ภัยของอารมณ์โกรธ ฉบับโหด

เลือดสาด

เว็บชื่อดังแห่งหนึ่งเอาดราม่าในพันทิพมาให้อ่าน เป็นเรื่อง ภัยของอารมณ์โกรธ คิดว่าหลายคนคงได้ผ่านตามาบ้างกับ FWD mail อันนี้ลองอ่านดู

ขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังขัดล้างรถอย่างขะมักเขม้น ลูกชายวัย 4 ขวบ ก้มลงเก็บก้อนหินขึ้นมา แล้วบรรจงขูดขีดไปบนด้านข้างของตัวรถ

พักใหญ่ต่อมา…เมื่อพ่อได้ยินเสียงครูดของหิน ก็เกิดความฉุนเฉียว โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขากระชากมือลูกมา ตีลงบนมือน้อย ๆ นับครั้งไม่ถ้วน โดยไม่ทันนึกว่าตนได้ถืออะไรอยู่ในมือ

ณ โรงพยาบาล.. นิ้วลูกชายถูกตัดออก เพราะกระดูกแตก จนหมอไม่สามารถเชื่อมต่อได้ ขณะที่พ่อเข้ามาดูลูกในห้อง ลูกมองพ่อด้วยสายตาปวดร้าว แล้วถามพ่อว่า

“เมื่อไร นิ้วหนูจึงจะยาวเหมือนเดิม ? ”

คำถามนั้น…เหมือนคมมีดกรีดลึกลงไปในหัวใจผู้เป็นพ่อ เขารู้สึกละอายใจ รู้สึกผิด และเสียใจในการกระทำตนอย่างไม่อาจให้อภัย
เขาจึงกลับไปที่รถ เตะมันสุดแรงเกิดโดยไม่ยั้งจนเหนื่อยหอบ แล้วทรุดตัวลงนั่งข้างรถอย่างเศร้าใจ สายตาพลันเหลือบไปเห็นรอยขูดขีด เขาเบิกตากว้าง ! จ้องมองคำว่า

….รักพ่อ….

น้ำใส ๆ เริ่มเอ่อ แล้วไหลอาบแก้ม เขาเอามือปิดหน้า ร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับใจจะขาด รุ่งขึ้น… ชายคนนั้นได้ฆ่าตัวตาย อารมณ์โกรธ มีโทษมหันต์ ปัญหาของโลกในทุกวันนี้ คือ

คนบางคน..

“ รักรถ หวงรถ หรือสิ่งของอื่น ยิ่งกว่ารักและห่วงใยลูก หรือ เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ”

จำไว้เสมอว่า สิ่งของมีไว้ให้ใช้

และ

คนมีไว้ให้รัก

ประเด็นที่เอามาเขียน คือชอบใจ ความเห็นที่ 93 ของคุณ yatiko (yatiko) ที่แต่งเรื่องใหม่ อ่านแล้วมันส์ ขออนุญาติเอามาแปะไว้ในบล็อกหน่อย ให้อารมณ์ย้อนคิดไปถึง บอร์ดใต้ดินแห่งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ที่บ้าดีเดือด วิจารณ์อะไรแบบหนักๆ  แบบไม่เกรงใจใคร โดน ICT ไล่ปิดไปหลายครั้งจนตอนนี้ไม่รู้เหล่าสมาชิกไปสิงสถิตอยู่ไหนบ้าง ลองอ่านดู เรื่อง ภัยของอารมณ์โกรธ ฉบับโหด ต้นฉบับมาจากเว็บพันทิพที่ลิงค์นี้ ผมเรียกงานแนวนี้ว่า หลุดโลกสไตล์

ความคิดเห็นที่ 93 โดย yatiko (yatiko)

(อันนี้คือความจริงที่เกิดขึ้นครับ)

ตั้งแต่วันนั้นมา จิตใจของฉันก็เต็มไปด้วยความเคียดแค้น…

ฉันมองชายคนนั้น มองรถคันนั้น แล้วมองนิ้วตัวเอง…เจ็บปวดเหลือเกินกับสิ่งที่ฉันได้รับ…

“มันจะต้องเจ็บกว่าฉันเป็นสิบๆเท่า” ฉันพร่ำบอกตัวเองขณะที่นอนอยู่ในโรงพยาบาล แผนการต่างๆนาๆผุดขึ้นมาในหัว…ฉันพร่ำรอโอกาส รอวันสะสางบัญชีเลือดมาถึง

กระทั่งวันนั้น วันที่เขามารับฉันออกไปจากโรงพยาบาล เขาไม่กล้ามองหน้าฉัน ไม่กล้าสัมผัสตัวฉัน ได้แต่ใช้หางตาเหลือบมองนิ้วมือที่กุดด้วนของฉันด้วยใบหน้าเรียบเฉย…

ฉันนอนฝันร้ายแทบทุกคืน ภาพที่เขาเดินเข้ามาตีนิ้วมือของฉันจนแหลกละเอียดนั้นฉายไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า…ไม่มีที่สิ้นสุด

หากแต่วันหนึ่ง โอกาสของฉันก็มาถึง…

ชายคนที่ฉันเกลียดที่สุดในโลกนั่งอยู่ตรงนั้น…อยู่ข้างรถของมัน รถที่มันรักหนักหนา มันกำลังล้างรถของตัวเองอยู่เหมือนอย่างที่เคยทำ…

ฉันเริ่มดำเนินแผนการ…

ฉันตีสีหน้าให้ดูบริสุทธิ์ เคลื่อนกายเข้าไปที่รถช้าๆ ชายคนนั้นชะงัก หันมามองที่ฉันเขม็ง ในดวงตาเหมือนจะมีคำถามผสมปนเปกับความหวาดหวั่น…ฉันรู้สึกได้

“พ่อครับ ผมเจ็บเหลือเกิน” ร่างของเขาแข็งทื่อเหมือนถูกสาป…ฉันมาถูกทางแล้วจริงๆ

“ผมทำผิดอะไรครับ ทำไมพ่อถึงทำกับผมแบบนี้” มันได้ผล…เขาเริ่มร้องไห้ ซุกใบหน้าลงบนผ่ามือทั้ง2ข้าง

ฉันเดินเข้าไปในระยะประชิด เขาหันหน้ามาสบตาฉันแบบคนสำนึกผิด ฉันยิ้มหวาน…ชูมือด้วนๆของตัวเองขึ้น แล้วพูดออกไปว่า…

“พ่อจ๋า เมื่อไหร่นิ้วหนูจะยาวเหมือนเดิม”

สิ่งสุดท้ายที่ฉันจำได้คือ ชายคนนั้นกรีดร้องเสียงดัง วิ่งเข้าไปในบ้านก่อนที่จะวิ่งกลับออกมาพร้อมกับปืนในมือ…

ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น ฉันสัมผัสได้ถึงเของเหลวอุ่นๆที่กระเด็นมาเปรอะเปื้อนร่างกาย ชายผู้ที่เคยเป็นพ่อของฉันนอนจมกองเลือดอยู่ตรงหน้า ตาของเขาเบิกโพลง ขมับด้านซ้ายของเขาเป็นรูโหว่ ฉันแยกไม่ออกว่าสิ่งที่ทะลักออกมาคือเลือดหรือเนื้อสมองกันแน่…

ฉันยืนกอดตัวเองอยู่ตรงนั้น.. อยากเก็บความรู้สึกนี้ไว้ให้เนิ่นนาน ความแค้นนี้ได้ถูกชำระแล้ว หยดเลือดสีแดงฉานที่เปรอะเปื้อนร่างกายทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน…
.
.
ฉันยกมือที่นิ้วขาดวิ่นของตัวเองขึ้นมาดู รู้สึกราวกับว่า…นิ้วมือของฉันกำลังงอกขึ้นมาใหม่อย่างช้าๆ…

กลับบ้านต่างจังหวัด

ตอนแรกกะจะลองเขียนบล็อกที่บ้าน โดยใช้ EDGE ของ Dtac เจ้าอื่น True แทบจะไม่มีสัญญาณ ส่วน AIS พอๆกับ Dtac สุดท้ายก็ทำไม่ได้ เพราะการอัพโหลดรูปขึ้นเว็บทำไม่ได้เลยช้ามาก ส่วนตัวอักษรยังพอจะทำได้ ถ้ามี 3G อาจจะได้เห็นผมบล็อกที่บ้านเกิดสักครั้ง บันทึกไว้ดีกว่าว่าการบล็อกครั้งนั้นจะเกิดขึ้นห่างจากตอนนี้นานเท่าไหร่ นับตั้งแต่ วันที่ 18 กันยายน 2553 ณ วันที่พยายามบล็อกที่บ้านเกิด

ครั้งก่อนถ่ายรูปรอบบ้านดูว่าแม่ปลูกผักอะไรไว้บ้าง ครั้งนี้เดินทั่วทั้งหมูบ้าน ถ่ายภาพธรรมชาติ ช่วงนี้ข้าวกำลังเขียว แต่ยังไม่งามมากนักเพราะฝนเพิ่งมา ข้าวเพิ่งปักดำ บรรยากาศที่บ้านมีฝนตกลงมาเป็นระยะ เป็นวันเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน มีทั้งเรื่องดี เรื่องร้ายเกิดขึ้นมากมาย แต่เราจะเลือกจำเฉพาะเรื่องที่น่าจดจำ อย่างน้อยก็รูปสวยๆเหล่านี้ จะอธิบายรายละเอียดเล็กน้อยให้ได้รู้ถึงบรรยากาศช่วงนั้น

กลับมาถึงบ้านตอนเช้า พระมาบิณฑบาตรพอดี ได้เก็บภาพไว้ดู

หลังฝนตก อากาศที่บ้านมันดีเหลือเกิน หายใจได้เต็มปอด

ดอกไม้ หลังโดนฝนมันเบ่งบาน สดชื่น
เจ้าจ๋อ รับจ้างขึ้นมะพร้าว

บริการรับจ้างขึ้นมะพร้าว โดยเจ้าจ๋อ ตระเวนรอบหมู่บ้าน ถ่ายเกือบไม่ทัน

ไม่รู้ว่ามันชื่ออะไร แต่สวยดี
ดอกโป๊ยเซียน
แมลงเต่าทอง
รถมอเตอร์ไซต์รุ่นเก่า

คันนี้เจ้าของเขาบอกว่าซื้อมาด้วยเงิน 8 พันกว่าบาท เครื่องยังวิ่งได้ดี ดูคลาสสิคดีเลยถ่ายเก็บไว้

หนองโฮง ชื่อเดียวกับชื่อหมู่บ้าน
แมงปอ อาศัยอยู่ข้างริมหนอง
พี่ชายคนนี้ชื่อ นาวิน แกยิ้มมีความสุขดีเลยขอเอามาลงไว้ดูหน่อย
เห็ดขม มันขมสมชื่อของมัน

เห็ดขม มันขมสมชื่อของมัน มีกรรมวิธีทำให้หายขมได้ แต่หลายคนก็เลือกที่จะกินแกงเห็ดขม แบบขมๆ

ตอนเย็นแวะไปเดินตลาดนัด คนคึกคักน่าดู

วันสุดท้ายก่อนเดินทางเข้า กทม. คือ วันเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน

บรรยากาศการเฝ้าดูการนับคะแนน

ลุ้นด้วยใจจดใจจ่อ ผลออกมาก็ต้องมีฝ่ายที่ดีใจ และฝ่ายที่เสียใจ แต่ต้องคิดว่าเราคือ หมู่บ้านเดียวกันต้องสามัคคีร่วมกันพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนของตน เลิกแบ่งข้าง หันหน้าเข้าหากัน และเดินหน้าพร้อมกัน

ปล. ไม่ได้บล็อกหลายวัน หงุดหงิดเหมือนกันแฮะ

Facebook เปิดหน้ารวม Pages ให้เลือก Like ได้ง่ายขึ้น

Discover Facebook's Popular Pages

Facebook เปิดหน้ารวม Pages ให้เลือก Like หรือ Unlike ได้ง่ายขึ้น

ทำให้รู้ว่ามี Pages ไหนที่น่าสนใจบ้าง คนส่วนใหญ่ชอบอะไร มีแบ่งหมวดหมู่ให้ชัดเจน ดูแล้วมีลักษณะคล้ายกับ Twitter แนะนำคนที่คุณอาจจะสนใจ Follow ข้อดีของมันคือ ทำให้เรารู้ว่าตอนนี้ เรากด Like อันไหนไปบ้าง เลือก Unlike ได้เลย และ Pages ไหนที่น่าสนใจบ้าง ผมก็กด Like เพิ่มไป 2-3 อันเหมือนกันนะ สรุปว่าหน้านี้ ดี ใช้ได้ Bookmark ไว้ดีกว่า

อยากทดลองดูคลิกนี้เลยครับ https://www.facebook.com/pages/browser.php

via : https://mashable.com

ขาย Air Card 3G, SIM Card 3G,บัตรเติมเงิน 3G ของ 365

ลองเล่น Store ของ 365 บ้างดีกว่าเผื่อจะขายได้ ขายของเกี่ยวกับ 3G  Store ของ 365 มีรายการดังนี้ครับ

  • SIM การ์ด ของ 365 ราคาขาย 199 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
  • บริการเติมเงิน สำหรับ SIM การ์ด ของ 365 ราคา 200 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
  • บริการเติมเงิน สำหรับ SIM การ์ด ของ 365 ราคา 100 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
  • Air Card ZTE รุ่น 627 ความเร็วในการ Download 3.6 Mpbs พร้อม SIM การ์ด 3G ขนาดความจุ 3GB ของ 365 ราคา 1,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
  • 2.5 Air Card ZTE รุ่น MF110 ความเร็วในการ Download 7.2 Mpbs พร้อม SIM การ์ด 3G ขนาดความจุ 3GB ของ 365 ราคา 2,490 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ZTE aircard 3G 7.2 Mbps

ผมวาง banner ของ Air Card 3G รุ่นรองรับ 7.2 Mpbs แถมเน็ต 3GB ไว้ที่หน้าแรกซ้ายมือ ลองดูว่าผ่านไปหนึ่งเดือนจะมีคนคลิกที่ banner กี่ครั้ง จะมีคนซื้อไหม แล้วจะได้ค่าคอมมิชชั่นหรือปล่าว ลองดู ใครสนใจอยากทำบ้างก็เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://www.365.co.th

“ไม่มีหญิงสาวในบทกวี” รางวัลซีไรต์ ประจำปี 2553

ไม่มีหญิงสาวในบทกวี ผู้แต่ง : ซะการีย์ยา อมตยา

รางวัลซีไรต์ ประจำปี 2553 : ไม่มีหญิงสาวในบทกวี
ผู้แต่ง/ผู้แปล : ซะการีย์ยา อมตยา
สำนักพิมพ์หนึ่ง
Barcode : 9789742255244
ISBN : 9789742255244
ปีพิมพ์ : 1 / 2553
ขนาด (w x h) : 105 x 180 mm.
ปก / จำนวนหน้า : ปกอ่อน / 92 หน้า
หมวดหนังสือ : กลอน-กวี
ราคาปกติ : 85.00 บาท
รายละเอียดจาก : www.chulabook.com

ยอมรับว่า รางวัลซีไรต์มีอิทธิพลกับการเลือกซื้อหนังสือมาอ่านพอสมควร ค่อนข้างเชื่อถือได้ในระดับหนึ่งว่าซื้อมาแล้วไม่ค่อยผิดหวัง ปีนี้รางวัลซีไรต์เป็นรอบของหนังสือประเภทบทกวี ที่จริงแล้วไม่ค่อยชอบอ่านบทกวี เพราะอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง มีปัญหากับภาษาไทยนิดหน่อยเรื่องของวรรณยุกต์สะกดผิดๆถูกๆ อ่านผิดๆถูกๆเช่นกัน เป็นคนแต่งกลอนไม่ได้ แต่ปีนี้ได้เห็นชื่อเรื่อง “ไม่มีหญิงสาวในบทกวี” แล้วน่าสนใจ ราคาไม่แพง ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ลดแล้วเหลือ 76 บาท ชื่อคนแต่ง ซะการีย์ยา อมตยา ไม่เคยได้ยินมาก่อน แถมดูในเว็บของศูนย์หนังสือมีผลงานแค่เล่มเดียวคือเล่มนี้ ยังไงซะว่างๆจะแวะไปอุดหนุนมาสักเล่ม

รูปมาจาก : สำนักพิมพ์หนึ่ง

ASUS Eee PC Touch T101MT

ASUS Eee PC Touch T101MT

เมื่อวานน้องที่แล็ป เอา Netbook ตัวใหม่มาอวด ASUS Eee PC Touch รหัสรุ่น T101MT ลองจับดูประมาณ 10 นาที รู้สึกชอบมันเลยแฮะ เบา เป็นจอทัชสกีน มี stylus มาให้ด้วย ราคา 17,000 บาท ถือว่าไม่แพงมาก ลองค้นดูสเปคของมันดีกว่า

Specifications

Operating System Genuine Windows® 7 Starter
Display 10.1″ LED Backlight/ Resistive Multi-Touch Panel(1024×600)
Intel CPU & Chipset Intel® Atom™ N450
Memory Starter: 1GB DDR2
Wireless Data Network 802.11b/g/n @2.4GHz
Bluetooth2.1 + EDR
Hybrid Storage 160GB HDD + 500GB ASUS WebStorage (Starter)
Camera 0.3M Pixels
Audio Hi-Definition Audio CODEC
Stereo Speakers
High Quality Mic
Input / Output 1 x VGA Port (D-sub 15-pin for external monitor)
3 x USB 2.0, 1 x LAN RJ-45
2 x Audio Jack (Head Phone / Mic-in)
Card Reader: MMC/SD supported SDHC capacity up to 32GB SDXC, in High Speed (HS) and Default Speed (DS) modes, and max. capacity up to 2TB
Battery 6.5 hrs, 35Wh Slim and Eco-friendly Li-polymer Battery
Dimensions 264mm(W)x181mm(D)x31mm(H)
Weight 1.3 Kg (2.86lbs)
Infusion Black

เท่าที่ลองเล่นดู จอหมุนรอบ พับกลับด้านได้ ลองเขียนรูปเล่น พบว่ามันตอบสนองได้ดี แต่ถ้าเขียนเร็วๆเหมือนวาดรูปบนกระดาษมันยัง delay นิดๆ น่าจะเป็นเรื่องปกติ ตอนแรกเห็นสติ๊กเกอร์ติดไว้ว่า 660 GB คืออะไรทำไมพื้นที่เยอะจัง เมื่อมาดูในเว็บค่อยเข้าใจว่ามันคือ HDD 160 GB และให้พื้นที่ออนไลน์อีก 500 GB เป็น service ของ ASUS เอง www.webstorage.com แต่เหมือนจะให้ทดลองใช้แค่ 1 ปี เรื่องแบตเตอรี่สเปคบอกว่า 6.5 ชั่วโมง ตอนที่เล่นระดับพลังงานอยู่ที่ 49% บอกว่าใช้ได้อีก 2 ชั่วโมงนิดๆ แสดงว่าตอนเต็ม 100% น่าจะใช้ได้ราว 4 ชั่วโมงกว่าๆ

วีดีโอสาธิต เหมือนตอนที่ใช้จริงเลย

ดูรูปทั้งหมด

ปล. ที่อยากรู้คือตอนใช้หน้าจอสัมผัส เวลาจะคลิกขวามันทำยังไงอ่ะ

เอารายละเอียดของสเปคมาจาก https://hothardware.com

iPod shuffle, iPod nano, iPod touch เวอร์ชั่นใหม่

iPod shuffle เวอร์ชั่นใหม่

iPod shuffle เวอร์ชั่นใหม่ หลังจากรุ่นที่แล้วเอาปุ่มออกสั่งงานด้วยเสียง

  • ตัวใหม่เอาปุ่มกลับมาและยังสั่งงานด้วยเสียงได้
  • มีให้เลือก 5 สี
  • iPod shuffle ความจุ 2GB ราคา $49(1,527 บาท)
  • เล่นเพลงต่อเนื่องได้นาน 15 ชั่วโมง

iPod nano เวอร์ชั่นใหม่

iPod nano เวอร์ชั่น มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ

  • เอาปุ่มกดออก สั่งงานด้วยจอสัมผัสหน้าจอ 1.5 นิ้ว สี่เหลี่ยมจัตุรัส ความละเอียด 240×240 px
  • เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วย 30-pin connector
  • มีให้เลือก 7 สี
  • มีคลิปมาด้วยเหมือน iPod shuffle
  • มีวิทยุ
  • เชื่อมกับ Nike+ ได้เหมือนเดิม
  • ไม่มีกล้องแล้ว
  • ราคา iPod nano วามจุ 8GB $149(4,644 บาท) และ ความจุ 16GB $179(5,579 บาท)
  • เล่นเพลงต่อเนื่องได้นาน 24 ชั่วโมง
iPod touch เวอร์ชั่นใหม่

iPod touch เวอร์ชั่นใหม่ มีการอัพเกรดเยอะพอควร (คิดว่าคุ้มแล้วที่จะซื้อ)

  • ใช้ Retina display และ CPU Apple A4 เหมือนกับ iPhone 4
  • มีกล้องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
  • ใช้ FaceTime คุยแบบเห็นหน้า ได้ทั้งระหว่าง iPod touch ด้วยกัน หรือคุยกับ iPhone 4 ก็ได้
  • ถ่ายวีดีโอระดับ HD 720p และรองรับการตัดต่อวีดีโอด้วย iMove for iPhone
  • เซนเซอร์ 3 แกน (3-axis Gyro)
  • Game Center ที่มาพร้อมกับ iOS 4.1
  • iPod touch ความจุ 8GB ราคา $229 (7,137 บาท)
  • iPod touch ความจุ 32GB ราคา $299 (9,319 บาท)
  • iPod touch ความจุ 64GB ราคา $399 (12,436 บาท)
  • เล่นเพลงต่อเนื่องได้นาน 40 ชั่วโมง

นอกจาก iPod ที่มีการอัพเกรดใหม่แล้ว ยังมี iTunes 10+Ping และ iTV ไม่เขียนนะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.aple.com

รวมหนังสั้นชุด สวัสดีบางกอก

หนังสั้น "สวัสดีบางกอก"

“สวัสดีบางกอก” หนังสั้น 9 เรื่อง 9 ผู้กำกับ จบไปแล้ว เผอิญไปเจอ คนอัพโหลดขึ้น Youtube ไว้ด้วย เลยเอามาลงไว้ เผื่อว่า ใครยังไม่ได้ดู หรือดูไม่ครบทุกเรื่องจะได้ตามไปดู ขอบคุณ ladyEdnaMode ที่อัพโหลด คลิก Sawasdee Bangkok Playlist ส่วนตัวผม ชอบทุกเรื่องนะ แต่ละเรื่องมีเอกลักษณ์ในแนวของตัวเองชัดเจน แต่ที่ชอบเป็นพิเศษ คือ หลงแต่ไม่ลืม, Silence และ  Bangkok Blue

เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน (M. Night Shyamalan) ใครว่าหนังเขาห่วย

เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน

เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน (M. Night Shyamalan)

วันนี้ขอพูดถึงผู้กำกับคนนี้หน่อย เพราะเพิ่งได้ดู The Last Airbender มาเมื่อหลายวันก่อน ผมขอพูดถึงผลงานของผู้กำกับคนนี้ที่เราชอบ และติดตามดูมาตลอด หนังของเขาเกือบทุกเรื่อง เขาจะควบทั้งโปรดิวเซอร์ เขียนบท และกำกับการแสดง และเราจะเห็นชายขอบตาดำโผล่มาในหนังทุกเรื่อง คนๆนั้นคือตัวเขาเอง เป็นเหมือนลายเซ็นต์ส่วนตัวที่ต้องร่วมแสดงด้วย (ตอนแรกก็ไม่รู้แค่แปลกใจ ไอ้นี้โผล่มาอีกแล้ว พออ่านรายละเอียดเจอ จึงไม่นั่งเปิดดูอีกที จริงด้วยแฮะไม่ได้สังเกต) แต่ใน The Last Airbender ไม่เห็นเขานะ

ผลงานเรื่องแรกของผู้กำกับเอ็ม. ไนท์ ที่ผมได้ดูคือ Unbreakable ไม่ใช่ผลงานสร้างชื่อ The Sixth Sens แต่อย่างใด ยังจำภาพตอนที่ไปดูได้ดี ตอนนั้นยังเรียนชั้นมัธยมอยู่เลย

หนังเรื่อง Unbreakable(1999) ผมไม่ได้ดูในโรงหนัง แต่เป็นหนังกลางแปลงที่ ฉายในหมู่บ้าน(บ้านยางเฌอ) ที่ห่างจากหมู่บ้านผมไปราว 3 กิโลเมตรกว่าๆ เรา(เป็นกลุ่ม)ปั่นจักรยานไปดูกัน หนังเล่าเรื่องของฮีโร่ในร่างมนุษย์ธรรมดา เล่าถึงสมดุลของธรรมชาติผู้แข็งแกร่งที่สุด ที่อยู่อีกฝากตรงข้ามกับคนอ่อนแอ่ที่สุด และคนอ่อนแอพยายามตามหาคนที่แข็งแกร่งที่สุดคนนั้น และพยายามบอกให้เขาลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ควรทำคือปกป้องเพื่อนมนุษย์ หนังจบแบบหักมุม ในแบบที่คาดไม่ถึง ตอนนั้นทำเอาผมอึ้ง ตาค้าง ไม่เคยดูหนังแบบนี้ สุดท้ายจึง ซื้อวีซีดีเก็บไว้ ดูไปหลายรอบ บ้าถึงขั้น เปิดดูหนังแล้วจดบทออกมาเป็นฉากๆ เหมือนบทของโกลเมน ในหนังสือ “ปั้นหนังเป็นตัว”

จากนั้นเริ่มตามหาหนังเรื่อง The Sixth Sens(2000) มาดู แผ่นวีซีดีหนังเรื่องนี้จำได้ว่า แพงมาก แบบว่าในร้านขายอยู่บนหิ้งแพงกว่าหนังทั่วไป 2 เท่าเห็นจะได้ กว่าจะซื้อได้ต้องต้องเดินผ่านไม่รู้กี่รอบกี่วัน เป็นหนังผีที่จบแบบหักมุมอีกครั้ง(ครั้งแรกของเขา) เจ้าหนูฮาเลย์ โจเอล ออสเมนท์ แสดงได้ดีมาก และเป็นนักแสดงเด็กอีกคนที่ผมชอบ ไม่แปลกใจที่เป็นผลงานสร้างชื่อ ตอนนั้น เอ็ม. ไนท์ ได้เป็นหนึ่งในลายเซ้นต์หนังที่ต้องดูไปแล้ว

หนังเรื่องต่อไปที่ได้ดูคือ Signs(2002) แค่เปิดเรื่อง เราก็จำกลิ่นของ เอ็ม. ไนท์ ได้แล้วว่ามันมาจะมาโทนนี้ หนังยังสร้างความพอใจให้ผมได้ หนังเรื่องนี้ยังคงดูในรูปแบบวีซีดี บ้านนอกไม่มีโรงหนังให้ดูเท่าไหร่ ที่ร้อยเอ็ดมีโรงเดียวในตอนนั้น ส่วนใหญ่ฉายแต่หนังในกระแส ยังคงดูหลายรอบ หลายคนที่ดูด้วยบอกว่า มีเอเลี่ยนให้ดูนิดเดียวเอง แต่นั้นมันไม่ใช่ประเด็น

ต่อมาหนังเรื่อง The Village(2004) ตอนนี้เราเข้ามาอยู่ในเมืองกรุงแล้ว ได้เข้าไปดูในโรง ตอนดูในโรง รู้สึกว่าเฉยๆ เพราะคาดหวังไว้พอควร ออกมาไม่ได้ผิดหวัง แต่ก็ไม่ได้สมหวัง แต่พอมาดูตอนเป็นแผ่นอีกครั้ง ก็โอเคนะ ยังเป็น เอ็ม. ไนท์ คนเดิม เริ่มโดนวิจารณ์หนัก ว่ายังวนเวียนอยู่ในแนวเดิม แต่ผมว่ามันเป็นเหมือนลายเซ็นต์ว่า ถ้าอยากดูหนังแบบนี้ ต้องดูหนังเอ็ม. ไนท์ สิ

Lady in the Water(2006) หนังเรื่องนี้ ผมไม่ได้ดูในโรง รู้สึกว่าหนังจะเจ๊งไม่เป็นท่า เข้าเร็วออกเร็วด้วยมั้ง ได้ดูอีกทีตอนเป็นแผ่น และตอนที่ออก HBO โดนวิจารณ์แหลก ว่าห่วย  ผู้กำกับได้เป็นตัวประกอบยอดแย่แห่งปีไปอีกต่างหาก แต่ทำไมผมดูแล้ว กลับชอบ เฮ้ย..มันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น นี้แหละหนังของเขา จบแบบคาดไม่ถึง

The Happening(2008) เป็นหนังเมื่อสองปีก่อน เปิดตัวที่อเมริกาไม่ได้เลวร้ายอย่างเรื่องที่แล้ว พอได้ดูก็ยังคงเป็น เอ็ม. ไนท์ คนเดิม เล่าเรื่องความกลัวด้วยบรรยากาศที่หนีไม่ได้(มันยู่ในอากาศ มันมาจากทุกที่ มันไม่ได้ฆ่าคุณ แต่คุณจะฆ่าตัวเอง) หนังสนุกพอตัว

มาปีนี้หนัง เอ็ม. ไนท์ ค่อนข้างฉีกแนวออกไป The Last Airbender(2010) เป็นหนังที่ทำมาจากการ์ตูน แนวแฟนตาซี ดูเพลิน ไม่ได้ขายความน่ากลัว อย่างเรื่องก่อนๆ และอีกครั้งที่ผมก็ชอบ โดนเฉพาะตัวเอกของเรื่อง ท่าการร่ายลำมวยจีนของเขามันเท่จริงๆ

หลายคนวิจารณ์หนังของเอ็ม. ไนท์ ว่าห่วย จำเจ วนเวียนอยู่กับการเล่าเรื่องแบบเดิม แต่ส่วนตัวผมแล้วยังคงชอบผลงานของเขา เล่าเรื่องด้วยบรรยากาศ ใช้ความกลัวที่ไม่ใช่อาการตกใจ หนังของ เอ็ม. ไนท์ มักใช้นักแสดงต่อเนื่องจากเรื่องที่แล้วมาแสดง ทำให้ได้กลิ่นไอของหนังของเขาชัดเจน ปลายปีเราจะได้ดูหนังผีในลิพท์ของเขาอีก ชื่อ Devil แต่เขาจะทำหน้าที่เป็นเพียงโปรดิวเซอร์ ไม่ได้กำกับ แน่นอนว่าผมจะดู

The Red Eagle : Hero Never Dies

The Red Eagle


The Red Eagle อินทรีแดง
Hero Never Dies
07.10.10

From classic Thai superhero, originally played in a series of films in the 1960s is now back by visionary of Wisit Sasanatieng the director of Tears of the Black Tiger,Citizen Dog and Unseenable

via : https://www.inseedangthemovie.com

Exit mobile version