ซื้อ Nintendo Switch ตอนนี้คุ้มไหม? (เมษา 67)

ซื้อ Nintendo Switch OLED ตอนนี้ คุ้มไหม?
ถ้าใครขี้เกียจอ่านยาว ๆ ก็ตอบตอนนี้ให้เลยว่า “คุ้ม” และเราเพิ่งจะซื้อมาด้วย

ปกติแล้วเล่นเกมผ่านทาง Xbox Serie S หลายคนถามว่าทำไมไม่ซื้อ Play Station คำตอบคือ เกมใน Xbox ถูกกว่า ความจริง PS5 ก็อยากได้นะ เพราะเกมที่เป็น Exclusive ของเขาดี ๆ น่าเล่นทั้งนั้น แต่แพงและเกมที่มีอยู่ตอนนี้ใน Xbox ก็ไม่รู้จะเล่นยังไงหมด ใน Xbox เกมดี ๆ ก็มีเยอะเหมือน

มีความคิดอยากได้เครื่องเกมแบบพกพา ความจริงไม่ได้จะหิ้วออกไปเล่นข้างนอก แค่ระหว่างห้องนั่งเล่นกับเตียงนอนแค่นั้นเอง แต่ขอตัดพวก PC gaming hanheld พวก Steam Deck, ROG Ally, etc. ออกไปก่อน เพราะหลาย ๆ เกมสามารถเล่นได้ใน Xbox และแบตเตอรี่ถือว่าเล่นได้น้อยไปหน่อย เลยมาจบที่ Nintendo Switch และการเปลี่ยนจากเล่นกับจอทีวีมาเล่นแบบจอเล็กทำได้ smooth สุด ๆ ไปเลย

Nintendo switch OLED

Nintendo Switch ออกมาตั้งแต่ปี 2017 (7 ปีได้แล้ว) มีอัพเดตเล็กน้อย(model OLED)เมื่อปี 2021 แสดงว่ารอบของการออกเครื่องรุ่นใหม่ใกล้เข้ามาแล้ว และเท่าที่ตามอ่านข่าวมีการคาดเดากันว่าน่าจะเปิดตัวรุ่นใหม่ในเร็ว ๆ นี้ อาจจะปลายปีนี้หรือไม่ก็ปีหน้า แล้วทำไมถึงคิดจะซื้อ Nintendo Switch ตอนนี้ แล้วยังคุ้มค่าอยู่มั้ย ส่วนตัวมีเหตุผล ดังนี้ครับ

  1. เกมระดับ AAA อย่างเช่น The Legend of Zelda: Breath of the Wild(2017) และ Tears of the Kingdom(2023) ยังคงเล่นได้ดีใน Nintendo Switch แค่สองเกมนี้ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
  2. ราคาตอนนี้ถือว่าถูกลงมานิดหน่อย(310€) เมื่อเทียบกับตอนเปิดตัว(350€) รุ่นใหม่คาดว่าราคาอาจจะเริ่มต้นที่ 400€
  3. ปกติเมื่อเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่เปิดตัว เกมที่รองรับเฉพาะเครื่องใหม่มักจะออกตามมาทีหลังราว 1-2 ปี ถ้านับเวลารวมกันซื้อตอนนี้น่าจะยังไม่ตกรุ่นไปอีก 2-3 ปี เกมที่เล่นได้ ณ ตอนนี้ยังมีเยอะมากอยู่แล้ว ก็อุ่นใจไปได้สักพัก
  4. อุปกรณ์เสริมที่มีในตลาดตอนนี้มีให้เลือกเยอะมาก ถึงแม้ว่าเครื่องรุ่นใหม่จะออกในอีกไม่กี่ปี อุปกรณ์เสริมน่าจะใช้เวลาอีกพอสมควร

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เลยสรุปว่าซื้อตอนนี้ก็ยังคุ้มค่าอยู่ และยืนยันด้วยการซื้อมาแล้ว

ปล. เล่นจบไปแล้วหนึ่งเกมนั้นคือ Mario Odyssey เกมสนุกมาก Gameplay ก็ดีมาก ๆ เล่นไม่เบื่อเลย

รีวิวหนังสือภาพ Darwin: An Exceptional Voyage ภาพสวย เนื้อเรื่องประทับใจ

Darwin: An Exceptional Voyage
งานเขียนของ Fabien Grolleau (Autor)
ภาพประกอบโดย Jeremie Royer (Illustrator)

หนังสือภาพประวัติเรื่องราวของดาร์วิน เป็นเรื่องราวข้อมูลเกี่ยวกับผู้คนบนเรือ การเดินทางไปเกาะและพื้นที่ต่างๆในทวีปอเมริกาใต้บนเรือ HMS Beagle ตลอดการเดินทาง 5 ปี (จากที่ตั้งเป้าไว้แค่ 2 ปี) โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างการสำรวจหมู่เกาะกาลาปากอส อันเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับการพัฒนาทฤษฎีวิวัฒนาการที่สำคัญอย่างยิ่งของวงการวิทยาศาสตร์โลก การพบปะกับชนพื้นเมือง รวมถึงยุคของการค้าทาสในระหว่างการเดินทางนั้นก็มีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน

ผู้เขียนเคลมว่า หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ยึดกับความถูกต้องทางประวัติศาสตร์อย่างเคร่งครัด มีเติมแต่งบ้าง แต่ได้เขียนอธิบายรายละเอียดไว้ด้านหลังของเล่มแล้ว ส่วนภาพประกอบนั้นสวยมาก ลองดูตัวอย่างจากภาพบางส่วนด้านล่างได้ เหมาะมีไว้ติดบ้าน แล้วหยิบจึ้นมาอ่านเล่นบ้างบางเวลา ยิ่งอ่านให้เด็กฟังน่าจะได้รับความสนใจไม่น้อยเพราะภาพสวยน่าดึงดูด

หนังสือเล่มนี้ได้มาเป็นฉบับภาษาอังกฤษ จากที่ได้รอเป็นเวลานานเป็นปีแต่ก็ไม่มีพิมพ์เพิ่มเลย สุดท้ายเลยซื้อแบบมือสองมาแทน ฉบับภาษาเยอรมันกับฝรั่งเศสยังเห็นมีอยู่ในสต็อค

อีกเล่มที่เป็นผลงานของสองนักเขียนนี้ เรื่องของ Audubon ก็น่าสนใจเหมือนกัน

ลูกติดสบาย ไม่อดทน ปราบด้วยเกมจิ๊กซอว์

จิ๊กซอว์ เป็นหนึ่งในกิจกรรมโปรดของใครหลายคน นอกจากนิยมใช้เล่นยามว่างแล้ว ภาพสวย ๆ ยังกลายเป็นของสะสม ของตกแต่งบ้านได้อีกด้วย ความจริงแล้วการต่อจิ๊กซอว์ไม่ได้เหมาะกับผู้ใหญ่เท่านี้ แต่ยังเป็นของเล่นเสริมพัฒนาการให้เด็ก ๆ ด้วย เพราะอะไร ตามมาหาคำตอบพร้อม ๆ กัน

ย้อนกลับไปในยุคกรีกโบราณ จิ๊กซอว์ถูกประดิษฐ์ขึ้นจากนักคณิตศาสตร์คนหนึ่งโดยนำภาพแปะลงบนแผ่นไม้แล้วตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนจะเริ่มเล่นด้วยการประกอบภาพขึ้นใหม่จากชิ้นส่วนเล็ก ๆ นั้น ต่อมาในศตวรรษที่ 16 นักทำแผนที่ชาวอังกฤษได้ประดิษฐ์แผนที่ประเทศของตนเองด้วยการนำแผ่นกระดาษวาดเป็นแผนที่ของแต่ละเมือง ก่อนประกอบกันเป็นแผนของประเทศอังกฤษทั้งหมด จากนั้นจิ๊กซอว์นำมาเป็นเครื่องมือในการเรียนการสอนเรื่อยมาก่อนจะถูกพัฒนาให้มีลักษณะเป็นจิ๊กซอว์ที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน

บ้านไหนมีปัญหาลูกติดมือถือ ติดสบาย ขาดความอดทน คุณพ่อคุณแม่สามารถแก้ได้ด้วยการชวนให้ลูกน้อยเริ่มหัดเล่น จิ๊กซอว์ได้ตั้งแต่อายุราว 3 ขวบ เพื่อฝึกสมาธิ การสังเกต ประสาทสัมผัส การใช้มือและสายตาให้สัมพันธ์กัน โดยเริ่มต้นจากจิ๊กซอว์แผ่นโตจำนวนไม่เกิน 10 ชิ้นและภาพง่าย ๆ ก่อนชิ้นจิ๊กซอว์ให้มากขึ้น ภาพมีความละเอียดขึ้นตามความสามารถของลูก

ระหว่างเล่นจิ๊กซอว์ ลูกยังได้โอกาสซึบซับความสวยงามของศิลปะ ต่อยอดจินตนาการ และได้ใช้เวลาคุณภาพระหว่างพ่อแม่ลูก โดยไม่ตั้งความคาดหวังหรือกดดันให้ลูกต้องทำได้ตั้งแต่ครั้งแรก เพื่อให้ลูกสนุกกับการต่อจิ๊กซอว์และพัฒนาฝีให้ดีขึ้นได้ทุกวัน

สุดยอดจิ๊กซอว์น่าเล่น เอาใจเด็กทุกวัย

จิ๊กซอว์มีให้เลือกหลายแบบ คุณพ่อคุณแม่อาจเลือกไม่ถูกว่าจิ๊กซอว์แบบไหนบ้างที่เหมาะกับลูกน้อย ต่อสนุก ไม่เบื่อง่าย สวยงามน่าเก็บสะสม เรามีคำแนะนาจิ๊กซอว์ดี ๆ มากฝากกัน

  1. จิ๊กซอว์การ์ดคำศัพท์
    เหมาะใช้เป็นของเล่นเสริมภาษาอังกฤษ ที่เด็กๆ จะได้สนุกกับภาพสัตว์ พร้อมกับเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ คำอ่าน และคำแปล นำมาต่อเป็นจิ๊กซอว์ขนาดเหมาะมือ ทำจากวัสดุคุณภาพ ไม่หักง่าย ไม่มีส่วนแหลมคมที่เป็นอันตรายกับลูก แถมยังสร้างทัศนคติที่ดีกับการเรียนภาษาอังกฤษด้วย
  1. จิ๊กซอว์จากการ์ตูนดิสนีย์ อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ
    ที่เด็กๆชื่นชอบ ภาพคมชัด สีสันสดใส เหมาะกับเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไปที่สนใจนิทานก่อนอน คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้จิ๊กซอร์ประกอบการเล่านิทานเรื่องอะลาดินกับตะเกียงวิเศษให้ฟังก่อนนอน ช่วยให้เด็กๆ สนุกกับเรื่องเล่ามากขึ้น
  2. กับจิ๊กซอว์ 3 มิติ
    แฟนคลับสตรอว์เบอร์รี่ชอร์ตเค้กต้องไม่พลาด กับจิ๊กซอว์ 3 มิติของบ้านหลังน้อย ๆ ทรงสตรอว์เบอร์รี่ของตัวการ์ตูนในเรื่อง เหมาะกับเด็กอายุ 5 ขวบขึ้นไป ต่อเองได้ไม่ยากโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์มีคม จึงปลอดภัยกับเด็กทุกคน เมื่อต่อเสร็จเด็กๆจะได้บ้านสวยๆแบบเดียวกับที่อยุ่ในการ์ตูนเลย
  3. จิ๊กซอว์แม่เหล็ก ธีมชุดแต่งตัว
    จิ๊กซอว์แม่เหล็ก ธีมชุดแต่งตัว อีกหนึ่งรูปแบบขอจิ๊กซอว์ที่เล่นสนุก เหมาะกับเด็กที่เริ่มหัดเล่นครั้งแรก เพราะแม่เหล็กช่วยให้ต่อได้ง่ายขึ้น แถมยังได้เรียนรู้เรื่องการแต่งกายในแต่ละโอกาส และชุดของคนหลายๆอาชีพด้วย รับประกันคุณภาพด้วยจิ๊กซอว์แบรนด์ดัง Mindeer จึงแข็งแรง ทนทาน เล่นได้หลายครั้งไม่รู้เบื่อ
  4. จิ๊กซอว์ภาพต่อใหญ่ แผนที่ประเทศไทย
    ชวนลูกมารู้จักประเทศไทยให้มากขึ้นด้วย จิ๊กซอว์ภาพต่อใหญ่ แผนที่ประเทศไทย ให้น้องๆฝึกสังเกตและเรียนรู้จังหวัดแต่ละภาคของประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน แถมต่อเสร็จแล้วยังนำไปใช้ประกอบการเรียน การสอนของลูกน้อยวัยประถมได้อีกด้วย

สำหรับคุณพ่อคุณแม่สมัยใหม่ที่ไม่อยากเสียเงินซื้อเกมส์จิ๊กซอว์ตามที่แนะนำด้านบนนี้ ปัจจุบันการต่จิ๊กซอว์นั้นสามารถเล่นได้หลายรูปแบบและวันนี้เราจะมาแนะนำ แอปเกมส์ต่อจิ๊กซอว์ต้องแอปต่อจิ๊กซอว์อย่าง jigsawpuzzles.games นี่เลยค่ะ ที่มีคลังภาพจิ๊กซอว์ที่ใหญ่ที่สุดบนมือถือกว่า 20,000 ภาพ พร้อมอัปเดตเพิ่มทุกวัน

วันนี้เราขอนำเสนอเกมส์จิ๊กซอว์รูปนี้ GENIE168 ซึ่งมีจำนวนเข้าเล่นมากที่สุดในสัปดาห์นี้เป็นเกมส์จิ๊กซอว์ที่มาในรูป อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ ที่เด็กๆชื่นชอบภาพคมชัด สีสันสดใส และยังเล่นได้อย่างผ่อนคลายเหมาะกับเด็ก และสมาชิกในบ้านช่วยกันเล่น เพราะจิ๊กซอว์รูปนี้มาในระดับความยากที่มีจำนวนจิ๊กซอว์ 168 ชิ้น สามารถเล่นได้อย่างสนุกและผ่อนคลาย

รูปชิ้นส่วนแยกขยาย GENIE168
เกมส์จิ๊กซอว์ภาพ GENIE168

เพลิดเพลินไปกับจิ๊กซอว์ที่ผ่อนคลายเพื่อฝึกสมองและสงบความวิตกกังวลของคุณ เล่นเกมจิ๊กซอว์ HD หลายพันเกมฟรีสนุกสนานโดยไม่มีชิ้นส่วนที่ขาดหายไป ยินดีต้อนรับสู่โลกจิ๊กซอว์ที่ jigsawpuzzles.games เว็บเกมปริศนาจิ๊กซอว์ ระดับ HD สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ เป็นเกมปริศนาที่พร้อมยินดีต้อนรับให้เล่นและน่าติดตามได้บน jigsawpuzzles.games คุณสามารถดาวน์โหลดปริศนาจิ๊กซอว์ฟรี

ศิลปะอันงดงาม แอนิเมชั่นที่สวยงาม บรรยากาศอันมหัศจรรย์ นี่คือศิลปะแห่งปริศนา! ดื่มด่ำไปกับจักรวาลแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยสีสันที่สดใส ตัวละครที่เป็นเอกลักษณ์ และทิวทัศน์อันน่าทึ่ง! เกมที่ไม่เหมือนใครที่รวมตัวต่อและสมุดระบายสีเข้าด้วยกัน: รวบรวมชิ้นส่วนรูปภาพที่น่าทึ่ง โดยแต่ละชิ้นส่วนจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวในเทพนิยาย

ในเกมไขปริศนารูป GENIE168 สิ่งที่คุณต้องทำคือไขปริศนาจิ๊กซอว์ รับเหรียญ และรับสิ่งทันสมัยล้ำสมัยโดยในแต่ละรูปภาพจะมีให้เลือกเล่นมากมายหลายเลเวล คุณต้องเริ่มจากภาพแรกและเพื่อปลดล็อคภาพถัดไป เกมส์ปริศนาเป็นหนึ่งในเกมเพื่อความบันเทิง การพัฒนา และการศึกษาที่ต้องใช้ความอุตสาหะ ความแม่นยำ ความอดทน และที่สำคัญที่สุด ความเอาใจใส่ และเมื่อกดเข้ามาในเกม จะเจอกับหน้าหลักของเกมซึ่งจะมีทั้งหมด 3 ตัวเลือก ว่าผู้เล่นจะเลือกที่จะต่อจิ๊กซอว์ในระดับใด

คุณมี 3 โหมดสำหรับแต่ละภาพ :

ง่าย 49 ชิ้น
ปานกลาง 89 ชิ้น
ยาก 168 ชิ้น

ของฝากจากประเทศไทยสำหรับเพื่อนต่างชาติ

ของฝากจากประเทศไทยสำหรับเพื่อนต่างชาติ

ถ้าคิดจะซื้อขนม ของกิน จากไทยไปฝากเพื่อน ๆ ในที่ทำงานที่เป็นเพื่อนต่างชาติ ขอนำเสนอ 3 อย่างนี้ รับรองว่าจะไม่ผิดหวัง

  1. ชาตรามือ แบบ 3 in 1 ที่ชงง่ายและหวานมันอร่อย เพื่อนต่างชาติส่วนใหญ่จะชอบ และนำเสนอความเป็นไทยได้ดีทีเดียว เวลาเพื่อนถามถึงแต่จำชื่อไม่ได้ก็มักจะยกนิ้วโป้งโชว์กัน มีภาพจำที่ดี
  2. โก๋แก่ รสวาซาบิ อันนี้ค่อนข้างประหลาดใจนิดหน่อย ที่เพื่อนต่างชาติชอบ แต่ แต่ ก่อนจะให้เขาชิมต้องเตือนเรื่องถั่วและความเผ็ด บางคนอาจจะแพ้ได้ด้วย แต่ความสนุกคือมีเรื่องท้าทายให้ได้เล่นกันได้ดีในวงเพื่อน คนที่กินไม่ได้ก็จะกินไม่ได้เลย ส่วนใครที่กินได้คือแบบว่าหลงรักไปเลย
  3. ข้าวแต๋น สำหรับสิ่งนี้ มันคือสิ่งอัศจรรย์สำหรับคนต่างชาติ ร้อยทั้งร้อยเพื่อนต่างชาติรักสิ่งนี้ทุกคน ขนมาได้เท่าไหร่ขนมา ขอเพิ่มกันทุกคน มีเท่าไหร่ก็หมด ความกรุ๊บกรอบผสมรสหวานนิด ๆ มันคือความเข้ากันที่ลงตัวสุด ๆ กินได้ทุกคน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

ถือว่ามาแชร์ประสบการณ์กันสำหรับใครคิดหาไอเดียซื้อของฝากให้เพื่อนชาวต่างชาติ

อ้างอิง เพื่อนคนเยอรมัน สเปน ยูเครน จีน ตุรกี

รีวิว Humble Pi, คณิตคิดพลาด: รวมเรื่องวายป่วงในวันที่คณิตศาสตร์รู้พลั้ง

Humble Pi โดย Matt Parker (คณิตคิดพลาด: รวมเรื่องวายป่วงในวันที่คณิตศาสตร์รู้พลั้ง แปลโดย สกุลรัตน์ บวรสันติสุทธิ์) เป็นหนังสือที่อ่านสนุกมากและให้ข้อมูลที่น่าสนใจของความผิดพลาดของคำนวณคณิตศาสตร์ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความเสียหายในระดับเล็กน้อยไปจนถึงความเสียหายในระดับหายนะ

สไตล์การเขียนของคนเขียนเน้นเล่าเรื่องให้สนุกและมีอารมณ์ขันแทรกเข้ามาอยู่ตลอด ยกตัวอย่างเช่น เรื่องของการคำนวนที่ผิดพลาดทางคณิตศาสตร์ที่ง่าย ๆ ก็สามารถนำไปสู่หายนะอันใหญ่หลวง ตั้งแต่สะพานถล่ม กระจกจากตึกสูงเกิดการรวมแสงแล้วเผารถยนต์ที่จอดอยู่ถนนฝั่งตรงข้าม หายนะของสายการบิน หรือความผิดพลาดของกระสวยอวกาศสำรวจดาวอังคาร โดยเขายกเคสมาจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นจากหลายแหล่ง รวมถึงประสบการณ์โดยตรงของเขาเองด้วย

คณิตคิดพลาด: รวมเรื่องวายป่วงในวันที่คณิตศาสตร์รู้พลั้ง

จุดเด่นของคนเขียนคือเขาเป็นนักคณิตศาสตร์และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ที่เก่งมาก ทำให้เรื่องคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนเข้าถึงได้ง่ายและน่าสนใจสำหรับผู้อ่านทุกระดับ

สรุปว่าใครก็ตามที่สนใจที่จะเข้าใจบทบาทของคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวันและศักยภาพของคณิตศาสตร์ทั้งในด้านความช่วยเหลือและอันตราย ควรอ่าน Humble Pi อย่างยิ่ง สนุกจริง ยกให้เป็นหนังสือที่ชอบมากเล่มแรกที่ได้อ่านของปีนี้

เคล็ดลับสำหรับการบรรลุเป้าหมายการอ่านจาก Goodreads

Goodreads Reading Challenge

ใน Goodreads ในช่วงต้นปีจะมี Challenge ให้เราได้เล่นกัน โดยเราสามารถกำหนดเป้าหมายจำนวนของหนังสือที่เราตั้งใจจะอ่านให้จบในปีนั้นๆ ตอนท้ายปีก็มาสรุปอีกทีว่าอ่านอะไรไปบ้าง บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่

เคล็ดลับที่นำมาให้อ่านกันคือ เป็นทิปเล็กๆที่จะทำใหเราบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ง่ายขึ้น โดยคัดมาเฉพาะส่วนที่คิดว่าทำงานกับตัวเองได้ดีและคิดว่าน่าจะทำงานได้ดีกับคนอื่นด้วย

ทำให้ง่ายต่อการหยิบหนังสือมาอ่าน

ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปนิสัยจะบอกคุณว่ายิ่งคุณทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ง่ายเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งทำสิ่งนั้นได้มากขึ้นเท่านั้น วางหนังสือตรงตำแหน่งที่คุณจะอ่าน (โต๊ะข้างเตียง โซฟา ในกระเป๋าเป้สำหรับการเดินทางของคุณ อื่นๆที่ใกล้ตัว) คุณจึงไม่ต้องคิดเกี่ยวกับมัน แต่เพียงแค่หยิบหนังสือขึ้นมา และลองอ่านหนังสือสองสามเล่มพร้อมๆ กัน เพื่อที่คุณจะได้เลือกหนังสือที่เหมาะกับอารมณ์ตอนนั้นของคุณได้

ผลักดันตัวเอง แต่ให้นึกถึงความเป็นจริง

หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ประสิทธิภาพการอ่านตกต่ำด้วยการมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ (ความจริง คุณสามารถเพิ่มหรือลดเป้าหมายของคุณได้ตลอดเวลาตลอดทั้งปี เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สนุกในการสร้างแรงจูงใจให้กับตัวเอง ดังนั้นไม่ต้องกดดันตัวเอง หากคุณจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเป้าหมายก็เปลี่ยนได้ (ตั้งไว้ให้เยอะเพื่อสร้างแรงจูงใจ)

อ่านหนังสือที่คุณชอบ (ยกให้สำคัญสุด)

ฟังดูง่าย แต่บางครั้งเราลองอ่านหนังสือเพราะรู้สึกว่าเราควรอ่าน แต่ปรากฏว่ามันไม่ใช่ และไม่ชอบ คุณวางมันลงและไม่สามารถหาแรงจูงใจที่จะหยิบมันขึ้นมาอ่านต่อได้ บางทีก็ฝืนอ่านต่อ รู้สึกถูกบังคับ ส่งผลให้ไม่สนุกกับการอ่าน และมันจึงเริ่มปิดกั้นไม่ให้คุณอ่านอย่างอื่น ดังนั้นจงตัดจบและไปต่อ—ไม่มีกฎว่าคุณต้องอ่านหนังสือให้จบ! มีหนังสือที่น่าอ่านอีกมากมายรอคุณอยู่ ดังนั้นเปิดหนังสือใหม่และรักษานิสัยการอ่านของคุณต่อไป หาแรงบันดาลใจ หาดูหนังสือที่นักอ่านคนอื่นๆ ชื่นชอบ หรือหนังสือที่คนอื่นตั้งตารอ

ที่มา https://www.goodreads.com/blog/show/2465-tips-to-read-more-books-in-2023-with-the-goodreads-reading-challenge

รีวิวหนังสือ ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ

ผลงานของฮิงาชิโนะ เคโงะ มีเรื่องเด่นอย่างหนึ่งที่ทำได้สุดยอดมากๆคือ เราจะถูกดึงให้อ่านต่อแบบหยุดไม่ได้ตั้งแต่อ่านได้แค่ 10-20 หน้าแรกของนิยายความยาวระดับ 500 หน้า 

“เรื่องปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ” เป็นผลงานเล่มแรกที่เกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติของฮิงาชิโนะ เคโงะ ที่เราได้อ่าน (นี่ฉันสปอยรึเปล่านะ?) ก่อนหน้านี้จะได้อ่านแค่แนวสืบสวนฆาตกรรมซะเป็นส่วนใหญ่ 

ส่วนเนื้อนั้นเป็นเรื่องของร้านชำในแบบยุคเก่า แต่นามิยะเจ้าของร้านกลับเปิดบริการรับปรึกษาปัญหากลุ้มใจ ลูกค้าของคุณนามิยะจะส่งจดหมายมาขอให้เขาช่วยตอบปัญหาหนักใจ 

เรื่องราวปัญหาของลูกค้าแต่ละคนมีทั้งง่ายๆ ไปจนถึงหนักหนาสาหัส แต่เรื่องราวของตัวละครก็มีความสอดคล้อง เกี่ยวข้องกันอย่างลึกซึ้ง มีเรื่องราวที่อบอุ่น และเศร้าปนกันไป 

เราจะได้ติดตามชีวิตของแต่ละคนที่ได้รับคำปรึกษาจากเจ้าของร้าน พวกเขาได้ทำตามคำแนะนำอย่างไรบ้างและมันจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาไปในทิศทางไหนได้บ้างนั้น คนอ่านจะได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน 

เป็นอีกเล่มที่อ่านสนุก และขอแนะนำให้ได้อ่านกันครับ

รีวิว What if? 2 จะเกิดอะไรขึ้นถ้า…เล่ม 2

what if2 จะเกิดอะไรขึ้นถ้า…เล่ม 2

หนังสือ what If? 2 ถ้าชอบเล่มหนึ่งแล้ว คิดว่าจะชอบเล่มสองด้วยแน่นอน Randall Monroe ตอบปัญหาที่กวนส้นได้สนุกและบันเทิงสุดๆ ความแตกต่างที่เรียกว่าเป็นสิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเล่มแรกมีหลายอย่าง เช่น นอกจากจะมีการตอบคำถามหลักที่ยาวและละเอียดแบบเล่มแรก ยังมีแทรกการตอบคำถามแบบสั้นๆไว้ด้วย เหมือนให้เราได้พักเบรคจากคำถามหลัก แต่คำถามก็น่าสนใจและบ้าบอเหมือนกัน

อีกอย่างใน what if? 2 เล่มนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะใส่ใจและจริงจังกับการหาคำตอบให้กับคำถามกวนๆมากขึ้น เราจะได้เห็นการใส่อ้างอิงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์จากหลายแหล่งมากขึ้น รวมทั้งการได้ไปคุยกับผู้เชียวชาญเฉพาะในเรื่องนั้นๆโดยตรง แทนที่จะพยายามจะตอบคำถามด้วยตัวเองคนเดียว เราจึงได้เห็นการตอบคำถามที่หลากหลายมากกว่าแค่แนวฟิสิกส์ที่เขาเชี่ยวชาญ

หนังสือ What if? 1-2 ของ Randall Monroe เป็นหนังสือที่ตอบโจทย์อ่านเอาสนุก เอาฮา หรืออ่านเอาวิธีคิดในการหาคำตอบที่มีชั้นเชิงโดยอิงความรู้ทางวิทยาศาสตร์ก็ได้ แต่ข้อควรระวังคือเราจะเอาความจริงจังและความถูกต้องมากไปไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นคำตอบแค่ในเชิงสมมุติฐาน ไม่มีการทดลองจริง (ก็แน่สิ คำถามบ้าบอสุดๆ) แต่ก็ไม่ใช่การตอบแบบมั่วๆเพราะยังอิงกับความรู้และข้อมูลที่มีในปัจจุบันอยู่ด้วย มันจึงเป็นหนังสือที่อ่านสนุกแบบไม่ไร้สาระและก็ไม่จริงจังเกินไป รวมทั้งมีการ์ตูนประกอบยิ่งทำให้อ่านเข้าใจง่ายและสนุกเพิ่มขึ้นอีก

Old enough วาไรตี้การทำธุระครั้งแรก ของเด็กวัยอนุบาลญี่ปุ่น

Old Enough! วาไรตี้ชมได้ทาง Netflix

Old enough เป็นรายการวาไรตี้ญี่ปุ่น ดูได้ทาง Netflix รูปแบบรายการเป็นลักษณะสารคดี ตามติดการทำธุระด้วยตัวเองเพื่อช่วยครอบครัวของเด็ก ๆ ก่อนวัยเรียน เช่น ออกไปซื้อของชำ จัดส่งพัสดุ ส่งข้าวกลางวัน เป็นต้น ตอนละ 10 กว่านาทีเอง

รีวิวสั้น ๆ น่ารัก สนุก และดีมาก ๆ เด็ก ๆ ตัวนิดเดียวแต่เก่งมาก ๆ น่าทึ่งสุด ๆ

ส่วนตัวได้แต่อิจฉาวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมของญี่ปุ่นที่เอื้อให้เด็กสามารถทำอะไรหลาย ๆ อย่างด้วยตัวคนเดียวได้อย่างปลอดภัย ถึงแม้ในรายการจะมีคนของรายการดูแลความปลอดภัยให้ตลอดก็เถอะ แต่ก็รู้สึกว่าปลอดภัยกว่าบ้านเมืองเราอยู่ดี

สิ่งที่เห็นชัด ๆ เช่น การข้ามถนน ที่ถูกฝึกอบรมมาตั้งแต่เด็ก ๆ และเด็ก ๆ ก็ทำตามอย่างเคร่งครัดมาก ๆ

สรุปว่า ดูเลย สนุก คอนเฟิร์ม รอชมซีซั่นต่อไปไม่ไหวแล้ว

ปล. เด็ก ๆ ในรายการจะน่ารักและเก่งแตกต่างกันไป พ่อๆแม่ๆ อย่าเอามาเปรียบเทียบกับลูกหลานตัวเองเด็ดขาด เด็ก ๆ แต่ละคนโตมาแตกต่างกัน มีความน่ารัก และเก่งในแบบของตัวเอง

The Lord of the Rings ไปอยู่ไหนมาทำไมเพิ่งได้อ่าน

หนังสือชุด The Lord of the Rings ที่มี 3 เล่มจบ

เพิ่งจะอ่านหนังสือชุด The Lord of the Rings เล่มที่ 1 จบ ซึ่งปกติจะเป็นคนที่ทั้งอ่านและฟังไปพร้อมกัน เล่มนี้ audio book อ่านโดย Andy Serkis (คนที่แสดงเป็นกอลลั่มในฉบับหนัง) ซึ่งเขาก็ทำผลงานออกมาได้ดีมาก ๆ ทั้งร้องเพลง อ่านบทกวี ดัดเสียงตามตัวละคร จังหวะการอ่านดีมาก ๆ รวมแล้วประมาณ 22 ชั่วโมง ความจริงถ้าอ่านเองอาจจะใช้เวลาเร็วกว่านี้มาก แต่ได้ฟังเสียงไปด้วยมันเพลินมาก ไม่ปรับความเร็วด้วย

ส่วนเนื้อหาของหนังสือเล่มแรกของชุด 3 เล่มจบ The Fellowship of the Ring พบว่าเป็นหนังสือที่ดีงามมาก ๆ การเล่าเรื่อง ความแฟนตาซี ปรัชญา บทเพลง บทกวี ภาษาและอักขระเฉพาะ การเดินทางผจญภัย ความสัมพันธ์ของตัวละคร และโครงสร้างจักรวาลถูกวางและเขียนไว้ได้ดีมาก ๆ นี้คือหนังสือที่ควรอ่านสักครั้ง

คำถามต่อมาคือเราไปอยู่ไหนมาทำไมเพิ่งจะได้อ่านนะ (ดูแต่หนัง จำนวนรอบนั้นนับไม่ได้แล้ว)

Exit mobile version