoCAD นั้นแหละ

Tinkercad เป็นโปรแกรมออนไลน์ที่ใช้ได้ฟรี ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย รวดเร็ว โปรแกรมจะมีรูปทรง 3 มิติพื้นฐานบางส่วนมาให้ เราสามารถสร้างรูปร่างที่ซับซ้อนจากการประกอบรูปทรงพื้นฐานเหล่านี้ได้ จากรูปทรงพื้นฐานที่ธรรมดาๆ บวกกับความคิดสร้างสรรค์ก็สามารถประกอบรูปร่างให้มันเป็นรูปทรง 3 มิติที่น่าทึ่งได้เช่นกัน ลักษณะเหมือนต่อเลโก้ นอกจากนี้โปรแกรมยังมีความยืดหยุ่นสูง โดยอนุญาติให้ผู้ใช้สามารถสร้างรูปทรงจากโค้ด JavaScript ได้อีกด้วย(แนวคิดเดียวกับ Minecraft) ตัวอย่างเจ๋งๆที่มีคนทำไว้ เช่น Godzillaรถแข่ง, เรือ+ปราสาท ลองเข้าไปดูตัวอย่างอื่นๆได้ที่ Discover

นอกจากนี้ ตัวอัพเดตล่าสุดของ Tinkercad เราสามารถ Export โครงสร้าง 3 มิติเข้าไปในเกม Minecraft ได้อีกด้วย ต้องถูกใจขาเกมแน่นอน เท่าที่เข้าไปเปิดดูใน Discover ที่แชร์ในเว็บไซต์มีหลายคนสร้างปราสาทเพื่อนำเข้า Minecraft เยอะพอสมควรเลย เรียกได้ว่าเป็นส่วนเสริมเกม Minecraft อีกตัวหนึ่งก็คงได้

Download for Minecraft

ดูตัวอย่างการ Export ปราสาทที่สร้างใน Tinkercad แล้วนำเข้าไปในเกม Minecraft ได้ในคลิป

https://www.youtube.com/watch?v=LnT1ZGQ0Abo

เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมออนไลน์ที่ใช้ได้ฟรี คนที่อยากลองสร้างผลงาน 3 มิติไม่ควรพลาด จะทำแบบง่ายๆไปจนถึงสุดล้ำก็น่าลองทั้งนั้น

เข้าไปเล่น Tinkercad ได้ที่ https://tinkercad.com

via: Polygon

Nokia 105 ราคาถูก เปิดเครื่องรอรับสายได้นานถึง 35 วัน

Nokia 105

Nokia 105 เป็นมือถือที่มีจุดเด่นอยู่หลายอย่างคือ มือถือราคาถูก และมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ประหยัดพลังงาน รองรับการสนทนาได้นานถึง 12.5 ชั่วโมง เปิดเครื่องรอรับสายได้นานถึง 35 วัน ตรงปุ่มกดกันฝุ่นและกันน้ำ มีไฟฉายด้วยนะ

กำลังหามือถือที่เน้นแค่โทรออก-รับสายให้แม่ เน้นใช้งานง่าย ปุ่มกดชัดเจน แบตเตอรี่ต้องใช้ได้นานเพราะแม่ชอบลืมชาร์ตมือถือ ลองค้นดูพบว่ามือถือที่น่าสนใจก็มี Samsung Hero และ Nokia 105 สุดท้ายเลือก Nokia 105 ครับ เพราะราคาถูกกว่า และเปิดเครื่องรอรับสายได้นานกว่า และตรงปุ่มกดดูสวยกว่าและตัวเลขชัดกว่าน่าจะกดง่ายกว่าด้วย

ไปซื้อมาจากบุญครองมาครับ ในราคา 560 บาท (11 สิงหาคม 2556)

แกะกล่อง Nokia 105

กล่อง Nokia 105

กล่องเล็กๆ มีมาตรฐานรองรับการรีไซเคิลได้ 100%

กล่อง Nokia 105

กล่องด้านนี้ระบุจุดเด่น คุยต่อเนื่องนาน 12.5 ชั่วโมง เปิดเครื่องรอรับสายนาน 35 วัน

อุปกรณ์ภายในกล่อง Nokia 105

อุปกรณ์ภายในกล่อง Nokia 105 ประกอบไปด้วย ตัวเครื่อง แบตเตอรี่(BL-5CB) ที่ชาร์ตแบตเตอรี่ คู่มือ และใบประกัน

ตัวเครื่อง Nokia 105

ขนาดและน้ำหนัก
ความยาว: 107 มม.
ความกว้าง: 44.8 มม.
ความหนา: 14.3 มม.
น้ำหนัก: 70 กรัม
ขนาดหน้าจอ: 1.4 นิ้ว, จอสี RGB Stripe

ตัวเครื่องด้านหลัง

ใส่ซิมได้ 1 ซิม รองรับคลื่น 2G GSM 900/1800 MHz

รองรับวิทยุ FM Radio

แบตเตอรี่ BL-5CB ความจุ 800 mAh

แบตเตอรี่ BL-5CB ความจุ 800 mAh

Nokia 105

ด้านบนมีไฟฉายด้วยนะ กดตรงปุ่มขึ้นสองครั้งเพื่อเปิดและปิดไฟฉายได้เลย

Nokia 105

ปุ่มกดกันน้ำกันฝุ่น และยังมีไฟใต้แป้นพิมพ์ ช่วยให้การมองในมืดได้ง่ายขึ้น

สรุปว่า Nokia 105 เป็นมือราคาถูก ที่เน้นการใช้งานโทรเข้า-โทรออก ที่รองรับการเปิดเครื่องรอรับสายได้นานเป็นเดือน ที่เรียกได้ว่าคุ้มค่ามากๆเลยครับ

LastPass เพราะเราขี้เกียจจำ User และ Password

LastPass

อยู่ๆก็อยากพูดถึง LastPass ขึ้นมาครับ น่าจะเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่ในคอมของเราจะขาดไม่ได้เอาเสียเลย

LastPass เป็นอีกหนึ่งบริการช่วยจำรหัสล็อกอินเว็บไซต์ต่างๆของเรา รวมถึงการช่วยสร้างรหัสที่มีความปลอดภัยสูง ใช้งานมาได้พักหนึ่งแล้วและตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ ไปเจอบริการตัวนี้ครั้งแรกจาก TIME’s 50 Best Websites 2012 แล้วก็ทดลองใช้ตั้งแต่ตอนนั้น ลองค้นดูพบว่ามีบริการในลักษณะนี้อยู่สองสามเจ้าในตลาดที่แข่งขันกันอยู่ ได้แก่ LastPass, 1Password, mSecure แต่มีแค่ LastPass ที่มีเวอร์ชั่นฟรี

ความสามารถหลักๆของ LastPass ที่ใช้อยู่คือ ให้ช่วยจำรหัส จำข้อมูลส่วนตัว(ชื่อ,ที่อยู่) ตอนที่จะเราจะล็อกอินเข้าใช้งานเว็บไซต์ หรือต้องกรอกข้อมูลรายละเอียดต่างๆของเราเอง LastPass ช่วยอำนวยความสะดวกให้ได้อย่างดี

ตอนนี้มีเว็บไซต์ต่างๆประมาณ 200 กว่าเว็บไซต์ที่เราเป็นสมาชิก มีรหัสเข้าใช้งานอยู่ประมาณ 10 แบบที่แตกต่างกัน แต่ละชุดค่อนข้างยาว ตัวที่ยาวสุดคือมีอักขระเกือบ 30 ตัว แต่ก่อนเว็บไซต์ที่นานๆครั้งจะได้เข้าใช้งานจะซุ่มรหัสใน 10 แบบที่เรามีไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอ หรือแม้แต่จำได้ถ้าจะให้พิมพ์รหัสยาวๆเองทุกครั้งก็ไม่สะดวกเอามากๆเลยล่ะ ส่วนใน Google Chrome ก็มีระบบช่วยจำให้เหมือนกัน แต่การบริหารจัดการนั้นไม่สะดวกเอาซะเลย ใช้ LastPass ลงตัวกว่ามาก จะจัดหมวดหมู่ แก้ไข คัดลอก ทำได้ง่ายกว่ามาก ตอนนี้เลยจำแค่รหัสล็อกอินเข้า LastPass เพียงตัวเดียวที่เหลือก็ให้โปรแกรมช่วยจำ ช่วยจัดการให้

แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้างเหมือนกัน นั้นคือตัวแอพ LastPass ที่ใช้งานในมือถือหรือแท็ปเล็ตต้องจ่ายตังค์แบบรายปีซึ่งถือว่าหลายตังค์เหมือนกัน(24$/Y) ทำให้อาจจะใช้งานได้ไม่เต็มที่ แต่เราใช้เฉพาะในคอมก็ยังสะดวกกว่าไม่ได้ใช้อยู่ดี อีกข้อหนึ่งที่น่าห่วงเหมือนกันคือความปลอดภัยถ้าเราทำรหัสของ LastPass แค่อันเดียวหลุดไป คนที่ได้ไปก็อาจจะได้รหัสอื่นๆไปด้วย อันนี้ต้องระวังมากๆด้วย ซึ่งเราเองก็ต้องชั่งใจอยู่นานเหมือนกันว่าระบบของเขาปลอดภัยแค่ไหน ซึ่งเท่าที่ศึกษาข้อมูลจากหลายๆที่ก่อนตัดสินใจใช้ ก็พอตอบได้ว่าไว้ใจได้ แต่ก็มีรหัสบางตัวที่สำคัญมากๆ เช่นเกี่ยวกับการเงิน ก็จะไม่เอาเข้าไปเก็บไว้ใน LastPass เลย

สรุปว่า LastPass ช่วยให้การท่องโลกอินเทอร์เน็ตของเราสะดวกขึ้นมากๆ ***แนะนำให้ใช้กับเครื่องคอมของตัวเองเท่านั้นนะครับ

LastPass: https://lastpass.com/

วิธีติดตั้ง Folcon Pro

Folcon Pro เป็น Twitter Client อีกตัวหนึ่งสำหรับ Android ที่นักพัฒนาทำออกมาได้ดีและได้รับความนิยมอย่างมาก แต่กลับเกิดปัญหาคนใช้เยอะเกินไป(ทั้งที่ยอมจ่ายเงินและโหลดเถื่อน) ทำให้ token ที่ Twitter ตั้งไว้ให้นักพัฒนา 100,000 token ต่อหนึ่ง application เลยเต็ม ทำให้เกิดปัญหาเข้าใช้งานไม่ได้ ทางผู้พัฒนาก็มีการแก้ปัญหาหลายครั้ง ทั้งการให้ลงทะเบียนใหม่ แต่จนแล้วจนรอดก็เต็มทุกครั้ง อีกส่วนหนึ่งต้องเรียกว่าเป็นการกันท่าของ Twitter เองที่ไม่อยากให้มีการพัฒนา Client มาแข่งกับของตัวเอง ล่าสุดผู้พัฒนา Folcon Pro เลยปล่อยให้โหลดฟรีเสียเลย แล้วให้คนใช้ทั่วไปเข้าไปขอ API key เอง หรือ อธิบายง่ายๆคือใครอยากใช้ก็เข้าไปลงทะเบียน application อะไรก็ได้สักตัว แล้วเอา API key ที่เชื่อมต่อกับ Twitter มาใส่ให้ Folcon Pro ปัญหาเรื่อง API token จำกัดจึงหมดไป เรียกได้ว่าของใครของมัน ไม่ใช่มาจากผู้พัฒนาคนเดียวอีกแล้ว เป็นการดัดหลัง Twitter อีกทางหนึ่งเหมือนกัน อาจต้องรอดูว่า Twitter จะแก้ไขปัญหานี้ต่อยังไง หรือจะปล่อยเลยตามเลย

มาถึงวิธีติดตั้งกันครับ เรียกได้ว่าทำได้เท่ และ Geek ดีทีเดียว มีสูตรลับด้วยนะ ขั้นแรกเราต้องเตรียม API Key ก่อน แล้วค่อยเอาไปลงใน Folcon Pro

ขั้นตอนลงทะเบียนรับ API Key

  1. เข้าไปที่ https://dev.twitter.com เพื่อจะขอ API key ล็อกอิน user twitter เข้าไป
  2. กดตรงรูปของเราที่มุมขวา เข้าไปที่ “My applications”

    My application

  3. คลิกเลือก “Create a new application”
  4. ใส่รายละเอียดเข้าไปให้ครบ ที่น่าสนุกคือช่องใส่ชื่อ(Name) ตอนเราทวีตมันแสดง via: ชื่อนี้ครับ เช่น เราทวีตจะมีบอกว่า via: twitter for Mac, twitter for Android, Echofon แล้วแต่เราเลยครับ อยากได้ชื่ออะไรก็ใส่เข้าไปได้เลย ส่วนเว็บไชต์ที่บังคับให้ใส่ ใส่อะไรไปก็ได้ ต้องมี https:// นำหน้าด้วยนะ
  5. คลิกเลือก Yes,I agree ในส่วนของ “Developer Rules Of The Road” ใครอยากอ่านรายละเอียดข้อกำหนดก่อนก็ได้นะครับ
  6. เราสร้าง Application ตัวหนึ่งขึ้นมาแล้ว เข้าไปที่แท็บเมนู “Settings” ด้านบน เปลี่ยน Application Type ให้เป็น “Read, Write and Access direct messages” จากนั้นเลือนลงไปคลิก Update

    Application type

  7. กลับไปที่เท็บเมนู “Details” บันทึก “Consumer key” กับ “Consumer secret” ไว้ ผมเอาลงไว้ที่ Google Keep ตอน copy ไปลงแอฟจะได้ทำได้ง่ายขึ้น

    Consumer key

เราได้ API key มาแล้ว ต่อไปก็วิธีติดตั้ง Folcon Pro ลงมือถือหรือแท็บแล็ต

ขั้นตอนการติดตั้ง Folcon Pro

  1. เข้าไปดาวน์โหลด Falcon Pro ได้ที่ getfalcon.pro ติดตั้งลงเครื่องให้เรียบร้อย (ต้องปรับ setting ของเครื่องให้อนุญาติติดตั้ง apk นอก store ได้ด้วยนะ)
  2. เปิดเข้าไปที่หน้า login
  3. กดที่มุมทั้ง 4 ของหน้าจอให้มี 4 สีโผล่ขึ้นมา (ตามรูป)

    Folcon Pro code

  4. กดตรงมุมสีส้มอีกครั้งให้มันหายไป (ดูตามรูป)

    Folcon Pro code 2

  5. จับเครื่องเขย่าครับ เขย่าครับๆ ไม่ได้เขียนผิด สักพักจะมีข้อความขึ้นมาว่า “Custom login unlocked!” และมีปุ่ม Custom login โผล่ขึ้นมา

    Folcon Pro code 2

  6. กดเข้าไป “Custom login” แล้วใส่ API Key ที่ได้จากขั้นตอนลงทะเบียนเพื่อรับ API Key ลงไป เพื่อความสะดวกผม Sync Google Keep เข้ามือถือให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยเข้าไป copy มาวาง ถ้ากดเองโอกาสผิดสูง

    AKI Key

  7. กด save แล้วก็เรียบร้อยแล้วครับ 

หน้าตาของ Folcon Pro ตามรูปครับ ในแต่ละทวีตถ้ามีรูปหรือวิดีโอที่แนบมาด้วยจะแสดงผลให้ดูด้วยเลย

Folcon Pro

ข้อมูลจาก: https://www.androidpolice.com

เล่าเรื่องการใช้ iconia B1 แท็บแล็ตราคาถูก

iconia B1

ไม่อยากเรียกว่ารีวิว เพราะมันไม่ถึงขนาดนั้น เอาเป็นว่าเล่าให้ฟังหลังจากใช้มาได้ราวสองสัปดาห์ก็แล้วกัน ราคาของ iconia B1 ประมาณ 3,750 บาท แต่ตอนเราซื้อได้คูปองลดมาอีกพันบาทตอนตัดสินใจซื้อเลยง่ายขึ้น ซื้อมาแล้วใช้ทำอะไรบ้างนั้น ส่วนใหญ่ก็เหมือนกับสมาร์ทโฟน เล่น facebook, twitter, ดูเว็บ ที่ต่างจากมือถือคือใช้อ่านข่าว อ่านการ์ตูน อ่านหนังสือ

แต่ว่าตัว iconia B1 ไม่มี 3G นะครับใช้เน็ตผ่าน wifi ได้เท่านั้น แต่โดยหลักแล้วเราก็ใช้ตอนที่ยู่ที่บ้านกับที่ทำงานเป็นส่วนใหญ่ อาจมีบ้างที่ไปเล่นที่สวนสาธารณะ ซึ่งที่เหล่านี้มี wifi ให้ใช้อยู่แล้ว มีบ้างที่ต้องเปิด wifi hotspot จากมือถืออีกทีหนึ่ง ถือว่าไม่ค่อยเดือดร้อนเรื่องออนไลน์เท่าไหร่นัก การใช้งานโดยทั่วไปถือว่าราบลื่นดี

แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง เวลาใช้ไปสักพักอาจจะต้องเคลียร์แรมทิ้งบ้างโดยเฉพาะถ้าเปิดหลายโปรแกรมพร้อมกัน อาจทำให้แรมเหลือไม่พอใช้เครื่องจะทำงานไม่ลื่นไหลเท่าไหร่นัก แม้เครื่องจะมีแรมมาให้ 512 mb แต่ถูกใช้ไปกับ system หลักกับแอพที่รันอยู่หลังบ้านเกือบหมดเหลือให้ใช้แค่ราวร้อยกว่าเม็กเท่านั้น อันนี้ขึ้นอยู่กับแอพที่ติดตั้งลงในเครื่องด้วยนะ

ขอแนะนำแอพที่ใช้บ่อยในเครื่อง iconia B1 ของผม

  1. Pantip อ่านกระทู้ในพันทิพ
  2. Perfect View อ่านการ์ตูน หาโหลดมาลงเองนะ
  3. Clean Master เคลียร์แรม(Task)
  4. feedly อ่าน rss
  5. Flipboard อ่านข่าว
  6. Google play music ฟังเพลง

โดยรวมถือว่าคุ้มค่าสมราคาของมัน ยังไม่ได้ลองเล่นเกม 3D แบบหนักๆไม่รู้ว่าจะรับไหวหรือป่าว แต่ที่อยากบอกคือลองเอาไปเล่น ingress แล้ว ใช้ได้นะแต่แบตหมดเร็วไปหน่อยถ้าเปิดทั้ง wifi และ gps ตอนเล่นเกมช่วงแรกๆจะลื่นไหลดี แต่พอเครื่องร้อนแล้วมีกระตุ๊กนิดหน่อย แต่ก็เล่นได้ล่ะ

สเปคของ iconia B1

  • ขนาดตัวเครื่อง: 197.4 x 128.5 x 11.3 mm (7.77 x 5.06 x 0.44 in)
  • น้ำหนัก: 320 g (11.29 oz)
  • หน้าจอ: TFT capacitive
  • 600 x 1024 pixels, 7.0 inches (~170 ppi pixel density)
  • CPU Dual-core 1.2 GHz
  • Chipset MTK 8317T
  • OS Android OS, v4.1 (Jelly Bean)
  • กล้องหน้า VGA, 640×480 pixels
  • ความจุภายในเครื่อง: 8/16 GB,แรม: 512 MB
  • รองรับเพิ่มความจุด้วย micro-SD สูงสุด 32 GB
  • WLAN Wi-Fi 802.11 b/g/n
  • Bluetooth Yes, v4.0
  • Sensors Accelerometer
  • มี GPS
  • แบตเตอรี่  Li-Po 2710 mAh

เกม Plants vs. Zombies Adventures ใน Facebook

Plants vs. Zombies

ช่วงนี้เล่นเกมนี้อยู่ครับ Plants vs. Zombies Adventures for Facebook ก่อนหน้านี้ได้เล่นใน iOS มาก่อนสนุกดีครับ ในเวอร์ชั่นใน Facebook นั้นแตกต่างจากเกมในอุปกรณ์พกพา (Android/iOS) อยู่บ้าง แต่คงคอนเซ็ปปลูกผักมายิงซอมบี้ที่กำลังจะเดินเข้าบ้าน

เป็นเกมง่ายๆ แต่เล่นไปเล่นมาก็ต้องใช้ความคิดและการวางแผนเหมือนกันนะ การออกแบบเกม Plants vs. Zombies ใน Facebook ตอนเริ่มเล่นนั้นทำได้งงมากๆ เพื่อนหลายคนเข้าไปครั้งเดียวก็ไม่เล่นต่อ เพราะงงกับระบบสอนวิธิีเล่น แต่อยากบอกว่าคลิกๆตามมันไปเรื่อยๆเดี๋ยวได้เอง จากนั้นก็มันส์ได้ Plants vs. Zombies for Facebook จะมีการเล่นอยู่สองส่วนคือ การดูแลบ้าน และ ออก Road Trip ไปเก็บตังค์ตามด่านต่างๆ

วิธีเล่นคร่าวๆคือเราปลูกผักที่บ้าน แล้วก็เอาขึ้นรถออกไปล่าซอมบี้เก็บตังค์มาอัพเกรดบ้าน เมื่อเลเวลสูงขึ้นซอมบี้จะเก่งขึ้นเรื่อยๆ ผักของเราก็จะถูกปลดล็อคชนิดใหม่ๆออกมาเรื่อยตามเลเวลของเราเช่นกัน การเลือกผักที่ถูกทางกับซอมบี้เป็นสิ่งสำคัญถ้าไม่ถูกทางก็เอาไม่อยู่ ยกตัวอย่าง

 Rocket Zombie มันมีจรวดติดหัวแถมมีเสก็ตอีกไม่ยอมกินผักด้วย ต้องเจอกับ Snow Pea ยิงทีเดียวจรวดหลุดหัวเลย

อีกตัวอย่าง Buckethead Zombie กับ  Football Zombie วิ่งเร็วกินเร็ว ผักตายหมด ยิงตายยาก ต้องมีตัวแก้ทางคือ  Magnet Plant จะดูดหมวกกันน๊อคมันออกแล้วยิงตายง่ายขึ้นเยอะ อื่นๆ Zombie ที่โดนแช่ในน้ำแข็งต้องเอา

 Flaming Pea ยิงทีเดียวแตกกระจาย

อันนี้เป็นสิ่งที่เล่นๆไปเดี๋ยวจะรู้เอง ไม่ใช่สูตรลับอะไร และขึ้นอยู่กับเทคนิคการวางแผนของแต่ละคนด้วย บางคนก็ชอบใช้ Wallnut ให้มันกิน แล้วเราก็ยิงไปเรื่อยๆ

มาเข้าเรื่องต่อไปดีกกว่าการเล่นแบบ Road Trip ในการเปลี่ยนด่านในแต่ละครั้งจะต้องมีการร้องขอให้เพื่อนช่วย ถ้าเพื่อนที่เรามีไม่พอตามจำนวนที่แต่ละด่านกำหนดเราสามารถจ่ายด้วย Zombuck(เงินในเกม) ได้ แต่พอด่านที่สูงขึ้นจำนวนเพื่อนที่ต้องขอให้ช่วยก็จะเยอะขึ้นด้วย และจำนวนเงินที่ต้องจ่ายก็เยอะตามไปด้วย โดยเฉพาะหลังจากด่านที่ 7 จ่ายด้วย Gem(เพชรสีแดง) หาเก็บเพิ่มไม่ได้ ต้องจ่ายเงินจริงซื้อ แต่ถ้าหากเรามีเพื่อนเยอะเรื่องพวกนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร งั้นขอชวนเพื่อนมารวมกลุ่มกันไปออก Road Trip กันครับ

เข้ามา Add Friend กันได้ที่กรุ๊ป Plants vs. Zombies Player กันนะครับ https://www.facebook.com/groups/524489237605821/

อยากเล่นเกม Plants vs. Zombies for Facebook คลิกที่นี้ครับ https://apps.facebook.com/pvzadventures/?fb_source=search&ref=br_tf 

แจกแอพ WBC Counter for Android ฟรีครับ (แอพเขียนเอง)

แอพพลิเคชั่น WBCCounter

WBCCounter เป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับมือถือ Android ครับ ไอเดียง่ายๆครับ นักเทคนิคการแพทย์จะเป็นคนแยกชนิดของเม็ดเลือดขาวจากเลือดตัวอย่างหลังจากย้อมสีแล้วโดยใช้กล้องจุลทรรศน์มองด้วยตาเปล่า อาศัยความเชี่ยวชาญ และทักษะในการคัดแยกชนิด โดยจะรายงานแยกเป็นเปอร์เซนต์ ในโรงพยาบาลทั่วไปในปัจจุบันมือเครื่องอัตโนมัติวิเคราะห์ให้อยู่แล้ว แต่วิธีมาตรฐานที่ต้องย้อมสีและดูโดยผู้เชียวชาญนั้นยังต้องทำควบคู่กันไป

เวลานับแยกชนิดของเม็ดเลือดขวาเราจะเลื่อนสไลด์ไปเรื่อยๆเมื่อเจอเม็ดเลือดขาวเราจะจำแนกชนิด และเลื่อนเพื่อหาตัวถัดไป ทำไปเรื่อยๆจนครบหนึ่งร้อยตัว จึงจะสรุปออกมาว่าในหนึ่งร้อยตัวมีเม็ดเลือดขาวชนิดต่างๆคิดเป็นร้อยละเท่าไหร่ ปัญหาคือ อยู่ในแลปจะมีเครื่องกดเหมือนเครื่องคิดเลขให้ครับ ครบร้อยมันก็จะร้องเตือน แต่ที่ทำงานไม่มีครับ จะเอามือขีดนับทีละตัวก็กะไรอยู่ มือถือก็มี แอพก็ไม่น่าจะยาก สรุปเลยเขียนมาเป็นแอพไว้ใช้เองเลยดีกว่า แต่เขียนแล้วก็อยากจะแชร์ด้วย

ขั้นตอนการเขียน

เนื่องจากเป็นแอพไม่ยากนัก ใช้ https://appinventor.mit.edu ช่วยเขียนก็เอาอยู่ เขียนไปเขียนมาเริ่มสนุก เลยเพิ่มฟีเจอร์เล็กๆน้อยๆเข้าไป เพื่อความสนุก เช่น กดแล้วมีเสียง ก็ใช้ iPod Touch อัดเสียงเพื่อนๆที่ทำงานมาใส่ ต้องขอบคุณ พี่ๆน้องๆทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เป็นเสียงดีดนิ้ว ผิวปาก อะไรทำนองนี้ ต้องลองเดาดูว่าเป็นเสียงอะไร เพิ่มกดแล้วสั่น ตอนรายงานผล บอกด้วยว่าค่าที่ได้ปกติหรือผิดปกติหรือไม่ ใช้เวลาเขียนจริงๆไม่นานประมาณ 2-3 ชั่วโมง

วิธีใช้

มันเป็นแอพสำหรับนักเทคนิคการแพทย์ คิดว่าแค่เห็นก็น่าจะใช้เป็นอยู่แล้ว แต่ก็ได้ทำลำดับบังคับอยู่นิดๆว่าต้องทำยังไงก่อน ถ้าไม่กดปุ่มนี้ก่อนก็ทำงานต่อไม่ได้ อะไรประมาณนี้

  1. โหลดโปรแกรมมาติดตั้งก่อน WBCCounter.apk ดาวน์โหลด รับรองความปลอดภัยครับ ไม่มีไวรัส ไม่มีโฆษณา
  2. ติดตั้ง แล้วเปิดแอพขึ้นมา
    แอพพลิเคชั่น WBCCounter

    ใส่ชื่อ subject, reporter อันนี้ไม่ได้บังคับใส่

  3. กด Start ต้องกดก่อน ไม่งั้นปุ่มกดนับจะไม่สามารถกดได้ แล้วเราก็พร้อมนับแล้ว

    WBCCounter เริ่มกดนับได้แล้ว

  4. เมื่อเราดูสไลด์และนับจำแนกไปเรื่อยๆจนครบ 100 ตัว โปรแกรมจะเตือนว่า “ครบแล้วครับ” และไม่สามารถกดปุ่มชนิดของเม็ดเลือดขาวได้อีก จากนั้นกดปุ่ม Report ครับ

    ครบ 100 ตัวแล้ว

  5. หน้าตาของการรายงานผลเป็นแบบนี้ครับ
    รายงานผล

    มีบอกช่วงปกติ ถ้าแสดงสีตัวอักษรเป็นสีแดง แสดงว่ามีค่าที่ผิดปกติไป

  6. กด back กลับไปหน้าที่แล้ว ถ้าจะเริ่มนับใหม่ก็กดปุ่ม Reset และกด Start เพื่อเริ่มนับใหม่อีกครั้ง

พอลองเล่นไปสักพัก ต้องมีเขียนเพิ่มอีกนิดคือ ให้มันมีปุ่มปิดเสียง กับปุ่ม undo ไว้ใช้ตอนกดผิดปุ่ม และชนิดของเม็ดเลือดขาวทั้ง 5  ชนิด จะพบได้ในคนปกติทั่วไป ซึ่งยังมีเม็ดเลือดขาวและเซล์ชนิดอื่นๆที่อาจพบได้ แต่ไม่ได้เอาเข้ามาด้วย ในอนาคตอาจทำปุ่มแยกต่างหากเข้ามาด้วย

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจนะครับ

QRCode WBCCounter

Exit mobile version