ทดสอบระบบจำลองภาพถ่ายจากฟิล์มของ Fujifilm X70 (ขาวดำ)

ผมเข้าใจความสำคัญของการถ่ายภาพขาวดำมากขึ้นตอนได้ถ่ายภาพ Portrait ของเพื่อนชาวต่างชาติ ที่ไม่ได้มีสีผิว สีผม สีตา เหมือนเราชาวเอเชีย การเลือกถ่ายภาพขาวดำแบบมาตรฐานได้ภาพออกมาไม่ดีอย่างที่คาดหวังไว้ครับ เช่น เพื่อนคนที่มีผมสีส้มอ่อน ตอนถ่ายเป็นขาวดำออกมาทั้งหัวและคิ้วขาวโพนดูไม่มีคอนทราสเลย สีตาด้วยเช่นกัน ทำให้ภาพดูแปลกๆครับ การเลือกแบบมีฟิวเตอร์ด้วยทำให้ได้ภาพที่ดีขึ้นเยอะเลยครับ

ในกล้อง Fujifilm X70 มีระบบจำลองภาพถ่ายจากฟิล์มมาให้ด้วย ที่ผมสนใจคือ ภาพถ่ายขาวดำ ซึ่งมีมาให้เลือกตั้ง 4 แบบ คือ

  • Monochrome : ภาพขาวดำแบบมาตรฐาน
  • Monochrome+Y filter : ภาพขาวดำแบบเพิ่ม contrast เล็กน้อย และลดโทนสว่างของท้องฟ้าเล็กน้อย
  • Monochrome+G filter : ภาพขาวดำแบบเพิ่ม contrast และลดโทนสว่างของท้องฟ้า
  • Monochrome+ R filter : ภาพขาวดำที่ทำให้โทนสีผิวดูนุ่มนวลมากขึ้น

อ่านรายละเอียดแล้วก็งงนิดหน่อย เลยจับมาถ่าย RGB บนหน้าจอคอมดูเลย ซึ่งก็ทำให้เข้าใจโทนขาวดำจากแต่ละโหมดได้มากขึ้นครับ

Fujifilm black and white film simulation

ขอให้สนุกกับการถ่ายภาพขาวดำครับ

(รีวิว) ชอบ ไม่ชอบ Fujifilm X70 ตามใจคนใช้งาน

จุดที่ชอบ ไม่ชอบ ในกล้อง Fujifilm X70

หลังจากใช้ Fujifilm X70 มาได้ราวๆสัปดาห์หนึ่ง มาอัพเดตว่าจุดไหนที่ชอบและจุดไหนที่ไม่ชอบ แต่โดยรวมชอบมากๆ มีจุดขัดใจนิดหน่อยที่คิดว่ามันน่าจะดีกว่านี้ได้อีกอยู่บ้าง กล้องนี้เป็นกล้องใหม่หลังจากใช้ Canon มานาน น่าจะ 4-5 ปีได้แล้ว การคอนโทรลกล้องแรกๆก็งง ต้องเอาคู่มือมาเปิดอ่าน ต้องทำความเข้าใจกับวิธีการตั้งค่าต่างๆที่ไม่มีในกล้องเดิม เช่น Dynamic range, Highlight tone, Shadow tone, Auto ISO และอื่นๆ ความจริงก็พอรู้ความหมายของมันอยู่บ้าง แต่การตั้งค่าและการใช้งานในกล้องยังไม่เคยใช้มาก่อน จะถ่ายเป็น RAW ไว้เลยก็ได้นะ แต่พอมันเป็น Compact camera ก็อยากจะจบหลังกล้องไปเลย ถ่ายเสร็จแชร์เลยไม่ต้อง Process อีกแล้ว อันไหนพิเศษก็ค่อยเปลี่ยนเป็น RAW ตามโอกาสแล้วกัน ไม่อยากเปลืองพื้นที่เก็บไฟล์ในคอมพิวเตอร์มากนัก (เพราะถ่ายเยอะอยู่แล้ว) อันที่สรุปข้างล่างนี้ คือว่าพอใช้ไปเจออะไรก็จดบันทึกมาเรื่อยๆ เอามารวมกันได้ราวๆนี้ ถ้าเจออีกจะเอามารวมไว้ที่บล็อกนี้แล้วกัน

จุดที่ชอบ

  • ไฟล์คุณภาพเยี่ยม ภาพเก็บรายละเอียดได้ดี คม จัดการ Noise ได้ดีมาก ไม่เคยคิดในชีวิตจะถ่ายภาพ ISO เกิน 400 ได้
  • ขนาดภาพ 16MP พอดี อัพโหลดฟรีใน Google Photo (ที่เป็นตัวหลักของผมในการเก็บภาพ) แบบไม่ต้องกินพื้นที่และไม่ต้องย่อ คืออัพได้เลย แมทกับชีวิตประจำวัน
  • ขนาดเล็กเบา ห้อยคอได้ทั้งวันโดยไม่รู้สึกเมื่อย
  • เร็วทั้งการปิดและเปิดแล้วพร้อมถ่าย โฟกัสก็เร็ว เทียบกับกล้องตัวเก่าที่ใช้อยู่ ถ้าถ่ายแบบ live view เร็วคนละเรื่องเลย
  • ระบบการวัดแสง และการทำงานอัตโนมัติฉลาด ทำให้ภาพที่ถ่ายไม่เสีย ส่วนหนึ่งเพราะมันตั้งความเร็วชัตเตอร์อัตโนมัติต่ำสุดได้, ISO Auto ไม่เกินที่กำหนดได้ เลยทำให้ภาพออกมาดีที่สุดในสภาพแสงนั้นได้
  • เสียงชัตเตอร์เงียบ ไม่รบกวนแบบ ถ่ายในห้องสมุดได้เลย
  • เอารูปโหลดเข้ามือถือได้ง่าย พร้อมอัพขึ้นโซเซียลในทันที
  • การควบคุมการใช้งานง่ายดีปุ่ม Q สะดวกสุดๆ และมีปุ่มลัดเยอะดี (Fn) เข้าถึงการ setting ต่างๆได้ง่าย
  • ชอบ film simulation มาก เหมือนได้ย้อนกลับไปใช้ Film อีกครั้ง
  • มี Digital Tele-converter to 35, 50 mm หรือเรียกอีกอย่างว่าซูมดิจิตอลก็คงได้ แต่ไฟล์ออกมาดีกว่าซูมดิจิตอลทั่วไปนะ

จุดที่ไม่ชอบ

ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการ setting ต่างๆในกล้องที่ยังไม่ชินนัก

  • ปิดเสียงอยู่ใช้ flash ไม่ได้ งงมากว่าทำไม (ให้เดาคงคิดแทนเราว่า ไม่ต้องการรบกวนคนอื่น แล้วจะเปิด flash ทำไม มั้ง) ทำได้แล้วครับ มันมีเมนูตั้งแค่เสียงแยกต่างหาก เพื่อนที่ X series club แนะนำมา
  • เปิด face detector ใช้ AE-L/-AF-L ไม่ได้นะ ล็อกโฟกัสไม่ได้เพราะกล้องต้องวิ่งหาหน้าของแบบ อันนี้พอเข้าใจได้ แต่ทำไมล็อคแสงไม่ได้
  • ปุ่ม video record กดยากมากกกก นิ้วใหญ่ หมดสิทธิ์มันชิดกับตัวปรับชดเชยแสงมากเกินไปและปุ่มมันเล็กและตื้นมาก
  • ปุ่มรอบวงกลม OK ฝั่งซ้ายกดยากเหมือนกัน ติดกับจอที่นูนออกมา ถ้านิ้วใหญ่หมดสิทธิ์ หรือต้องวางนิ้วแบบยื่นมาจากด้านข้างแทน
  • ปิดหน้าจอ LCD ไม่ได้ แต่ 2 นาทีมันถึงจะปิดเอง(sleep) แต่ไม่อยากเปิดปิดเครื่องบ่อยๆ ปกติแล้ว DSLR ไม่เคยปิดกล้องระหว่างทริปเลยนะ อยากได้แบบนั้น ชินกับ 600D ที่มีปุ่มกดปิดจอ LCD
  • ใช้ Digital Tele-converter to 35 and 50 mm ในโหมด P S T M ไม่ได้ ถ้าตั้งบันทึกภาพเป็น RAW อันนี้พอเข้าใจได้เพราะกล้องต้อง Process ภาพออกมาเป็น JPEG แต่ไม่บอกในคู่มือ หาสาเหตุนานมากว่าทำไมใช้ไม่ได้ กว่าจะหาเจอว่าเพราะเราตั้งเป็น RAW ไว้เสียเวลาเป็นชั่วโมงเลย
  • กลัวที่ปิดเลนส์หาย ความจริงมันก็ปิดแน่นดีนะแต่ก็กลัวหาย เพราะต้องเปิดปิดตลอด
  • กลัวเลนส์เป็นรอย กำลังหาฟิวเตอร์มาใส่ แต่มันต้องมีตัวแปลงใส่เพิ่มก่อน
  • มันไม่มี view finder ต้องซื้อเพิ่มเอง

โดยรวมแล้ว Fujifilm X70 ตัวใหม่ของเรา ทำให้ถ่ายรูปสนุกขึ้น ช่วยให้ชีวิตถ่ายภาพได้ง่ายและได้ภาพ(ที่ดี)ง่ายขึ้น กล้องตัวเก่าทำงานในโหมดอัตโนมัติต่างๆได้แย่มาก ทำให้เราชินกับโหมด M มากกว่า ไม่ใช่ไม่อยากใช้โหมดอื่นๆแต่มันทำงานได้ไม่ดี ทำให้ภาพเสียเยอะและไม่ได้ดังใจนึกเลยไม่อยากใช้ แต่ถึงจะใช้โหมด M จนชินและคล่องแค่ไหนยังไงก็เร็วเท่าโหมดอัตโนมัติ P S T ในกล้องไม่ได้ มันเก่งขึ้นมาก คิดว่าในกล้องรุ่นใหม่อื่นๆก็น่าจะดีขึ้นมากๆ เหมือนกัน ไอ้เรามันใช้กล้องรุ่นเก่ามันเลยตามเทคโนโลยีเขาไม่ทัน เลยทำเป็นตื่นเต้นกับเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่งจะได้ใช้กับเขาเท่านั้นเอง

ลองเล่น BLE Wireless Sensor Tag Demo V1.1

เมื่อวานก่อนไปงาน Embedded World 2016 ที่ Nürnberg มาครับ งานใหญ่มาก มีบริษัทใหญ่ๆทั่วโลกมาออกบูธแสดงสินค้าและบริการของตัวเองเพียบ มีของแจกเยอะมากๆด้วย ได้ของแจกฟรีมาเยอะเลยครับ หนึ่งในนั้นที่โชว์อยู่คือ BLE(Bluetooth Low Energy) Wireless Sensor Tag เป็นของโชว์ IoT ของบริษัท TE connectivity มีบอร์ดอื่นๆอีกหลายอย่างให้เลือก แต่เลือกเอาตังนี้มาน่าจะเล่นได้เลย ส่วนบอร์ดอื่นบางอันต้องการ module อื่นเชื่อมต่ออีกที

BLE Wireless Sensor Tag Demo V1.1

สิ่งที่ BLE Wireless Sensor Tag Demo V1.1 ทำได้คือ มีเซนเซอร์ตรวจวัด Humidity, Temperature, Pressure แล้วส่งข้อมูลผ่าน Bluetooth รองรับทั้ง Android และ Windows ลองเล่นดูแล้ว ถือว่าเจ๋งมากๆ เขาเครมว่าใช้ถ่าน CR2032 ก้อนกลมๆ นั้น อยู่ได้นาน 3 เดือนเลยครับ เจ๋งดีจริงๆ

รายละเอียดทั้วไปของบอร์ด BLE Wireless Sensor Tag Demo V1.1 download link

  • Bluetooth Low Energy Tag
  • Humidity (0-100%RH)
  • Temperature (-20°C + 85°C)
  • Pressure (300 to 1200mBar)
  • Android & Windows PC compatible แต่ใน App Store ก็มีแอพให้เล่นเหมือนกันนะแต่ไม่มีเครื่องลองเลยไม่รู้ว่าใช้ได้ไหม
  • อื่นๆ มี SDK ให้เอาไปพัฒนาต่อได้ด้วย

แกะกล่อง Fujifilm X70 (วิดีโอ)

ผมเป็นคนชอบถ่ายรูปครับ ชอบแนว Street photography มากๆครับ (ปู่ Elliot Erwitt เนี้ย ไอดอลผมเลย) อยากจะพกกล้องไปด้วยทุกที่ แต่ DSLR มันไม่ค่อยสะดวก และไม่ค่อยเป็นมิตรกับการขอถ่ายรูปคนอื่นเท่าไหร่ นานๆถึงจะได้ออกทริป แต่ก็ถือว่ายังจำเป็นอยู่นะ เราก็ถ่ายรูปมาขายจากกล้องนี้ได้ ส่วนกล้องมือถือติดตัวตลอดแต่คุณภาพไม่ได้เรื่อง เอาง่ายๆคืออยากได้คุณภาพแบบ DSLR แต่ อยากหิ้วกล้องเล็ก ยัดเข้ากระเป๋ากางเกงได้ ที่ผ่านมายังไม่มีอะไรถูกใจเลย จนมาเห็น Fujifilm X70 เซนเซอร์ APS-C ขนาดเล็กกระทัดรัด เลนส์ได้ระยะ 28 mm F2.8 แปลงเป็น 35 mm หรือ 50 mm ก็ได้ มี film simutation มาให้ด้วย แม้จะไม่มี View finder ให้ ก็พอจะมองข้ามได้ มีงบค่อยไปซื้อมาใส่เพิ่มได้ สรุปว่าค่อนข้างลงตัวมาก

แกะกล่อง Fujifilm X70

วันนี้ได้กล้องมาก็เลยมาแกะกล่องให้ดูครับ ไม่มีเวลามานั่งเขียนรายละเอียดเหมือนครั้งก่อนๆ อัดวิดีโอก็ดีเหมือนกัน อัดกันสดๆ เทคเดียว มีพูดผิด พูดถูก ก็มองข้ามๆไปแล้วกันนะครับ

ขอเวลาใช้งานสักพักก่อนแล้วค่อยมาเล่าว่ามันดีไม่ดีอย่างไงนะครับ เท่าที่ดูในคู่มือ มีหลายอย่างต้องเรียนรู้อีกเยอะเลยครับ

เอาพื้นที่จาก Google Photos กลับมาใช้งาน

Google Photos ให้พื้นที่ในการเก็บภาพฟรีแบบ Unlimited ถ้าภาพขนาดไม่เกิน 16 megapixels (MP) สำหรับภาพนิ่งและ 1080p สำหรับวิดีโอ แต่ถ้าอัพโหลดภาพเกินกว่าข้อกำหนดดังกล่าวก็จะใช้พื้นที่ Google storage ของเรา

ก่อนที่ Google จะเปิดให้ผู้ใช้เก็บภาพแบบ Unlimited ผมได้อัพโหลดภาพไว้เยอะพอสมควร เลยอยากจะได้พื้นที่ส่วนนั้นกลับมา เพราะ 16 MP ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานแล้ว จะโหลดออกมาอัดเป็นอัลบั้มก็ยังคงคมชัดใช้ได้ แต่จะให้ตามไปเปลี่ยนภาพขนาด 21MP ให้เป็น 16MP ทุกภาพก็คงจะไม่ไหว เลยต้องปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นเรื่อยมา วันนี้เลยเอาวิธีมาบอก

Google Photos ให้พื้นที่คืนกลับมาเยอะเลย

เมื่อวานค้นไปค้นมาไปเจอว่า Google photos มีเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถลดขนาดภาพในพื้นที่ของเราได้ โดยการเปลี่ยน(Converting) ภาพที่ขนาดใหญ่ของเราให้เป็นภาพ High quality ที่ 16 MP แล้วให้พื้นที่ส่วนนั้นกลับมาให้เราได้ใช้งาน แล้วทำง่ายมากแค่คลิกเดียว ขั้นตอนดังนี้ครับ

  1. เข้าไปที่ลิงค์ photos.google.com/settings
  2. คลิก RECOVER STORAGE

แล้วก็รอผล ใช้เวลาในการ converting ตามปริมาณภาพที่มีครับ

Reduce the size of your photos & videos
Exit mobile version