Starpics Special – Everything About Superman

Starpics Special – Everything About Superman

ก่อนหน้านี้ Starpics ได้ทำฉบับพิเศษออกมาในชื่อ Ghibli Story : Everything About Studio Ghibli ตอนนั้นก็ได้ซื้อเก็บไว้เหมือนกันแต่ไม่ได้เขียนลงบล็อก เอาไปลงไว้ใน Goodreads แทนเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่ลิงค์ด้านบนครับ

มาครั้งนี้ Starpics ทำออกมาอีกเล่มในชื่อ Starpics Special – Everything About Superman เราก็แฟนคนหนึ่งของพี่ใหญ่ซุปเปอร์แมนเหมือนกันครับ เลยไม่พลาดที่จะซื้อเก็บไว้ ซื้อมาได้สักพักแล้วและอ่านจนจบเพิ่งจะมีเวลาเขียนถึง ในเล่มมีรายละเอียดครบครัน ทั้งที่มา คนให้กำเนิด การ์ตูน ตัวร้ายคู่ปรับของซุปเปอร์แมนแต่ละตัว หนัง นักแสดงที่เล่นเป็นพี่ซุปในแต่ละยุค และอื่นๆอีกเพียบ อ่านแล้วฟินสุดๆครับ ต้องยอมรับว่าเขารวบรวมมาได้ค่อนข้างละเอียดถูกใจแฟนๆของพี่ซุปฯแน่นอน

เอาตัวอย่างบางส่วนจาก Facebook page ของ Starpics มาให้ชมครับ

Starpics Special – Everything About Superman

Superman เขาคือใคร มาจากไหน ปรากฏกายครั้งแรกเมื่อไหร่?

Starpics Special – Everything About Superman

ตัวร้ายอันดับหนึ่ง เล็ก ลูธอร์ และยังมีตัวอื่นๆอีกเพียบ General Zod, Doomsday, Bizarro, Brainiac, Mongul, Matallo, Dark Side ฯลฯ

ไม่รู้ว่าตอนนี้ตามแผงหนังสือจะยังมีขายอยู่หรือปล่าวนะครับ ต้องลองไปเดินดู แต่น่าสะสมมากๆ

หนังสือที่ได้จาก งานสัปดาห์หนังสือ 29 มีนาคม – 8 เมษายน 2556

หนังสือที่ได้มาจากงานสัปดาห์หนังสือ

งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 41 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 11
(41st National Book Fair and 11th Bangkok International Book Fair 2013)
ระยะเวลาแสดงงาน วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม – วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน 2556 
สถานที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ตามธรรมเนียมของเรา ไปงานสัปดาห์หนังสือแล้วก็เอามาอวดว่าเราได้หนังสืออะไรมาบ้าง ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีหนังสือที่ค้างอ่านอยู่แล้ว 3 เล่ม แต่มีความตั้งใจจะไปซื้อ “ไอน์สไตน์ โดย วอลเตอร์ ไอแซคสัน” แค่เล่มเดียว แต่สุดท้ายได้กลับมาหลายเล่มเลย มีหนังสือเก่าที่น่าอ่านปนอยู่ด้วย เห็นว่าราคาถูกและน่าสนใจเลยหยิบติดมือมาครับ

รายการหนังสือที่ได้มาจากงานสัปดาห์หนังสือครับ

  1. ไอน์สไตน์ โดย วอลเตอร์ ไอแซคสัน – ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ และคณะ แปล, สำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊ค
  2. โลกเครือข่าย – รอฮีม ปรามาท, สำนักพิมพ์โพสต์บุ๊ค
  3. ชีวิตคือปาฎิหาริย์! (หนังสือเสริมกำลังใจ ชุด 8) – วินทร์ เลียววาริณ, สำนักพิมพ์ 113
  4. คดีล่าคนเจ้าชู้ (นิยายนักสืบ พุ่มรัก พานสิงค์ ชุด 5) – วินทร์ เลียววาริณ, สำนักพิมพ์ 113
  5. เซนว่าง-ว่างเซน – วินทร์ เลียววาริณ, สำนักพิมพ์ 113 (หนังสือแถม ถ้าซื้อครบ 2 เล่ม)
  6. ปฎิบัติการหนังทุนข้ามชาติ-filmvirus – สนธยา ทรัพย์เย็น, ทีฆะเดช วัชรธานินท์, สำนักพิมพ์ openbooks
  7. 151CINEMA-filmvirus – อุทิศ เหมะมูล, ธเนศน์ นุ่นมัน, สำนักพิมพ์ openbooks
  8. The Chemistry of Movie: มหา’ลัย เหมืองแร่ – ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา บรรณาธิการ, สำนักพิมพ์ openbooks
  9. โมเลกุล เปลี่ยนประวัติศาสตร์ กระดุม นโปเลียน เปลี่ยนโลก – Penny Le Couteur, Jay Burreson เขียน, ดร.ยุทธนา ตันติรุ่งโรจน์ชัย แปล, สำนักพิมพ์มติชน
  10. ฟายน์ แมน อัจฉริยะโลกฟิสิกส์ – Ralph Leighton เขียน, นรา สุภัคโรจน์ แปล, สำนักพิมพ์มติชน
  11. ฟายน์ แมน อัจฉริยะอารมณ์ดี – Ralph Leighton เขียน, นรา สุภัคโรจน์ แปล, สำนักพิมพ์มติชน

รายชื่อหนังสือที่อยากอ่าน หมวดวิทยาศาสตร์ และ หมวดชีวประวัติ

รวมหนังสือวิทยาศาสตร์ที่อยากอ่าน

ขอทำลิสต์รายชื่อหนังสือไว้ดีกว่าครับ เป็นของสำนักพิมพ์มติชน ที่มีการแปลหนังสือวิทยาศาสตร์ออกมาอย่างต่อเนื่องและน่าสนใจทุกเรื่องเลย ไม่รู้ว่าสำนักพิมพ์อื่นๆมีแบบนี้บ้างหรือเปล่านะ ใครรู้ก็แนะนำบ้างนะครับ หนังสือเหล่านี้ในประเทศไทยหาอ่านยากครับ ไม่งั้นก็ต้องหาต้นฉบับบมาอ่านซึ่งเล่มหนึ่งก็แพงมาก หาซื้อยากอีกต่างหาก พอมีฉบับบแปลและราคาถูกกว่ามากอย่างนี้ไม่สนใจก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว!

ผมอยากรู้เหมือนกันว่าทำไมหนังสือเรียนของเราทำไมมันอ่านไม่สนุกเหมือนหนังสือเหล่านี้บ้างนะ ถ้าสนุกแบบนี้ตอนสอบคงได้เกรดดีกว่าที่เป็นอยู่เป็นแน่แท้

เล่มไหนที่มีและอ่านไปแล้วก็จะมาขีดทิ้งไปเรื่อยจนกว่าจะหมด ตั้งเป้าว่าจะต้องอ่านให้ครบนะ ความจริงก็ไม่ได้ฝืนบังคับใจให้อ่านสักเท่าไหร่ มันน่าสนใจจริงๆเลยอยากอ่านมากกว่า

รายการหนังสือที่อยากอ่าน (มีวิทยาศาสตร์ ชีวประวัติ และนิยายแทรกมาด้วยเล่มหนึ่ง)

  • คู่มือท่องโลกวิทยาศาสตร์ฉบับสมบูรณ์ (Science: The Difinitive Guide) 360.00 บาท
  • วิทยาศาสตร์มหัศจรรย์แห่งการค้นพบ 414.00 บาท
  • มโนทัศน์แห่งอนาคต 297.00 บาท
  • มายากลศาสตร์ 180.00 บาท
  • ประวัติย่อของกาลเวลา (A Brief History of Time) ฉบับปรับปรุง 189.00 บาท
  • คิว-อี-ดี ทฤษฎีมหัศจรรย์ของแสงและสสาร (QED: The Strange Theory of Light and Matter 153.00 บาท
  • มหัศจรรย์แห่งร่างกาย (THE ODD BODY 1) 198.00 บาท
  • ลวดลายสีสัน มหัศจรรย์วิวัฒนาการชีวิต (Endless Forms Most Beautiful) 252.00 บาท
  • มหัศจรรย์แห่งร่างกาย (THE ODD BODY 2) 216.00 บาท
  • ประวัติย่อของหลุมดำ (Black Holes and Time Warps) 360.00 บาท
  • เรื่องของเวลา (A MATTER OF TIME) 198.00 บาท
  • นวัตกรรมนาโนจากทฤษฏีสู่ชีวิตจริง (THE RISE OF NANOTECH) 216.00 บาท
  • ทอถักจักรวาล (The Fabric of The Cosmos) 360.00 บาท
  • จักรวาลคู่ขนาน (Parallel Worlds) 297.00 บาท
  • กำเนิดเอกภพ (ORIGINS) 261.00 บาท
  • ไอแซค นิวตัน มหาบุรุษโลกวิทยาศาสตร์ (Isaac Newton) 216.00 บาท
  • ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) 113.00 บาท
  • เบนจามิน แฟรงคลิน บุรุษหลายมิติ (Stealing God’s Thunder) 234 บาท
  • คลิน บุรุษหลายมิติ (Stealing God’s Thunder) 234.00 บาท
  • วิด็อค สายลับบันลือโลก 234.00 บาท
  • เลโอนาร์โด ดา วินชี วิถีอัจฉริยะ (Leonardo da Vinci : The Flights of the Mind) 360.00 บาท
  • ฟายน์แมน อัจฉริยะอารมณ์ดี (“WHAT DO YOU CARE WHAT OTHER PEOPLE THINK?”) 198.00 บาท
  • ฟายน์แมน อัจฉริยะโลกฟิสิกส์ (“SURELY YOU RE JOKING MR.FEYNMAN!”) 261.00 บาท
  • โคเปอร์นิคัส ผู้ปฏิวัติดาราศาสตร์ (The Book Nobody Read) 225.00 บาท
  • ไวโอลินของไอน์สไตน์ (Einstein s violin) 261.00 บาท
  • 30 นักประดิษฐ์ กับชีวิตนอกกรอบ 171.00 บาท
  • แฟรงก์ อบาเนล ยอดนักตุ๋น (Catch Me If You Can) 198.00 บาท
  • ผู้ชายที่หลงรักตัวเลข (The Man Who Loved Only Numbers) 189.00 บาท
  • รามานุจัน อัจฉริยะไม่รู้จบ 315.00 บาท
  • เจงกิสข่าน มหาบุรุษผู้เปลี่ยนโลก (Genghis Khan and the Making of the Modern World) 252.00 บาท
  • The Big Questions: Mathematics 20 คำถามสำคัญของคณิตศาสตร์ 207.00 บาท
  • บนเส้นทางหนังสือพิมพ์ 198.00 บาท
  • เมฆาสัญจร (CLOUD ATLAS) 342.00 บาท
  • ก้าวพ้นกรอบไอน์สไตน์(ฉบับพิเศษ) 176.00 บาท
  • เหตุผลของธรรมชาติ 195.00 บาท
  • เรื่องเล่าจากร่างกาย 275.00 บาท

last updated Apr 23, 2013

หนังสือรวมเรื่องสั้น เส้นสมมุติ โดย วินทร์ เลียววาริณ อ่านแล้วครับ

เส้นสมมุติ โดย วินทร์ เลียววาริณ

ชื่อหนังสือ: เส้นสมมุติ
เขียนโดย: วินทร์ เลียววาริณ
256 หน้า พิมพ์ครั้งที่ 1 : มีนาคม 2555 
สำนักพิมพ์: 113
ราคา 200 บาท

หนังสือ เส้นสมมุติ ของวินทร์ เลียววาริณ เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นแนว สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน หรือจะเรียกว่าเป็น สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน เล่ม 2 ก็ได้ครับ

ต้องบอกว่านักเขียนที่เล่าเรื่องโดยมีฉากหลังเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง จากข่าวในทีวี ข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์ เหตุการณ์เล็กๆที่เกิดขึ้นในสังคม สไตล์การเล่าเรื่องมีหลายเรื่องซ้อนหรือรวมอยู่ในเรื่องสั้นเรื่องเดียว แนวนี้ต้องยกให้คุณวินทร์เป็นหนึ่งในดวงใจเลยครับ ผมรู้สึกตื่นเต้น ประหลาดใจมากกว่าเรื่องสั้นแนวหักมุมเสียอีก เมื่ออ่านถึงหมายเหตุท้ายเรื่องว่า เหตุการณ์ดังกล่าวในเรื่องบางส่วนเกิดขึ้นจริง แม้จะเป็นความจริงเล็กๆในเรื่องแต่งก็สร้างอารมณ์ฉุกคิดให้เราคิดตามได้อย่างน่าประหลาดมาก

หนังสือรวมเรื่องสั้น เส้นสมมุติ เข้ามาอยู่ในใจผมได้อย่างง่ายดาย ทำให้หวนรำลึกถึงผลงานเก่าๆของคุณวินทร์ที่ตรึงใจผมอยู่อีกครั้ง และสไตล์การเดินเรื่องแบบนี้ที่ทำให้เรากลายเป็นแฟนหนังสือของเขา มันจริงจังเข้มข้นและตรึงเราให้อยู่ในเรื่องจนถึงบรรทัดสุดท้ายได้เลยครับ

เรื่องหนึ่งในเล่ม “เสือในสวนยาง” เป็นเรื่องราวของคนใต้ สวนยาง หน้าที่ การใช้ชีวิต ธรรมชาติ ความเชื่อ รวมกันอยู่ในเรื่องเดียว ผมเหมือนได้นั่งดูหนังดีๆสักเรื่อง ตอนอ่านเหมือนตัวลอยได้พออ่านจบเหมือนตกลงมาเจ็บ เหมือนมีบางอย่างติดอยู่ในหัวสะกิดไม่ออก สุดๆแล้วครับเรื่องสั้นเรื่องนี้

ความรู้สึกตอนที่ได้อ่านเรื่องสั้นผลงานของคุณวินทร์ครั้งแรกของผมยังจำได้ดีไม่เคยลืม เรื่องสั้นในชื่อว่า “เกม” อยู่ในรวมเรื่องสั้น “อาเพศกำสรวล” ตอนนั้นปกยังเป็นควาย กระท่อม หิมะ เป็นหนังสือของพี่สาวเอามาจากกทม. ผมเปิดดูเนื้อหาภายในแบบผ่านๆไปหยุดอยู่ที่รูปวาดนักมวย เลยหยุดลองอ่านดู แต่มันกลับอ่านสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ แล้วก็อ่านเรื่องอื่นๆรวดเดียวจบทั้งเล่ม ปรากฏว่าเย็นวันนั้นไม่ได้กินข้าวเย็น และโดนแม่บ่นไปตามระเบียบ พอเปิดเรียนเลยต้องไปค้นหาผลงานเล่มอื่นของเขาในห้องสมุดที่โรงเรียนแต่โรงเรียนผมบ้านนอกมากครับไม่มีเล่มอื่นๆให้อ่านครับ

จนกระทั้งผมได้มีโอกาสเข้ามาเรียนในตัวเมืองค่อยได้พบเจอกับหนังสือ “สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน” และผลงานเล่มอื่นๆ และก็ติดตามผลงานของคุณวินทร์มาตลอด แต่ช่วงหลังๆ ต้องยอมรับว่าติดตามผลงานของคุณวินทร์แบบห่างๆ ไม่ใช่แบบที่ต้องอ่านตั้งแต่วันแรกที่วางขายเหมือนแต่ก่อนแล้ว รอซื้อเฉพาะช่วงสัปดาห์หนังสือเท่านั้น

คุณวินทร์เป็นนักเขียนที่มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอมาก พอเราแวะไปอ่านหนังสือผลงานของนักเขียนท่านอื่นๆได้สักพักก็จะมีเล่มใหม่ของคุณวินทร์ออกมาให้อ่านต่ออีก เรียกได้ว่าเล่มเก่ายังไม่ทันลืมก็จะมีเล่มใหม่มากระตุ้นอีกครั้ง ผลงานที่มีก็หลากหลายแนว แต่ก็ใช่ว่าเราจะชอบทุกแนวของเขา อย่างเช่น หนังสืิิอชุดแนวให้กำลังใจเล่มหลังๆ กับชุดคุยกับคุณปราบดา หยุ่น ก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก

แต่เมื่อได้อ่านเส้นสมมุติได้เพียงสามเรื่องแรกก็รู้สึกว่าตัวเองใจเต้น ดีใจ มีเสียงก้องในใจ “ฉันได้คุณวินทร์คนเก่าคนนั้นกลับมาแล้ว” อาจจะดูเหมือนผมพูดโอเวอร์เกินไป แต่ตอนนี้มันรู้สึกแบบนี้จริงๆนะ! อารมณ์ฟินที่เขาว่ากันคงเป็นแบบนี้นี่เองสินะ

ตอนที่อ่านไปได้ครึ่งเล่ม กลับรู้สึกว่าไม่อยากอ่านให้จบเล่มเลยซะอย่างงั้น ยังกับเด็กซ่อนซ็อกโกเล็ตลูกอมไว้ใต้หมอนเก็บไว้กินวันหลังยังไงยังงั้นเลยล่ะครับ

ถ้าคุณเป็นคนชอบเรื่องสั้นแนวเข้มข้น จริงจัง เดินเรื่องได้เฉียบคม และชอบผลงานของคุณวินทร์ในยุคแรกๆ รวมเรื่องสั้น “เส้นสมมุติ” เป็นอีกเล่มที่ขอแนะนำครับ

หนังสือที่ได้จาก งานสัปดาห์หนังสือ 18-28 ตุลาคม 2555

เวลาที่ใช้ในการอ่านหนังสือของผมส่วนใหญ่จะอยู่บนรถระหว่างการเดินทางไปทำงาน ช่วงหลังๆที่ผ่านมาได้กำจัดกองหนังสือที่ต้องอ่านลงไปได้บ้าง แต่มันไม่เคยหมดเลย มีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่างน้อยอัตราการซื้อใหม่กับอัตราการอ่านอยู่ในภาวะที่สมดุล แต่ทุกๆ 2 ครั้งต่อปี จะมีเหตุการที่ทำให้สมดุลเสียไปบ้าง คือ สัปดาห์หนังสือ ที่เราจะได้หนังสือในกองต้องอ่านเพิ่มขึ้นมา

งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 17
จัดในช่วงวันที่ 18-28 ตุลาคม 2555 เวลา 10.00-21.00 น.
ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 

หนังสือที่ได้จาก งานสัปดาห์หนังสือ 18-28 ตุลาคม 2555

รายการหนังสือที่ได้

ส่วนใหญ่เป็นหนังสือ World Science Series ของสำนักพิมพ์มติชน ซึ่งเราค่อนข้างประทับในหนังสือในซีรี่นี้ที่เคยอ่านมาก่อนหน้านี้คือ ควอนตัมจักรวาลใหม่ นาโนเทคโนโลยี เลยวางใจได้ว่าซื้อมาแล้วน่าจะอ่านสนุก ไปงานครั้งนี้จึงตั้งใจจะไปดูหนังสือพวกนี้อยู่แล้ว

  1. ประวัติย่อของกาลเวลา (A Brief History of Time) – สตีเฟ่น ฮอว์กิ้ง, ดร.อรรถกฤต ฉัตรภูติ, ดร.ปิยบุตร บุรีคำ แปล
  2. ประวัติย่อของเอกภพ (The grand design) – สตีเฟ่น ฮอว์กิ้ง/เลียวนาร์ด มลอดิโนว์, รศ.ดร.ภาณุ ด่านวานิชกุล แปล
  3. ไอแซค นิวตัน มหาบุรุษโลกวิทยาศาสตร์ (Isaac Newton)-เจมส์ เกล็ก, ดร.ปิยบุตร ฉัตรภูติ แปล
  4. E=mc2 ชีวประวัติสมการปฏิวัติโลก – David Bodanis,  รศ.ดร. ภาณุ ด่านวานิชกุล แปล
  5. ฉีกขนบแอนิเมชั่น: เอกลักษณ์ของ ฮายาโอะ มิยาซากิ นักฝันแห่งโลกตะวันออก – นับทอง ทองใบ
  6. เส้นสมมุติ (รวมเรื่องสั้นแนว สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน) – วินทร์ เลียววาริณ
  7. ร้อยคม (รวมเรื่องสั้นหักมุมจบ ชุดที่ 2)– วินทร์ เลียววาริณ
  8. เล่านิทานเซ็น – อ.อภิปัญโญ

รวมแล้วค่าเสียหายประมาณ 1,400 บาท ส่วนใหญ่ลดราคาประมาณ 15-20% ซึ่งเช็คดูกับราคาสั่งออนไลน์แล้วที่งานสัปดาห์หนังสือถูกกว่า จึงตัดสินใจซื้อที่งานสัปดาห์หนังสือครับ

ส่วนเพื่อนๆได้เล่มไหนไปบ้าง แชร์ให้ดูบ้างครับ

หนังสือ บองหลา อ่านแล้วครับ

หนังสือ บองหลา

ชื่อหนังสือ: บองหลา
เขียนโดย: พนม นันทพฤกษ์
173 หน้า พิมพ์ครั้งที่ 4 : มีนาคม 2550 (พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2525)
สำนักพิมพ์: แพรวสำนักพิมพ์
ราคา 139 บาท

บองหลา หนังสือเล่มนี้เป็นนวนิยายที่ถูกเขียนขึ้นและตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 ตัวผมเองยังไม่เกิดเลยครับ แต่ไม่น่าเชื่อว่ายังอ่านสนุกอยู่เลยครับ และผมก็ค่อนข้างอินกับการใช้ชีวิตของบองหลา(ชื่อแปลว่างูจงอาง)เด็กกำพร้าที่อยู่กับยายและเพื่อนสนิทอีกคน ฉากหลังเป็นชีวิตของชาวชนบทภาคใต้ ที่มีอาชีพหลักคือทำนา นึกในใจว่าพี่น้องชาวภาคใต้ของเรายังมีใครปลูกข้าวกันอยู่หรือปล่าวนะ การใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด วิถีชีวิตที่พึ่งพาอาศัยกันของชุมชน การศึกษาที่จบกันแค่ป. 4 เทศการงานบุญ อาหารการกิน การรุกเข้ามาของวัฒนธรรมคนเมือง

สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือชีวิตของพี่น้องชาวใต้กับชาวอีสานเมื่อครั้งอดีต ก็ไม่ได้ต่างกันเลยนะ ผมคนอีสานครับ! ในวัยเด็กของผมเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนไม่ได้ต่างจากบองหลาเท่าไหร่นัก หนังสือมีทับศัพท์ภาษาใต้อยู่บ้าง แต่ก็มีคำอธิบายแทรกอยู่เล็กน้อย

“บองหลา” เป็นผลงานของ พนม นันทพฤกษ์ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ปี 2548 หนังสือได้รางวัลรางวัลชมเชยประเภทบันเทิงคดี สำหรับเยาวชนก่อนวัยรุ่น ปี พ.ศ.2525 สำนักพิมพ์นำมาพิมพ์ใหม่อีกครั้ง จึงทำให้เราได้อ่านหนังสือเก่าที่น่าประทับใจเล่มนี้ ยังมีผลงานอื่นๆอีกหลายเล่มของ พนม นันทพฤกษ์ ที่เขียนมานานแล้วแต่ก็อยากหามาอ่านบ้าง เช่น เด็กชายชาวเล ทุ่งหญ้าข้าวป่าสูงและวันรุ้งทอแสง ดงคนดี เป็นต้น คงต้องไปหาค้นในห้องสมุดมากกว่าร้านหนังสือแล้วล่ะ

เป็นหนังสือใสๆ อ่านง่าย เพลินๆ ได้รำลึกถึงอดีตเมื่อครั้งเยาว์วัยในบ้านนอกอันเป็นที่รักของเรา

หนังสือ พุทธทาสกับเซ็น อ่านแล้วครับ

หนังสือ พุทธทาสกับเซ็น

ชื่อหนังสือ: พุทธทาสกับเซ็น
บรรณาธิการ: กัญญา ชะเอมเทศ 
224 หน้า พิมพ์ครั้งที่ 1 : กรกฎาคม 2552
สำนักพิมพ์: สุขภาพใจ บริษัท ตถาตา พับลิเคชั่น จำกัด 
ราคา 200 บาท

หนังสือ พุทธทาสกับเซ็น เป็นหนังสือรวบรวมภาพเซ็นต่างๆในโรงมหรสพทางวิญญาณประกอบคำอธิบายอันนี้จะอยู่บทแรก “ปริศนาธรรมเซ็น” ส่วนคำบรรยายของท่านพุทธทาส ซึ่งถอดมาจากการบรรยายธรรมของท่าน จะอยู่ในชุด บรรยายภาพปริศนาธรรมชุดจับวัว, ธรรมจากเชอร์แมน, โทรเลขเซ็น ท้ายเล่มมีซีดีเสียงบรรยายธรรมของท่านพุทธทาสแถมมาให้ได้ฟังด้วย ไม่อยากอ่านก็ฟังเอาก็ได้(ต้องดูภาพประกอบด้วยนะ)

ในบทสุทท้าย “เซ็น” เป็นบทกวีของ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูล เป็นเรื่องราวของนิทานเซ็นที่คุ้นเคยกัน ในซีดีก็มีเสียงท่านมาอ่านบทกวีให้ฟังด้วยเช่นกัน

เนื้อหาเป็นภาพเซ็น พร้อมคำบรรยาย

ถ้าหากใครได้อ่านหนังสือ มังกรเซ็น ของวินทร์ เลียววาริณ มาก่อนจะอ่านเล่มนี้สนุกขึ้นอีกครับ เพราะเราจะรู้จักพระเซ็นที่ถูกกล่าวถึงในหนังสือเล่มนี้มากยิ่งขึ้น ส่วนตัวเองนั้นก็ไม่ใช่คนธรรมะธรรมโมอะไรมากมาย แต่ชอบศิลปะ โดยเฉพาะศิลปะที่เราเข้าใจว่าคนสร้างมันขึ้นมามีวัตถุประสงค์อะไร ถ้าเข้าใจศิลปะนั้นแม้สักนิด ผมว่าคนสร้างต้องดีใจ มีความสุขเป็นแน่ ว่าสิ่งที่เขาพยายามจะสื่อถึงเรานั้นเราเข้าใจนะ แม้จะมีคนมาชี้นำให้ก็ตาม คิดว่าคนทำงานศิลปะน่าจะมีความรู้สึกแบบนี้กันนะ

ท่านพุทธทาสและภาพเซ็น

บางทีการดูภาพแค่ไม่กี่ภาพอาจเข้าใจธรรมะได้มากกว่าอ่านพระไตรปิฎกทั้งเล่ม อย่างเช่น ท่านเหว่ยล่าง ท่านไม่รู้หนังสือ แต่รู้ธรรมะสูงสุดได้ น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าการบรรลุธรรมนั้น จะดู อ่าน ฟัง ปฎิบัติ คิด ใช้ทุกอย่างรวมกันหรือขาดบางอย่างไปก็บรรลุได้เช่นกัน

ซีดีบรรยายธรรมอยู่ท้ายเล่ม

หนังสือ ใช้ภาพเซ็น ประกอบกับคำบรรยายสั้นๆ มีกลอนของท่านพุทธทาสแทรกอยู่ในช่วงที่ท่านบรรยายเอง โดยท่านจะบรรยายภาพก่อนแล้วค่อยอ่านเป็นคำกลอนใต้ภาพ คำบรรยายนั้นยาวกว่าคำกลอน กลอนยาวกว่าประโยคไม่กี่คำที่ติดอยู่ภาพ และก็ภาพที่ไม่คำบรรยายเลย

หนังสืออ่านสนุกแป๊ปเดียวก็จบ นี้เป็นรอบที่สองที่หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านจนจบอีกครั้ง

หนังสือ หัวกลวงในหลุมดำ อ่านแล้วครับ

หนังสือ หัวกลวงในหลุมดำ

ชื่อหนังสือ หัวกลวงในหลุมดำ
เขียนโดย วินทร์ เลียววาริณ
288 หน้า พิมพ์ครั้งที่ 1 : 2554
สำนักพิมพ์ 113
ราคา 195 บาท

หนังสือ หัวกลวงในหลุมดำ มีความคล้ายกับ ปลาที่ว่ายนอกสนามฟุตบอล อยู่พอสมควร มีการวิพากษ์วิจารณ์สังคมอย่างเจ็บแสบ และค่อนข้างโดน! เป็นหนังสือที่น่าจะถูกเขียนขึ้นในช่วงที่ประเทศไทยมีเสื้อเหลือง-เสื้อแดงอยู่เต็มถนน คำว่า “หัวกลวงในหลุมดำ” หมายถึง คนโง่หรือแกล้งโง่ ไปอยู่ใกล้หลุมดำแต่ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ใกล้ จะถูกดูดลงหลุมอยู่แล้วยังไม่รู้ตัว (ลงไปแล้วขึ้นไม่ได้นะ แม้แต่แสงยังออกมาไม่ได้เลย ตายลูกเดียว!)

การวิจารณ์ของคุณวินทร์ ที่พยายามมองในแบบสังคมอุดมคติ หรือเรียกว่าพวกโลกสวย อยากเห็นสังคมไปแนวนั้น(เป็นเรื่องดีนะ) มีทั้งชี้ทางและชี้จุดผิด แต่ไม่ได้บอกทางแก้ทั้งหมด หรืออาจจะยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะแก้ยังไง ในสังคมสองมาตรฐานของเรา/ไม่ใช่แค่สังคมเราแต่หมายถึงทั่วทั้งโลกนั้น มีแนวคิดสองมาตรฐานอยูู่แล้ว เราควรทำอะไรได้บ้างกับสังคมแบบนี้?

เรื่องการให้การศึกษาของเด็กในประเทศไทยที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้อย่างแท้จริง ตัวผมเองก็เป็นอย่างที่คุณวินทร์ วิจารณ์ไว้ไม่น้อย อย่างเช่นการ กลัวครู ไม่กล้าเถียง คงเพราะเราถูกปลูกฝั่งว่าการเถียงครูเป็นเด็กไม่ดี และนี้อาจทำให้การศึกษาของเราไม่พัฒนาและเชื่อคนง่าย

และมีหลายเรื่องที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะเรื่องของ อ.แสงอรุณ รัตนกสิกร อาจารย์คณะสถาปัต จุฬาฯ ผู้รักธรรมชาติ รักต้นไม้ เป็นอีกบุคคลที่น่านับถือ

เนื้อหาภายในเล่ม 

  • เรากรอกอะไรใส่หัวเด็กในห้องเรียยน ?
  • ใครเป็นผู้ตีกรอบสังคม ?
  • ศาสนากับความเชื่อจะพาเราไปไหน ?
  • มนุษย์มีความสามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีตหรือไม่ ?
  • เราสามารถก้าวพ้นสังคมหัวกลวงได้หรือไม่ ?
  • อะไรคือความหมายของชีวิต ?

หนังสืออ่านสนุกอีกแล้วครับ ขอแนะนำ

หนังสือ โลกใหม่ อ่านแล้วครับ

 

หนังสือ โลกใหม่

ชื่อหนังสือ โลกใหม่
เขียนโดย รอฮีม ปรามาท
304 หน้า พิมพ์ครั้งที่ 1 : 2554
สำนักพิมพ์ Post Book
ราคา 285 บาท

เคยอ่านหนังสือของคุณรอฮีม ปรามาท เมื่อนานมาแล้วครับ ในชื่อเรื่อง “เอกภพ สรรพสิ่ง และมนุษยชาติ” เป็นอีกเล่มที่อ่านสนุก ยอมรับว่าการเลือกหนังสือช่วงหนึ่งค่อนข้างต้องดูชื่อคนเขียนเป็นพิเศษ เพราะเคยผิดหวังกับการดูปกกับเนื้อหาที่คำนำ พอซื้อมา อ่านได้ไม่ถึง 5 หน้าก็ต้องโยนทิ้งให้ไกลตัว อย่างคำคมที่ว่า “A bad book is like a bad friend, who may kill you : หนังสือที่ไม่ดีก็เหมือนกับเพื่อนเลวๆ ซึ่งอาจสังหารคุณได้” 

ดังนั้นมีนักเขียนเพียงแค่ไม่กี่คนที่เราเลือกหยิบได้โดยไม่ต้องคิดมากนัก รอฮีม ปรามาท คือหนึ่งในนั้น ซึ่งช่วงหลังๆมีผลงานแปลเล่มหนาๆออกมาเยอะเหมือนกัน แต่ยังไม่มีโอกาสได้อ่านในอนาคตอันใกล้คงจะได้อ่าน

หนังสือ โลกใหม่  เป็นหนังสือรวมบทความเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในทุกๆ ด้าน เป็นการแปลมาจากบทความสั้นๆของนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำระดับโลก ให้อารมณ์เหมือนการอ่านบล็อกยังไงยังงั้น สั้นๆได้ใจความ ถ้าใครเอาเข้าห้องน้ำก็อ่านจบทีละเรื่องสองเรื่องได้อย่างสบาย และเนื้อหาแต่ละบทไม่ได้รายยาวให้ต้องทำความเข้าใจต้องเนื่องกัน สรุปมันก็คือบล็อกดีๆนั้นแหละ

เนื้อหามีอยู่ 9 บท 

  • อภิแนวโน้มโลก 1980 – 2010 สามสิบปีที่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง
  • เรามาไกลแค่ไหน / เราจะไปยังจุดใด
  • 50 ไอเดียที่จะปฏิวัติโลกและวงการวิทยาศาสตร์ไปตลอดกาล
  • 20 สุดยอดนวตกรรมแห่งปี 2010
  • รถยนต์แห่งอนาคต
  • บ้านในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง
  • อนาคตประชาธิปไตย
  • โลกาวินาศ 30 รูปแบบ
  • 12 ปรากฏการณ์พลิกโลก

มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ชอบมากในหนังสือเล่มนี้คือการกล่าวถึงการทำนายอนาคตอันใกล้ของนักวิทยาศาสตร์ในแต่ละสาขาทุกๆ 5 ปี เริ่มทำมาตั้งแต่ปี 1970 แล้ว โดยเป็นการช่วยกันทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตโดยมีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขามาช่วยกันเขียนและช่วยกันโหวต เป็นการทำนายที่ใช้หลักวิทยาศาสตร์ไม่ใช่หมอดูนั่งเดา ก่อนจะทำเป็นข้อสรุปออกมาตีพิมพ์แผยแพร่ มีทั้งที่ถูกและผิดปนกันไป ผลบางอันดูล้ำยุคกว่าที่เราคิด ซึ่งมันค่อนข้างกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเราพอควร และคอยลุ้นว่าในอนาคตอันใกล้เราจะได้เห็นสิ่งที่เขาทำนายไว้หรือเปล่า

เป็นหนังสืออีกเล่มที่อ่านสนุกครับ หลายคนอาจจะคิดว่าหนังสือที่ผมเขียนถึงบอกสนุกทุกอันเลยนะ ถูกต้องครับ! เพราะถ้าไม่ดี โยนทิ้งตั้งแต่ 5 หน้าแรกแล้วครับ!

คำคม หมวดการอ่าน

ได้หนังสือเกี่ยว “คำคม” จากงานสัมมนาแห่งหนึ่งมาครับ เป็นหนังสือเล่มเล็กๆ ข้างในมีคำคมหลากหลายหมวด เช่น หมวดความรู้ หมวดวิทยาศาสตร์ หมวดศิลปะ หมวดอุดมการณ์ เป็นต้น ในหนึ่งคำคมจะมีถึง 3 ภาษาให้ได้อ่านกัน ได้แก่ ไทย อังกฤษ และจีน

พอได้อ่านแล้วมันช่างเพลิดเพลินและกินใจเหลือเกิน จึงอยากเอามาแชร์ต่อให้คนอื่นได้อ่านบ้าง ในหนังสือไม่ได้อ้างถึงว่าคำคมเหล่านี้ใครเป็นคนคิดหรือพูดไว้แต่อย่างใด หรือบางทีอาจจะหาที่มาไม่ได้แล้วก็เป็นได้

ขออนุญาติคัดหมวดที่เกี่ยวกับการอ่านมาให้ได้ดูดดื่มกันก่อนครับ คัดมาเฉพาะคำคมที่ตัวเองชอบเป็นการส่วนตัวครับ

หนังสือ คำคม
หนังสือ คำคม

หนังสือคือที่ปรึกษาใกล้ตัว
Books are the advisor in hand anytime.

หนังสือและเพื่อนไม่จำเป็นต้องมีมากแต่ต้องดี
Books and friends should be few but good.

หนังสือคือขั้นบันไดแห่งความก้าวหน้าของมนุษย์
Books are a flight of stairs for the human progress.

การพิจารณาหนังสือเพียงหนึ่งหน้าย่อมดีกว่าการกวาดตาหนังสือทั้งเล่ม
Digesting a page of book carefully is beter than reading a book hurriedly.

หนังสือเก็บซ่อนจิตวิญญาณแห่งอดีต
The soul of the past times hides in the books.

หนังสือทุกเล่มมีไว้เพื่อช่วยเสริมสร้างความคิด หากไม่ได้มีไว้เพื่อแทนที่ความคิดของคุณ
All books are written for helping your idea but not for replacing your idea.

หนังสือที่ดีควรมอบประสบการณ์จำนวนมากให้แก่คุณรวมทั้งความเหนื่อยล้าเพียงเล็กน้อยเมื่ออ่านจบ เพราะคุณผ่านการใช้ชีวิตมาหลายชีวิตขณะอ่านมัน
A great book should leave you with many experiences, and slightly exhausted at the end. You live several lives while reading it.

หนังสือไม่ได้มีไว้เพื่อประดับบ้าน แต่ก็ไม่มีเครื่องประดับชิ้นไหนจะงดงามเท่าหนังสือ
Books are not made for furniture, but there is nothing else that so beautifully furnishes a house.

หนังสือคือสิ่งมหัศจรรย์ที่เก็บซ่อนจิตวิญญาณของนักเขียน เมื่อเปิดหนังสือและปลดปล่อยจิตวิญญาณนั้นออกมา เขาจะแอบสนทนากับคุณอย่างลับๆ
A book is a miracle where the author’s soul is hidden. Open the book and release this soul and it will talk with you mysteriously.

หนังสือที่ไม่ดีก็เหมือนกับเพื่อนเลวๆ ซึ่งอาจสังหารคุณได้
A bad book is like a bad friend, who may kill you.

อ่านหนังสือดีๆ ทุกวันก็เหมือนกับการใช้เปลงเพลิงขจัดความโง่ทั้งหลายออกไปทีละเล็กทีละน้อย
All stupid thing will be gradually method in the reading of good books every day as if by a fire.

วัยเยาว์อ่านหนังสือเหมือนแอบมองพระจันทร์ผ่านช่องหน้าต่าง วัยกลางคนอ่านหนังสือดั่งแหงนมองพระจันทร์ใต้ลานบ้าน วัยชราอ่านหนังสือเหมือนดั่งชมจันทร์อยู่บนหอคอย
Reading in youth is like peeping the moon through a crack; at middle age, like looking over it in a courtyard; at old age, like playing it on platform.

ครั้งแรกที่ฉันได้อ่านหนังสือ ฉันรู้สึกดั่วได้รู้จักเพื่อนใหม่ เมื่อฉันได้อ่านมันเป็นครั้งที่สอง ก็เหมือนกับได้พบเพื่อนเก่า
The first time I read a book, I felt like knowing a new friend. When I read it a second time, it is like meeting with an old friend.

คุณเรียนรู้ความรัก การหัวเราะ และการก้าวเดินจากพ่อแม่แต่เมื่อเปิดหนังสือ คุณจะพบว่าตัวเองมีปีก
From your parent you learn love and laughter and how to put one foot before the other. But when books are opened you discover that you have wings.

ผู้มากด้วยประสบการณ์จะอ่านหนังสือด้วยดวงตาทั้งสองข้าง ข้างหนึ่งมองคำพูดของบนแผ่นกระดาษ ส่วนอีกข้างเห็นความหมายที่มีอยู่ในนั้น
An experienced man reads with two eyes, one seeing the literal word, the other seeing through the back.

หนังสือบางเล่มมีไว้เพื่อลิ้มรส หนังสือบางเล่มมีไว้เพื่อกลืนกิน แต่หนังสือไม่กี่เล่มมีไว้เพื่อเคี้ยวและย่อย ซึ่งนั้นหมายถึงหนังสือบางเล่มมีไว้เพื่ออ่านเพียงบางส่วน หนังสือบางเล่มมีไว้เพื่ออ่านอย่างคร่าวๆ และแน่นอนว่าหนังสือไม่กี่เล่มมีไว้เพื่อใช้สติปัญญาและความตั้งใจในการอ่านทั้งเล่ม
Some books are to be tasted, others to be swallowed, and some few to be chewed and digested; that is, some books are to be read only in parts, others to be read, but not curiously, and some few to be read wholly, and with diligence and attention.

Exit mobile version