Virology book cover design

Virology book cover design

วันนี้เอา HD มาเคลียร์ไฟล์ขยะ ไปเจอปกหนังสือที่ทำให้เพื่อน เมื่อหลายปีก่อน ทำเป็นขนาด A4 แล้วส่งให้ร้านเข้าเล่มกับส่วนเนื้อหาที่ถ่ายเอกสารออกมาจากต้นฉบับ เนื้อส่วนนี้เป็นเพียงบทหนึ่งของหนังสือเล่มใหญ่ เลยต้องทำปกเฉพาะ

รูปที่เอามาประกอบไม่ก็ค้นมาจากเน็ตไม่ได้ทำเองเอามาวางตามใจใน illustrator ตอนเป็นรูปเล่มแล้วสวยมาก

ภาพเซ็นทรัลเวิลด์ที่ถูกไฟไหม้ แบบ 3 มิติ

เซ็นทรัลเวิร์ลไฟไหม้

วันนี้ได้มีโอกาสไปเดินถ่ายรูปรอบเมืองกรุงเทพฯ ตามจุดต่างๆที่เกิดไฟไหม้ ตั้งแต่ อนุเสาวรีย์ ดินแดง สยาม และต่อไปที่ Central World ได้รูปมาจำนวนหนึ่ง เป็นรูปร่องรอยของความโกรธ เกลียด ขาดสติ สร้างความสูญเสียและผลกระทบไว้อย่างมาก ตรงจุดราชประสงค์ ห้างดังอย่าง Central World เมื่อเห็นครั้งแรกสลดใจมาก มีหลายคนข้างๆเช็ดน้ำตา

พยายามนึกว่าจะถ่ายรูปออกมายังไงให้คนได้เห็นถึงภาพการสูญเสีย และย้อนกลับไปคิดได้ว่า “ฉันทำได้อย่างไร” จนเกิดความเห็นใจของเพื่อนมนุษย์ในสังคมเดียวกัน ภาพทั้งหมดที่ถ่าย Central World ถูกจับมาสร้างเป็นภาพ 3D ด้วย Photosynth ได้มาภาพดังใจ ทุกมุม ทุกรูปที่ถ่ายมาได้ใช้ประโยชน์

ภาพแบบ 3 มิติ

BEFORE 22 August 2008 By: Ian_Fuller แนะนำโดยคุณ @PolarZen

AFTER 25 May 2010 By: Sarapuk

นี้คือภาพทั้งหมด

ขอให้คนไทยรักกันให้มากขึ้น ขอความสุขจงกลับมา

เรื่องย่อ ลุงบุญมีระลึกชาติ

เมื่อนานมาแล้ว ได้มีโอกาสได้ดูหนังเรื่อง “ดอกฟ้าในมือมาร” ของคุณเจ้ย เป็นหนังขาวดำ ออกแนวสารคดี ที่สัมภาษณ์คนไปเรื่อยๆ โยงเรื่องไปถึง ครูดอกฟ้า มันไม่มีบท ถ่ายทำไปเรื่อย ดูวิว ดูวิถีชีวิตของคนไทยไปเรื่อยๆ ผมไม่ใช่คนที่ชอบดูหนังของคุณเจ้ย ดูบางเรื่อง ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ ต้องตามมาอ่านบทวิจารณ์ที่คนอื่นพูดถึงจึงจะเข้าใจมากขึ้น หนังเรื่องล่าสุดของของคุณเจ้ย “ลุงบุญมีระลึกชาติ” ได้รับรางวัลปาล์มทองคำ จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ อดคิดไม่ได้ว่านอกจากคุณภาพของหนังแล้ว มีเรื่องของการเมืองเข้ามาร่วมด้วยหรือไม่ เป็นเหมือนอีกแรงใจให้คนไทยได้มีกำลังใจ และเป็นที่สนใจของชาวโลก

เมื่อดูตัวอย่างแล้ว ใช้ภาษาถิ่น เป็นเรื่องปกติของหนังเขาอยู่แล้ว คนอีสานน่าจะดูได้อินกว่าคนอื่นๆ

ลุงบุญมีระลึกชาติ : Uncle Boonmee who can Recall his Past Lives (Lung Boonmee Raluek Chat)
โดย อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล

เรื่องย่อ
ลุงบุญมี พำนักอาศัยอยู่ที่จังหวัดเลย เขาทำสวนมะขามซึ่งรายล้อมด้วยภูเขา ลุงบุญมีป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังมาเป็นระยะเวลานาน เขาจึงรู้จักร่างกายของตัวเองว่าเขากำลังจะตายภายใน 48 ชั่วโมง ดังนั้นเขาจึงโทรเรียกให้ญาติห่าง ๆ ของเขาคือ เจนจิรา มารับเขาจากโรงพยาบาลเพื่อกลับไปตายที่บ้านสวน

เจนจิรามาจากกรุงเทพพร้อมกับศักดิ์ดา ซึ่งเป็นเพื่อนของเธอที่แสดงภาพยนตร์มาด้วยกัน ที่นั่นพวกเขาได้เจอกับวิญญาณของฮวย ซึ่งเป็นภรรยาที่เสียชีวิตไปนานแล้วของลุงบุญมี   เธอปรากฏร่างขึ้นเพื่อมาดูแลสามีที่ป่วย ไม่เพียงแต่ภรรยาที่กลับมาเท่านั้น บุญส่ง ลูกชายของลุงบุญมีที่หายสาบสูญไปหลายปีก็กลับมาที่บ้านด้วย เขาออกมาจากป่าในร่างของมนุษย์ลิง ลูกชายของเขามีเมียเป็นสัตว์ประหลาดที่รู้จักกันในตำนานพื้นถิ่นว่า ‘ลิงผี’ และอาศัยอยู่ด้วยกันในป่ามานาน ระหว่างอาหารมื้อเย็นลุงบุญมีเล่าให้ฟังถึงความมหัศจรรย์ของการนั่งสมาธิ ซึ่งทำให้เขาระลึกชาติได้ เขาใช้เวลายามค่ำคืนเล่าเรื่องต่างๆในอดีตชาติให้แขกผู้มาเยือนฟัง และในคืนที่สองเมื่อเขาเล่าเรื่องจบลง

ลุงบุญมีก็ตัดสินใจเดินทางไปยังสถานที่ที่ภรรยาของเขาพูดถึงคือบนภูเขาสูงลิบ ทุกคนออกเดินทางเข้าไปในป่ากลางดึก ป่าที่เต็มไปด้วยสรรพสัตว์และวิญญาณ และในที่สุดพวกเขาก็มาถึงถ้ำบนยอดเขา ลุงบุญมีจำได้ว่าถ้ำนี้เป็นที่ที่เขาเกิดในชาติแรกที่เขาสามารถระลึกได้ จากนั้นเขาก็เสียชีวิต

เจนจิราและศักดิ์ดานำศพลุงบุญมีมาทำพิธีในเมือง เรื่องราวของลุงบุญมีได้ปิดฉากลงพร้อมกับความทรงจำที่ถูกถ่ายทอดแก่ชายหญิงสองวัยผู้ซึ่งกำลังจะมุ่งหน้ากลับกรุงเทพ

ภาพประกอบ

ลุงบุญมีระลึกชาติ
ลุงบุญมีระลึกชาติ
ลุงบุญมีระลึกชาติ
ลุงบุญมีระลึกชาติ
ลุงบุญมีระลึกชาติ

ที่มา : https://www.thaicinema.org/kits229lung.asp
https://www.animateprojects.org/films/by_date/2010/uncle_boonmee

ปรากฎการณ์วาทะของ อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ กับอำเภอบล็อก

สถิติของบล็อก ตั้งแต่วันที่ 1-23 พฤษภาคม 2553

ปกติแล้วอำเภอบล็อก มีคนเข้ามาประมาณวันละ 400-600 UIP ส่วนใหญ่เข้ามาผ่านทางการค้นหาจาก Google เป็นส่วนใหญ่ แต่จากปรากฎการณ์ วาทะของ คุณ อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ในงานประกาศผลรางวัลนาฎราช ในคืนวันที่ 16 พฤษภาคม 2553 ด้วยคำพูดที่กินใจ ผมไม่ได้คิดอะไรมาก เอามาเขียนลงบล็อก และถอดคำพูดออกมาเก็บไว้อ่าน

ด้วยกระแสสังคมที่แรงทำให้ในวันที่สองของการโพส ยอดคนเข้าสูงถึงเกือบ 5,000 UIP กับ 46 คอมเม้นท์ มันอาจจะไม่เยอะเมื่อเทียบกับเว็บดังๆ แต่คิดว่าคงอีกนานกว่าที่บล็อกนี้จะทำลายสถิตินี้ลงได้ เวลาผ่านไปตอนนี้เริ่มกลับมาอยู่ในสภาวะปกติแล้ว อาจจะเป็นกระแสที่น้อยลง และอันดับการค้นหาใน Google หล่นลงมาสู้คนที่เข้าทำ SEO จริงจังไม่ได้

มีอีกอย่างที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น คือโพสที่พูดถึง ทำไมคนอีสานรักทักษิณ ที่คนคลิกเข้าไปอ่านจากดูโพสของคุณอ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ ซึ่งอย่างน้อยก็ทำให้คนได้รู้จักคนอีสานได้มากขึ้น

คำสอนจากหนังเรื่อง ขงจื้อ

https://www.youtube.com/watch?v=YgiM1ubNCYc

ได้ดูหนังเรื่อง ขงจื้อ[1](Confucius)[2] พบว่ามีคำสอนมากมายในหนังเรื่องนี้ เอาไว้เตือนใจได้ ให้เสียงภาษาไทยโดยพันธมิตร ทำให้คำพูดดูคล้องจอง ฟังแล้วจับใจ ดูไปทวีตไปด้วย สุดท้ายเลยรวมเอามาไว้ในบล็อกเก็บไว้อ่าน และแบ่งปันได้ท่านอื่นที่สนใจได้อ่านบ้าง

  • ถ้าเรานำผู้สัตย์ซื่อมารับราชการ เหล่าคนพาลก็จะหมดสิ้นไป-ขงจื้อ
  • ผู้รักตัวรักครอบครัว ย่อมรักผู้อื่นได้เช่นกัน-ขงจื้อ
  • จงจำสุภาษิต 2 บทนี้ไว้ตลอดชีวิต จงเห็นบ้านเมืองสำคัญกว่าชีวิตเรา และ อุปสรรคมีมากมาย จงสำรวมใจให้เข้มแข็ง-ขงจื้อ
  • ยอมสูญเสียก่อน แล้วจะได้มา-เล่าจื้อ
  • ขงจื้อผู้เป็นอาจารย์ถามศิษย์ตัวเอง “เจ้าลองบอกข้าสิ ข้าผิดพลาดตรงไหนบ้าง”-ขงจื้อ
  • ถ้าเรามิอาจเปลี่ยนโลก ถ้าหากเรามิอาจเปลี่ยนสิ่งที่อยู่รอบตัวเราได้ เราก็ควรกลับมาเปลี่ยนที่ตัวเองจากข้างใน-ขงจื้อ
  • ไม่มีหลักจริยะในการปกครอง บ้านเมืองมีแต่ความวุ่นวาย-ขงจื้อ
  • ข้าไม่เคยพบใครที่นึกถึงเรื่องจริยะ ก่อนเรื่องตัณหาเลย-ขงจื้อ
  • กวี ตำรา จริยะ ดนตรี เราต้องมั่นเรียนรู้-ขงจื้อ
  • ฤดูหนาว ต้นสน ยืนหยัดให้เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริง-ขงจื้อ
  • ขุนนางนั้นก็แค่ใส่ชุดเป็นขุนนาง นิสัยสะท้อนถึงจิตใจ อย่าลืมเด็ดขาด อย่าชายตามอง หรือฟัง หรือพูด หรือทำสิ่งใดที่ผิด-ขงจื้อ
  • “ผู้กล้า” เมื่อถึงคราวตายต้องตายเยี่ยงบุรุษผู้สง่างาม-ขงจื้อ
  • ข้าต้องการสอนหนังสื้อเท่านั้น ขออย่าให้พวกเขาเอาปัญหาการเมืองมาสุ่มหัวให้ข้าอีก-ขงจื้อ
  • หากโลกจะรู้จักข้า ก็ให้ผ่านบันทึกนี้เทิด หากตำหนิข้าก็ให้เพราะบันทึกเล่มนี้-ขงจื้อ

เสธ.แดง คือวีรบุรุษ จริงหรือ?

ช่วงนี้มีเรื่องเกี่ยวกับ เสธ.แดง หรือ พลตรี ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เข้ามาเยอะคิดว่าคงจะกระจายไปเยอะบ้างแล้ว ในกรณีที่ @vihok ออกมาบอกว่า เสธ.แดง คือ สายลับที่แอบแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มล้มเจ้า คอยรายงานความเคลื่อนไหวต่างๆให้รัฐบาลได้รู้ เพื่อสู้กับกลุ่มล้มเจ้า เรื่องนี้ยอมรับว่าสะดุดความคิดผม นั่งเปิดดูคลิปเก่าๆ ข่าวๆเก่าเกี่ยวกับเสธ.แดง ขึ้นมาดู มีหลายอย่างที่สนับสนุนข้อมูลดังกล่าว

ข้อที่น่าสนใจ

  • เสธ.แดง เปิดเผยออกสื่อตลอดว่าเป็นผู้จงรักภักดี ในบ้านมีภาพรับกระบี่จากในหลวงตั้งอยู่ ( ดูจากคลิปวีดีโอสัมภาษณ์)
  • ในตอนที่ดูประวัติของ เสธ.แดง พบว่าในตอนแรกได้วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลายครั้งทั้งเรื่องการฆ่าตัดตอนในสงครามยาเสพติด ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และลูกสาว เสธ.แดง เป็นเสื้อเหลือง
  • ข้อมูลต่างๆของ เสธ.แดงที่ออกมาผ่านทางสื่อ ส่วนใหญ่เป็นการเปิดเผยข้อมูล ที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล และค่อนข้างที่จะเป็นจริงทำให้เป็นที่สนใจของสื่อ บอกจะมีระเบิดก็ระเบิด M79 จะลงไหนบ้าง สื่อเสื้อแดงเป็นใครที่ไหนบ้าง บอกมีความขัดแย้งกันในกลุ่มนปช. แม้จะมีการออกมาปฎิเสธของแกนนำ แต่ค่อนข้างแน่ชัดว่ามีการถอนตัวของแกนนำ
  • หลังจาก เสธ.แดง เสียชีวิตจากการถูกลอบสังหาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้โปรดเกล้าฯพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และพระราชทานพระพิธี สวดพระอภิธรรม 3 วัน และพระราชทานเครื่องอิสริยาภรณ์ โกศ 8 เหลี่ยม เครื่องประดับเกียรติยศ ฉัตร ปี่ กลอง ระดับเดียวกับนายกรัฐมนตรี องคมนตรี นายกสมัครก็ได้รับพระราชทานอันเดียวกันนี้ (ผมให้น้ำหนักอันนี้เยอะที่สุด)
  • ทุกอย่างมีข้อโต้งแย้งได้หมด เสธ.แดง อาจจะเป็นวีรบุรุษตัวจริง อย่างเช่น อัศวินรัติกาล (Dark Night) หรือเป็นแค่เรื่องที่แต่งขึ้นมาเพื่อโยงเรื่องไปมา
  • เรื่องต่างๆยังคงต้องถกเถียงกันต่อไป คงไม่มีใครตอบได้ในตอนนี้ หรือไม่มีประโยชน์ที่จะตอบ คงต้องให้เวลา หรือจนกว่าผู้ที่รู้ความจริงออกมาเปิดเผย

ใครสนใจตามไปอ่านได้ที่ Facebook

เปิดตัวแล้ว Google TV ทีวีที่เล่นเน็ตได้

Google TV

Google เปิดตัว Google TV ในงาน Google I/O ในวันที่ 2 ช่วงแรกของงานเปิดตัว Android 2.2 Froyo เป็นที่ฮือฮาของผู้ร่วมงาน มีแจก HTC EVO 4G ที่ติดตั้ง Android 2.1 และจะเป็นตัวที่สองรอง Nexus One ที่จะถูกอัพเดตเป็น Android 2.2 Froyo ให้ผู้ร่วมงานทุกคนอีกด้วย ใจปั้มจริงๆ แต่ความสนใจของผมอยู่ที่ Google TV อยากรู้ว่า Google จะไปอยู่ในทีวีได้อย่างไร ขอบันทึกเป็นข้อๆดังนี้ครับ

  • โม้ว่านี้คือการเปลี่ยนแปลงอนาคตของการดูทีวี
  • มีสถิติเกี่ยวกับทีวีของคนอเมริกาที่น่าสนใจดังนี้ ใช้เวลาดูทีวีเฉลี่ยวันละ 5 ชั่วโมง ,มูลค่าโฆษณา 70 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ,ทั่วโลกมีผู้ใช้ประมาณ 4 พันล้าน
  • มีสโลแกนเท่ๆว่า Google TV -TV meets web. Web meets TV คือการเชื่อมทั้งสองเข้าด้วยกัน อยากดูรายการทีวีก็ดูได้ อยากดูเว็บก็เปิดดูได้  ในจอเดียวกัน สโลแกนนี้เคยได้ยินมาแล้วในตอนเปิดตัว Nexus One -Web meets phone (เพื่อนใน twitter พูดถึงผมจำ user ไม่ได้ใครรู้ตัวว่าเป็นคนทวีต แจ้งด้วยครับ)
Google TV : TV meets web. Web meet TV
  • สิ่งที่่ Google TV ทำได้
    ความสามารถของ Google TV

    ดูที่คำเน้นคือ ใช้เวลาค้นหาน้อย เพิ่มเวลาดู ควบคุมและปรับแต่งตามใจ ทำเนื้อหาทีวีของคุณให้น่าสนใจมากขึ้น และอื่นๆ ที่ทีวีทั่วไปทำไม่ได้ (อยากแต่งเป็นกลอนแต่งคิดไม่ออก)

  • ช่วงของการสาธิตการทำงาน ระหว่างเปิดทีวีอยู่นั้น เราสามารถค้นหา รายการทีวีที่เราสนใจโดยพิมพ์คำ ผ่านทางคีย์บอร์ด ลงใน Quick Search box ที่จะโผล่ขึ้นมาด้านบนหน้าจอ ซึ่งจะค้นหาทั้งรายการในทีวีและในเว็บไซต์ด้วยทีวีออนไลน์ เช่น Fox, Hulu, Amazon
    Quick Search box ใช้การ input ผ่านทางคีย์บอร์ด

    ด้านขวาของการค้นหาจะบอกเป็นข้อความสั้นๆว่า รายการที่เราสนใจจะมาเมื่อไหร่ หรือตอนนี้กำลังเล่นอยู่ และค้นหาคำนี้ในเว็บ

    สั่งอัดรายการโปรดได้เลย

    เมื่อค้นพบว่ารายการที่เราสนใจยังมาไม่ถึง สามารถสั่งอัดรายการนั้นในวันเวลาที่กำหนดได้เลย

  • หน้า Home screen ของ Google TV มีเมนู Bookmarks ,Applications และสามารถปรับแต่งส่วนที่ชอบเข้ามาใส่ได้ เช่น วีดีโอจาก Amazon , Netflix

    Home screen ของ Google TV

  • สาธิตเข้าใช้งานเว็บไซต์ Youtube ,Yahoo,Flickr
  • การเปิดใช้งาน youtube บน Google TV

    Yahoo! sport

  • Google TV จะมีอุปกรณ์ต่างๆดังนี้ Google TV box มี WiFi / ethernet built-in สำหรับเชื่อมสัญญาณอินเทอร์เน็ต ช่องต่อสัญญาณ เคเบิลหรือดาวเทียม ต่อเข้ากับทีวีด้วย HDMI พอร์ต มีคีย์บอร์ดและ pointing devices (น่าจะเป็นเมาส์)  ใช้มือถือ Android เป็นรีโมทได้ผ่านทาง WiFi และสามารถใช้เสียงสั่งการค้นหาผ่านทางมือถือได้ด้วย

    ส่วนประกอบของ Google TV

  • ในส่วนของซอร์ฟแวร์ Google TV ทำงานด้วย 3 องค์ประกอบ คือ Android 2.1 ,Google Chrome browser และ Flash 10.1

    Google TV Software

  • Google TV สามารถใช้งาน Applications ของ Android ที่อยู่ใน Market ได้บางส่วน ถ้า apps นั้นไม่ได้กำหนดให้ใช้เฉพาะมือถือได้เท่านั้น เช่น พวกที่ต้องใช้ GPS , กล้อง ฯลฯ แสดงตัวอย่างเมนู Applications

    เมนู Applications

  • Google TV SDK และ APIs จะปล่อยมาให้ใช้เร็วๆนี้
  • แสดงตัวอย่าง Apps สำหรับ Google TV เช่น YouTube app,NBA.com app
  • Google listen & watch ยังอยู่ใน Labs เป็นการรวมวีดีโอแบ่งเป็นหมวดหมู่ไว้ให้เลือกดู และติดตามได้

    Google listen & watch

  • Translation app สามารถแปล subtitle ให้ด้วย อันนี้เยี่ยมเลย
  • Android และ Google Chrome ที่มีการปรับแต่งสำหรับ Google TV จะทำเป็น opensource
  • อุปกรณ์ต่างๆมีพาร์ทเนอร์ช่วยผลิตดังนี้ ทีวี โดย Sony ยัด Blu-ray player มาให้ด้วย ,Logitech ผลิต companion box,ใช้ CPU intel Atom ทั้งทีวีและ box, Dish Network ดูแลสายเคเบิล, Best Buy เป็นคนขาย จะเริ่มขายในช่วงปลายปีนี้ (สิงหาคม-ธันวาคม)
  • กำหนดการต่างๆของ Google TV  เปิด SDK และ APIs ต้นปีหน้า และ Open source หน้าร้อนปีหน้า
  • กำหนดการต่างๆของ Google TV

คลิปแนะนำ Google TV

ไม่อยากวิจารณ์เลย เพราะคาดการณ์ไม่ออกว่าจะปฎิวัติการดูทีวีได้ไหม แต่ที่แน่ๆคือ Google ได้ตลาดใหม่เพิ่มอีกที่ ที่อยู่คู่มนุษยชาติมานาน ดูกันทุกบ้านติดกันงอมแงม แม้เราจะได้เห็น Apple TV ที่เอาไว้ซื้อหนัง ซื้อทีวีโชว์ มิวสิกวีดีโอ มาก่อนก็เถอะแต่ฟังก์ชั่นมันต่างกัน เครื่องเกมที่เล่นเน็ตได้ก็มี แต่นี้คือทีวีที่เล่นเน็ตได้ของจริง อาณาจักรของ Google เริ่มบุกรุกชีวิตประจำวันเรามากขึ้น มือถือ คอมพิวเตอร์ ทีวี และในต่อไปจะเป็นเครื่องครัว เหมาะกับคนอเมริกาที่มีทีวีหลายช่อง bookmark ไว้บ้างคงสะดวก

ที่มา : https://www.engadget.com
https://www.youtube.com/Googledevelopers
https://phandroid.com
https://www.Google.com/tv

แผนที่จุดที่เกิดเพลิงไหม้ ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553

แผนที่จุดที่เกิดเพลิงไหม้ ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 เริ่มนับตั้งแต่ เวลา 18.30 น.
ไม่ละเอียดและไม่ตรงจุดเป๊ะ แต่พอบอกคร่าวๆได้ว่าเกิดที่ไหนบ้าง แถวไหน รวมทั้งในเขตกรุงเทพฯ และเขตต่างจังหวัด

<
ดู จุดเกิดเพลิงไหม้ วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า

ลิงค์แผนที่ใน Google maps
รวบรวมได้ดังนี้
โรงหนังสยาม
Central world
7-11 และ ธนาคารออมสิน ดินแดง
ตึกมาลีนนท์
ปปส.
สยามพารากอน
การไฟฟ้า คลองเตย
ตึกมหาทุนพลาซ่า
ธนาคารกรุงเทพ สาขา อโศก-ดินแดง
โลตัส พระราม 4
ศาลากลาง จ.อุบลราชธานี
ศาลากลาง นนทบุรี
ศาลากลาง จ.ขอนแก่น
ศาลากลาง จ.มุกดาหาร
ศาลากลาง จ.อุดรธานี
ศาลากลาง จ.นครราชสีมา
จวนผู้ว่าเชียงใหม่
ธ.กรุงเทพ สาขาสะพานเหลือง
Center One อนุสาวรีย์
ธนาคารกรุงเทพ สาขาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โรงแรมเซ็นทารา

ณ เวลา 21.12 น. ไฟไหม้ธนาคาร 16 แห่ง (ธ.กรุงเทพ 10 / กรุงไทย 2 /กสิกรไทย 1 / ออมสิน 1 / นคราหลวงไทย 2)

รวบรวมมาจากข่าวสารที่ได้รับจากทั้งในทีวี และ social media
จะพยายามแก้ไข และเพิ่มในส่วนที่ทราบข่าวเพิ่มเติม

โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายคนใหม่ของทักษิณ

Robert Amsterdam

ทนายคนใหม่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คนใหม่ ที่กำลังเป็นที่สนใจของชาวไทยและต่างชาติอย่างมากในสถานการณ์ของการชุมนุมที่วุนวาย เขาคือ โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม แท้จริงแล้วหลายสำนักข่าวตั้งข้อสงสัยว่าคือ ทนายที่จะมาแก้ต่างเรื่องคดีต่างๆ หรือเป็นล็อบบี้ยีสต์ในคุณทักษิณกันแน่

มีศัพท์ใหม่ที่ไม่คุ้นหูเอาซะเลย คือ ล็อบบี้ยีสต์ (Lobbyist) พยายามค้นดูพบว่า เราจะเข้าใจคำว่า ล็อบบี้ (lobbying) ค่อนข้างดี มันคือ การความพยายามโน้มน้าวให้ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ในการตัดสินใจ หรือเปลี่ยนแปลงอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้ทำตามที่ต้องการได้ และ ล็อบบี้ยิสต์ ก็คือกลุ่มคน หรือคนที่ทำหน้าที่วิ่งเต้น ใช้เครื่องมือวิธีการต่างๆ รวมทั้งการใช้สื่อสารมวลชนต่างๆ ประชาสัมพันธ์(สร้างภาพ)ให้ลูกค้า เพื่อให้มีการล็อบบี้เกิดขึ้น

โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม (Robert Amsterdam) ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษากฎหมายระดับสากล Amsterdam & Peroff  ตั้งแต่ปี 1980 เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายธุรกิจระหว่างประเทศ และคดีความด้านการเมืองที่มีความซับซ้อน โดยเฉพาะคดีที่มีรัฐเป็นคู่ขัดแย้ง หรือถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจโดยไม่เป็นธรรมกับฝ่ายตรงข้าม จุดแข็งของเขาคือการมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับบรรดาสื่อระดับโลกทุกแขนง จึงมีการดึงประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับลูกค้าของเขาได้เป็นอย่างดี

ผลงานเด่นของเขา ทำให้นายมิคาอิล โคดอร์ฟสกี้ มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ที่ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกง เลี่ยงภาษี แม้ว่าสุดท้ายจะแพ้คดี แต่ทำให้ ชาวโลกมองว่าเป็นการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์เกี่ยวกับเสรีภาพของประชาชน และโจมตีว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เป็นรัฐที่กดขี่และใช้อำนาจรัฐเอาเปรียบประชาชน

นายอีลิจิโอ เซดิโน นายธนาคารเวเนซุเอลา ที่ถูกจับกุม ด้วยข้อกล่าวหาว่าทำผิดกฏหมายเกี่ยวกับเงินระหว่างประเทศ รัฐมีการสั่งกักขังนานกว่า 34 เดือน นายโรเบิร์ต อัมสเอตร์ดัม หยิบยกเรื่องการกักขังที่ละเมิดหลักเกณฑ์ของสหประชาชาติ(UN) สุดท้ายถูกปล่อยตัวแล้วหนีไปอยู่สหรัฐ

สิ่งที่ โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม จะทำคือ มาช่วยเหลือเสื้อแดงในข้อกฎหมายในการชุมนุม และทำในสิ่งที่เขาเชี่ยวชาญ คือบอกชาวโลกผ่านสื่อต่างๆ ทั้ง เว็บไซต์ บล็อก ทีวี นิตยสาร เครื่อข่ายต่างๆ หนังสือพิมพ์ดังๆ เขาจะพยายามทำให้ชาวโลกเชื่อว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ใช้อำนาจรัฐในการข่มเหง กดขึ่ประชาชาชน จำกัดสิทธิเสรีภาพ ละเมิดสิทธิมนุษยชนต่างๆ อย่างที่เคยทำในประเทศรัสเซีย เวเนซุเอลา ถ้าทำต่อเนื่องเรื่อยๆ ไม่ช้าทั่วโลกจะคิดว่าไทยเป็นอย่างนั้นจริงๆ เป็นการใช้ประชาคมโลกมาบีบประเทศไทยให้ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง(ล็อบบี้) ไม่เป็นผลดีกับประเทศไทยอย่างแน่นอนทั้งระยะสั้นและในระยะยาว ซึ่งประเทศไทยก็มีจุดให้เขาหยิบขึ้นมาโจมตีได้มากมาย  น่าห่วงและน่ากังวลยิ่งนัก

ซึ่งตอนนี้นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เริ่มจะออกสื่อโจมตีไทยแล้ว ซึ่งสื่อต่างๆก็ให้ความสนใจในตัวเขาด้วย และคิดว่าหลายๆอย่างที่จะโจมตีไทยจะตามมาอีกเพียบแน่นอน ควรรีบทำอะไรสักอย่าง

การให้สัมภาษณ์ของนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม โดยสำนักข่าวอัลจาซีรา

ข้อมูลจาก
กรุงเทพธุรกิจ : โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายหรือล็อบบี้ยิสต์ส่วนตัวทักษิณ
คมชัดลึก : “โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม”ทนายหรือล็อบบี้ยิสต์ส่วนตัวทักษิณ?
โลกวันนี้ : Amsterdam & Peroffที่“ทักษิณ”ส่งมาช่วยเสื้อแดง
facebook : ถอดหน้ากาก โรเบิร์ท อัมสเตอร์ดัม
The Daly Dose : ใครคือทนายที่พ.ต.ท.ทักษิณจ้างคนใหม่ ?? Robert Amsterdam

เว็บของ โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม www.corporateforeignpolicy.com , www.robertamsterdam.com

ความขัดแย้งของสังคมไทย วู้ดดี้ถาม ท่าน ว.วชิรเมธี ตอบ

พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี

รายการวูดดี้ เกิดมาคุย แขกรับเชิญ พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2553 ในสถานการณ์บ้านเมืองไม่ปรกติ หลายคน วิตกกังวล ผวา กลัว  สับสน สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เมื่อได้ฟังคำตอบจากหลายๆคำถามที่คาใจเราอยู่ เหมือนได้ปลดล็อกออกมาได้ ทำให้สบายใจมากขึ้น จึงอยากให้ทุกท่านได้ชม ได้ฟังบ้าง เช่นเดิม ใครอยากอ่านผมนั่งถอดออกมาเป็นข้อๆเลยทีเดียว ไม่มีอะไรมาก อยากบันทึก และจะทำให้ได้ฟัง ได้คิด และได้เขียนละเอียดขึ้น ใครอยากดูโดยตรง สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้

https://www.youtube.com/view_play_list?p=C2D853E113AF22DF

วู้ดดี้ : ตั้งแต่เกิดมา ผมยังไม่เคยเห็น อารมณ์ ความรู้สึกของคนในประเทศ แตกแยกรุนแรงขนาดนี้
ท่าน ว.วชิรเมธี : ประวัติศาสตร์ มันจะซ้ำร้อยเสมอ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในเวลาคือตัวละคร โลกทุกวันนี้ถูกครอบงำด้วยกระแสโลภาภิวัฒน์ คือ โลภ + โลกาภิวัฒน์  โลกนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยความ โลภ เราอยู่ในโลกของการแข่งขันที่มีศัพท์หรูๆว่า ทุนนิยม ทุนนิยมไม่ใช่ว่าไม่ดี ทุนนิยมที่เป็นปัญหาคือทุนนิยมที่หวังแต่ผลกำไรสูงสุด ไม่สนว่าจะเกิดผลกระทบอะไร

วู้ดดี้ : ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น หลักธรรมคำสอนของศาสนาพุทธ หรือศาสนาใดก็ตาม จะใช้ในโลกปัจจุบันได้จริงหรือ?
ท่าน ว.วชิรเมธี : มันต้องใช้ได้สิ ถ้าใช้ไม่ได้ศาสนาพุทธก็เจ๊งนะสิ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ใช้ได้หรือไม่ได้ แต่ปัญหาอยู่ที่เราไม่หยิบมาใช้

วู้ดดี้ : หลายคนมองว่า ท่าน เลือกฝั่งถ้ามีคนถามท่าน ท่านจะตอบอย่างไร?
ท่าน ว.วชิรเมธี : ไม่ใช่แค่พระอาจารย์ที่ถูกบอกว่าเลือกข้าง พระในกระแสหลักก็ถูกบอกว่าเลือกข้าง ไม่อยู่ในกระแสก็บอกว่าเลือกข้าง เหลืออยู่องค์เดียวที่ยังไม่มีข้างคือพระประทาน  ตอนนี้ไม่มีใครที่ถูกบายสีว่าเลือกข้าง พอพระอาจารย์ไปออกทีวีของรัฐ ก็บอกว่าเลือกข้างนั้น พอไปออกในรายการเคเบิลทีวีก็บอกว่าเลือกฝ่ายนั้น แต่สิ่งที่อันตรายกว่าการเลือกข้างคือ คนในประเทศไทยตัดสินกันง่ายๆ เพียงเพราะว่าเขาไปออกทีวีบางช่อง หรือสวมเสื้อบางสี อันตรายที่คนไทยเลือกที่จะไม่ใช้ปัญญา

วูดดี้ : มีบางคนบอกว่า พระอาจารย์เลือกสีแล้ว เพราะพระอาจารย์ห่มเหลือง พระอาจารย์รู้สึกอย่างไร กับคำพูดเหล่านั้น?
ท่าน ว.วชิรเมธี : คนที่พูดแบบนี้ค่อนข้างอ่อนปัญญา ไม่ใช่ปัญญาอ่อน ปัญญาออ่อนคือไม่มีปัญญา แต่อ่อนปัญญา คือ มีปัญญาแต่ไม่ใช้ปัญญาเลย ทำไมคุณไปตัดสินคนอื่นจากรูปลักษณ์ภายนอก  ถ้าคิดอย่างนั้นให้คุณเอาผ้าสีเหลืองอันหนึ่ง กับผ้าแดงอันหนึ่งไปผูกไว้ที่ตอ แล้วบอกว่า ตอนี้เลือกข้างแล้ว

วูดดี้ : เสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ จะเลือกใส่อะไรก็ไม่ได้ กลัวออกไปข้างนอกแล้วคนอื่นจะคิดว่าเราเป็นยังไง ทั้งๆที่เราไม่ได้คิดอะไรเลย
ท่าน ว.วชิรเมธี : เรื่องนี้สะท้อนว่าถ้าเราเต็มไปด้วยอคติ ถึงมีปัญญาเราก็จะไม่ใช้ เมืองไทยตอนนี้ป่วย คือ มองคนไม่เห็นเป็นคน เพราะสายตาเราเลือกข้างไปแล้ว เราจึงมองคนไทยไม่เห็นเป็นคนไทย มองเห็นแต่เสื้อที่สวมใส่ มองไม่เห็นว่าเป็นคนไทย แม้ตอนนี้ใครจะมาเตือนก็ยากที่เราจะได้เห็นได้ยิน ได้ฟัง

วู้ดดี้ : เวลาที่ผ่านมา คนเลือกข้างเริ่มใช้การโต้ตอบ ว่ากล่าวอีกฝ่ายอย่างรุนแรง อะไรทำให้เขาเปลี่ยนแปลงขาดนั้น ทั้งๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์เลย ?
ท่าน ว.วชิรเมธี : เราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ แต่เราอยู่ในบรรยากาศของมัน สภาพแวดล้อมมันเต็มไปด้วยความขัดแย้งรุนแรง ตื่นมาเปิดโทรทัศน์ก็เจอ เปิดหนังสือพิมพ์ก็เจอ  ถ้ามว่าทำไมเราต้องด่าทอด้วยล่ะ ทำไม่เราต้องเลือกข้างด้วยล่ะ ลึกๆเราตกเป็นทาสขออคติ อคติของความลำเอียง ความลำเอียงมี 4 ประการ พระอาจารย์คิดว่าคนไทยตอนนี้มีครบทุกข้อเลย
1) ฉันทาคติ คือ ลำเอียงเพราะรัก ทำให้คนๆหนึ่งเป็นเทวดาได้ โดยไม่สนใจข้อบกพร่องของเขา
2) โทสาคติ คือ ลำเอียงเพราะชัง ทั้งๆที่คนๆหนึ่งมีคุณงามความดี สามารถเสกให้เขาเป็นภูษผีปีศาจได้
3) โมหาคติ คือ ลำเอียงเพราะเขลา เรารับข่าวสารข้อมูลมาไม่ครบ คนไทยมีนิสัยเชื่อมากกว่าที่จะหาความรู้ คนไทยจึงตกเป็นเหยื่อเพราะลำเอียงเพราะเขลาเพราะรับข่าวสารด้านเดียว ได้ข้อมูลมาก็เชื่อไม่มีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ในเมืองไทยถ้าต้องการทำร้ายใคร ก็เขียนใส่ร้ายป้ายสี ส่ง forward mail ส่งไปทาง facebook twitter ส่งไปทาง BB คนนั้นก็หมดอนาคตแล้ว เพราะอุปนิสัยคนไทยชอบเชื่อมากกว่าชอบศึกษา คนไทยตกเป็นทาสของอคติตัวนี้มาก วันหนึ่งมีคนป้อนข้อมูลขยะต่างๆให้ คนเชื่อแล้วเสี่ยมให้ฆ่ากันเอง สุดท้ายรู้ว่าโดนหลอก จะเหลือคนไทยให้เสียใจไหม เพราะทุกฝ่ายเข้าสู่สงครามประชาชนไปกันหมดแล้ว ระหว่างประชาชนคนไทยด้วยกันเอง
4) ภยาคติ คือ ลำเอียงเพราะกลัว

วู้ดดี้: งั้นเราควรบล็อก งดรับสื่อเลยไหมครับ?
ท่าน ว.วชีรเมธี : ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สื่อ ปัญหาอยู่ที่การใช้สื่อ และการบริโภคสื่อ ถ้าปิดหมดจะยิ่งแย่ไปใหญ่เลยนะ ยิ่งจำกัดเสรีภาพของสื่อ ยิ่งสะท้อนความไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะฉนั้นใช้สื่อถูกต้องแล้ว แต่สิ่งที่ต้องพัฒนาคือ ศักยภาพในการรับสื่อของเรา ต้องใช้ปัญญาให้เป็น คนไทยตอนนี้ใช้อารมณ์มากกว่าการใช้ปัญญา สื่อ ชื่อเต็มคือสื่อสารมวลชน คือสื่อสิ่งที่เป็นแก่นสารไปหามวลชน ตอนนี้มันกลายเป็นสื่อมอมชน คือมอมให้คนมาทะเลาะกัน ถ้าสื่อเลือกข้างไปแล้วก็แสดงว่าประเทศนี้ไม่มีหลักประกันเหมือนกัน  มีผู้กล่าวว่าในสงครามสิ่งที่จะถูกทำลายก่อนคือ ความจริง ตอนนี้ในเมืองไทย ความจริงถูกทำร้ายอย่างน่าเศร้าใจ

วู้ดดี้ : บ้างครั้งเราไม่อยากออกความเห็นเพราะเราอาจมีความกลัวว่าคนอื่นจะมองว่าเราเข้าข้างฝั่งใดฝั่งหนึ่ง กลุ่มเงียบเหล่านี้ผิดไหม?
ท่าน ว. วชีรเมธี : กลุ่มเงียบ กับกลุ่มเลือกข้าง สุดท้ายคุณได้ผลกระทบไหม ขอตอบผ่านพุทธปรัชญาเรื่อง ตีนกับตา ตีนกับตาอยู่ด้วยมานานวันหนึ่งเกิดความขัดแย้งกัน ตาบอกว่า ตีนไปไหนมาไหนได้เพราะตามองทางให้ แต่ตีนก็บอกว่าที่ตาได้ไปไหนมาไหน ได้มองเห็นสิ่งต่างๆเพราะตีนพาไป สุดท้ายตายื่นคำขาดถ้าคิดว่าตีนดีนักจะไปไหนมาไหนก็เรื่องของตีน ฉันไม่มอง ตาก็หลับตาลง ตีนก็แน่ฉันเดินเองก็ได้ สุดท้ายเดินตกเหวร่างกายแตกละเอียด แต่ส่วนตัวอยู่เฉยๆไม่เคยทะเลาะก็แหลกละเอียดด้วย ลุกขึ้นมาโอดโอย ฉันเกี่ยวอะไรด้วย! ถ้าบ้านเมืองหายนะ เราได้รับผลกระทบด้วย แทนที่เราจะเป็นพลังเงียบเราควรเป็นพลังชนิดหนึ่งชนิดใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเหลือง เป็นแดง เป็นรัฐ หรือพลังผู้ชุมนุม เรามาร่วมกันเป็นพลังแห่งสติได้ไหม แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยก็ของเราเหมือนกัน และเราไม่อนุญาติให้ใครทำร้ายประเทศ

วู้ดดี้ : ถ้าเรามีความคิดที่อยากจะเห็นประเทศชาติสงบสุข พัฒนาต่อไป เราต้องทำยังไง?
ท่าน ว.วชิรเมธี : ต้องระวังตัวเองอย่าให้สูญเสียสติ และปัญญา อย่าตกเป็นทาสของการกระตุ้นเร้า โดยสื่อหรือใครก็แล้วแต่ เพราะถ้าเสียสติไปแล้วก็จะใช้อารมณ์ พอใช้อารมณ์ถึงมีปัญญาก็ไม่ใช้แล้ว ต้องใช้ปัญญาอย่าไปใช้ความรุนแรง นี้คือในส่วนตัว ในส่วนสังคมต้องทำอะไรสักอย่างเช่น ลุกขึ้นมาพูด ลุกขึ้นมาคุย เป็นศิลปินแต่งเพลงก็ได้ เป็นนักธุรกิจตั้งวงคุยกันในกลุ่มว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง ทุกๆคนทุกๆวงการพร้อมใจกันส่งเสียงสติ เสียงนั้นก็จะดังขึ้นมา บางครั้งเราไม่ยอมส่งเสียงอะไรเลยเพราะเรากลัว ถ้าเรากลัวมากๆสุดท้ายเราจะได้อยู่แต่ในประเทศที่มีแต่ความกล้ว แต่ถ้าเราลุกขึ้นมาแสดงจุดยืนของเราความกลัวจะมาเพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราวแล้วก็จากไป เราจะเลือกว่าจะอยู่ในประเทศที่มีแต่ความกลัวหรอประเทศที่มีความสุข คนไทยทุกคนเป็นคนออกแบบ

วู้ดดี้ : กลัวแล้ว ผิดตรงไหน?
ท่าน ว.วชิรเมธี : กลัวมันไม่ผิดหรอก แต่มันไม่ควร เพราะถ้าคุณกล้วแสดงว่าคุณยอมให้สิ่งต่างๆที่ไม่ชอบธรรมเกิดขึ้นในบ้านเมืองโดยดุสดี

วู้ดดี้ : หลายคนบอกว่าเราควรใช้สันติวิธี เราเห็นสันติพิธี ไม่เห็นทางออกที่แท้จริง
ท่าน ว.วชิรเมธี : เราต้องช่วยกันให้สันติวิธีนี้เป็นเรื่องจริง สันติวิธี กับสันติพิธี ต่างกันที่ สันติวิธีเริ่มที่ความจริงใจ ส่วนสันติพิธีเริ่มต้นที่ความลวง แต่ละฝ่ายที่อยากเจรจา ถามว่าคุณจริงใจกับประเทศนี้ไหม ทุกกลุ่มทุกฝ่ายอ้าง อหิสา บุคคลหนึ่งที่ถูกอ้างมากคือ มหาตมะ คานธี เวลามีม๊อบที่ไหนถูกอ้างตลอด สันติวิธีของ คานธี มีหลักอยู่ว่า ไม่ว่าจะถูกกระทำแค่ไหน ก็ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง และไม่กล้วที่จะถูกจับ ตานธีเคยพูดไว้ว่า สำหรับ นักสันติวิธีแบบมหาตมะ คานธี การเดินเข้าคุกอย่างมีศักดิ์ศรี นั้นคือเกียรติยศของพวกเรา ถ้าเราอ้างว่าใช้สันติวิธี เราต้องใช้จริงๆ ไม่งั้นมันก็เป็นแค่น้ำยาบ้วนปาก บ้วนแล้วก็ทิ้งไม่มีใครกลืน

วู้ดดี้ : สันติวิธีที่มีอยู่ทั่วโลก ในอินเดีย ในแอฟริกา อีกตัวอย่างเช่น เนลสัน มันเดลลา จะประยุกต์ใช้กับประเทศไทยได้จริงหรอ?
ท่าน ว.วชิรเมธี : พระอาจารย์คิดว่าใช้ได้ กรณีของเนลสัน มันเดลลา น่าเรียนรู้มากนะ ในแอฟริกาใต้เขามีปัญหามากนะ รัฐบาลผิวขาวมาปกครองคนผิวดำ และครอบงำเบ็ดเสร็จมายาวนาน มันเดลลาเป็นหนึ่งในกองโจรรักชาติ เรียกว่าเป็นกบฏรักชาติก็ว่าได้ ใช้ยุทธวิธี สั่งอาวุธสงครามเข้ามาเลย เข่นฆ่าคนในชาติ แต่แล้วก็ไม่ยุติ ในที่สุดถูกจับไปขังคุกโดยรัฐบาลผิวขาว 27 ปีเต็ม เนลสัน มันเดลลา ได้บทสรุปจากการถูกจำคุกว่า ความรุนแรงมีแต่จะก่อให้เกิดความรุนแรงไม่จบสิ้น เมื่อควารุนแรงไม่ใช่คำตอบมันต้องใช้สันติวิธี จึงมีการเจรจากับรัฐบาลและได้ข้อสรุปว่า ต้องพบกันครึ่งทาง และจัดให้มีการเลือกตั้ง คนที่ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิปบดีกลับเป็น เนลสัน มันเดลลา ที่เป็นคนผิวดำ ท่ามกลางรัฐบาลผิวขาว ประเทศก็เกิดสันติ และได้รับรางวัลโนเบล แต่สันติภาพในแอฟริกาใต้ ไม่ได้เกิดขึ้นจากเนลสัน มันเดลลา เพียงคนเดียว แต่เป็นการร่วมมือกันของ อดีตประธานธิบดีคนเก่าด้วย จึงได้รับรางวัลร่วมกัน  จะเห็นได้ว่าสันติภาพเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากใครอีกคนหนึ่ง สันติภาพจะเกิดขึ้นได้โดยทุกฝ่ายมาร่วมกัน

วู้ดดี้ : กิจของสงฆ์ มีสิทธิจะแสดงออกทางการเมืองหรือไหม?
ท่าน ว.วชิรเมธี : ต้องมานิยามคำว่า กิจของสงฆ์ บ้างแล้วนะ เพราะเวลาเราไม่อยากให้พระงสงฆ์มาย่งเรื่องไหน เราก็จะยกคำนี้มาใช้ กิจของสงฆ์ คือ ศึกษา ปฎิบัติ สัมผัสผล เผยแพร่ แก้ไข การเผยแพร่เป็นกิจของสงฆ์ การออกมาเทศน์มาสั่งสอนเป็นกิจของสงฆ์ หลายคนบอกพระอย่ามายุ่ง อย่ามาเทศน์ในกิจการบ้านเมือง เราแยกกิจการบ้านเมืองไว้ก้อนหนึ่ง เราแยกกิจของสงฆ์ไว้อีกก้อนหนึ่ง พอเราไปแยกพระสงฆ์ออกจากการเมือง ว่าแย่แล้วนะ แต่เราไปแยกธรรมะออกจากนักเมืองแย่ยิ่งกว่า คุณแยกพระสงฆ์ออกจากการเมืองเป็นเรื่องที่รับได้ แต่ถ้าไปแยกธรรมะออกจากการเมืองหายนะทันที และนี้ต้นต่อของวิกฤตการณ์เมืองของไทยในทุกวันนี้เลย บทบาทของพระสงฆ์นั้นมีหน้าที่ให้ธรรมะแก่นักการเมืองได้ แต่ไม่มีหน้าที่ลงไปเล่นการเมือง ถ้าทำแค่นี้พระยังเกี่ยวข้องกับการเมืองได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ลงไปตะลุมบอนกับเขา อันนี้เลยพระธรรมวินัย ถือว่าไม่ถูกต้องแล้ว แสดงว่าท่านไม่ได้ลงไปสอน แต่ท่ากำลังเล่นการเมือง อันนี้พระวินัยไม่อนุญาติเด็ดขาด

วู้ดดี้ : บางคนบอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นจากกรรมเก่า ชะตาบ้านเมืองไม่ดี  เราจะบอกกับเขาว่ายังไง?
ท่าน ว.วชิรเมธี : วิธีอธิบายของคนไทยฟังดูประหลาดนะ ถ้าเป็นเรื่องของกรรมเก่าทำได้อย่างเดียวคือยอมรับ แก้โดยทำบุญประเทศ ปล่อยวัว ปล่อยควาย วัวควาย มันจะรู้อะไร สู้ปล่อยคนที่จะไปปล่อยวัวควายดีกว่านะ เพราะวิธีอธิบายของเราบอกว่าเป็น กรรมเก่า มันไม่ได้ช่วยอะไรนะ เราบอกว่าวิกฤตของบ้านเมืองเป็นเรื่องของกรรมเก่า แสดงว่าเราต้องยอมจำนน แก้ไม่ได้นะ เพราะกรรมเก่ามันชาติที่แล้ว คุณแก้ไม่ได้ คุณต้องรับอย่างเดียว คราวนี้บอกว่าเป็นเคราะห์ แสดงว่าเราต้องสะเดาะห์เคราะห์อย่างเดียวสิ เห็นมาตลอด ยิ่งสะเดาะห์เท่าไหร่ยิ่งแย่ลงไปทุกที ดวงเมืองไทยไม่ดี แล้วถามว่าทำไมดวงไม่ดีต่อเนื่องขนาดนี้ ทำไมมันไม่ดีขึ้น ถ้าบอกว่าดวงเมืองไม่ดี จะเกิดอะไรขึ้น นั้นคือ คนไทยไม่ต้องรับผิดชอบ เป็นความผิดของดวงเมือง พออธิบายอย่างนี้มนุษย์เลยไม่ต้องทำอะไรเพราะปัญหาเป็นเรื่องนอกตัวเราทั้งหมด วิธีคิดแบบนี้ปัญญาชนรับไม่ได้ พุทธศาสนาก็รับไม่ได้  พระอาจารย์ขอบอกว่า กรรมเก่า ไม่ใช่ของชาติที่แล้ว แต่เป็นกรรมเก่าในชาตินี้ ที่เราร่วมกันคิด ร่วมกันพูด ร่วมกันทำ เป็นเหตุปัจจัยของเราสะสมมาเป็นเวลาสามสิบสี่สิบปี ไม่ใช่กรรมเก่าแต่ชาติที่แล้ว ถ้าเรานิยามว่า กรรมเก่า เป็นกรรมในชาตินี้ ทางแก้ก็เป็นไปได้ เรามีค่านิยมวิปริตว่า สองมาตรฐานเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ในเมืองไทย การที่เราเชื่อว่าการโกงก็ได้นะขอให้แบ่งกัน ถ้าโกงแล้วไม่แบ่งไม่ดี ถ้าโกงแล้วแบ่งนะดี เรียกว่า มโนกรรม กรรมเก่าในระดับค่านิยม ถ้าคนไทยมีค่านิยมแบบนี้ฝั่งหัวอยู่ก็จะส่งผลมาในทางด้านพฤติกรรมเช่น ก็จะมีแต่คนที่คอยที่จะละเมิดกฎหมาย ในประเทศที่พัฒนาแล้วใครที่ละเมิดกฏหมายเขาก็มองว่าเป็นคนที่ด้อยการศึกษา แต่ในเมืองไทยใครละเมิดกฎหมายเรามองว่าเท่ เรามองว่าเป็นอภิสิทธิ์ชน มันสะท้อนถึงวิธีคิดของเรา ว่าค่านิยมเราวิปริตพฤติกรรมเราก็จะวิปริตไปด้วย และถ้าเรามีค่านิยมที่บอกว่าโกงก็ได้ขอให้แบ่งกัน การโกงการคอรั่ปชั่นเป็นสิ่งที่อันตราย แต่ที่อันตรายยิ่งกว่าคือการมีทัศนะคติให้มีการโกงได้ โดยมองเห็นว่าไม่มีความผิด สิ่งนี้ต่างหากที่มีการอธิบายให้การโกงมีความชอบธรรม มันอัตรายยิ่งกว่าการโกงโดยตรงเสียอีก นี้คือกรรมเก่าของเรา ถ้าเรามีค่านิยมที่วิปริต ทำไมเมืองไทยมันจะไม่วิปริตล่ะ ฉนั้นกรรมเก่าที่เราสะสมมาเป็นเวลายี่สิบ สามสิบปี ที่เราทะเลาะกันอยู่นี้เป็นแค่ปรากฎการณ์ เพราะไม่ใช่คนกลุ่มเราเท่านั้นที่สะสมกรรมเก่าเช่นนี้  คนไทยสั่งสมมากันหลายชั่วคน แล้วผลมันมาแสดงรุ่นเรา ในเมื่อมันเป็นกรรมเก่าในชาตินี้ เราทุกคนจะต้องแก้ในชาตินี้ ไม่ใช่ในชาติหน้า

วู้ดดี้ : ถ้าสมมุติว่าแกนนำฟังอยู่ตอนนี้ ลึกๆภายในใจอ่อนแอกันหมดแล้ว ไม่รู้จะไปในทางไหน ทั้งๆที่เบื้องหน้ายังแสดงว่ายังมั่นใจอยู่ดี เขาควรตั้งสติอย่างไร เพื่อหาทางออก?
ท่าน ว.วชิรเมธี : การที่เราไม่สามารถใช้ปัญญาอย่างเป็นกลาง และมองไม่เห็นทางออก เพราะเราก้าวไม่ข้ามสามเรื่องต่อไปนี้
1) ไม่สามาถก้าวข้ามเสื้อเหลือง 2) เราไม่สามารถก้าวข้ามเสื้อแดง  3) เราไม่สามารถก้าวข้ามรัฐบาลปัจจุบัน ถ้าเราก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ได้เราจะเห็นประเทศไทยโดดเด่นอยู่ตรงนั้น ตอนนี้เรามองไม่เห็นประเทศไทยเลย พอเลือกตั้งใหม่ แดงมาเหลืองก็ค้าน พอเหลืองมาแดงก็ค้าน พอรัฐบาลปัจจุบันมาทั้สองฝ่ายก็ค้าน ประเทศก็ไปไหนไม่ได้หรอก งั้นเรามาก้าวข้ามมันทั้งสามนี้แหละ แล้วเรามาบริหารจัดการประเทศกันใหม่ เราอย่าไปยึดติดสิว่าคนเก่งมีแค่สามกลุ่มนี้ พระอาจารย์คิดว่า วูดดี้ ก็เป็นนายกได้นะ เรามักคิดว่าคนเก่งมักจะเป็นคนอื่น นั้นเป็นเหตุผลที่เรารอ รอให้คนเก่งมาช่วยเรา เราแทบไม่คิดเองแล้วนะ เดี๋ยวเราก็รอฟังคนนั้น เดี๋ยวเราก็รอฟังคนนี้ แต่เราไม่เคยฟังเสียงของหัวใจตัวเองเลย ปัญหามันหมักหม่มไว้ เพราะเรามั่วแต่ไปฝากไว้กับคนนั้น ฝากไว้กับคนนี้ ถ้าเราไม่ลืมประวัติศาสตร์ ตลอดสามสิบปีที่ผ่านมาตัวละครที่ขัดแย้ง เป็นตัวเดิมทั้งหมดเลย ทุกคนเป็นกลุ่มเดิมที่ขัดแย้งกันอยู่แค่นี้ล่ะ ถ้าคนไทยลุกขึ้นมาแล้วเชื่อมั่นในสติปัญญาของตัวเอง ไม่ยอมให้ใครจูงจมูกกันง่ายๆ เมื่องไทยจะเข้มแข็งกว่านี้มาก พระอาจารย์สงสัยว่าคนไทยถูกออกแบบให้อ่อนแอหรือปล่าว เราจึงไม่ได้ดูรายโทรทัศน์ที่เติมรอยยักในสมอง เราจึงไม่มีรายการวิทยุที่เติมรอยยักในสมอง เราจึงไม่ค่อยได้อ่านสื่อดีๆที่มีบทความที่เขียนโดยผู้ปัญญาที่มีอิสระเสรี เพราะแบบนี้หรือป่าวที่ออกแบบทำให้คนไทยมีความอ่อนทางปัญญา ระบอบประชาธิบไตยที่เป็นหลักมั่นคงให้ระบอบนี้ที่สุด คือระดับสติปัญญาของประชาชน ถ้าระดับสติปัญญาของประชาชนไม่เข้มแข็ง ประชาธิปไตยก็จะอ่อนแอมาก ในอนาคตถ้าเราจะมีประชาธิปไตยสิ่งที่เราจะถามหาไม่ใช่การเลือกตั้ง แต่คือ คุณภาพของการเลือกตั้ง ถ้าเราได้การเลือกตั้งที่มีคุณภาพเราจะได้รัฐบาลที่มีคุณภาพ ถ้าการเลือกตั้งไม่มีคุณภาพเราก็จะกลับมาที่เดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่จบไม่สิ้น

วู้ดดี้ : ผมเป็นคนตัวเล็กที่รักประเทศชาตินี้มาก แต่มืดแปดด้านไม่รู้จะช่วยยังไง?
ท่าน ว.วชิรเมธี : ถ้าวู้ดดี้เป็นสื่อนะ อยากช่วยประเทศ พระอาจารย์ขอสองอย่าง 1) ขอให้มีความกล้าหาญทางจริยธรรม ที่จะลุกขึ้นมาพูด ลุกขึ้นมาแสดงจุดยืนของสื่อบ้าง ไม่ใช่สื่อเองก็กล้ว แล้วประชาชนจะมีช่องทางไหนล่ะ เราแทบจะไม่เหลือช่องทางแล้ว ช่องทางของสื่อเป็นอีกช่องทางของประชาชนจะได้ใช้เป็นหลักประกันของบ้านเมือง 2) ขอให้สื่อที่นำเสนอเป็นความจริง ไม่ใช่ความจริงที่ฉันอยากให้เป็น ถ้าคุณทำสองอย่างนี้ช่วยชาติได้แล้ว

วู้ดดี้ : เชื่อว่าคนไทยมีปัญญา แต่ขาดสติ เพราะมันอาจจะมืด เพื่อเป็นแนวทาง สำหรับตยที่สั่น ผวา กลัว งง สับสน หลงทางอยู่ขณะนี้ ในพรุ่งนี้ให้เขาตื่นขึ้นมา เขาควรปรับความอย่างไงครับ ชีวิตเขาจะได้เปลี่ยน ?
ท่าน ว.วชิรเมธี : เบื้อต้นเราจะต้องไม่ดูถูกตัวเอง ถึงแม้ว่าเราจะเป็นคนเล็กๆ แต่โลกไม่เคยเปลี่ยน เพราะคนใหญ่ๆ คนโตๆ พวกนี้เปลี่ยนเพราะคนเล็กๆที่ไม่ดูถูกตัวเองทั้งนั้น ดังนั้นเราอย่าไปดูถูกตัวเองว่าเราจะช่วยอะไรไม่ได้  และประการต่อมาคือ อยากให้มองว่า เราแต่ละคนช่วยกันส่งเสียงว่า เราไม่อยากเห็นเมืองไทย เราสู่กลียุค เราไม่อยากเห็นเมืองไทยมีแต่ควารุนแรง เราไม่อยากเห็นเมืองไทยมีสงครามกลางเมือง ช่วยกันส่งเสียงเสียงเล็กๆของแต่ละคน มันก็เหมือนหิงห้อยที่บินมารวมกันเป็นฝูง ก็มีแสงสว่างไม่น้อยไปกว่าสปอร์ตไลท์ได้เหมือนกัน ฉะนั้นเราในฐานะเจ้าของประเทศ จะทำอาชีพไหนก็ได้ คุณจะอยู่ฝ่ายไหนก็ได้ แต่นะเวลานี้คุณต้องไม่ลืมว่า คุณเป็นเสื้อเหลือง คุณเป็นเสื้อแดง คุณเป็นเสื้อหลากสี แต่ก่อนหน้านี้คุณเป็นคนไทย และจุดร่วมตรงนี้ล่ะที่เราคนไทย ส่งสัญญาณเพื่อเรียกเอาสติของคนไทยกลับคืนมาว่า เราเป็นคนไทยด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ฉะนั้นเราไม่ควรมาทำให้คนไทยต้องบาดเจ็บล่มตายกัน เพราะขัดแย้งทางการเมือง ส่งเสียงแห่งสติ ส่งเสียงแห่งปัญญาแบบนี้ออกไปให้มากที่สุด ใครส่งเสียงทางไหนได้ก็ส่งเสียงทางนั้น ถ้าเราทำได้นี้คือจุดร่วมที่เราจะพบกันได้ ถ้าเราไม่อนุญาติให้ใครมาทำร้ายประเทศชาติบ้านเมืองของเรา ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ตามนะ เสียงเล็กจะเป็นเสียงที่มีพลังแน่นอน

ที่มา : รายการวูดดี้ เกิดมาคุย แขกรับเชิญ พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี  ช่อง 9 ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2553
อัพโหลดคลิปโดย : thinkjaden

Exit mobile version