เปิดตัวแล้ว Google TV ทีวีที่เล่นเน็ตได้

Google TV

Google เปิดตัว Google TV ในงาน Google I/O ในวันที่ 2 ช่วงแรกของงานเปิดตัว Android 2.2 Froyo เป็นที่ฮือฮาของผู้ร่วมงาน มีแจก HTC EVO 4G ที่ติดตั้ง Android 2.1 และจะเป็นตัวที่สองรอง Nexus One ที่จะถูกอัพเดตเป็น Android 2.2 Froyo ให้ผู้ร่วมงานทุกคนอีกด้วย ใจปั้มจริงๆ แต่ความสนใจของผมอยู่ที่ Google TV อยากรู้ว่า Google จะไปอยู่ในทีวีได้อย่างไร ขอบันทึกเป็นข้อๆดังนี้ครับ

  • โม้ว่านี้คือการเปลี่ยนแปลงอนาคตของการดูทีวี
  • มีสถิติเกี่ยวกับทีวีของคนอเมริกาที่น่าสนใจดังนี้ ใช้เวลาดูทีวีเฉลี่ยวันละ 5 ชั่วโมง ,มูลค่าโฆษณา 70 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ,ทั่วโลกมีผู้ใช้ประมาณ 4 พันล้าน
  • มีสโลแกนเท่ๆว่า Google TV -TV meets web. Web meets TV คือการเชื่อมทั้งสองเข้าด้วยกัน อยากดูรายการทีวีก็ดูได้ อยากดูเว็บก็เปิดดูได้  ในจอเดียวกัน สโลแกนนี้เคยได้ยินมาแล้วในตอนเปิดตัว Nexus One -Web meets phone (เพื่อนใน twitter พูดถึงผมจำ user ไม่ได้ใครรู้ตัวว่าเป็นคนทวีต แจ้งด้วยครับ)
Google TV : TV meets web. Web meet TV
  • สิ่งที่่ Google TV ทำได้
    ความสามารถของ Google TV

    ดูที่คำเน้นคือ ใช้เวลาค้นหาน้อย เพิ่มเวลาดู ควบคุมและปรับแต่งตามใจ ทำเนื้อหาทีวีของคุณให้น่าสนใจมากขึ้น และอื่นๆ ที่ทีวีทั่วไปทำไม่ได้ (อยากแต่งเป็นกลอนแต่งคิดไม่ออก)

  • ช่วงของการสาธิตการทำงาน ระหว่างเปิดทีวีอยู่นั้น เราสามารถค้นหา รายการทีวีที่เราสนใจโดยพิมพ์คำ ผ่านทางคีย์บอร์ด ลงใน Quick Search box ที่จะโผล่ขึ้นมาด้านบนหน้าจอ ซึ่งจะค้นหาทั้งรายการในทีวีและในเว็บไซต์ด้วยทีวีออนไลน์ เช่น Fox, Hulu, Amazon
    Quick Search box ใช้การ input ผ่านทางคีย์บอร์ด

    ด้านขวาของการค้นหาจะบอกเป็นข้อความสั้นๆว่า รายการที่เราสนใจจะมาเมื่อไหร่ หรือตอนนี้กำลังเล่นอยู่ และค้นหาคำนี้ในเว็บ

    สั่งอัดรายการโปรดได้เลย

    เมื่อค้นพบว่ารายการที่เราสนใจยังมาไม่ถึง สามารถสั่งอัดรายการนั้นในวันเวลาที่กำหนดได้เลย

  • หน้า Home screen ของ Google TV มีเมนู Bookmarks ,Applications และสามารถปรับแต่งส่วนที่ชอบเข้ามาใส่ได้ เช่น วีดีโอจาก Amazon , Netflix

    Home screen ของ Google TV

  • สาธิตเข้าใช้งานเว็บไซต์ Youtube ,Yahoo,Flickr
  • การเปิดใช้งาน youtube บน Google TV

    Yahoo! sport

  • Google TV จะมีอุปกรณ์ต่างๆดังนี้ Google TV box มี WiFi / ethernet built-in สำหรับเชื่อมสัญญาณอินเทอร์เน็ต ช่องต่อสัญญาณ เคเบิลหรือดาวเทียม ต่อเข้ากับทีวีด้วย HDMI พอร์ต มีคีย์บอร์ดและ pointing devices (น่าจะเป็นเมาส์)  ใช้มือถือ Android เป็นรีโมทได้ผ่านทาง WiFi และสามารถใช้เสียงสั่งการค้นหาผ่านทางมือถือได้ด้วย

    ส่วนประกอบของ Google TV

  • ในส่วนของซอร์ฟแวร์ Google TV ทำงานด้วย 3 องค์ประกอบ คือ Android 2.1 ,Google Chrome browser และ Flash 10.1

    Google TV Software

  • Google TV สามารถใช้งาน Applications ของ Android ที่อยู่ใน Market ได้บางส่วน ถ้า apps นั้นไม่ได้กำหนดให้ใช้เฉพาะมือถือได้เท่านั้น เช่น พวกที่ต้องใช้ GPS , กล้อง ฯลฯ แสดงตัวอย่างเมนู Applications

    เมนู Applications

  • Google TV SDK และ APIs จะปล่อยมาให้ใช้เร็วๆนี้
  • แสดงตัวอย่าง Apps สำหรับ Google TV เช่น YouTube app,NBA.com app
  • Google listen & watch ยังอยู่ใน Labs เป็นการรวมวีดีโอแบ่งเป็นหมวดหมู่ไว้ให้เลือกดู และติดตามได้

    Google listen & watch

  • Translation app สามารถแปล subtitle ให้ด้วย อันนี้เยี่ยมเลย
  • Android และ Google Chrome ที่มีการปรับแต่งสำหรับ Google TV จะทำเป็น opensource
  • อุปกรณ์ต่างๆมีพาร์ทเนอร์ช่วยผลิตดังนี้ ทีวี โดย Sony ยัด Blu-ray player มาให้ด้วย ,Logitech ผลิต companion box,ใช้ CPU intel Atom ทั้งทีวีและ box, Dish Network ดูแลสายเคเบิล, Best Buy เป็นคนขาย จะเริ่มขายในช่วงปลายปีนี้ (สิงหาคม-ธันวาคม)
  • กำหนดการต่างๆของ Google TV  เปิด SDK และ APIs ต้นปีหน้า และ Open source หน้าร้อนปีหน้า
  • กำหนดการต่างๆของ Google TV

คลิปแนะนำ Google TV

ไม่อยากวิจารณ์เลย เพราะคาดการณ์ไม่ออกว่าจะปฎิวัติการดูทีวีได้ไหม แต่ที่แน่ๆคือ Google ได้ตลาดใหม่เพิ่มอีกที่ ที่อยู่คู่มนุษยชาติมานาน ดูกันทุกบ้านติดกันงอมแงม แม้เราจะได้เห็น Apple TV ที่เอาไว้ซื้อหนัง ซื้อทีวีโชว์ มิวสิกวีดีโอ มาก่อนก็เถอะแต่ฟังก์ชั่นมันต่างกัน เครื่องเกมที่เล่นเน็ตได้ก็มี แต่นี้คือทีวีที่เล่นเน็ตได้ของจริง อาณาจักรของ Google เริ่มบุกรุกชีวิตประจำวันเรามากขึ้น มือถือ คอมพิวเตอร์ ทีวี และในต่อไปจะเป็นเครื่องครัว เหมาะกับคนอเมริกาที่มีทีวีหลายช่อง bookmark ไว้บ้างคงสะดวก

ที่มา : https://www.engadget.com
https://www.youtube.com/Googledevelopers
https://phandroid.com
https://www.Google.com/tv

Ovi app wizard สร้าง Application สำหรับมือถือ Nokia ง่ายๆไม่ต้องเขียนโค้ด

Ovi app wizard

Nokia Ovi app wizard คือ เครื่องมือการสร้าง Ovi app ของคุณผ่านทางหน้าเว็บ  เพียงไม่กี่นาทีก็เสร็จแล้ว สโลแกนของเขาคือ Fast, Easy, Free นอกจากนั้นสามารถส่งขึ้น Ovi store ได้เลยทันที ตั้งราคาเองได้ด้วย  โปรแกรมที่สร้างขึ้นนั้นจะเป็นโปรแกรมดึง feed ของเว็บเราไปแสดงเท่านั้น

ผมเรียงขั้นตอนการทำง่ายๆมาให้ดูกันครับ

  1. เข้าไปที่เว็บ https://oviappwizard.com สมัครสมาชิก ให้เรียบร้อย
  2. ล็อกอินเข้าใช้งาน จะเจอหน้า Dashboard เรียงเมนูดังรูป
    Dashboard

    ด้านล่างเป็นเป็น App ที่ผมลองทำดูชื่อ Biomed.in.th เป็น app ดึงเนื้อหาจากเว็บดังกล่าวมาแสดง ทดลองส่งให้ Ovi store ตรวจสอบแล้ว

  3. คลิกเลือก Build a new application เพื่อที่จะสร้าง app ใหม่ ใส่ที่อยู่ feed ของเว็บเราเข้าไปในช่องให้กรอก ใครใช้ WordPress อยู่ก็เติม /feed หลัง url ของเว็บเรา ตัวอย่างเว็บผม https://www.amphur.in.th/feed
    Ovi app wizard step 1/4

    เมื่อใส่ url เสร็จแล้วก็กด preview ทางด้านขวาจะเป็นตัวอย่างการแสดงผลของ app ที่ดึงเนื้อหาจาก feed มาแสดง เราสามารถใส่ feed เพิ่มได้อีก 3 อัน เมื่อใส่ไปแล้วมันจะเป็น เมนู drop ให้เลือกด้านบน

    เพิ่ม url ของ feed จะมีเมนู drop ให้เลือกด้านบน

    เมื่อใส่ url ของ feed ตามที่ต้องการเสร็จแล้วก็คลิก Next step

  4. ส่วนถัดมา step ที่ 2 จะเป็นการใส่รายละเอียดเพิ่มเติม เช่น logo , icon ของ app สีพื้นหลัง อันนี้ปรับแต่งตามใจชอบครับ
    Customise your app

    แนะนำให้ทำรูปให้ตรงตามขนาดที่เขาแนะนำครับ ภาพจะได้ไม่ยืดผิดรูปไป และเลือกภาษาของ App เป็นตามที่เราต้องการ เว็บผมเป็นภาษาไทย เลยต้องเลือกภาษาไทย เสร็จแล้วคลิก Next step

  5. ถัดมาจะมีคำถามให้เราติ๊กเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของ app ว่าเนื้อหาภายใน app เป็นของเราแน่นะ ขายได้แน่นะ และเนื้อหาเป็นไปตามระเบียบ ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดศิลธรรม ไม่ผิดลิขสิทธ์ ถ้าไม่แน่ใจอ่าน Guidelines ดูก่อนได้

    ตรวจสอบความถูกต้อง

  6. ขั้นตอนถัดไปจะเป็นถามว่า จะให้โฆษณาแสดงที่ app ของคุณหรือไม่ อันนี้น่าใจว่า Nokia มีโฆษณาในมือถือด้วย แต่เรายังไม่มี ID ของโฆษณา และไม่อยากเอาเข้ามาด้วย แต่มันอนุญาติให้เราข้าม step นี้ไปได้ ก็คลิก Next step ไป

    ตำแหน่งของโฆษณา จะอยู่ด้านล่างของจอ

  7. ส่วนสุดท้ายจะเป็นการใส่คำอธิบายรายละเอียด แนะนำ app ที่ทำขึ้น ตอนทำครั้งแรกจะมีให้แนะนำ publisher ด้วย
    App description

    อันนี้เป็นตัวที่สองที่ผมลองทำมันเลยไม่มีช่องรายละเอียดนั้นให้ใส่ เลือกหมวดหมู่ของ app และมีให้ตั้งราคาของ app ที่ทำขึ้นด้วย ราคาสูงสุดคือ 5 EUR แต่ของเราไม่มีอะไรมาก ก็ต้อง Free อยู่แล้ว

  8. เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จะกลับมาที่หน้า Dashboard
    สร้างเสร็จแล้ว ตรวจสอบและรองรันดู

    App ใหม่ที่เราสร้างขึ้นมาก็ปรากฏขึ้นมา มีให้เราลองตรวจสอบรันดูผ่าน Emulator ก่อน ว่าเป็นไปตามที่ต้องการ ถ้าไม่พอใจก็คลิก Edit เข้าไปแก้ไข เมื่อทุกอย่างโอเค ก็คลิก Submit to Ovi store ให้เขาตรวจสอบ และรอว่าจะผ่านไหม

มันง่าย เร็ว ฟรี ที่จริงถึงผมไม่เขียนละเอียดขนาดนี้เชื่อว่าทุกคนน่าจะทำได้ มันเหมือนลงโปรแกรมอะไรสักอย่างคลิก next ไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เสร็จเอง มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ตอนนี้คิดว่าอาจจะทำให้ Ovi Store มี App เพิ่มขึ้น แต่มันจะเป็นขยะไปหรือปล่าวก็ไม่รู้ แต่ที่น่าสนใจคือมีโฆษณาใน app ด้วย ถ้าใครทำเนื้อหาดี มีคนโหลดไปใช้เยอะ น่าจะเป็นที่ทำเงินอีกที่เลยทีเดียว โฆษณาในมือถือตอนนี้ทุกเจ้า Apple ,Google,Nokia กระโดดเข้ามาทุกเจ้าแล้ว สุดท้าย ใครสนใจอยากมี App เป็นของตัวเองแบบง่ายๆ เร็วๆ เข้าไปลองเล่นดูครับ ผมว่าไม่ถึง 10 นาทีเสร็จ

App ที่ผมส่งให้พิจารณาและผ่านให้ขึ้น Ovi Store แล้วครับ

อ้างอิง : https://oviappwizard.com

iPhone OS 4.0 มี multitasking แล้ว แต่รุ่นเก่าใช้ไม่ได้

iPhone OS 4

Apple เปิดตัว iPhone OS 4.0 วันพฤหัสบดี ที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา มีการเพิ่ม feature ใหม่กว่า 100 รายการ และ 1,500 APIs ตัวเด่นของ iPhone OS 4.0  steve jobs เรียกมันเป็น tentpoles มีอยู่ 7 อัน

  1. Multitasking : multitasking มีปัญหาทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วและความสามารถในการทำงานลดลงเหมือนเปิดโปรดแกรมหลายๆตัวต้องแบ่งทรัพยากรไปให้ตัวอื่นด้วย แต่ Apple บอกว่าเราสามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้  ด้วยขุมพลังของ 7 APIs
    – Background Audio : โปรแกรมที่ใช้เสียงก็เรียกใช้มัน แสดงตัวอย่าง Pandora ฟังเพลงอยู่ ก็ไปเปิดดูเว็บได้
    -Voice over IP : โปรแกรม Skype โทรไปเล่นเว็บไปได้เลย
    – Background Location : โปรแกรมนำทางดังๆอย่าง Tomtom เปิดไว้แล้วฟังเพลง ก็ส่งเสียงขึ้นมาให้เลี้ยวได้
    -Push notification : การแจ้งเตือนจากผู้ให้บริการ จะถูกส่งไปที่  server ของ Apple ก่อนแล้วค่อยเข้ามาที่เครื่อง
    -Local notification : การแจ้งเตือนเองในเครื่องเช่นปฎิทิน ตารางเวลา
    -Task Completion : ทำงานที่ค้างให้เสร็จก่อนปิดตัว
    -Fast App Switching : เก็บข้อมูลของโปรแกรมไว้ เวลาเปลี่ยน Apps ใช้งานจะเรียกได้เร็วขึ้น
    iPhone OS 4.0 : Multitasking APIs

    การเรียกใช้งาน เพื่อเปลี่ยน apps อื่นที่รันอยู่ กดปุ่ม home ต่อเนื่องสองครั้ง feature นี้ใช้ได้เฉพาะ iPhone 3GS กับ iPod Touch ตัวล่าสุด

    iPhone OS 4.0 -Multitasking

  2. Folder : สามารถสร้าง Folder ขึ้นมาแล้ว ลาก apps ต่างๆเข้าไปอยู่ภานใน เป็นการแยกกลุ่ม apps ให้เป็นหมวดหมู่ง่ายต่อการเรียกใช้งาน ยัดเข้าไปได้มากกว่า 2000 apps

    iPhone OS 4.0 - Apps Folder

  3. Enhanced Mail : สามารถเพิ่มหลายบัญชีเข้าไปได้  รวมกล่องจดหมายแต่ละบัญชีในหน้าเดียวกัน (ดังรูป) แสดงข้อความแบบ thread เหมือนใน Gmail รวมอีเมลในหัวข้อเดียวกัน เปิดไฟล์ที่แนบมาด้วยได้

    iPhone OS 4.0 : Unified inbox

  4. iBooks : ขายหนังสือ เมื่อมีการสั่งซื้อผ่านทาง iBooks จะ Sync ไปอ่านได้ทั้งใน iPad/iPod/iPhone

    iPhone OS 4.0 : iBooks

  5. Enterprise features: มี Exchange accounts ได้หลายบัญชี เพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล ใช้ Exchange Server 2010 ได้ และรองรับการใช้ VPN

    iPhone OS 4.0 : Enterprise

  6. Game Center: มันคือ social gaming network เล่นกันหลายคน เหมือน Xbox Live ของ microsoft ชวนเพื่อนได้ จัดการแข่งขันได้ พูดคุยกัน แนะนำเกม

    iPhone OS 4.0 : Game Center

  7. iAds : mobile advertising การทำโฆษณาในมือถือ Apple พลาด AdMob ไป แต่คราวนี้ทำขึ้นมาเองเลย ใน Apps store มีโปรแกรมฟรีเยอะมาก สามารถใส่โฆษณาในนั้นได้  โฆษณาจะมี Emotion และ interactive ด้วยความสามารถของ HTML5 Apple จะเป็นคนขายโฆษณาเมื่อมีรายได้จะให้นักพัฒนา 60% ของรายได้ที่ได้มา เป็นการตลาดที่น่าสนใจมาก

    iPhone OS 4.0 : iAd

iPhone OS 4.0 สำหรับ iPhone กับ iPod Touch จะออกประมาณกลางปี ส่วนสำหรับ iPad จะมาประมาณปลายปี ตอนนี้สำหรับนักพัฒนาสามารถดาวน์โหลด iPhone 4.0 beta SDK  ได้แล้ว ที่เว็บของ Apple  ย้ำอีกที multitasking มีเฉพาะใน iPhone 3GS กับ iPhone Touch ตัวล่าสุดเท่านั้น ส่วน feature อื่นสามารถใช้ได้ปกติ

ข้อมูล : https://www.engadget.com , https://www.downloadsquad.com

วิธีติดตั้ง Windows Phone 7 Emulator แบบ unlock

Windows Phone 7 Series เปิดตัวไปได้สักพักแล้ว รายละเอียดเขียนไว้แล้ว รีวิว Windows Phone 7 Series Microsoft ได้ปล่อยชุดพัฒนาให้ดาวน์โหลดกันแบบฟรี แต่ไม่นานก็มีคนเจาะระบบ Emulator ให้แสดงโปรแกรมทั้งหมดที่ถูกซ่อนไว้ ซึ่ง default มีแค่ Internet Explorer แต่ Microsoft ก็ออกมาพูดว่าไม่ได้แปลกใจมากนักเพราะคิดว่าอาจต้องเกิดขึ้น มาดูวิธีการติดตั้งตัว Emulator ง่ายมาก เพราะเขาเตรียมทุกอย่างให้เราแล้ว

ขั้นตอนการติดตั้ง

  1. ดาวน์โหลด Windows Phone Developer Tools CTP แล้วติดตั้งให้เรียบร้อย
  2. ดาวน์โหลด dump ไฟล์ที่เขาทำไว้ให้ ดาวน์โหลดตามลิงค์มีให้เลือก 6 เว็บ
  3. แตก zip ไฟล์ออกมาจะได้ชื่อไฟล์ WM70Full.bin เปลี่ยนชื่อเป็น WM70C1.bin
  4. เอาไฟล์ WM70C1.bin ที่ได้จากข้อ 2 เอาไปวางไว้ที่ C:\Program Files\Microsoft SDKs\WindowsPhone\v7.0\Emulation\Images  (ควรเปลี่ยนชื่ออันเก่าที่มีอยู่แล้ว จะได้ไม่ทับของเก่า)
  5. เสร็จเรียบร้อยพร้อมใช้งาน

การทดลองเข้าใช้งาน Windows Phone 7 Emulator

  1. เปิดโปรแกรม Microsoft Visual Studio 2010 Express for Windows Phone
  2. สร้าง New Project >>เลือก Windows Phone Application Visual C#

    Windows Phone Application

  3. เลือกเมนู Debug >>Start debugging  หรือกด F5 ก็ได้

    Windows Phone Application debugging

  4. Emulator พร้อมเล่นแล้วครับ ตัวควบคุมหมุนซ้าย หมุนขวา ย่อขยาย อยู่มุมขวาของหน้าจอมือถือ
Windows Phone Emulator
ตัวอย่างหน้าต่างๆ ของ Windows Phone Emulator ที่ Unlock แล้ว

จากการทดลองเล่น IE เล่นได้ดี แต่ ในส่วน setting people เพื่อดึง contact ของ Facebook ,Windows Live, Yahoo ไม่สามารถใช้งานได้ ปัญหานี้ทราบมาจาก @markpeak คิดว่าคงทำออกมายังไม่สมบูรณ์

ขอให้สนุกกับ Windows Phone Emulator ครับ

อ้างอิง Mobile Development และ XDA-Developers

รีวิว Windows Phone 7 Series

Windows Phone 7 Series

Windows Phone 7 Series เปิดตัวในงาน Mobile World Congress 2010 เมื่อ 14-17 กุมภาพันธ์ 2010 ที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน ครั้งแรกที่ได้ดูคลิปแสดงการทำงานของมัน ผมรู้สึกทันทีว่า มันสวย และเทห์มาก มันดูแตกต่างจากมือถือที่ได้รับอิทธิพลจาก iPhone ต่างจาก smart phone ในตลาดตอนนี้ ที่จะเห็นหน้าแรกเป็นปุ่มของ Apps ต่างๆ เรียงกัน มันคือ UI ที่โดน iPhone ครอบงำอยู่ แม้แต่ Android ก็ใช่ แต่ครั้งแรกที่ได้ดู Windows Phone 7 Series ผมว่ามันแตกต่างออกไป  ไม่โค้งแต่เป็นเหลียม text มีหลายขนาด คล้ายกับเล่น Windows Media ใน Windows 7 ที่อยู่ใน Desktop

Windows Phone 7 Series

จุดแข็งอีกอย่างที่ถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจมากคือการรวม Zune กับ Xbox LIVE ที่มีสมาชิกอยู่ราว 23 ล้านคนเข้ามาด้วย ผมจึงเดาว่ามันน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆของทั้ง Zune และ Xbox แน่นอน และยังมีผู้ใช้ Windows ใน PC อีกที่อยากได้ Office ในมือถือด้วย ทั้งเกม เพลง Office มันจะตอบโจทย์เรื่องพวกนี้ได้ดียิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับ Windows Mobile รุ่นก่อน  อีกอย่างที่คิดว่าจะรองรับแน่คือ Silverlight ส่วน Flsah ยังไม่แน่นอนอาจจะรองรับด้วยก็เป็นได้

ลองเข้าไปดูที่เว็บ https://www.windowsphone7series.com พบว่าใช้ Silverlight ทั้งเว็บ(ถ้ามือถือไม่รองรับจะเข้าไปดูเว็บตัวเองได้ไง) เมื่อดูการทำงานของมัน ผมยิ่งชอบ UI ของมันขึ้นมาอย่างจับใจ

มาดูส่วนต่างของ Windows Phone 7 Series เขาแยกเป็น Hubs

  1. People hub : สามารถดึง Contact จาก Gmail, Exchange, Facebook, Twitter, Windows Live และอื่นๆอีก พร้อมดูการอับเดตสถานะต่างๆของเพื่อนผ่านทาง social network ต่างๆ

    People : Windows Phone 7 Series

  2. Pictures hub: ส่วนของการเก็บรูปที่ถ่ายเอง , รูปจาก Facebook ,จาก Windows Live หรือจาก gallery อื่นๆ( Flickr ,Picasa) และสามารถอับโหลดขึ้นเว็บที่ hub นี้ได้เลย

    Picture : Windows Phone 7 Series

  3. Games hub: รวมเอา Xbox LIVE เข้ามาด้วย,ดึงเอา avatar ของคุณที่อยู่ Xbox LIVE มาแสดง , มีการแสดง Spotlight feeds,เรียกดู Profile ของเกมที่สนใจ แต่ Microsoft ยังไม่ได้โชว์การเล่นเกมให้ดู จึงยังไม่ทราบถึงความสามารถของมันว่าทำได้แค่ไหน (ในใจผมคิดถึง PSP ของโซนี่)

    Games : Windows Phone 7 Series

  4. Music + Video hub: มันคือ Zune HD ที่อยู่ในมือถือ, รวมถึง browser ท่องเว็บ , การโหลดเพลง วีดีโอ ผ่านทาง WiFi หรือ 3G  แต่ยังไม่ชัดเจนในเรื่องของการติดต่อกับ  desktop, Xbox หรือ Media Center อาจมีการดึง Pandora ที่เป็นพาร์ทเนอร์ มาช่วยในจุดนี้ด้วย

    Music+Video : Windows Phone 7 Series

  5. Marketplace hub: การแสดงผลในหน้าของ Application เน้นไปที่รูปภาพ ไม่รก สบายตา  และยังไม่เปิดเผยว่า Apps ที่รันบน Windows mobile จะสามารถทำงานได้ใน Windows Phone 7 Series หรือไม่ และดูเหมือนว่า Microsoft จะให้ความสนใจ Apps ที่งานบน Zune และ Xbox LIVE มากกว่าด้วย

    Applications : Windows Phone 7 Series
    Marketplace : Windows Phone 7 Series
  6. Office hub: นี้คือจุดแข็งของ Windows Phone 7 Series สำหรับคนที่ต้องการเปิดอ่าน แก้ไข เอกสาร มันตอบโจทย์คนเหล่านี้ได้แน่นอน ผมคิดว่าคนกลุ่มนี้มีเยอะด้วย ถือได้ว่าเป็นอีกจุดที่ทำให้ Windows Mobile รุ่นก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จเลยทีเดียว

    Office : Windows Phone 7 Series

  7. ส่วนอื่นที่น่าสนใจ Bing Maps , Bing search , Internet Explorer: Microsoft บอกว่ามันเป็นตัวใหม่ที่เหมือน IE บน Desktop ไม่ใช่ IE บน Windows Mobile หรือ Zune

    Bing Search: Windows Phone 7 Series

  8. Partners and developers มากันเพียบ  Dell, Garmin-Asus, HTC, HP, LG , Samsung, Sony Ericsson, Toshiba , AT&T, Deutsche Telekom AG, Orange, SFR, Sprint, Telecom Italia, Telefónica, Telstra, T-Mobile USA, Verizon Wireless ,Vodafone เจ้าใหญ่ๆมากันหมด แต่สิ่งที่หายไปคงไม่ได้เห็น Sense UI ของ HTC บน Windows Phone 7 Series

    Partners and developers

spec ขั้นต่ำของเครื่อง Windows Phone 7 Series (เป็น spec ของตัวต้นแบบ)

  • Large WVGA screen
  • เครื่องมี 5 ปุ่ม คือ  Start, back, search , camera,  power
  • Capacitive multitouch
  • ต้องการทั้ง CPU และ  GPU ( ตัวต้นแบบใช้ Qualcomm’s Snapdragon 1 GHz )
  • WiFi
  • AGPS
  • Accelerometer
  • FM radio
  • High resolution camera

วีดีโอ Windows Phone 7 Series
https://www.youtube.com/watch?v=7IOTrqlz4jo

หลายครั้งที่ Microsoft ออกอะไรมาแก้ตัวให้กับสิ่งที่ผิดพลาดก่อนหน้าได้ดีอยู่เสมอ เห็นได้ชัดอย่างเช่น Windows Vista โดนบ่นจากผู้ใช้งานมากมาย แล้ว Microsoft ก็ออก Windows 7 ออกมาแก้ตัวได้รับการชื่นชมมากมาย อีกครั้งที่ Microsoft ออก Windows Mobile 6.5 ออกมาหลายคนบอกว่ามันไม่ต่างอะไรมากมายจากรุ่นก่อนๆ หรือนี้จะเป็นการแก้ตัวอีกครั้งของ Microsoft ที่ต้องการแย่ฐานลูกค้ากลับมาอีกครั้ง แต่หลายคนออกมาพูดว่าเมื่อมันเป็น OS ตัวใหม่ที่ไม่ได้อิงตัวเก่าเลย สิ่งที่จะตามมาคือ bug จำนวนมาก อาจจะต้องใช้เวลาสักพักในการแก้ไข กว่าจะเข้าทีเข้าทาง

ส่วนตัวผมมองว่ามันน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างแน่นอน จากฐานแฟนๆ ของ  Xbox ,Windows Mobile เก่า,Zune และผมก็ชอบมันมาก

ข้อมูลจาก https://www.engadget.comhttps://www.windowsphone7series.com/

Google buzz is not supported in symbian s60

Google buzz in symbian s60 3rd

เอา Nokia  N76 ที่เป็น Symbian s6o 3rd เปิดไปที่  https://m.Google.com/buzz ได้ผลดังรูปครับ  Symbian ลูกเมียน้อย

โปรแกรมฟรีที่น่าใช้ใน Nokia S60 3rd

โปรแกรมที่ผมติดตั้งลงมือถือ แล้วชอบ ก็เลยเอามาบอกต่อ ให้คนอื่นๆได้ลองทดลองใช้ดูครับ โปรแกรมฟรีดาวน์โหลดไปติดตั้งได้เลย

  1. jibjib เป็นโปรแกรมเล่น twitter ตัวเวอร์ชั่น beta ทำอะไรได้เกือบจะทุกอย่าง ใส่รูป ใส่ location
    ข้อดี คือโหลดเร็ว ทวีตง่าย ดึงข้อมูลจากเน็ตมาน้อย
    ข้อเสีย คือไม่ค่อยสวย

    jibjib

  2. PG โปรแกรมอับโหลดภาพ วีดีโอขึ้นเว็บ และสามารถเชื่อมกับตัวอื่นๆได้ด้วย ทั้ง facebook ,twitter,picasa,hi5,flickr,youtube
    ข้อดี คือ สามารถอับโหลดได้ทั้งภาพและวีดีโอ และมี location ติดไปด้วย และsync กับตัวอื่นๆได้ง่าย
    ข้อเสีย คือ เนื่องจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเครือข่ายเยอะ จึงต้องระวังเรื่องเงินด้วยถ้าไม่ได้สมัคร unlimited และต้องใช้พลังงานสูงด้วยแบตเตอรี่อาจหมดเร็วด้วย

    playground

  3. Google Mobile โปรแกรมใช้ Google Apps ผ่านมือถือ ที่จะมีทั้ง Search ,Gmail,Youtube,Picasa,Maps, etc.
    ข้อดี คือ ตัวที่ผมชอบมากคือ Latitude ที่มีสามารถนำทางได้บอกขั้นตอนการเดินทางด้วยรถสถานะหรือรถส่วนก็ได้ มีสัญญาณจราจรบอกด้วย สั่งเสิร์ชด้วยเสียงก็ได้ เจ๋งมาก
    ข้อเสีย คือ แปลกหน่อยที่ไม่มีลิงค์ Google Docs ข้างใน

    Google-apps-mobile

  4. Opera Mini 5 Beta โปรแกรมเปิดเว็บ ในมือถือที่แสดงหน้าเว็บได้สมบูรณ์มาก ที่จริงมี Opera Mobile ด้วยซึ่งพอลองใช้ดูรู้สึกว่าโหลดเร็วกว่านิดหน่อย แต่พิมพ์ไทยไม่ได้ เลยตัดสินใจเลือกตัว mini ดีกว่า
    ข้อดี คือ แสดงหน้าเว็บได้สมบูรณ์มาก พิมพ์ไทยได้สบาย ใช้งานง่าย
    ข้อเสีย คือ ตอนโหลดเข้าโปรแกรมครั้งแรกอาจจะช้านิดๆเท่านั้นเอง

    Opera mini 5 beta

  5. LekLekDict โปรแกรม Dictionary Thai<->Eng แปลไทยเป็นอังกฤษ หรือจะแปลอังกฤษเป็นไทยก็ได้
    ข้อดี คือ สามารถใส่ภาษาอังกฤษ หรือภาษาไทยได้ในช่องเดียวกัน ผมชอบมาก
    ข้อเสีย คือ ถ้าเขียนคำผิดจะไม่มีการค้นคำใกล้เคียงให้ แต่จะขึ้นเป็น eror ว่าไม่มีความหมาย

    LekLekDict

  6. ScreenSnap โปรแกรมจับภาพหน้าจอมือถือ ภาพต่างที่เห็นเป็นผลงานของมันล่ะ
    ข้อดี ใช้งานง่าย สามารถตั้งปุ่ม shortcut ในจับภาพได้แล้วแต่ชอบ
    ข้อเสีย ภาพที่ได้อาจจะละเอียดในระดับหนึ่งเท่านั้น

    Screensnap

  7. Upcode โปรแกรมอ่าน barcode
    ข้อดี คือ ทำให้เราอ่านรายเอียดภายใน Code ได้
    ข้อเสีย คือ ในรายละเอียดของโปรแกรมสามารถอ่านได้ทั้งโค้ด แบบ 3D 2D แต่ที่เครื่องผมอ่านได้แค่ 3D ถ้ากล่องมือถือไม่ดีต้องใช้ barcode ที่มีขนาดใหญ่จึงจะอ่านได้

    Upcode

  8. Mail for Exchange เอาไว้ Sync รายชื่อกับ Google Contacts และ Calendar
    ข้อดี คือ สามารถเก็บรายชื่อเบอร์โทรไว้ได้
    ข้อเสีย คือ ถ้าข้อมูลมีเยอะอาจใช้เวลานานในการ Sync แต่มันก็เป็นเรื่องปกติ

    Mail for Exchange

  9. Nokia Photo Browser โปรแกรมดูรูปในมือถือแบบ 3D สวยดีครับดูแบบเพลิน
    ข้อดี คือ เป็นการนำเสนอภาพในมุมมองที่น่าสนใจยิ่งขึ้น
    ข้อเสีย คือ โหลดรูปช้านิดๆ ไม่ถึงกับช้ามาก

    Nokia Photo Browser

โปรแกรมที่นำมาแนะนำเป็นโปรแกรมฟรีทั้งหมดเลยครับ ขอให้สนุกกับมือถือของคุณ

การติดตั้ง Google Sync ในมือถือ Nokia (S60) เครื่องหาย เบอร์ไม่หาย

ปีใหม่ได้ของขวัญเป็น Nokia N76 เป็นเครื่องเก่าของพี่สาว ส่วนเจ้าตัวเขาออกตัวใหม่เป็น Nokia 5530 XpressMusic แต่ก่อนใช้ มือถือที่มีฟังชั่นแค่ โทรออก-รับสาย ข้อความ เท่านั้นเอง ประสาคนมีรายได้น้อย พอได้ตัวนี้มาเลยขอเล่น(ศึกษา)มันสักหน่อย

Spec โดยคร่าวๆของ Nokia N76 เป็น Symbian  9.2, S60 3rd Edition Feature Pack 1 มือถือเก่าแต่รองรับ 3G ด้วยนะ

ตอนนี้ผมจะแนะนำวิธีการติดตั้ง Google Sync กับเจ้า N76 ซึ่งรุ่นอื่นๆก็สามารถทำได้ถ้าใช้ S60 หลายคนคงทำได้อยู่แล้ว งั้นเอาเป็นว่าเป็นการบันทึกของผมแล้วกัน

Google Sync ทำแล้วได้อะไร?

  1. Contacts Sync : เก็บรายชื่อเพื่อน พร้อมเบอร์ อีเมลล์
  2. Calendar Sync : เอาปฎิทินต่างๆลงมือถือ

ประโยชน์ที่เห็นอย่างชัดเจนเลยคือ โทรศัพท์หาย เบอร์โทรไม่หาย หรือเวลาเปลี่ยนมือถือ การถ่ายโอนเบอร์จากเครื่องเก่ามาเครื่องใหม่สะดวกมากขึ้น ปกติถ้าเป็น Nokia ด้วยกันทำได้ง่ายมากผ่าน Bluetooth แต่ถ้าเป็นคนละยี่ห้ออันนี้อาจลำบากหน่อย แต่มีเรื่องที่เสียดายนิดหนึ่งคือไม่รองรับ Gmail Sync แต่ผมว่าไปใช้ Gmail app ก็สะดวกกว่าเป็นไหนๆ สรุปแล้วตัวเบอร์โทรสำคัญสุด แต่อันที่จริง Nokia เองก็มี Ovi Sync เหมือนกัน ง่ายด้วย  แต่เผื่ออนาคตซื้อมือถือที่ไม่ใช่ Nokia ก็สามารถ Sync กลับมาได้ก็แล้วกันครับ

ขั้นตอน

  1. มือถือต้องเล่นเน็ตได้นะ ที่สำคัญเลือกเป็นแบบ unlimited ดีสุด ของผมสมัครรายวันแบบ unlimited 39 บาท สมัครเฉพาะวันที่อยากเล่น (true)
  2. ติดตั้ง Mail for Exchange application จะดาวน์โหลดไปติดตั้งเอง หรือจะโหลดผ่าน Ovi store ก็ได้

    Mail for Exchange Application

  3. ติดตั้งเรียบร้อยแล้วก็เข้าใช้งานโปรแกรม เพื่อตั้งค่าการ sync เข้าไปที่ Sync mode แล้วคลิกเลื่อนเพื่อตั้งค่าแต่ละหมวด
    Connection setup

    Connection

    • Exchange Server: m.Google.com
    • Secure Connection: Yes
    • Access Point: แล้วแต่ใช้ sim ของเจ้าไหนครับ ของผมเป็น True GPRS 2.Inet
    • Sync while roaming: Yes,always <<แล้วแต่คุณนะครับ
    • Use default port: Yes
      Credential setup

    Credentials

    • Username: ใส่อีเมลล์เข้าไปครับ เช่น Sarapukdee@gmail.com
    • Password: password ของเมลล์
    • Domain: m.Google.com <<ว่างไว้ก็ได้

      Sync schedule setup

    Sync schedule

    • Peak sync schedule : อันนี้สำคัญนะเป็นการเลือกว่าจะให้ Sync ทุกๆกี่นาที กี่ชั่วโมง ผมเลือก Manual ไว้ เมื่อไหร่อยาก Sync ค่อยมากดเอง สบายใจกว่า เดี๋ยวอาจงงว่าตังค์หายไปไหน

      Calendar

    Calendar

    • Synchronize Calendar: Enable
    • Sync Calendar back: 2 week จะให้ย้อนไปกี่สัปดาห์
    • Initial Sync: เลือก keep items on phone ปลอดภัยสุด

    Tasks

    • ไม่รองรับใน S60 ขอข้ามไปเลย เลือกค่า default ไว้

    Contacts

    Contacts

    • Synchronize Contacts: Enable
    • Initial Sync: keep items on phone

    E-mail

    • ไม่รองรับใน S60 ที่จริงไปใช้ IMAP access ก็ได้แต่ไม่ค่อยดี แนะนำให้ใช้ Gmail App ดีกว่า

    Save ค่าต่างๆให้เรียบร้อย

  4. เมือตั้งค่าเสร็จแล้ว กด Back กลับมาที่หน้าหลักแล้วกดมาที่ Options>>Synchronize ช้าเร็วขึ้นอยู่กับจำนวนและเครือข่าย

    Synchronize

  5. เรียบร้อยข้อมูลที่ contact ,calendar บนเว็บ กับมือถือก็จะเหมือนกันแล้วครับ
Contacts

Calendar

ตอนต่อไปผมจะแนะนำโปรแกรมที่ผมทดลองใช้ดูแล้วใน S60 3rd แล้ว รู้สึกชอบมาให้ดูกันครับ

อ้างอิงข้อมูล : https://www.Google.com/mobile/sync/

Nexus One:Google ลงมาทำมือถือขายเองทำไม?

Google Phone Nexus One

Spec ของ Google Phone Nexus One

  • Android 2.1
  • Qualcomm Snapdragon 1GHZ.
  • หนา 11.5mm
  • 512MB RAM, 512MB ROM, 4GB microSD เพิ่มได้สูงสุด 32GB
  • 5 megapixel camera มีทั้ง AF และ LED flash
  • HSPA 900 / 1700 / 2100, 7.2Mbps
  • จอ 3.7-inch WVGA AMOLED display

Google ลงมาทำมือถือขายเองทำไม?

ลองมาคิดกันว่า Google จะได้อะไรจากการขายมือถือเอง ทั้งที่ตอนประกาศทำ Android บอกว่าจะไม่ทำไว้ขายเองแต่จะแจกจ่ายให้พันธมิตรนำ OS นี้ไปลงมือถือขายเองได้เลย ทั้งยังเปิดโอกาสในสามารถทำ App Store กันเองได้ด้วย เริ่มจะเห็นหลายเจ้าแล้วที่เปิด Android App Store ของตัวเอง  ตอนนี้ราคาของ Nexus One ยังไม่ออกมาแต่หลายสำนักบอกว่าราคาไม่ได้ถูก แต่จะมีทั้ง Unlock และผูกสัญญา น่าจะเป็น T-mobile เช่นเดียวกับตอนเปิดตัว G1 แสดงว่า Google ไม่ได้คิดที่จะทำมือถือที่ราคาถูกออกมาให้เราๆท่านๆในระดับรากหญ้าได้ใช้กัน อย่างที่คิดไว้ตอนแรก หรือ Google มองว่า พันธมิตร ทำออกมาไม่ได้ดั่งใจ ไม่ถูกใจ ไม่โดน สู้เจ้าตลาดอย่าง iPhone ไม่ได้ แต่ในความคิดผม Motorola Droid พอฟัดกับ iPhone ได้เลย และเหมือนจะได้รับการตอบรับอย่างดีด้วย

ในตลาดตอนนี้ Android ผุดออกมาเรื่อยๆในปีหน้ามันจะมีอยู่เกลื่อนแผง และราคาน่าจะถูกดึงให้ต่ำลงกว่านี้ ทั้งๆที่ได้รับการตอบรับมากมายกขนาดนี้ Google มองว่ายังไม่พอตามที่คิดไว้หรือ? ถ้ามองไปที่เครื่องที่ spec ของเครื่อง Nexus One ทั้งบางและมีเซนเซอร์ต่างๆสมบูรณ์ spec นับได้ว่าดีที่สุดในตอนนี้เลย งั้น Google พยายามทำมาตรฐานของมือถือของ Android ระดับเทพ ว่าถ้าจะทำต้องทำแบบนี้ แล้วก็ทำแบบ unlock ขายกันทั่วโลกแบบไม่กั๊ก ให้คนเข้าถึง Android ให้มากขึ้น อารมณ์ของคนใช้ ที่ได้ใช้ของจากต้นตำรับผู้ผลิตอาจจะแฮปปี้กว่าพันธมิตรที่ออกขายมาก่อนหน้านี้ และอีกอย่างถ้าเครื่องที่สมบูรณ์และมีเครื่องมือครบถ้วนเท่าที่มือถือเครื่องหนึ่งจะมีได้เยอะขนาดนี้แล้ว นักพัฒนาจะสามารถดึงความสามารถของ Android ออกมาเทียบชั้น iPhone ได้อย่างทัดเทียมหรือดีกว่าได้ไหม?

เขียนไปเขียนมาพอคิดว่า Google คิดว่าตัวเองมีศักยภาพเหลือเฟื่อที่จะลงมาทำเองขายเองได้ และบอกให้ชาวโลกรู้ว่า Android มันเทพแค่ไหนอยากได้อะไรก็ยัดเข้ามาแล้วมีนักพัฒนาของตัวเองขั้นเทพอยู่แล้วก็ทำมันออกมาตามต้องการได้เลย และ Andriod มันต้องเข้าถึงคนได้ทั่วโลกได้ง่าย สรุปว่า Google อยากมี Android Phone Reference ให้กับนักพัฒนาและผู้ใช้ทั่วโลก

ปล. คิดตามปัญญาอันน้อยนิดที่มีครับ

Seesmic Twitter Client ลง Android กับ BlackBerry

seesmic-for-android-blackberry

Seesmic คือ Twitter + Facebook Client  หรือเรียกง่ายๆโปรแกรมเอาไว้เล่น twitter กับ facebook เป็นโปรแกรมที่รันด้วย Adobe Air เป็นตัวที่ใช้อยู่ประจำเครื่องโน๊ตบุค แต่ก็มีปัญหาเหมือนกันในส่วนของ การเขียนคอมเม้นท์ใน facebook เพราะเปลี่ยนภาษาไทยไม่ได้ (via :@kaninnit) ล่าสุดทาง Seemic ได้ปล่อยตัวโปรแกรมที่รันบน Android และ BlackBerry ให้ได้ใช้กันแล้ว ไม่มีใน iPhone สงสัยว่ามีโปรแกรมในลักษณนี้เยอะแล้วใน iPhone ก็เป็นได้เลยไม่เอาลง? เข้าไปดูรายละเอียดฟีเจอร์ของแต่ละระบบปฏิบัติการได้ที่

ข้อมูลจาก https://seesmic.com , https://www.intomobile.com

Exit mobile version