Virology book cover design

Virology book cover design

วันนี้เอา HD มาเคลียร์ไฟล์ขยะ ไปเจอปกหนังสือที่ทำให้เพื่อน เมื่อหลายปีก่อน ทำเป็นขนาด A4 แล้วส่งให้ร้านเข้าเล่มกับส่วนเนื้อหาที่ถ่ายเอกสารออกมาจากต้นฉบับ เนื้อส่วนนี้เป็นเพียงบทหนึ่งของหนังสือเล่มใหญ่ เลยต้องทำปกเฉพาะ

รูปที่เอามาประกอบไม่ก็ค้นมาจากเน็ตไม่ได้ทำเองเอามาวางตามใจใน illustrator ตอนเป็นรูปเล่มแล้วสวยมาก

THE RISE OF NANOTECH : นวัตกรรมนาโน จากทฤษฎีสู่ชีวิตจริง

THE RISE OF NANOTECH

THE RISE OF NANOTECH : นวัตกรรมนาโน จากทฤษฎีสู่ชีวิตจริง
Scientific American : ดร.ยุทธนา  ตันติรุ่งโรจน์ชัย แปล
สำนักพิมพ์มติชน ,ตุลาคม 2552  ราคา 240 บาท

หนังสือเล่มนี้ เห็นผ่านตามานานแล้ว ได้เปิดดูสารบัญบ้าง แต่ยังไม่มีแรงจูงใจ ที่จะซื้อมาอ่าน หลังจากได้เขียนบทความใน Biomed.in.th เรื่องการใช้ nanopatch เป็นตัวให้วัคซีน เลยนึกอยากรู้จักเรื่องนาโนเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น และผมไม่อยากอ่านหนังสือที่ออกแนวเป็นหนังสือเรียนมากจนเกินไป หนังสือเล่มนี้น่าจะตอบโจทย์ เรื่องที่อยากรู้ ได้พอควร อาจจะไม่เท่าหนังสือเล่มโตในห้องสมุด

สารบัญ อาจเพิ่มแรงจูงใจ ให้อยากอ่านมากขึ้น

หน่วยย่อยนาโน

  • ยังมีที่ว่างอยู่อีกมาก
  • ศิลปะการผลิตโครงสร้างขนาดเล็ก
  • ตัวต่อเลโก้โมเลกุล

เครื่องจักรมีชีวิต

  • นาโนเทคโนโลยีของเกลียวคู่
  • กำเนิดคอมพิวเตอร์ดีเอ็นเอ

วงจรขนาดเล็กที่สุด

  • โครงข่ายนาโนคาร์บอนจุดประกายอิเล็กทรอนิกส์ชนิดใหม่
  • คำสัญญาของพลาสมอนิกส์
  • วงจรจิ๋วมหัศจรรย์

การเดินทางอันน่าอัศจรรย์

  • สิ่งเล็กๆ มีค่ามากมายในทางการแพทย์
  • พ่อมดนาโน
  • เกี่ยวกับผู้แปล

เนื้อหาแต่ละบท เขียนโดยนักวิทยาศาตร์แต่ละคนแตกต่างกันไป อ่านได้แบบเรื่อย เชิงพรรณา ไม่มีสูตรฟิสิกส์ เคมี คณิตศาสตร์ ให้ปวดหัว แต่ละบทจะมีแหล่งค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมให้ในตอนท้ายของบท หากสนใจในบทนั้นๆเป็นพิเศษก็สามารถตามไปอ่านต่อได้

หนังสือที่ได้จาก งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ 2010

หนังสือที่ได้จาก งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ 2010

วันนี้แวะไปงาน สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่ศูนประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ไปถึงเกือบจะทุ่มครึ่งแล้ว รถติดมาก คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เดินได้แป๊บเดียว ร้านต่างๆก็เริ่มปิดแล้ว รายการที่ได้มามีดังนี้

  • อัฏฐสุตรา : วินทร์ เลียววาริณ –  นวนิยายวิทยาศาสตร์อิงประวัติศาสตร์หักมุมจบที่ให้เกร็ดความรู้เรื่องฟิสิกส์ จักรวาลวิทยา ทฤษฎีสตริง โลกคู่ขนาน และปรัชญาตะวันออก ขอลายเซนต์มาด้วย
  • ควอนตัมจักรวาลใหม่ (The New Quantum Universe) : Tony Hey / Patrick Walters แปลโดย ดร. พิเชษฐ กิจธารา – ทฤษฏีวิทยาศาสตร์ที่เปลี่ยนวิถีมนุษย์ และทรงอิทธิพลสูงสุดในศตวรรษที่ 21 เปิดดูสารบัญแล้วน่าอ่านมาก
  • BEN 10 : สมุดภาพระบายสี -ซื้อมาฝากมูมู่
  • สมุดจดบันทึกแบบไม่มีเส้น กระดาษถนอมสายตา 4 เล่ม – ปกสวย สบายตา ติดใจซื้อมาเมื่อครั้งที่แล้ว มันจะติดกระเป๋าพร้อมเมจิกหลากสีไปกับตัวแทบทุกที

ถ้าว่างจะหาโอกาสไปเดินใหม่

Google Reader ผมอ่านอะไร คุณอ่านอะไร

Google Reader

Google Reader เป็นอีกบริการของ Google ที่มีประโยชน์มาก การติดตามอ่านข่าวหรือบล็อกที่เราสนใจ
ที่มีจำนวนมากหากต้องนั่งเปิดทุกเว็บคงเป็นการยาก และคงจำชื่อได้ไม่หมด หรือแม้แต่มี bookmark เก็บไว้
ก็ตามก็ไม่สะดวก การอ่านผ่าน RSS คงเป็นคำตอบของปัญหานี้ ใครที่มี account ของ Gmail อยู่แล้วก็เปิดใช้บริการได้
แล้วที่ https://www.Google.com/reader ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Google reader มากยิ่งขึ้น ดูวีดีโอ

แต่ในวันนี้จะพูดถึงการปรับปรุงใหม่ของ Google reader ที่มีการพัฒนาขึ้นอีกขั้นสู่ความเป็น Social Network
มากยิ่งขึ้น ปกติเราสามารถ share เรื่องที่เราอ่านให้เพื่อนที่ follow เราอยู่ได้ แต่ Google ได้มีการปรับปรุงเพิ่ม
เติมขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น และค้นหาและติดตามคนอื่นได้ง่ายและเร็วขึ้น

เราสามารถที่จะค้นหาบุคคลอื่นได้ และ follow ได้ทันที สามารถค้นหาได้ในช่องค้นหานี้ Search
และผลการค้นหาจะแสดงรายละเอียดของบุคคลนั้นด้วย Google profile

แสดงการค้นหา ตามชื่อที่ต้องการติดตาม

Google Reader Sharing settings จะเป็นการตั้งค่าต่างๆว่าคุณเป็น public(Anyone can view) หรือ protected(Share with Selected goroups)groups ที่เลือกก็เป็น groups เดียวกันใน Gmail Contact ถ้าต้องการ follow คนที่อยู่ในสถานะ protected ก็ต้องส่งคำร้องไปเพื่อให้เขายอมรับการ follow

sharing setting

ถ้าต้องการให้คนอื่นสามารถค้นหาชื่อของคุณได้ ให้คลิกเลือก Also add a link to my shared items on my Google Profile ในหน้า share setting

Also add a link to my shared items on my Google Profile (so people can search for you)

นอกจากนั้นเพื่อให้ง่ายต่อการติดตาม เราสามารถสร้าง URL ของเราซึ่งปกติเป็น
https://www.Google.com/reader/shared/16976835415198312336
ให้อยู่ในชื่อที่ง่ายขึ้นแบบนี้ได้https://www.Google.com/reader/shared/sarapukdee
ด้วยการได้ ennable มันที่ Edit your profile ตรงหัวข้อ Profile URL
แล้วส่ง URL ดังกล่าวให้เพื่อนๆ เพื่อ follow เรา (เหมือนเปลี่ยน URL ใน Facebook เลย)

profile URL

อีกสิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือเมื่ออ่านแล้วคุณ “like” บทความนั้นหรือไม่ ถ้า “like” คลิก like ใต้บทความหรือกด L
ที่คีย์บอร์ดก็ได้
หรือต้องการ share ให้คนอื่นอ่านด้วยก็กด Share หรือ กด shift+S ที่คีย์บอร์ด
ดู Keyboard shortcuts เพิ่มเติม

item content อยู่ด้านล่างของเนื้อหานั้นๆ

เมื่อเราคลิก like ด้านบนของบทความนั้นก็จะมีจำนวนของคนที่อ่านแล้วคลิก like ไปทั้งหมดเราสามารถที่จะ
ดูรายละเอียดของคน like บทความนั้นได้ และตามไป follow ได้อีกด้วย

เมื่ออ่านคลิก like บทความนั้นก็จะมีชื่อเราในกลุ่มคนที่ชอบและสามารถดู profile ได้ด้วย

การปรับปรุง Google reader ครั้งนี้ทำได้ดีมาก และเพิ่มความเป็น social network ขึ้นอีกเยอะเลย
ใครสนใจอยาก follow ผมเข้าไปที่ลิงค์นี้ได้เลยครับ
https://www.Google.com/profiles/sarapukdee
RSS Blog ผม : https://feeds.feedburner.com/amphur

ที่มา : https://Googlereader.blogspot.com

รีวิว Kindle DX เครื่องอ่านอีบุ๊คจอใหญ่

kindle vs kindle dx

Kindle คือ เครื่องอ่าน e-book ของ Amazon ที่ออกมาขายได้สักพักหนึ่งแล้วตอนแรกดูจะไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้น ไม่เหมือนการเปิดตัว iPhone ที่ทำให้วงการมือถือทั่วโลกสั่นสะเทือน แต่อย่างไรก็ตาม Kindle กับทำให้ทุกคนประหลาดใจที่มียอดขายสูงมาก ซึ่งมีผู้ประเมินว่าในสิ้นปีนี้ยอดขายอาจถึง 1 ล้านเครื่องอย่างแน่นอนโดยมีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนสูงวัย Kindle ได้ออกสู่ตลาดแล้วสามรุ่นคือ “Kindle 1,2,DX” ความแตกต่างของ 1 , 2 กับรุ่น DX อย่างเห็นได้ชัดคือขนาดที่ใหญ่ขึ้นจาก 6 นิ้ว เป็น 9.7 นิ้ว  การอับเกรดเพิ่มเข้ามาคือสามารถอ่านไฟล์ PDF ได้มีความจุเพิ่มขึ้นเป็น 3.3 GB ทำให้เก็บ e-book ได้มากถึง 3,500 เล่มมากว่ารุ่นที่ 1,2 ที่เก็บได้ประมาณ 1,500 เล่ม Jeff Bezos ผู้เป็นคนเปิดตัวเจ้า Kindle DX ได้บอกว่าเจ้า DX รุ่นใหม่ นี้ยังเหมาะที่จะอ่านหนังสือพิมพ์ ราคา 489$ (17,115฿) รุ่นเก่าราคา 359$ (12,565฿)

Kindle DX สามารถอ่านหนังสือพิมพ์ได้

สมาชิกของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์และวอชิงตันโพสต์ สามารถที่จะซื้อ Kindle DX ได้ในราคาพิเศษอีกด้วยคงจะเริ่มหมดยุคของหนังสือที่กระดาษแล้วจริงๆ
นอกจากนั้นสามารถโหลด e-book ต่างๆใน Kindle store ที่มีกว่า 275,000 เล่มได้ผ่านทางเครือขาย 3G ในราคา 10฿(350฿)หรือน้อยกว่า พิเศษกว่านั้นยังสามารถที่จะอ่าน blog ผ่าน RSS ได้อีกด้วยดูการเทียบขนาดของ Kindle กับ kindle DX

ด้านหลัง

kindle กับ kindle DX ด้านหลัง

ด้านหน้า

kindle กับ kindle DX ด้านหน้า

ด้านข้าง

kindle กับ kindle DX ขอบด้านบน

ความสามารถอีกอย่างที่ถูกอับเกรดในรุ่น Kindle DX คือ ความสามารถ auto-rotation อ่านด้านตั้งหรือนอนก็ได้

อ่านในแนวตั้ง

kindle DX อ่านในแนวตั้ง

อ่านในแนวนอน

kindle DX อ่านในแนวนอน

ในรุ่นที่ถัดไปของ kindle อาจจะมีการพัฒนาให้สามารถอ่านไฟล์อื่นๆได้มากขึ้น ราคาควรที่จะถูกกว่านี้นะแพงไปและข้อจำกัดของ Kindle DX คือ “No panning, no zooming, no scrolling” ครับ แต่จะเข้ามาขายในไทยบ้างไหมนะ

ข้อมูลจาก https://gizmodo.com/tag/kindle/

“No panning, no zooming, no scrolling”

ฟรีคู่มือ Cloud computing จาก Sun Microsystems, Inc.

Cloud Computing Guide

วันนี้ได้รับจดหมายจาก Sun Community บอกว่าเรามี Cloud computing Guide ให้โหลดฟรี
เนื้อหาจะพูดถึง

  • Cloud computing Model และ ข้อดี
  • โครงสร้างพื้นฐาน และสถาปัตยกรรม
  • เทคโนโลยีของ sun ที่ซับพอร์ต

เมื่อคลิกเข้าไปแล้วจะให้กรอกรายละเอียดส่วนตัว แล้วก็จะสามารถดาวน์โหลด
ไฟล์ PDF ต่างๆเหล่านี้ได้
Guide:

มีอื่นๆที่น่าสนใจให้ดาวน์โหลดด้วย:

  • Maximize IT Uptime Utilizing Dependable Sun SPARC Enterprise T5120 and T5220 Servers
  • Guide to Cost-Effectively Refreshing Aging Servers
  • Guide to Reducing IT Costs Through Virtualization With Blades
  • Using Sun Systems to Build a Virtual and Dynamic Infrastructure

คิดว่าหลายๆคนที่เคยใช้บริการของ sun และเคยสมัครสมาชิก คิดว่าคงได้กันทุกคนนะครับ
รายละเอียดเพิ่ม : https://www.sun.com/solutions/cloudcomputing/index.jsp

มาเปลี่ยน Notebook เป็น Kindle DX ไว้อ่าน E-book ดีกว่า

notebook-kindledx1

Kindle เป็นผลิตภัณฑ์ของ Amazon ที่ออกมาได้สักพักหนึ่งแล้ว มันเป็นเครื่องอ่าน e-book ที่สั่งซื่อผ่านบริการของ Amazon ที่ไทยคงต้องรออีกนานที่จะมีการวางขาย(หรืออาจจะไม่มาเลยก็ได้) เมื่อเร็วๆนี้เขาได้ออกรุ่นที่สอง คือ Kindle DX ที่ใหญ่เพิ่มขึ้นเป็น 9.7 นิ้ว (เดิม 6 นิ้ว) ผมเป็นคนหนึ่งที่อยากได้เจ้าเครื่องอ่าน e-book ตัวนี้ เพราะ ไม่ว่าจะเป็นวารสารทางวิชาการ หนังสือออนไลน์ ที่มีให้ดาวน์โหลดทั้งฟรี และไม่ฟรี ทั้งใหม่ ทันสมัย ล้วนอยู่ในรูป PDF ทั้งสิ้น และช่วงนี้ก็มีการรณรงค์อย่างหนักเรื่องการลดใช้กระดาษ การอ่านหนังสือในรูปของ e-book จึงเป็นทางเลือกที่ดี จากประสบการณ์จริงผมก็ใช้การอ่าน e-book จาก notebook ผมจะขอแนะนำการอ่านหนังสือ e-book โดยใช้ notebook ให้คนอื่นได้ลองทำดู ง่าย และหลายคนคงคิดว่ามีแค่นี้เองหรอ

  1. ติดตั้ง Adobe Reader ในเครื่องก่อนซึ่งคิดว่าทุกเครื่องน่าจะมีอยู่แล้ว
  2. เปิดไฟล์ e-book ที่จะอ่าน แล้วกด Ctrl + L เพื่อให้อยู่ในโหมด full screen
  3. กด Ctrl + 1 หรือ 2 หรือ 3 เพื่อปรับให้ขนาดของเอกสารใหญ่ขึ้นตามความเหมาะสม
  4. กด Fn + F7 แล้วแต่เครื่องครับ อันนี้เพื่อปรับแสงของหน้าจอลง เวลาอ่านจะได้สบายตา
  5. เริ่มอ่านได้เลยครับ ควบคุมเอกสาร โดยเลื่อนขึ้น-ลงใช้ลูกศรขึ้นลง เปลี่ยนหน้าใช้ลูกศร ซ้าย-ขวา

ง่ายไหมละครับพี่น้อง คราวนี้ก็ได้ Kindle DX มาอยู่ในมือแล้วแถมจอใหญ่กว่าอีก ตั้ง 13 นิ้ว

ศูนย์หนังสือจุฬาฯ สั่งหนังสือจาก Amazon นะครับ

amazon-chula-book

วันนี้แวะเข้าไปดูหนังสือที่ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ สาขาศาลาพระเกี้ยว จุฬาฯ ขณะที่เดินไปเรื่อยอยู่นั้นที่หมวดหนังสือต่างประเทศเหลือบไปเห็นพี่พนักงานคนหนึ่งกำลังหนังค้นหาหนังสือจาก เว็บ Amazon.com คงไม่ต้องบรรยายให้มากความนะครับว่าเว็บนี้ทำอะไรบ้างเขาเป็นบริษัทธุรกิจออนไลน์ที่ใหญ่มากๆ มีบริการต่างๆมากมาย เช่น เพลง หนังสือ หนัง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิก และบริการออนไลน์อื่นๆอีกเพียบ ฯลฯ ผมเลยเข้าไปถามจากเจ้าหน้าที่ว่าที่ศูนย์หนังสือสั่งหนังสือผ่านทาง amazon หรือครับ ได้คำตอบว่า ปกติถ้าสั่งเยอะหนังสือชุดเดียวกัน ก็สั่งผ่านสำนักพิมพ์โดยตรง ถ้าสั่งน้อย และเป็นของสำนักพิมพ์ก็ จะสั่งผ่านทาง amazon และที่ศูนย์หนังสือก็มี บริการสั่งหนังสือให้ด้วย เยี่ยมเลยครับ จากกรณีนี้ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับแต่ผมรู้สึกว่าธุรกิจออนไลน์ทำเงินได้อยากมาก และยังขายของได้ทั่วโลกอีกด้วย อินเตอร์เน็ตนี้มันสุดยอดจริงๆครับ

หนังสือ “SEO ปรับเว็บให้แรง แต่งให้ติดอันดับ”

หนังสือ SEO ปรับเว็บให้แรง แต่งให้ติดอันดับ

เมื่อวานแวะไปร้านหนังสือเจอหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ “SEO ปรับเว็บให้แรง แต่งให้ติดอันดับ” เขียนโดยคุณสุธี จันทร์แต่งพล เจ้าของเว็บ www.eblogbiz.com น่าสนใจมากครับเลย หยิบมาอ่านคร่าวๆ พบว่ามีความรู้เรื่องการทำ SEO ที่เราไม่รู้มากมาย จึงได้ซื้อติดมือมาใน ราคา 199 บาท เป็นหนังสือมีทั้งหมด 200 หน้า เนื้อหาภายในมีดังนี้

1. รู้จัก SEM และ SEO
2 รู้จักเสิร์ชเอ็นจิ้น
3. Google เสิร์ชเอ็นจิ้นที่คุณต้องรู้จัก
4. การวางแผนทำ SEO
5. เริ่มต้นปรับแต่งจากศูนย์
6. ลงมือปรับแต่งเว็บไซต์ (On-page Optimize)
7. ปรับแต่งระบบลิงก์ภายในเว็บ
8. ออกนอกเว็บ ทำให้โลกรู้จัก  (Off-page optimize)
9. ตรวจสอบผลการทำ SEO
10. Search Engine Guideline  และกรณีศึกษา
11. รู้จักเครื่องมือคู่ใจคนทำ SEO
12. เก็บตกการทำ SEO ให้รุ่ง
13. ส่งท้ายเพื่อเริ่มต้น SEO

CG+ vs Computer Atrs Thailand นิตยสารกราฟิกพันธุ์ไทย

Computer Graphics Plus Versus Computer Arts Thailand

นิตยสารเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิกของไทยนับว่ามีน้อยมากในแผงหนังสือ ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบหนังสือประเภท ออกแบบ ศิลปะ คอมพิวเตอร์ หนังสือที่ต้องซื้อทุกเดือนคือ ต้นเดือนคือ Bioscope นิตยสารเกี่ยวกับหนัง และกลางเดือนจะมีอีกเล่มคือ CG+(Computer Graphic Plus) ซึ่งเป็นนิตยาสารที่ผมได้ติดตามอ่านมาได้กว่าสองปีแล้วครับ เริ่มอ่านครั้งแรกตอนตีพิมพ์เล่ม 3 และจนถึงปัจจุบันเล่ม ที่ 23 ครับ สองเล่มแรกซื้อทุกเดือนและ iDesign บางฉบับ แต่วันนี้แวะไปที่ร้านหนังสือประจำ ก็เดินไปที่วางหนังสือ CG+ ตามปกติ พบว่ามีนิตยสารใหม่ ออกเล่มแรก ฉบับที่ 01 ชื่อ Computer arts thailand ด้านบนเขียนว่า “การรวมตัวครั้งแรกของนิตยสาร Computer Arts และ 3D World” ผมเลยหยิบมาสองเล่มและทำการเปรียบเทียบกันดูเลยจะใครสนใจจะได้ตัดสินใจเลือกได้ถูก แต่สำหรับผมคงจะสนับสนุนทั้งสองเล่มครับ

หัวข้อ CG+ Computer Arts Thailand
ราคา 100 บาท 150 บาท
จำนวนหน้า
(ดูตามหมายเลขหน้าสุดท้าย)
114 หน้า 138 หน้า
เนื้อหา 1. News และแนะนำเว็บไซต์

2. Hot Stuff การรีวิว Gedget ใหม่ๆ

3.Mactivity มุมสำหรับคนชอบ mac

4.เนื้อแล้วแต่ละเดือน เกี่ยวกับ cg

5.สัมภาษณ์คนในวงการ computer graphic ทั้งคนไทย คนต่างประเทศ

6. มีริวิวโปรแกรมเกี่ยวกับ computer graphic บ้าง เกี่ยวไอทีทั้วไปบ้าง

7. student portfolio ผลงานของน้องใหม่

8.web ,book, hardware รีวิว

9.Tutorial

– ขั้นตอนการทำปก จะเป็นคนที่ถูกสัมภาษณ์นั้นเองที่ต้องทำภาพขึ้นปก

– 3Ds Max

– Photoshop

– Flash

– Illustrator

-Maya

แล้วแต่ละเดือน เดือนละ 4 tutorial

เนื่องจากเป็นนิตยสาร import จากต่างประเทศมาเนื้อหาค่อนข้างที่จะเป็นสากล

1. ผลงานของนัก computer graphic พร้อมสัมภาษณ์

2. Studio of the Month ทำความรู้จัก
ดูผลงาน สัมภาษณ์ studio นั้นๆ

3.In depth

เนื้อหาเกี่ยวกับ โปรแกรม การออกแบบ

เทคนิคใหม่ ฯลฯ

4.Technique

Tutorial โปรแกรม เช่น photoshop Flash , maya ,zbrush , blend มีทั้งหมด 8 Tutorial ในเล่ม

5.Pre-viz

ข่าวงานศิลปะ แอนนิเมชั่น

6.special Feature

งานแอนิเมชั่นของหนังเรื่อง Monsters vs Aliens

7.Need to Know

มี plug in Photoshop ,คำถาม คำตอบ

8.โชว์ผลงาน ,ฉบับหน้ามีอะไร

ของแถม

มีบ้าง ,ไม่มีบ้าง

DVD Resources & Tutorial

ถ้าดูแล้วเนื้อหาภายในของ Computer Arts Thailand ค่อนข้างจะดีกว่าหน่อย แต่ CG+ ก็ดีไม่น้อย และก็ติดตามมานานเข้าปีที่ 3 แล้ว ยังไงก็คงติดตามผลงานของ CG+ ต่อไป แต่ในแต่ละเดือนคงต้องเสียตังค์เพิ่มอีก 150 บาท เพื่อติดตามผลงานของ Computer Arts Thailands

อ้างอิง :  CG+ ฉบับที่ 23  ,Computer Arts Thailand ฉบับที่ 1

Exit mobile version