รัฐที่ล้มเหลว ประเทศไทยจะเป็นรัฐล้มเหลวจริงๆหรือ

Failed States Index 2009

สิ่งที่จะเขียนต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่ได้ฟังจากรายการข่าวสารเพื่อประชาชน ช่อง NBT เมื่อคืนวันที่ 16 พฤษภาคม 2553 เวลาประมาณ 23.20 น. ดำเนินรายการโดยคุณอี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ และมีแขกรับเชิญคือ อ.โสภณ สุภาพงษ์ เจ้าของรางวัลแมกไซไซ สาขาบริการสาธารณะ 2541 และอดีตสมาชิกวุฒิสภา เนื้อหาที่พูดถึงคือ รัฐที่ล้มเหลว ,รัฐพังทลาย หรือ Failed State ใครสนใจอยากฟังโดยตรง ตามไปดูในเว็บดูทีวีย้อนหลัง เลือกวันเวลาดังกล่าว

อ.โสภณ อธิบายเรื่องราวต่างๆ เชื่อมโยงกับรัฐล้มเหลว พบว่ามีความเป็นไปได้สูง มันเกิดขึ้นแล้ว และกำลังดำเนินไป ตามพล็อตที่วางไว้ ผมพยายามสรุปใจความสำคัญ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของทุกๆท่านครับ

  • สถานะการณ์ปัจจุบัน ภาพการใช้อาวุธสงคราม การใช้ความรุนแรง การเผาสถานที่ต่างๆ  การยิงสถานที่สำคัญต่อเนื่อง การเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ตลอดจนการยิง เสธ.แดง ต่อหน้านักข่าวต่างประเทศ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
  • การดำเนินการทั้งหมดนี้ ดำเนินการโดยทหาร มียุทธวิธี ไม่ใช่มือสมัครเล่น เป็นกลุ่มทหารทั้งประจำการและนอกราชการ รวมกับนักวางแผนระดับต่างประเทศ
  • เหตุการณ์เหล่านี้จะบอกได้ว่ามีพล็อต มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ มีการฆ่าผู้บริสุทธิ์ การยิง M79 ที่สถานที่สำคัญ ที่เป็นสถาบันต่างๆ ศาล บ้านนายก ที่ๆเป็นสัญลักษณ์ของกฏหมาย บุคคลสำคัญต่างประเทศไปพบผู้ชุมนุม ไปพบพรรคการเมืองที่สนับการชุมนุม ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯไปพบพรรคที่สนับสนุนการชุมนุม และไปพบผู้ชุมนุม ประธานาธิบดีติมอร์อาสาไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง และการยิง เสธ.แดง
  • การยิง เสธ.แดง มีประเด็นที่ต้องคิดหลายอย่าง คือ ถูกยิงโดยพวกเดียวกันที่ไม่พอใจ เสธ.แดง ที่ต้องการนำมวลชนไปในอีกทิศทางใช้ความรุนแรง หรือ การเอาคืนของเพื่อนทหารที่เสียชีวิต แต่จุดสำคัญที่ต้องคิดคือทำไมต้องยิงต่อหน้านักข่าวต่างประเทศ เป็นความบังเอิญจริงหรือ? ทำไมไม่ยิงก่อนหน้านี้ อ.โสภณ มองว่าเรื่องต่างๆเหล่านี้เชื่อมโยงไปหาดัชนีชี้วัด รัฐล้มเหลว รัฐพังทลาย หรือ Failed State
  • ดัชนีชี้วัดว่าเป็น รัฐล้มเหลว วัดแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้ารัฐใดเป็น รัฐที่ล้มเหลว จะเป็นข้ออ้างให้ประเทศมหาอำนาจสามารถเข้าแทรกแซง จัดการสถาบัน และจบด้วยการเลือกตั้งใหม่ ยกตัวอย่างเช่น ติมอร์ ประเทศต่างๆเข้าไปจัดการสถาบันใหม่แล้วจัดการเลือกตั้งใหม่ ไทยก็ส่งทหารเข้าไปด้วย ติมอร์ไม่ได้ร้องขอ และอีรัก สหประชาชาติไม่เห็นด้วยสหรัฐฯก็ส่งทหารเข้าไป  อัฟกานิสถาน โซมาเรีย(รัฐพังทลายอันดับ 1 ของโลก) ส่วนใหญ่ประเทศมหาอำนาจจะเข้าไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเอง โดยเฉพาะเรื่องของแหล่งพลังงานต้องระวัง ประเทศเหล่านี้อ้างความชอบธรรมในการเข้ามา โดยอาศัยดัชนีชี้วัดว่าเป็นรัฐล้มเหลว และจบด้วยการเลือกตั้งใหม่
  • รัฐ ความหมายคือ ผู้มีอำนาจสิทธิขาดในการใช้ความรุนแรงอย่างถูกต้องตามกฎหมายแต่เพียงผู้เดียว ไม่ขึ้นกับรัฐอื่นหรืออำนาจอื่นจากภายนอก เพราะประชาชนมอบอำนาจให้รัฐ ตอนแรกฟังมันอาจจะขัดหูบ้าง แต่ยกต้วอย่างนี้ขึ้นมาจะเข้าใจ คือถ้าเราเจอผู้ร้าย เราจะหยิบปืนขึ้นมาไล่ยิงเลยไม่ได้ ต้องให้รัฐ(ผ่านทางตำรวจ)เป็นคนจัดการ
  • รัฐที่ล้มเหลว คือ รัฐ ที่ไม่สามารถบริหารการปกครองได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือไม่สามารถดำรงรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยภายใน มีความขัดแย้งทางการเมืองและสังคมอย่างรุนแรง มีการเปลี่ยนรัฐบาลบ่อย รัฐบาลและกลไกรัฐขาดความมั่นคงและประสิทธิภาพ จนไม่สามารถบริหารประเทศและแก้ปัญหาต่างๆ ให้ประสบผลสำเร็จได้
  • รัฐล้มเหลว เป็นการวิจัยของวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน ( The London School of Economics and Political Science)
  • ตัวชี้วัดประกอบไปด้วยปัจจัยทางด้านสังคม 4 ตัว ทางด้านเศรษฐกิจ 2 ตัว และทางด้านการเมือง 6 ตัว รวมเป็น 12 ตัว ให้ข้อคะแนน 0-10 คะแนนสูงแสดงถึงความเลวร้ายสูง ดังนั้นช่วงคะแนนคือ 0-120 คะแนน ประเมิณโดยกองทุนเพื่อสันติภาพ และตีพิมพ์ในนิตยสาร Foreign Policy ที่อเมริกา ในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี
  • จัดอันดับประเทศที่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ 177 ประเทศ ในปี 2009 ประเทศไทยได้คะแนน 79.2 อันดับที่ 79  อยู่ในกลุ่มเตือนภัย (Warning) ถ้าได้เพิ่มอีก 10 คะแนน จะอยู่ในกลุ่มประเทศ รัฐล้มเหลว ปีที่แล้วมีจราจลในช่วงเมษายนแล้วรัฐจัดการได้ยังแสดงให้เห็นว่ารัฐมีอำนาจในการจัดการปัญหา ปีนี้เลวร้ายกว่าปีที่แล้วมาก
  • มาดูแต่ละข้อและดูว่าประเทศไทยตอนนี้ กำลังถูกชักจูงให้เป็น รัฐที่ล้มเหลวหรือไม่ เพื่อดึงต่างประเทศเข้ามาในไทย เพื่อล้มสถาบันในประเทศแล้วเลือกตั้งใหม่ ใช่หรือไม่? ถ้าเทียบกับปีที่แล้ว ไทยได้คะแนนเพิ่มแน่นอน

กลุ่มตัวชี้วัดทางสังคม
1) แรงกัดดันทางประชากรศาสตร์ (Demographic pressures): ในตัวชี้วัดนี้จะรวมถึงปัญหาที่เกิดจากประชากรที่หนาแน่น ซึ่งจะรวมถึงความสัมพันธ์กับปัจจัยที่สำคัญต่างๆ ที่ใช้ในการดำรงชีวิต นอกจากนี้ยังรวมไปถึงประเด็นปัญหาด้านการควบคุมบังคับในการนับถือศาสนา การพังทลายของสิ่งแวดล้อม ประเด็นปัญหาทางประวัติศาสตร์ แลความขัดแย้งตามแนวชายแดน ปี 2009 ได้คะแนน 6.9

2) การย้ายถิ่นฐานของประชาชนจำนวนมาก (Massive movement of refugees and internally displaced peoples): ในตัวชี้วัดนี้จะพิจารณาถึง ประเด็นปัญหาของการเคลื่อนย้ายชุมชนขนาดใหญ่ที่มีสาเหตุมาจากการขาดแคลนอาหาร ขาดน้ำสะอาด ภัยธรรมชาติ หรือ การแย่งชิงที่ดิน อันนำไปสู่ผลที่คุกคามต่อประเด็นปัญหาด้านความมั่นคงมุนษย์และมนุษยธรรม ทั้งที่เป็นปัญหาภายในประเทศและระหว่างประเทศ ปี 2009 ได้ 6.5

3) กรณีความขัดแย้งของแต่ละกลุ่มชนที่ไม่พอใจเหตุการณ์ในอดีต (Legacy of vengeance-seeking group grievance): คนในประเทศมีความขัดแย้ง แตกแยกกันอย่างชัดเจน มีการทำร้ายแก้แค้นกัน ตัวชี้วัดนี้อยู่บนพื้นฐานของความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นในอดีต แล้วอาจนำมาเป็นเงื่อนไขในปัจจุบัน ปีที่แล้วไทยได้ 8

4) ปัญหาการไหลออกของทุนมนษย์ (Chronic and sustained human fligh): ในตัวชี้วัดนี้จะครอบคลุมทั้ง การไหลออกของผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และผู้ที่ลี้ภัยทางการเมือง ปีที่แล้ว 4.5

• กลุ่มตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ
5) ความไม่ปกติของการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Uneven economic development along group lines): ในตัวชี้วัดนี้จะถูกตัดสินใจบนพื้นฐานของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีความแตกต่าง ทั้งทางด้าน การศึกษา หน้าที่การงานสถานะทางเศรษฐกิจ ปีที่แล้ว 7.7

6) ความชัดเจน และ/หรือ ความรุนแรงของการถดถอยทางเศรษฐกิจ (Sharp and/or severe economic decline): ตัวชี้วัดนี้จะพิจารณาจาก มุมมองในทุกด้านที่ส่งผลให้การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจชลอตัวลงหรือหยุดชะงักงันในกระทันหัน ปี 2009 ได้คะแนน 3.8

• ตัวชี้วัดทางการเมือง
7) การปกครองของรัฐที่ไร้ความเป็นธรรม (Criminalization and/or delegitimisation of the state): มีมุมมองทั้งการพิจารณาในเรื่องคอร์รัปชันและการกระทำใดๆ ที่อาจนำสู่ความไม่โปร่งใส ปีที่แล้วไทยได้คะแนน 8.2

8 ) ความเสื่อมถอยของการให้บริการสาธารณะ (Progressive deterioration of public services): ในตัวชี้วัดนี้จะพิจารณาจาก ระดับของความสามารถของรัฐในการจัดการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและกิจการสาธารณะต่างๆ อ.โสภณ กล่าวรวมถึงผู้ก่อการร้ายเลือกฆ่าผู้บริสุทธิ์ได้ตามชอบใจ โดยรัฐไม่สามารถปกป้องประชาชนของตนเองได้ ปีที่แล้วไทยได้ 5.4

9) การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่แพร่หลาย (Widespread violation of human rights): ในตัวชี้วัดนี้จะให้ความสำคัญกับ ระดับของการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐที่แพร่กระจายอยู่ทั่วไปในรัฐ ปี 2009 ได้คะแนน 6.9

10) การมีรัฐซ้อนในรัฐ (Security apparatus as ‘state within a state’): ตัวนี้สำคัญ รัฐสูญเสียอำนาจในการจัดการบังคับใช้กฎหมาย เจ้าหน้าที่ของรัฐ ตำรวจ ทหาร บางส่วนที่ช่วยผู้ก่อการร้ายแสดงให้เห็นว่ามีรัฐซ้อนรัฐอยู่ อีกอย่างคือมีพื้นที่บางจังหวัดรัฐไม่สามารถควบคุมได้ การเมืองในสภาที่มีการแสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนุบสนุนอีกฝ่าย ปีที่แล้วได้ไป 7.5 คะแนน ปีนี้คะแนนขึ้นแน่นอน

11) การก่อตัวของกลุ่มผู้มีอิทธิพลทางความคิด (Rise of factionalised elites): ตัวชี้วัดนี้จะพิจารณาถึงจำนวนและการเพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้นำต่างๆ แกนนำทางความคิดทำให้เกิดความแตกแยกในประเทศ ที่ส่งผลโดยภาพรวมต่อสถาบันหลักของประเทศ ปีที่แล้วได้คะแนน 3.8

12) การแทรกแซงกิจการภายในประเทศจากรัฐอื่น หรือ ปัจจัยภายนอก (Intervention of other states or external factors): ตัวชี้วัดนี้จะพิจารณาจากการเข้าแทรกแซงกิจการภายประเทศ จากรัฐอื่น หรือปัจจัยภายนอก ปี 2009 ไทยได้คะแนน 5.8 ประเทศเวียตนามได้ 6 คะแนน ได้แสดงความเป็นห่วงประเทศไทย ประเทศติมอร์ที่ได้ 9 คะแนน เสนอตัวไกล่เกลี่ยปัญหาให้ คิดว่าปีนี้ไทยจะได้คะแนนเท่าไหร่

Failed state index ของไทยในปี 2009
  • กลุ่มวางแผน ผู้ได้ประโยชน์อยู่ข้างนอกชุมนุมทั้งสิ้น สิ่งที่จะทำคือให้ทำให้คนบาดเจ็บ ล้มตายมากที่สุด ถ้าเป็นดังนั้นเราจะพบว่าผู้ชุมนุมเสื้อแดงเป็นผู้บริสุทธิ์ที่เป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่งของผู้บงการภายนอก อาจรวมไปถึง เสธ.แดง ด้วยที่เป็นเพียงหมากตัวหนึ่ง ไม่แน่ว่าแกนนำรู้ หรือไม่ อาจรู้และไม่เอาด้วยแกนนำหลายคนจึงไม่เอาด้วย
  • อ.โสภณ แนะนำให้จับตัวผู้บงการข้างนอกก่อน จึงจะสามารถจัดการกระบวนการนี้ได้
  • ข้อสังเกตุ การชุมนุมต่อสู้ยังไงก็ไม่ชนะทหาร ทางเดียวที่จะชนะได้คือ ให้คนที่ชุมนุมตายมากที่สุดแล้วต่างประเทศจะเข้ามา คนที่อยู่ต่างประเทศไม่อยากป้องกันท่านที่ชุมนุมแต่อยากใช้ประโยชน์ตอนมีคนเสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน ผู้บงการได้ประโยชน์ทั้งสิ้น เราจะเห็นความโหดร้ายของผู้วางแผน

“รัฐบาลนี้แพ้ ประเทศนี้แพ้ ไม่ใช่เรื่องการเมืองแล้ว เป็นเรื่องของรัฐ มันคือ ขบวนการล้มรัฐ”

ที่มา : รายการข่าวสารเพื่อประชาชน ช่อง NBT เมื่อคืนวันที่ 16 พฤษภาคม 2553 เวลาประมาณ 23.20 น.

https://www.fundforpeace.orghttps://www.tortaharn.net , https://th.wikipedia.org/wiki/รัฐที่ล้มเหลว

อ็อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ในงานประกาศรางวัลนาฏราช

https://www.youtube.com/watch?v=qtgJMOEREMw

คลิปพงษ์พัฒน์ ในงานประกาศรางวัลนาฏราช

อ็อฟ -พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ได้รางวัลจากนาฎราช จากละครพระจันทร์สีรุ้ง ในบทพ่อของบี้ เดอะสตาร์ ตอนขึ้นไปรับรางวัลได้กล่าวขอบคุณสั้นๆ และพูดเรื่อง พ่อ ฟังในคลิปได้ ถ้าใครอยากอ่านผมถอดคำพูดมาให้คำต่อคำ

“ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้รางวัลนี้เลยครับ กราบขอบพระคุณสำหรับ สมาพันธ์ สมาคมผู้ประกอบการวิทยุโทรทัศน์ ขอบคุณทุกๆคน พี่ๆในวงการและก็เป็นรางวัล ที่ได้จากบทบาทเกี่ยวกับพ่อ ขออนุญาติพูดเกี่ยวกับ พ่อ นิดหนึ่งก็แล้วกันครับ

พ่อเป็นเสาหลักของบ้านนะครับ บ้านของผมหลังใหญ่ หลังใหญ่มาก เราอยู่กันหลายคน ผมเกิดมาในบ้านหลังนี้ก็สวยงามมากเลย สวยงามและอบอุ่น แต่กว่าจะเป็นแบบนี้ได้ บรรพบุรุษของพ่อ เสียเหงื่อ เสียเลือด เอาชีวิตเข้าแลก กว่าจะได้บ้านหลังนี้ขึ้นมา

พ่อคนนี้ ก็ยังเหนื่อยที่จะดูแลบ้าน และดูแลความสุขของทุกๆ คนในบ้าน ถ้ามีใครสักคน โกรธใครมาก็ไม่รู้ ไม่ได้ดั่งใจเรื่องอะไรมาก็ไม่รู้ และก็พาลมาลงที่พ่อ เกลียดพ่อ ด่าพ่อ คิดจะไล่พ่ออกจากบ้าน ผมจะเดินไปบอกคนๆ นั้นว่า

ถ้าเกลียดพ่อ ไม่รักพ่อแล้ว จงออกไปจากที่นี่ซะ เพราะที่นี่คือบ้านของพ่อ (ทุกคนเริ่มปรบมือ) เพราะที่นี่คือแผ่นดินของพ่อ ผมรักในหลวงครับ และผมก็เชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในที่นี้รักในหลวงเหมือนกัน พวกเราสีเดียวกันครับ ศีรษะนี้มอบให้พระเจ้าแผ่นดิน ขอบคุณครับ “

ทุกคนยืนปรบมือ เสียงดังยาวนาน….

ขอแถมอีกคลิป ความฝันอันสูงสุด

คลิปอัพโหลดโดย b2v2b และ gnixanon

ทำไมคนอีสานรักทักษิณ ในมุมของคนอีสาน

ทำไมคนอีสานรักทักษิณ? เรื่องนี้ผมเอาประสบการณ์ส่วนตัว ในมุมมองของผมมาแชร์ก็แล้วกันนะครับ ผมคนร้อยเอ็ดโดยกำเนิดพอจะเข้าใจคนที่บ้านว่าเขาคิดยังไง อาจจะไม่ทั้งหมดแต่คิดว่าเข้าใจในระดับหนึ่ง

คนเสื้อแดง
  • คนอีสานเป็นเสื้อแดงเยอะมาก ดูจากในช่วงสงกรานต์ผมเดินทางกลับบ้าน คนที่เล่นน้ำสงกรานต์แต่ละจุดของหมู่บ้านต่างๆ หลายอำเภอใส่เสื้อสามเกลอมาเล่นน้ำกันเกือบจะทุกหมู่บ้าน ไม่ต้องปฎิเสธว่าเสื้อแดงกับทักษิณไม่เกี่ยวกัน เพราะเสื้อแดงคือคนรักทักษิณ
  • คนอีสานที่อยู่บ้านเดียวกัน หมู่บ้านใกล้เคียงกันรู้จักกันหมด เป็นญาติๆกันด้วยซ้ำไป ถ้าจะบอกว่าทั้งตำบลรู้จักกันหมดก็พูดได้ ไม่เกินจริง ข่าวสารต่างๆใช้ปากต่อปากกระจายได้เร็ว และเชื่ออย่างสนิทใจเพราะฟังจากคนรู้จักจากญาติพี่น้อง ดังนั้นใครก็ตามที่มีกระบอกเสียงดีๆสักคน การชักจูงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ไม่แปลกใจที่ ส.ส. ทำไมต้องมีหัวคะแนนประจำหมู่บ้าน การเชิญชวนด้วยคนที่เป็นที่นับหน้าถือตา อย่างเช่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน  อบต. คนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรจะตามเออออตามกลุ่มนี้ทั้งนั้น ถ้าทำให้คนเหล่านี้เพียงไม่กี่คนให้คล้อยตามได้ ทั้งหมู่บ้าน ทั้งตำบลก็เอาด้วย
  • นโยบายของทักษิณ โดนใจเขาสุดๆ นโยบายของรัฐบาลชุดอื่นมีอะไรบ้างรับรองที่บ้านไม่มีใครตอบได้ แต่ถ้าถามว่านโยบายทักษิณมีอะไรบ้าง เด็ก ป.1 ก็ตอบได้ เพราะมันเห็นกันชัดเจน โครงการกองทุนหมู่บ้าน ทุกคนชอบมันมาก แม้จะบอกว่าทำให้เป็นหนี้มากขึ้น แต่เขาไม่สนใจรอก ขอให้มีเงินใช้ไปวันๆ ยืมมาซื้อรถมอเตอร์ไซต์ ซื้อมือถือ ก็เอาคนอื่นเขามีก็อยากมีบ้าง อยากให้ลูกให้หลานได้มีกับเขาบ้าง  แม้เวลาต้องส่งเงินต้นต้องไปยืมนายทุนอีกต่อเพื่อมาจ่ายก่อน แล้วค่อยคืนพร้อมดอกเบี้ยให้นายทุนในอีกสองสามวันก็ทำ  30 บาทรักษาทุกโรค ไม่สนหรอกว่าจะได้ยาไม่ดี ดูแลไม่ดี แต่มันให้หลักประกันว่า เขามีเงิน  30 บาท ไปโรงพยาบาลได้แล้ว ถึงมือหมอเขาไม่ปล่อยให้ตายหรอก ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาด้วย OTOP ที่บ้านผมมีทอผ้า แม้รายได้มันไม่ได้เยอะมากมาย แต่ได้มีอะไรทำตอนว่างจากการทำนา ได้ไปดูงาน ได้ไปเที่ยว ออกร้าน  กองทุน SML ที่แจกกันเป็นหมู่บ้านแล้วแต่บ้านไหนจะเอามาทำอะไร ที่บ้านผมสร้างศาลากลางบ้านแทนอันเก่า มีกิจกรรมอะไรเขาก็ไปทำที่นั้น อีกอัน โคล้านตัว โอ้โห่ ที่บ้านชอบมาก เอาวัวมาให้เลี้ยง เลี้ยงเอาลูกใครจะไม่เอา ช่วงหมดหน้าทำนาจะทำอะไร นอกจากเลี้ยงวัว
  • ถามว่า ทักษิณ โกงกิน ชาวบ้านไม่รู้หรือ? คำตอบคือ รู้ เขาจะถามกลับมาว่า แล้วรัฐบาลไหนไม่กินบ้าง ขึ้นคำนำหน้าว่า ส.ส. เข้าใจเลยว่ามันต้องโกง ซื้อเสียงต้องมี เขาลงทุนแล้วต้องเอาคืน เอามากเอาน้อยแล้วแต่คน ที่น่าเจ็บใจคือมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เป็นมาตลอด สิ่งที่เขาบอกคือ แม้ทักษิณจะโกงมา เราก็ได้กินกับเขา คนอื่นกินคนเดียว ทักษิณ เอามาแจกชาวบ้าน แถมไปปล้นพวกคนรวย มาช่วยคนจนอีก ไม่ให้รักได้ยังไง! โดยเฉพาะพวกที่ออกมาไล่ทักษิณ มันเสียประโยชน์ เลยออกมาไล่
  • ขบวนการล่มเจ้าล่ะ ที่บ้านมีรูปในหลวงทุกหลัง อยู่หิ้งพระด้วย ข่าวพระราชสำนักมานั่งฟังอย่างตั้งใจ คนอีสานรักในหลวงมาก ถ้าบอกว่า เสื้อแดงอีสานมีขบวนการล่มเจ้าผมไม่เชื่อ แต่กลุ่มอื่นไม่แน่ และพวกที่เอาพลังคนอีสานไปใช้ในการทำอะไรที่ไม่ดี ขอบอกว่าเลวมาก
  • พื้นที่อีสานไม่ใช่ของพรรคประธิปัตย์อยู่แล้ว มันเป็นของ พรรคความหวังใหม่ พรรคชาติไทย พรรคไทยรักไทย ฯลฯ เขามองว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคของคนใต้ได้เป็นก็ดูแลแต่คนใต้ไม่สนใจคนอีสาน และผมก็ไม่เคยจะเห็น ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ไปหาเสียงแถวบ้านนะ ส่วนมากแล้วพื้นที่อีสานแต่ก่อนจะไม่เป็นพรรคใดพรรคหนึ่งจะกระจายแล้วแต่พื้นที่ เพราะเขามองที่ตัวบุคคลมากกว่ามองที่พรรคการเมือง นามสกุลนี้มาทีไรได้ทุกครั้งไป  ส.ส. ต้องพึ่งพาได้ มีงานบุญต้องมา ต้องมีซอง ต้องมีน้ำแข็งมาช่วยงาน ต้องขึ้นพูดบนเวทีหมอลำ ขึ้นป้ายบนหนังกลางแปลง เวลาเลือกตั้งใครให้มากกว่าได้ไปแสดงถึงความใส่ใจมากกว่าเห็นความสำคัญของหนึ่งเสียงของเขามากกว่า อันนี้เป็นค่านิยมมาถึงเลือกสมาชิก อบต. หรือผู้ใหญ่บ้านแล้ว
  • รักใครรักเลย เกลียดแล้วเกลียดเลย แค่เห็นรองนายก หรือนายก ขึ้นจอทีวี ไม่ฟังด้วยซ้ำว่าพูดอะไร เขาด่าก่อนแล้ว ด่าใส่ทีวีก็เอา ถ้าจะให้คนอีสานลืมทักษิณยากพอกับให้เลิกกินปลาร้า เพราะเหมือนจะมีอะไรมากระตุ้นอยู่บ่อยๆให้คิดถึง ข่าวว่าจะกลับมาเนี้ยออกมาประจำ เรื่อยๆ เขามอง ทักษิณ เป็นเอกลักษณ์ของความเจริญ ความมั่งคั่ง ไปแล้ว และตั้งตารอการกลับมาอย่างมีหวัง
  • อีกกระแสหนึ่งที่ได้รับการยอมรับมากที่อีสาน คือการได้เปิดเผยตัวว่าเป็นเสื้อแดง ได้บอกคนอื่นว่าฉันเอาทักษิณ ได้ไปร่วมการชุมนุมมาแล้ว ใส่เสื้อแดง มีโลโก้ มีสโลแกน ผ้าพันคอ และเล่าประสบการณ์ให้คนอื่นฟัง เป็นอะไรที่เท่มาก มีอยู่ทุกวงเหล้า คนที่เล่าเบื้องลึกเบื้องหลังแบบ exclusive ได้ ยิ่งเพิ่มความศรัทธาในกลุ่ม และอย่าลืมว่ามันกระจายได้เร็วและถึงตัว
  • คนอีสานปลูกข้าวทำไม ไม่รวยสักที คนรวยทำไมเป็นเจ้าของโรงสี พ่อค้าขายข้าว คนผลิตทำไมมีแต่หนี้ ใครบอกว่าขี้เกียจทำงานเลยจน อันนี้ผมเถียงหัวชนฝาเลย ตีห้าเขาอยู่ที่นาแล้วกินข้าวเช้าเก้าโมง ข้าวเที่ยงบ่าย 3 ขึ้นจากนาตอนฟ้ามึด ทำนาได้แค่ปีละครั้ง หมดหน้านาจะทำอะไร จะเลิกก็ไม่ได้เพราะทำมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ส่งลูกหลานเข้ามาเมืองกรุงก็เป็นลูกจ้างคนรวย ไม่มีทางให้เดิน ทักษิณบอกจะทำให้เลิกจน แล้วมันทำให้เขาเห็นเป็นตัวเป็นตนตามที่พูดได้ ทำให้มีความหวังมากว่าจะแก้จนได้ ภาพทักษิณกดปุ่มปล่อยเงินล้านเป็นภาพติดตาสุดๆ
  • การมาเยือนร้อยเอ็ดของ ทักษิณ หลายคนมองว่ามันคือ Reality show แต่ได้คะแนนเต็มจากคนร้อยเอ็ด เพราะไม่เคยเห็นนายกคนไหนมาเยือนที่อีสาน สร้างภาพแต่ครองใจไปเต็มๆ

คิดว่าจะเขียนนิดเดียว ออกมาซะยาวเลย สิ่งที่ผมเขียน ผมอยากจะลดความเกลียดชังในสังคม อยากให้คนทั่วไปมองกันอย่างเห็นใจ เมื่อมีเหตุมาแบบนี้ มันจึงเป็นผลแบบนี้ ผมไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่ส่งผลกระทบกับส่วนร่วม ไม่เห็นด้วยกับการเอาพลังของมวลชนมาใช้ในทางที่ไม่ดี เอามาเป็นเครื่องมือ เอามาเป็นกำบัง เอามาหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง (ขอประณามคนพวกนี้) การทำแบบนั้นทำให้คนส่วนใหญ่เหมารวมคนอื่นๆในแง่ไม่ดีไปหมด อยากให้คนกรุงหรือคนเสื้อสีไหนก็ตามมองคนอีสานเป็นคนที่จริงใจ ซื่อๆ รักสนุก ฟ้อนหมอลำ เป่าแคน ตำส้มตำ กินข้าวเหนียว กินไข่มดแดง นึกถึงหนูหิ่น หัวเราะเสียงดัง เหมือนครั้งอดีตที่เคยมอง อยากให้มองอย่างเห็นใจ

ปล.คนที่เขียนคอมเม้นท์แล้วยังไม่ขึ้นไม่ต้องตกใจนะครับ เพราะผมต้องกรองก่อนนิดหน่อย บางคนหยาบคายเกินไป(รับไม่ได้) แต่ส่วนใหญ่ก็ให้ขึ้นหมดนะครับ มีบางคอมเม้นท์ที่ให้ขึ้นไม่ได้จริงๆ

ไปดูมาแล้ว องค์บาก 3

องค์บาก 3

องค์บาก 3 ภาคจบของการเล่าเรื่องที่มาของ “องค์บาก”  ไปดูมาหลายวันแล้ว วันนี้เลยขอบล็อกเป็นข้อๆอีกครั้ง อาจจะไม่ตรงใจท่านอื่นบ้างแต่นี้คือมุมมองของผมนะครับ

  • ต้องตามมาดูให้จบ เพราะภาค 2 ทำอารมณ์ค้าง
  • เปิดเรื่องได้งงสุดๆแม้จะได้ดูภาค 2 มาก่อนก็ตาม
  • อารมณ์แรกที่รู้สึกได้คือ เหมือนละครช่องเจ็ดที่เรตตี้ดี คุณแดงสั่งยืด เพิ่มตอน จึงมีภาพพระเอก นางเอก คิดเรื่องเก่าๆ ภาพเก่าๆ น้ำเยอะ เนื้อน้อย ในช่วงต้นๆเรื่อง
  • บางตอนไม่ค่อยสมเหตุผลเท่าไหร่ โดยเฉพาะการหลุดจากการประหารของเทียน(จา พนม) มีราชองค์การจากอโยธยาให้ปล่อยตัว มาได้ไง? และสั่งนักฆ่าตามไปฆ่าทีหลัง
  • ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องที่ไม่ประทับใจ สิ่งประทับใจผมมาก คือการรำของ พิม (จ๊ะจ๋า-พริมรตา เดชอุดม) ดูแล้วเหมือนนางอัปสรมาก ท่ารำคล้ายทางรำตอนชมรมอีสานจุฬาฯ ไปค่ายที่บุรีรัมย์ ตอนรำคู่กับเทียนที่ทำตัวสั่นๆเก็งๆหลังจากพยายามทำกายภาพบำบัดตัวเอง ดูสมจริงมาก ดูกลมกลืนกันดี

    เทียน กับ พิม

  • ฉากที่เกิดรอยบากบนพระพุทธรูป ไม่ค่อยประทับใจผมเท่าไหร่ น่าจะเป็นตัวเอกที่ทำให้เกิดรอยบากมากกว่าจะเป็นแค่ลูกกระจ๊อกที่ฟันพลาดไปโดน
  • ท่าการต่อสู้แบบใหม่ของ จา พนม ที่ประยุกต์มาจากโขน ดูเท่ เป็นเอกลักษณ์มาก  จำได้แค่ท่าหมุนหัว กับท่าเดินขาแข็ง ตอนกระดูกหัก และพยายามเดิน พยายามดัดตน แสดงได้น่าทึ่งมาก
  • ท่าต่างๆที่เราได้เห็นใน ต้มยำกุ้ง จะโผล่แว็บๆเข้ามาไม่แน่ใจว่าตั้งใจให้โยงถึงกันหรือปล่าว ฉากการต่อสู้ดูสมจริงดี มองไม่เห็นเป็น step by step เหมือน จีจ้า ดื้อ สวย ดุ

    การต่อสู้บนหลังช้าง

  • อีกความประทับใจคือน้ำเสียงของ ครูบัว (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) ช่างนุ่มลึก น่าเลื่อมใส ฟังแล้วสบายใจ
  • พระยาราชเสนา (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) คำพูดของเขาติดหูผมเลยแฮะ  “ป่นกระดูกมันให้ละเอียด!!”
  • ภูติสางกา (ชูพงษ์ ช่างปรุง) หน้าคล้าย จา พนม มาก แยกเกือบไม่ออกนึกว่าคนเดียวเล่นสองบท และผมไม่ชอบเสียงเอฟเฟ็กที่ทำให้เสียงฟังไม่รู้เรื่อง
  • หนังเลือดสาด หัวขาด แทงทะลุ หนังสำหรับ 18+ เด็กนั่งดูเพียบเพราะ จา พนม เป็นขวัญใจเด็กๆ
  • ไอ้เหม็น (หม่ำ จ๊กม๊ก) มีมุกแทรกให้ฮาบ้าง
  • visual effect ในเรื่องไม่สมจริง ทั้งกา ทั้งคนนอนตาย ทั้งหัวครุฑยักษ์ที่หล่นลงมาไม่ค่อยเนียน ที่จริงฉากอลังการ และสวยมากอยู่แล้ว ไม่ควรใส่พวกนี้เข้ามามากนัก
  • ผมยังมองว่า องค์บาก ภาค 3 คือส่วนต่อของภาค 2 ที่ควรจะรวมกัน เป็นภาคเดียวจะเจ๋งมาก เพราะในภาคสามมันดูเกินๆ ยัดๆเข้ามา ไม่เพียงพอจะเป็นภาค 3

ถ้าถามว่าควรดูไหม? ต้องตอบว่า “ควรดู” ผมยกให้ จา พนม + พันนา ฤทธิไกร เป็นผู้กำกับคิวบู๊ ออกแบบท่าต่อสู้ ได้น่าดูที่สุดในโลกแล้วในตอนนี้

แนะนำปลั๊กอิน WordPress สำหรับเว็บที่มีนักเขียนหลายคน

ทำเว็บ Biomed.in.th เริ่มจะมีนักเขียนหลายคน ผมถามเพื่อนๆทาง twitter ไปว่ามีปลั๊กอินสำหรับ WordPress ที่ช่วยในการจัดการเว็บที่นักเขียนหลายคนไหม ได้รับคำตอบกลับมาจากหลายคน ผมขอยกตัวที่ผมเอาไปใช้จริงสองตัวมาให้ดู ได้รับการแนะนำมากจาก @sourcode

  1. Role Manager: เป็นปลั๊กอินที่ช่วยในการกำหนดสิทธิ user ให้มีสิทธิในการเข้าถึง หรือปรับแก้ส่วนไหนได้บ้าง ผมใช้เพื่อเวลานักเขียนส่งเรื่องเข้ามา ต้องผ่านการตรวจสอบจาก admin อีกทีเพื่อช่วยกันดูว่าส่วนไหนผิดพลาด และส่วนไหนต้องเพิ่มเติม ก่อนส่งเรื่อยเผยแพร่ การกำหนดสิทธิแยกเป็นเฉพาะตัวบุคคลได้ด้วย เป็นปลั๊กอินที่สำคัญสุดที่ต้องมีในเว็บที่มีนักเขียนหลายคนเมื่อทำการติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ในส่วนของ ผู้ใช้ (User) จะมีเมนูเพิ่มเข้ามาให้เราได้ใช้งาน
    User Manager

    เมนู Roles จะสามารถกำหนดสิทธิให้ user ในระดับต่างๆ ได้ทุกระดับขั้น จะลบ เปลี่ยนชื่อ กำหนดสิทธิ เพิ่มใหม่ก็ได้ในหน้านี้

    หน้ากำหนดสิทธิของลำดับขั้นของ นักเขียน

    เมื่อเราต้องการกำหนดสิทธิให้เฉพาะคน สามารถเข้าไปที่ Profile ของ User นั้นๆ แล้วด้านล่างจะมีช่องให้เลือกติ๊กสิทธิของ user คนนั้น

    เมนูกำหนดสิทธิเฉพาะคน

  2. Author Exposed :ปลั๊กอินตัวนี้ เมื่อเราคลิกที่ชื่อของคนเขียน จะมีบ๊อบอัพแสดงรายละเอียดของคนเขียนคนนั้น ขึ้นมาและบอกด้วยว่าเขียนมาแล้วกี่เรื่อง เมื่อคลิกเข้าไปจะแสดงเฉพาะเรื่องที่คนนั้นเขียนไว้ เป็นประโยชน์กับคนเขียนเองเพื่อตรวจสอบว่าตัวเองได้เขียน อะไรไปแล้วบ้าง และคนอ่านอยากติดตามเฉพาะเรื่องของคนนี้ก็สามารถแยกออกมาให้ด้วย วิธีใช้เมื่อลงปลั๊กอินแล้ว ให้ใส่โค้ดนี้แทนในตำแหน่งที่จะแสดงชื่อของคนเขียน
    
    

    ตัวอย่างการใช้งาน  เมื่อคลิกที่ชื่อ จะแสดงรายละเอียด

    คลิกที่ชื่อจะแสดงรายละเอียดของคนเขียน

    See Authors Posts (จำนวนโพสที่เขียนโดยคนนี้) เมื่อคลิกเข้าไปจะเปิดหน้าที่แสดงเฉพาะบทความที่คนนี้เขียน

    แสดงหน้าที่เขียนโดย นักเขียนคนเราสนใจ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังทำเว็บอยู่นะครับ ส่วนปลั๊กอินต่างๆที่เกี่ยวกับการจัดการกรณีมีนักเขียนหลายคนลองเข้าไปดูที่เว็บที่มาครับ

ที่มา : https://www.hongkiat.com
Via : @sourcode

แชมป์ THE STAR 6 คือใคร?

กัน เดอะสตาร์ 6 หมายเลข 3

คนที่ได้เป็น the star คนที่ 6 คือ กัน ผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 3
ด้วยความสามารถทางด้านการร้องที่ตรึงใจผู้ฟังได้อย่างดี แชมป์เดอะสตาร์ 6 จึงเป็นหนุ่มจากสุพรรณคนนี้ “กัน-นภัทร อินทร์ใจเอื้อ”

ประวัติส่วนตัว
  • นภัทร อินทร์ใจเอื้อ  Napat Injaiuea
  • วันเกิด : 23 ตุลาคม 2533
  • ภูมิลำเนา : สุพรรณบุรี
  • ส่วนสูง/ น้ำหนัก : 174 Cm / 62 Kg
  • การ ศึกษา : ปี 1 คณะเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์
  • อุปนิสัย : ร่าเริง  สนุกสนาน
  • คติประจำใจ :ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
  • แนวเพลง : POP
  • แนวหนัง : บู๊ ผจญภัย
  • สถานที่เที่ยว : ธรรมชาติ ทะเล นำตก ต่างจังหวัด
  • อาหารโปรด : ข้าวเหนียวส้มตำ ข้าวผัด
  • ศิลปินคนโปรด : อ๊อฟ ปองศักดิ์ บอย พีชเมคเกอร์
  • นักแสดงที่ชื่นชอบ : ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ

ข้อมูลจาก : https://thestar.gmember.com

ได้มาแล้ว ถังขยะหมีพูห์ จาก 7-Eleven

ถังขยะหมีพูห์ จากเซเว่น

สะสมแสตมป์เซเว่นได้ 230 บาท แลกของได้เป็น ถังขยะหมีพูห์ กำหนดรับของ วันที่ 28 เมษายน 2553 แต่พอไปรับบอกว่าของยังไม่ได้ส่งมา สุดท้ายถามบ่อยครั้งจนลืมไปเลย วันนี้เปิดกระเป๋าตังค์เจอบิลเลยลองถามดู และแล้วมันก็มา อันใหญ่กว่าที่คิดไว้ ตอนเห็นในโปสเตอร์นึกว่าจะเล็กกว่านี้ มูมู่กับน้องๆเข้าไปนั่งข้างในได้สบายเลย สวยดี ไม่อยากเอาไปทำเป็นถังขยะเลยเอาไว้ให้ มู่กับน้องๆ นอนดีกว่า

มูมู่เข้าไปเล่นในถังขยะหมีพูห์

THE RISE OF NANOTECH : นวัตกรรมนาโน จากทฤษฎีสู่ชีวิตจริง

THE RISE OF NANOTECH

THE RISE OF NANOTECH : นวัตกรรมนาโน จากทฤษฎีสู่ชีวิตจริง
Scientific American : ดร.ยุทธนา  ตันติรุ่งโรจน์ชัย แปล
สำนักพิมพ์มติชน ,ตุลาคม 2552  ราคา 240 บาท

หนังสือเล่มนี้ เห็นผ่านตามานานแล้ว ได้เปิดดูสารบัญบ้าง แต่ยังไม่มีแรงจูงใจ ที่จะซื้อมาอ่าน หลังจากได้เขียนบทความใน Biomed.in.th เรื่องการใช้ nanopatch เป็นตัวให้วัคซีน เลยนึกอยากรู้จักเรื่องนาโนเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น และผมไม่อยากอ่านหนังสือที่ออกแนวเป็นหนังสือเรียนมากจนเกินไป หนังสือเล่มนี้น่าจะตอบโจทย์ เรื่องที่อยากรู้ ได้พอควร อาจจะไม่เท่าหนังสือเล่มโตในห้องสมุด

สารบัญ อาจเพิ่มแรงจูงใจ ให้อยากอ่านมากขึ้น

หน่วยย่อยนาโน

  • ยังมีที่ว่างอยู่อีกมาก
  • ศิลปะการผลิตโครงสร้างขนาดเล็ก
  • ตัวต่อเลโก้โมเลกุล

เครื่องจักรมีชีวิต

  • นาโนเทคโนโลยีของเกลียวคู่
  • กำเนิดคอมพิวเตอร์ดีเอ็นเอ

วงจรขนาดเล็กที่สุด

  • โครงข่ายนาโนคาร์บอนจุดประกายอิเล็กทรอนิกส์ชนิดใหม่
  • คำสัญญาของพลาสมอนิกส์
  • วงจรจิ๋วมหัศจรรย์

การเดินทางอันน่าอัศจรรย์

  • สิ่งเล็กๆ มีค่ามากมายในทางการแพทย์
  • พ่อมดนาโน
  • เกี่ยวกับผู้แปล

เนื้อหาแต่ละบท เขียนโดยนักวิทยาศาตร์แต่ละคนแตกต่างกันไป อ่านได้แบบเรื่อย เชิงพรรณา ไม่มีสูตรฟิสิกส์ เคมี คณิตศาสตร์ ให้ปวดหัว แต่ละบทจะมีแหล่งค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมให้ในตอนท้ายของบท หากสนใจในบทนั้นๆเป็นพิเศษก็สามารถตามไปอ่านต่อได้

Exit mobile version