Control Center ใน iOS7 มีให้โหลดแล้วใน Android ???

Control Center

Control Center แอพพลิเคชั่นรวมคำสั่งควบคุมการทำงานของเครื่อง เช่น การเปลี่ยนโหมดการทำงาน เปิด-ปิด Wifi ไฟฉาย เพิ่ม-ลดเสียง แสงสว่างหน้าจอ เป็นต้น วิธีการใช้งานเพียงสไลด์ที่หน้าจอจากด้านล่างขึ้นบน ศูนย์ควบคุมก็จะถูกเปิดขึ้นมา เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ของ iOS 7 แต่ความจริงแล้วใน Android มีมานานแล้วและวิธีเปิดทำได้โดยการสไลด์หน้าจอจากด้านบนลงล่าง รวมอยู่กับ Notification แล้วยังไงต่อ ฟีเจอร์ของ iOS 7 มันมาอยู่ใน Android ได้ยังไง ทั้งๆที่ iOS 7 ยังอยู่ใน beta 4 อยู่เลย และยังไม่ได้ปล่อยอัพเดตให้ลูกค้าทั่วไปได้ใช้กันเลย แล้ว Android เอามาใช้ก่อนซะอย่างงั้น

อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือแม้ว่าใน Android จะมีฟีเจอร์นี้มานานแล้ว แต่ใน iOS 7 กลับทำออกมาดูดีกว่าซะงั้น ซึ่งถ้าดูจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านๆมา Apple ก็ทำแบบนี้อยู่เสมอเอาของคนอื่นมาทำต่อ(ลอก,แรงบันดาลใจ)แล้วก็มักจะทำออกมาได้ดีเสียด้วย Control Center น่าจะเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน

เอาเป็นว่ามาพูดถึงแอพพลิเคชั่น Control Center สำหรับ Android ที่ไป Copy&Past หน้าตาของ iOS 7 มาซะทุกอย่าง จน Apple ต้องรองขอให้ Google ถอดแอพพลิเคชั่นดังกล่าวออกจาก Play Store ซึ่ง Google ก็ทำตามคำร้องขอโดยถอดแอพพลิเคชั่นดังกล่าวออก แต่ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นก็ไม่หมดความพยายามเปลี่ยนชื่อแล้วส่งขึ้น Play Store ใหม่ ตอนนี้ก็ยังสามารถโหลดได้อยู่นะ ว่าแล้วไปโหลดมาลองเล่นดูได้นะครับ

ดาวน์โหลด Control Center สำหรับ Android ได้ที่ https://play.google.com ต้องรีบนะเดี๋ยวอาจจะถูกถอดออกอีกครั้งก็เป็นได้

Evernote Food แอพช่วยบันทึกเมนูและร้านอาหารที่เคยไปกินมาแล้ว

Evernote Food

เวลาไปกินข้าวที่ร้านอาหารร้านใหม่ที่ไม่เคยไปกินมาก่อน ผมมักชอบจะบันทึกรายละเอียดเบื้องต้นของร้านนั้นไว้ มีประโยชน์สำหรับการเอามาอวดเพื่อนหรือเอาไว้แนะนำบอกต่อถ้ามันอร่อย แอพพลิเคชั่นที่ใช้สำหรับบันทึกนั้นเป็นส่วนหนึ่งของ Evernote ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “Evernot Food” มีให้โหลดทั้ง Android และ iOS

เคยใช้ตั้งแต่ตอนเล่น iPod Touch ตอนนี้ในมือถือ Android ก็ต้องมีแอพนี้อยู่ การใช้งานค่อนข้างไม่ยุ่งยาก ถ่ายรูปอาหารที่เราสั่งมาทาน หรือสถานที่ร้าน บรรยากาศ ใส่รายละเอียดชื่อร้าน ระบุตำแหน่งลงในแผนที่ ซึ่งข้อมูลบางส่วนจะถูกดึงมาจาก Foursquare ทำให้สะดวกมาขึ้นถ้าต่ออินเทอร์เน็ตตอนบันทึก แต่ไม่มีเน็ตก็ยังบันทึกได้ แล้วเมื่อต่อเน็ตโปรแกรมจะ Sync เข้าไปเก็บใน Evernote ให้อัตโนมัติหรืออัตโนมือก็ได้เช่นกัน โดยใช้บัญชีเดียวกันกับ Evernote เลย

เราก็บันทึกเก็บไว้ตั้งแต่ร้านหรูในห้างไปจนถึงร้านตั้งขายข้างถนน หลังจากที่บันทึกมานานพบว่าเป็นคลังร้านอาหารที่เยอะพอสมควรส่วนใหญ่ก็อยู่ใกล้กับที่ทำงาน ที่พัก สะดวกมากขึ้นตอนหยิบขึ้นมาให้เพื่อนได้ดูว่าร้านนี้อยู่ตรงไหน เคยไปทานมาแล้ว รสชาดอาหารเป็นอย่างไรบ้าง บางครั้งเมื่อทานเสร็จอาจต้องเปิดแอพมาลงความเห็นไว้ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่อันนี้ไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่นัก ทำแค่ถ่ายรูปร้าน เมนูอาหาร อาหารที่สั่ง กินจนอิ่มแต่มักจะลืมให้ความคะแนนบ่อยๆ แต่เมื่อเปิดมาดูภายหลังก็ยังพอจำได้นะว่าอร่อยหรือไม่อย่างไร

Evernote Food for Android

นอกจากนี้ใน Evernote Food ยังมีฟีเจอร์อื่นอีก เช่น การค้นหาร้านอาหารที่ใกล้กับจุดที่เราอยู่(Restaurants) ข้อมูลการทำอาหารเมนูใหม่ๆ(Explore Recipes) ยอมรับว่าไม่ค่อยได้ใช้งานเลย หลักๆมีเพียงบันทึกเมนูอาหารและร้านอาหารที่ไปทานมา(My Meals) เท่านั้น ซึ่ง Evrnote Food ก็ทำหน้าที่ตรงนี้ได้อย่างดีเยี่ยม และแน่นอนว่าเมื่อใช้บัญชีของ Evernote เราก็สามารถเข้าถึงข้อมูลตรงนี้ได้จากหลายๆอุปกรณ์ทั้งมือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ นับว่าสะดวกมากๆเลยทีเดียว

สรุปว่าชอบแอพพลิเคชั่นตัวนี้มากครับ เลยเอามาแนะนำเพื่อนๆ ใครที่ชอบถ่ายรูปอาหาร แทนที่จะมีแค่รูปอาหาร ก็บันทึกรายละเอียดของร้านไว้ด้วยเลยด้วยก็ดีนะครับ

ดาวน์โหลด Evernote Food ได้ที่ Google Play Store และ App Store 

LastPass เพราะเราขี้เกียจจำ User และ Password

LastPass

อยู่ๆก็อยากพูดถึง LastPass ขึ้นมาครับ น่าจะเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่ในคอมของเราจะขาดไม่ได้เอาเสียเลย

LastPass เป็นอีกหนึ่งบริการช่วยจำรหัสล็อกอินเว็บไซต์ต่างๆของเรา รวมถึงการช่วยสร้างรหัสที่มีความปลอดภัยสูง ใช้งานมาได้พักหนึ่งแล้วและตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ ไปเจอบริการตัวนี้ครั้งแรกจาก TIME’s 50 Best Websites 2012 แล้วก็ทดลองใช้ตั้งแต่ตอนนั้น ลองค้นดูพบว่ามีบริการในลักษณะนี้อยู่สองสามเจ้าในตลาดที่แข่งขันกันอยู่ ได้แก่ LastPass, 1Password, mSecure แต่มีแค่ LastPass ที่มีเวอร์ชั่นฟรี

ความสามารถหลักๆของ LastPass ที่ใช้อยู่คือ ให้ช่วยจำรหัส จำข้อมูลส่วนตัว(ชื่อ,ที่อยู่) ตอนที่จะเราจะล็อกอินเข้าใช้งานเว็บไซต์ หรือต้องกรอกข้อมูลรายละเอียดต่างๆของเราเอง LastPass ช่วยอำนวยความสะดวกให้ได้อย่างดี

ตอนนี้มีเว็บไซต์ต่างๆประมาณ 200 กว่าเว็บไซต์ที่เราเป็นสมาชิก มีรหัสเข้าใช้งานอยู่ประมาณ 10 แบบที่แตกต่างกัน แต่ละชุดค่อนข้างยาว ตัวที่ยาวสุดคือมีอักขระเกือบ 30 ตัว แต่ก่อนเว็บไซต์ที่นานๆครั้งจะได้เข้าใช้งานจะซุ่มรหัสใน 10 แบบที่เรามีไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอ หรือแม้แต่จำได้ถ้าจะให้พิมพ์รหัสยาวๆเองทุกครั้งก็ไม่สะดวกเอามากๆเลยล่ะ ส่วนใน Google Chrome ก็มีระบบช่วยจำให้เหมือนกัน แต่การบริหารจัดการนั้นไม่สะดวกเอาซะเลย ใช้ LastPass ลงตัวกว่ามาก จะจัดหมวดหมู่ แก้ไข คัดลอก ทำได้ง่ายกว่ามาก ตอนนี้เลยจำแค่รหัสล็อกอินเข้า LastPass เพียงตัวเดียวที่เหลือก็ให้โปรแกรมช่วยจำ ช่วยจัดการให้

แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้างเหมือนกัน นั้นคือตัวแอพ LastPass ที่ใช้งานในมือถือหรือแท็ปเล็ตต้องจ่ายตังค์แบบรายปีซึ่งถือว่าหลายตังค์เหมือนกัน(24$/Y) ทำให้อาจจะใช้งานได้ไม่เต็มที่ แต่เราใช้เฉพาะในคอมก็ยังสะดวกกว่าไม่ได้ใช้อยู่ดี อีกข้อหนึ่งที่น่าห่วงเหมือนกันคือความปลอดภัยถ้าเราทำรหัสของ LastPass แค่อันเดียวหลุดไป คนที่ได้ไปก็อาจจะได้รหัสอื่นๆไปด้วย อันนี้ต้องระวังมากๆด้วย ซึ่งเราเองก็ต้องชั่งใจอยู่นานเหมือนกันว่าระบบของเขาปลอดภัยแค่ไหน ซึ่งเท่าที่ศึกษาข้อมูลจากหลายๆที่ก่อนตัดสินใจใช้ ก็พอตอบได้ว่าไว้ใจได้ แต่ก็มีรหัสบางตัวที่สำคัญมากๆ เช่นเกี่ยวกับการเงิน ก็จะไม่เอาเข้าไปเก็บไว้ใน LastPass เลย

สรุปว่า LastPass ช่วยให้การท่องโลกอินเทอร์เน็ตของเราสะดวกขึ้นมากๆ ***แนะนำให้ใช้กับเครื่องคอมของตัวเองเท่านั้นนะครับ

LastPass: https://lastpass.com/

ติดตั้งแอพกล้องของ Android 4.2.2 ลงมือถือของคุณ ไม่ต้อง Root

Google เปิดตัวมือถือที่ใช้ Android รุ่นดั้งเดิมโดยไม่มีการปรับแต่ง หรือที่เรียกกันว่า Stock Android, Google Edition แล้วก็ปล่อยขายผ่านทาง Google Play จะเรียกว่าอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับ Nexus ก็พอได้เพราะจะเป็นรุ่นแรกๆที่จะได้อัพเกรด โดยมือถือที่เป็นเหล่านั้นเช่น  Galaxy S4 Google Play Edtion, HTC One  Google Play Edtion พอเหล่า Geek ทั้งหลายได้มือถือไปก็ไม่นิ่งเฉย ปรับโน้น แก้โน้น แก้นี่ แล้วก็เอามาแบ่งปันคนอื่นๆได้ใช้กัน ตัวที่กล่าวถึงคือแอพพลิเคชั่น Camera & Gallery

หน้าตาของมันแตกต่างจากของเดิมนิดหน่อย อาจจะใช้สะดวกมากขึ้น

เปรียบเทียบ 4.1.1 กับ 4.2.2 Camera

มือถือที่จะติดตั้งนั้นไม่ต้อง Root แต่อย่างใด และเมื่อติดตั้งแล้วมันไม่ได้ทับตัวเก่าสามารถเลือกใช้งานได้ แต่ไม่มี Photosheres ให้ใช้นะ แต่ตั้งถ่ายรูปมาก็ไม่เคยใช้เลยเหมือนกัน ใช้แค่ภาพธรรมดา กับ Paranoma ลองโหลดไปติดตั้งดู

ดาวน์โหลด Stock 4.2.2 Camera 

ที่มา: https://hackerspace.lifehacker.com

วิธีติดตั้ง Folcon Pro

Folcon Pro เป็น Twitter Client อีกตัวหนึ่งสำหรับ Android ที่นักพัฒนาทำออกมาได้ดีและได้รับความนิยมอย่างมาก แต่กลับเกิดปัญหาคนใช้เยอะเกินไป(ทั้งที่ยอมจ่ายเงินและโหลดเถื่อน) ทำให้ token ที่ Twitter ตั้งไว้ให้นักพัฒนา 100,000 token ต่อหนึ่ง application เลยเต็ม ทำให้เกิดปัญหาเข้าใช้งานไม่ได้ ทางผู้พัฒนาก็มีการแก้ปัญหาหลายครั้ง ทั้งการให้ลงทะเบียนใหม่ แต่จนแล้วจนรอดก็เต็มทุกครั้ง อีกส่วนหนึ่งต้องเรียกว่าเป็นการกันท่าของ Twitter เองที่ไม่อยากให้มีการพัฒนา Client มาแข่งกับของตัวเอง ล่าสุดผู้พัฒนา Folcon Pro เลยปล่อยให้โหลดฟรีเสียเลย แล้วให้คนใช้ทั่วไปเข้าไปขอ API key เอง หรือ อธิบายง่ายๆคือใครอยากใช้ก็เข้าไปลงทะเบียน application อะไรก็ได้สักตัว แล้วเอา API key ที่เชื่อมต่อกับ Twitter มาใส่ให้ Folcon Pro ปัญหาเรื่อง API token จำกัดจึงหมดไป เรียกได้ว่าของใครของมัน ไม่ใช่มาจากผู้พัฒนาคนเดียวอีกแล้ว เป็นการดัดหลัง Twitter อีกทางหนึ่งเหมือนกัน อาจต้องรอดูว่า Twitter จะแก้ไขปัญหานี้ต่อยังไง หรือจะปล่อยเลยตามเลย

มาถึงวิธีติดตั้งกันครับ เรียกได้ว่าทำได้เท่ และ Geek ดีทีเดียว มีสูตรลับด้วยนะ ขั้นแรกเราต้องเตรียม API Key ก่อน แล้วค่อยเอาไปลงใน Folcon Pro

ขั้นตอนลงทะเบียนรับ API Key

  1. เข้าไปที่ https://dev.twitter.com เพื่อจะขอ API key ล็อกอิน user twitter เข้าไป
  2. กดตรงรูปของเราที่มุมขวา เข้าไปที่ “My applications”

    My application

  3. คลิกเลือก “Create a new application”
  4. ใส่รายละเอียดเข้าไปให้ครบ ที่น่าสนุกคือช่องใส่ชื่อ(Name) ตอนเราทวีตมันแสดง via: ชื่อนี้ครับ เช่น เราทวีตจะมีบอกว่า via: twitter for Mac, twitter for Android, Echofon แล้วแต่เราเลยครับ อยากได้ชื่ออะไรก็ใส่เข้าไปได้เลย ส่วนเว็บไชต์ที่บังคับให้ใส่ ใส่อะไรไปก็ได้ ต้องมี https:// นำหน้าด้วยนะ
  5. คลิกเลือก Yes,I agree ในส่วนของ “Developer Rules Of The Road” ใครอยากอ่านรายละเอียดข้อกำหนดก่อนก็ได้นะครับ
  6. เราสร้าง Application ตัวหนึ่งขึ้นมาแล้ว เข้าไปที่แท็บเมนู “Settings” ด้านบน เปลี่ยน Application Type ให้เป็น “Read, Write and Access direct messages” จากนั้นเลือนลงไปคลิก Update

    Application type

  7. กลับไปที่เท็บเมนู “Details” บันทึก “Consumer key” กับ “Consumer secret” ไว้ ผมเอาลงไว้ที่ Google Keep ตอน copy ไปลงแอฟจะได้ทำได้ง่ายขึ้น

    Consumer key

เราได้ API key มาแล้ว ต่อไปก็วิธีติดตั้ง Folcon Pro ลงมือถือหรือแท็บแล็ต

ขั้นตอนการติดตั้ง Folcon Pro

  1. เข้าไปดาวน์โหลด Falcon Pro ได้ที่ getfalcon.pro ติดตั้งลงเครื่องให้เรียบร้อย (ต้องปรับ setting ของเครื่องให้อนุญาติติดตั้ง apk นอก store ได้ด้วยนะ)
  2. เปิดเข้าไปที่หน้า login
  3. กดที่มุมทั้ง 4 ของหน้าจอให้มี 4 สีโผล่ขึ้นมา (ตามรูป)

    Folcon Pro code

  4. กดตรงมุมสีส้มอีกครั้งให้มันหายไป (ดูตามรูป)

    Folcon Pro code 2

  5. จับเครื่องเขย่าครับ เขย่าครับๆ ไม่ได้เขียนผิด สักพักจะมีข้อความขึ้นมาว่า “Custom login unlocked!” และมีปุ่ม Custom login โผล่ขึ้นมา

    Folcon Pro code 2

  6. กดเข้าไป “Custom login” แล้วใส่ API Key ที่ได้จากขั้นตอนลงทะเบียนเพื่อรับ API Key ลงไป เพื่อความสะดวกผม Sync Google Keep เข้ามือถือให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยเข้าไป copy มาวาง ถ้ากดเองโอกาสผิดสูง

    AKI Key

  7. กด save แล้วก็เรียบร้อยแล้วครับ 

หน้าตาของ Folcon Pro ตามรูปครับ ในแต่ละทวีตถ้ามีรูปหรือวิดีโอที่แนบมาด้วยจะแสดงผลให้ดูด้วยเลย

Folcon Pro

ข้อมูลจาก: https://www.androidpolice.com

วิธีลบแอพพลิเคชั่นซ้ำตอนคลิกขวา Open With ใน Mac

รู้สึกรำคาญไหมครับ ตอนที่จะเปิดไฟล์สักอันในเครื่อง Mac ด้วยการคลิกขวา แล้วใช้ Open With จะมีบางแอพพลิเคชั่นที่มันขึ้นซ้ำๆกันโชว์ขึ้นมา แบบในรูปตัวอย่างครับ

Open With

ลงค้นดูพบว่ามีวิธีแก้ไขด้วยการ reset Launcher ใหม่ เพื่อให้มันสร้าง index ใหม่ มีหลายวิธี ทั้งการแก้ไขผ่านทาง Terminal ดูที่ลิงค์นี้ “How To Remove Duplicate Apps In Mac’s Right Click “Open With” Menu” และแก้ไขผ่านทางโปรแกรม วิธีที่น่าจะง่ายที่สุดสำหรับคนทั่วไป อย่างผม อย่างท่านๆหลายๆคน ก็คือใช้โปรแกรม OnyX ช่วย มีโปรแกรมอื่นด้วยนะแต่บางอันเสียตังค์ ดูขั้นตอนการแก้ไขได้เลย ง่ายมาก

วิธีลบแอพพลิเคชั่นซ้ำตอนคลิกขวา Open With ใน Mac

1. ดาวน์โหลด OnyX (คลิกดาวน์โหลด) ติดตั้งให้เรียบร้อย

2. เปิดโปรแกรมขึ้นมา เข้าไปที่เมนู Maintenance >>Rebuild >>ติ๊ก LaunchService >>คลิก Execute

OnyX

3. เรียบร้อย ลองเปิดดูอีกครั้ง

Open With ที่ไม่มี Duplicate Apps แล้ว

หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ

แจกแอพ WBC Counter for Android ฟรีครับ (แอพเขียนเอง)

แอพพลิเคชั่น WBCCounter

WBCCounter เป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับมือถือ Android ครับ ไอเดียง่ายๆครับ นักเทคนิคการแพทย์จะเป็นคนแยกชนิดของเม็ดเลือดขาวจากเลือดตัวอย่างหลังจากย้อมสีแล้วโดยใช้กล้องจุลทรรศน์มองด้วยตาเปล่า อาศัยความเชี่ยวชาญ และทักษะในการคัดแยกชนิด โดยจะรายงานแยกเป็นเปอร์เซนต์ ในโรงพยาบาลทั่วไปในปัจจุบันมือเครื่องอัตโนมัติวิเคราะห์ให้อยู่แล้ว แต่วิธีมาตรฐานที่ต้องย้อมสีและดูโดยผู้เชียวชาญนั้นยังต้องทำควบคู่กันไป

เวลานับแยกชนิดของเม็ดเลือดขวาเราจะเลื่อนสไลด์ไปเรื่อยๆเมื่อเจอเม็ดเลือดขาวเราจะจำแนกชนิด และเลื่อนเพื่อหาตัวถัดไป ทำไปเรื่อยๆจนครบหนึ่งร้อยตัว จึงจะสรุปออกมาว่าในหนึ่งร้อยตัวมีเม็ดเลือดขาวชนิดต่างๆคิดเป็นร้อยละเท่าไหร่ ปัญหาคือ อยู่ในแลปจะมีเครื่องกดเหมือนเครื่องคิดเลขให้ครับ ครบร้อยมันก็จะร้องเตือน แต่ที่ทำงานไม่มีครับ จะเอามือขีดนับทีละตัวก็กะไรอยู่ มือถือก็มี แอพก็ไม่น่าจะยาก สรุปเลยเขียนมาเป็นแอพไว้ใช้เองเลยดีกว่า แต่เขียนแล้วก็อยากจะแชร์ด้วย

ขั้นตอนการเขียน

เนื่องจากเป็นแอพไม่ยากนัก ใช้ https://appinventor.mit.edu ช่วยเขียนก็เอาอยู่ เขียนไปเขียนมาเริ่มสนุก เลยเพิ่มฟีเจอร์เล็กๆน้อยๆเข้าไป เพื่อความสนุก เช่น กดแล้วมีเสียง ก็ใช้ iPod Touch อัดเสียงเพื่อนๆที่ทำงานมาใส่ ต้องขอบคุณ พี่ๆน้องๆทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เป็นเสียงดีดนิ้ว ผิวปาก อะไรทำนองนี้ ต้องลองเดาดูว่าเป็นเสียงอะไร เพิ่มกดแล้วสั่น ตอนรายงานผล บอกด้วยว่าค่าที่ได้ปกติหรือผิดปกติหรือไม่ ใช้เวลาเขียนจริงๆไม่นานประมาณ 2-3 ชั่วโมง

วิธีใช้

มันเป็นแอพสำหรับนักเทคนิคการแพทย์ คิดว่าแค่เห็นก็น่าจะใช้เป็นอยู่แล้ว แต่ก็ได้ทำลำดับบังคับอยู่นิดๆว่าต้องทำยังไงก่อน ถ้าไม่กดปุ่มนี้ก่อนก็ทำงานต่อไม่ได้ อะไรประมาณนี้

  1. โหลดโปรแกรมมาติดตั้งก่อน WBCCounter.apk ดาวน์โหลด รับรองความปลอดภัยครับ ไม่มีไวรัส ไม่มีโฆษณา
  2. ติดตั้ง แล้วเปิดแอพขึ้นมา
    แอพพลิเคชั่น WBCCounter

    ใส่ชื่อ subject, reporter อันนี้ไม่ได้บังคับใส่

  3. กด Start ต้องกดก่อน ไม่งั้นปุ่มกดนับจะไม่สามารถกดได้ แล้วเราก็พร้อมนับแล้ว

    WBCCounter เริ่มกดนับได้แล้ว

  4. เมื่อเราดูสไลด์และนับจำแนกไปเรื่อยๆจนครบ 100 ตัว โปรแกรมจะเตือนว่า “ครบแล้วครับ” และไม่สามารถกดปุ่มชนิดของเม็ดเลือดขาวได้อีก จากนั้นกดปุ่ม Report ครับ

    ครบ 100 ตัวแล้ว

  5. หน้าตาของการรายงานผลเป็นแบบนี้ครับ
    รายงานผล

    มีบอกช่วงปกติ ถ้าแสดงสีตัวอักษรเป็นสีแดง แสดงว่ามีค่าที่ผิดปกติไป

  6. กด back กลับไปหน้าที่แล้ว ถ้าจะเริ่มนับใหม่ก็กดปุ่ม Reset และกด Start เพื่อเริ่มนับใหม่อีกครั้ง

พอลองเล่นไปสักพัก ต้องมีเขียนเพิ่มอีกนิดคือ ให้มันมีปุ่มปิดเสียง กับปุ่ม undo ไว้ใช้ตอนกดผิดปุ่ม และชนิดของเม็ดเลือดขาวทั้ง 5  ชนิด จะพบได้ในคนปกติทั่วไป ซึ่งยังมีเม็ดเลือดขาวและเซล์ชนิดอื่นๆที่อาจพบได้ แต่ไม่ได้เอาเข้ามาด้วย ในอนาคตอาจทำปุ่มแยกต่างหากเข้ามาด้วย

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจนะครับ

QRCode WBCCounter

วิธีแก้ไขเมื่อ Find My Mac ขึ้นสถานะ No Location

วิธีแก้ไขง่ายมาก ใครไม่อยากอ่านรายละเอียด เลื่อนลงไปดูด้านล่างเลยครับ

ได้ยินข่าวการจับโจรขโมย iPhone ได้ด้วยการใช้ Find My iPhone/Mac ส่วนใครอยากรู้วิธีการติดตั้ง Find My iPhone/Mac ดูรายละเอียดได้ที่โพสอันเก่า “เปิดการทำงาน Find My Mac และทดลองใช้งาน” จึงทดลองเข้าไปเช็คเครื่องของตัวเองใน iCloud.com ปรากฏว่าที่เครื่อง Macbook ของเราขึ้นเป็น No Location แต่สถานะบอกว่าออนไลน์ สามารถสั่งเตือน สั่งล็อกหรือลบข้อมูลได้ เพียงแต่ไม่สามารถระบุตำแหน่งบนแผนที่ได้ แสดงผลประมาณดังรูปข้างล่าง (รูปของคนอื่น ลืมจับภาพไว้!)

Find My Mac แสดงผลเป็น No Location

ผมพยามแก้ไขด้วยวิธีต่างๆที่เคยทำในโพสวิธีแก้ไขปัญหาจากโพสเก่าข้างบน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ผล เริ่มโทษว่าตัวอัพเดต OSX 10.8.2 ว่ามีบั๊ก ถึงกับวางแผนจะ Reinstall OSX ใหม่อีกรอบแบบ Clean install เลยทีเดียว

แต่ก็พยายามค้นหาข้อมูลของคนอื่นๆที่พบปัญหาเหมือนเรา แล้วก็พบวิธีแก้ไขปัญหาจนได้ ง่ายกว่าที่คิด นั้นคือ

“เปลี่ยนการเชื่อมต่อจาก Ethernet (สายแลน) เป็น Wifi”

แล้วก็ระบุตำแหน่งของเครื่องได้

ปล. แสดงว่าถ้าคนขโมยเครื่องเราไปแล้ว ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสายแลนตลอดก็ระบุตำแหน่งไม่ได้นะสิ แย่จัง!

“ฝนตกที่บ้านนอก” ตัดต่อใน YouTube Video Editor

YouTube Video Editor

ช่วงกลับบ้านที่ต่างจังหวัดได้ถ่ายวีดีโอตอนฝนตกไว้แบบสั้นๆ นึกอยากเอามาตัดต่อรวมกันครับ และก็รู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่า YouTube มีตัวช่วยตัดต่อออนไลน์ให้ใช้ เลยทดลองใช้งานดูครับ ขั้นตอนการทำของผมมีดังนี้ครับ

  1. อัพโหลดวีดีโอทั้งหมดขึ้นไปใน YouTube ซึ่งผมมีอยู่ 4 คลิป แบบความคมชัด 720p ถ่ายด้วย Cannon 600D
  2. เข้าไปที่ https://www.youtube.com/editor ส่วนของ User Interface แสดงให้เห็นดังรูปด้านบนครับ
    เมนู

    ส่วนคำคัญตรงเมนูด้านบนครับ เรียงตามลำดับ ได้แก่ วีดีโอของเรา, วีดีโอของคนอื่นๆที่จะนำมาใช้ได้, ดนตรีประกอบ, Transition และตัวอักษร ต่อไปก็เริ่มตัดต่อได้แล้ว

  3. คลิกลากวีดีโอที่ต้องการตัดต่อลงมาอยู่ในช่อง Timeline ด้านล่าง
  4. คลิกที่วีดีโอตรง Timeline สามารถปรับแต่งได้อีกนิดหน่อย เช่น หมุนวีดีโอ, Contrast, Brightness, Stabilize

    Video Effect

  5. นำเสียงเพลงเข้ามาประกอบ โดยลากเพลงที่ต้องการลงมาด้านล่างของวีดีโอ Timeline ปรับเสียง Balance ระหว่างเสียงในวีดีโอ และเสียงเพลง
  6. ใส่ข้อความประกอบวีดีโอเพิ่มเติมได้
  7. จากนั้นตั้งชื่อ Project แล้วกด Public ได้เลย YouTube จะใช้เวลาสักพักในการ Process เมื่อเสร็จก็นำไปแชร์ได้แล้ว

ผลงานของผมที่ใช้ YouTube Video Editor ตัดต่อออกมา จากไฟล์เริ่มต้นที่เป็น 720p ตัดต่อเสร็จก็เป็น 720p ครับ ชมผลงานได้เลยด้านล่างนี้ครับ

“RAIN AT HOME ” 

รายการที่ทำไป

  • ตัดต่อจาก 4 คลิป
  • ปรับ Contrast, Brightness และ ปรับช่วยกันสั้น (Stabilize)
  • ใส่เพลงประกอบ
  • ใส่ Transition
  • ใส่ข้อความ

การตัดต่อวีดีโอใน YouTube Video Editor ถือว่าใช้งานได้ดีเลยครับ อาจจะมีช้านิดหน่อยช่วงหลังปรับเปลี่ยน Effect และตัวอักษรที่จะใส่เข้าไปในวีดีโอตัวที่เล็กสุดยังรู้สึกว่าใหญ่เกินไปครับ

วิเคราะห์การใช้งาน Facebook ของคุณด้วย Wolfram|Alpha

Wolfram|Alpha เป็นระบบค้นหาคำตอบอัจริยะ มันเก่งขึ้นเรื่อยๆ Siri ของ Apple ก็ดึงข้อมูลบางส่วนจาก Wolfram|Alpha ไปใช้งาน ถ้าอยากรู้จักมันให้ดีขึ้นลองอ่านบทความเก่าๆ ใน Tag  Wolframalpha ได้ครับ ผมเขียนถึงมันอยู่บ้างและก็ได้ใช้งานอยู่เป็นระยะ ความสามารถล่าสุดที่น่าสนใจของ Wolfram|Alpha ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปไม่นาน คือ “Facebook report” ครับ ลองมาดูว่ามันทำอะไรได้บ้าง

Facebook report by Wolfram|Alpha

Facebook report คือการวิเคราะห์การใช้งาน Faceook ของเรา โดยละเอียด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ยกตัวอย่าง ผลการวิเคราะห์

  • ข้อมูลส่วนตัว เกิดวันไหน ปีอะไร อีกกี่วันจะถึงวันเกิดอีกครั้ง
  • Activity ในแต่ละปีที่ใช้งานมา อัตราการโพส แชร์ลิงค์ อัพโหลดภาพ
  • ช่วงเวลาที่ใช้งานมากที่สุดในการโพส คำนวณคำที่ใช้โพส มีคีย์เวิร์ดอะไรเยอะที่สุดในโพส
  • เพื่อนคนไหนคอมเม้นต์ ใครแชร์ในโพสของคุณมากที่สุด
  • อัตราการใช้แอฟพิเคชั่น
  • ภาพไหนที่คุณโพสมีการคอมเมนต์และแชร์มากที่สุด
  • อัตราส่วนเพื่อนผู้หญิง-ผู้ชาย เฉลี่ยเพื่อนคุณมีสถานะอะไรบ้าง (โสด,แต่งงาน ฯลฯ)
  • ช่วงอายุของเพื่อน ใครแก่สุด ใครเเด็กสุด
  • เพื่อนอยู่ในประเทศอะไรบ้าง ใช้ภาษาอะไร ศาสนาอะไร
  • และอื่นๆ

วิธีการใช้งาน

เข้าไปที่เว็บไซต์ Wolfram|Alpha พิมพ์คำว่า facebook report ลงในช่องค้นหา enter

Facebook report

จากนั้นก็คลิกปุ่ม “Analyze My Facebook Data” ซึ่งระบบจะขออนุญาติเข้าถึงข้อมูล Facebook ของเราก็กดยอมรับไป สักพักระบบจะดึงข้อมูลของเราเข้ามา และรายงานผลการวิเคราะห์ให้ได้เห็น

Facebook report

ตัวอย่างการวิเคราะห์บัญชีของผมเอง คิดว่าถ้าเป็นบัญชี Wolfram|Alpha แบบ Professional คงจะได้ข้อมูลที่ละเอียดมากกว่า เพราะเทียบกับข้อมูลจากด้านบนของ Stephen Wolfram ของเขาเป็น account แบบ Pro ได้ข้อมูลการเชื่อมโยงของเพื่อน และอื่นๆที่ละเอียดกว่า

นอกจากนี้ยังสามารถกดแชร์ผลการวิเคราะห์ไปที่ social network อย่าง facebook, twitter, google+, linkedin ฯลฯ ได้ทันที

Share ผลการวิเคราะห์

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.wolframalpha.com/facebook

Exit mobile version