ยกเลิกการรับอีเมลแจ้งเตือนจาก Facebook

พอมีเพื่อนใน facebook เยอะ มีคนส่งอะไรมากมายมาให้ใน facebook แล้วอีเมลแจ้งเตือนส่งเข้ามาในอีเมลเรามันเยอะ รก น่ารำคาญใจ วิธีแก้ง่ายๆก็ยกเลิกการแจ้งเตือนนั้นซะ ไม่อยากรับอันไหนก็ติ๊กออก เอาไว้บางอันที่สำคัญเช่น Posts on my wall, Sends me a message

  1. เข้าไปที่ Account>>Account settings

    Account settings

  2. คลิกที่เมนู notifications แล้วเอาติ๊กออกในตัวที่ไม่ต้องการให้ส่งอีเมลแจ้งเตือน

    เมนู notifications

และแล้วอีเมลจาก facebook ก็ไม่รก inbox เราต่อไป เข้ามาเช็คเองใน facebook ก็ได้เพราะคุณใช้งานมันบ่อยกว่าอีเมลอยู่แล้ว ถ้าใครล็อกอิน facebook อยู่คลิกลิงค์นี้เลย https://www.facebook.com/editaccount.php?notifications

ฟรี Workshop ดีๆในงาน Commart Thailand

ฟรี workshop ในงาน commart

เปิดไปเจอ Workshop ของงาน Commart ที่จะจัดในวันที่ 24-27 มิ.ย. 53 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เห็นว่าน่าสนใจเลยเอาแชร์ เป็นงานดีๆ ที่ฟรีนะครับ  เข้าไปลงทะเบียนและดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ลิงค์ที่มา ส่วนตัวผมลงทะเบียนไปงานของ Microsoft ในวันที่ 26 มิ.ย. 53 เพราะแต่ละช่วงเข้าต่อเนื่องกันได้เลย

  1. Free Workshop “ประกอบคอมพ์เทพเรียกป๋า เพื่อคนบ้าเกม”
  2. Workshop ที่จะทำให้คุณรู้ลึกรู้จริง เรื่อง Samsung Galaxy S Android 2.1 กว่าใคร!!
  3. 3.9 Mobile Internet Trend ใหม่ที่คุณต้องรู้
  4. มือถือหายอย่ากังวล เลือกความปลอดภัยให้กับโทรศัพท์ของคุณ
  5. ใช้ Smart Phone อย่างเซียนด้วย App Store
  6. ผลการสำรวจการใช้ พีดีเอ ในภาคธุรกิจ ในประเทศไทย
  7. เลือกใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสอย่างไรให้เหมาะกับ Notebook
  8. เรียนรู้การใช้ Microsoft Office 2010 เบื้องต้น
  9. ทางลัดสู่ความสำเร็จทางด้านธุรกิจด้วย Microsoft Office 2010
  10. รู้จัก Windows 7 กับประโยชน์เพื่อชีวิตที่ง่ายขึ้น
  11. วันนี้คุณสามารถใช้ Microsoft Office 2010 บน Windows Phone ทำให้คุณทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา

เข้าไปดูรายละเอียดและลงทะเบียนได้ที่ https://www.commart.co.th/workshop.php

บันทึกงาน IgniteTH ปลุกพลังบวก เปลี่ยนประเทศไทย ช่วงที่ 2

บันทึกงาน IgniteTH ปลุกพลังบวก เปลี่ยนประเทศไทย ช่วงที่ 2 ใครยังไม่ได้อ่าน ช่วงที่หนึ่งตามไปอ่านได้ที่ “บันทึกงาน IgniteTH ปลุกพลังบวก เปลี่ยนประเทศไทย ช่วงที่ 1

คุณณัฐวัฒน์ ชั้นอินทร์งาม : ท้องถิ่นกับการพัฒนาแนวใหม่

Igniter ลำดับที่ 12 : คุณณัฐวัฒน์ ชั้นอินทร์งาม หัวข้อ: ท้องถิ่นกับการพัฒนาแนวใหม่`
งานนี้ไม่ได้มีเฉพาะคนในเมืองมาพูดจุดประกาย แต่คนในชุมชนก็ก็ได้มีโอกาสได้มาพูดเช่นกัน คุณณัฐวัฒน์ เป็นนายก อบต.บางระกำ จ.นครปฐม มาเล่าการพัฒนาชุมชนให้มีวิถีชีวิตกินอยู่อย่างพอเพียง เริ่มต้นที่การพัฒนาทางด้านการเกษตร มีศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรในชุมชน มีการทำปุ๋ยอินทรีย์ ปุ้๋ยชีวภาพใช้เอง และขายในชื่อ “บางระกำทำรวย” ตำบลบางระกำเป็นตำบลที่มีผู้สูงอายุมาก มีสุขภาพดี มีอาชีพที่หลากหลาย แต่ละหมู่บ้านมี อสม. ที่ค่อยดูแลลูกบ้านยามเจ็บไข้ มีการตรวจสุขภาพ และดูแลชุมชนให้สะอาด ให้ปราศจากพาหนะนำโรคต่างๆ มีธนาคารชุมชนของตัวเอง มีสวัสดิการให้เด็กแรกเกิด เป็นแนวทางที่ดีของการสร้างความเป็นอยู่ของชุมชนให้แข็งแรง พึ่งพาตนเองได้

คุณรณพงศ์ คำนวณทิพย์ : Twitter For Thailand (#TWT4TH)

Igniter ลำดับที่ 13 : คุณรณพงศ์ คำนวณทิพย์ @rockdaworld หัวข้อ : Twitter For Thailand (#TWT4TH)
เปิดตัวด้วยด้วยประโยคที่ว่า “ผมเป็น igniter ที่อายุน้อยที่สุด” เขาบอกว่า เพราะสิ่งที่เขาทำเมื่อเทียบกับ igniter ท่านอื่นนั้นถือว่าเล็กมาก เขาจึงเปรียบว่าเขาอายุน้อยที่สุดในเวทีนี้  Tag #TWT4TH เกิดขึ้นมา เมื่อเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น ซึ่งมันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้วแต่เราไม่ใส่ใจ หรือลืมมัน แต่มาวันนี้มันก่อเกิดปัญหาแล้ว ตอนนี้คนไทยเท่านั้นที่ทำให้เมืองไทยน่าอยู่ เรามีกลุ่มของ Social network อยู่ เราต้องร่วมแรงร่วมใจสร้างสิ่งดีๆ กลุ่ม TWT4TH ได้จัดงาน รวมกลุ่มระดมสมอง เพื่อหาทางออกที่สร้างสรรค์ให้สังคม รวมกลุ่มจากเพื่อนใน twitter มาช่วยกันตอนแรกคาดว่าจะมีคนแค่นิดเดียวแต่รับการตอบรับอย่างดี  กลุ่ม TWT4TH จะจัดนัดรวมพลกันอีกครัง เพื่อวางโครงการทำกิจกรรม ในวันที่ 20 มิ.ย. 53 เวลา 14.00-18.00 น. ณ บ้านอารีย์ ซ.อารีย์ ถ.พหลโยธิน เข้าร่วมกลุ่มได้ที่ https://twt4th.in.th สุดท้ายได้พูดถึง “ต้นไม้ของพ่อ” ทำให้ผมคิดถึงประโยคหนึ่งในเพลงนั้นที่บอกว่า “เราจะเทไป ให้ต้นไม้ ของพ่อ ยังงดงาม” ขึ้นมาในหัว

คุณรัฐ จำปามูล : แอนิเมชั่นส่งผ่านกำลังใจ

Igniter ลำดับที่ 14 : คุณรัฐ จำปามูล หัวข้อ : แอนิเมชั่นส่งผ่านกำลังใจ
เขาแนะนำหนังแอนนิเมชั่นเรื่องใหม่ของเขาในชื่อ “Sunset Love Song เพลงพระอาทิตย์” ผลงานลงมือทำเองมานานกว่า 2 ปี และยังปล่อยโค้ดให้ทุกคนนำไปใช้งานต่อได้ด้วย แต่จุดที่เป็นแรงบันดาลใจของเรื่องนี้น่าสนใจยิ่ง นั้นคือเพื่อนของเขาฆ่าตัวตาย เมื่อก่อนได้ดูข่าวการฆ่าตัวตายมันช่างดูไกลตัวเหลือเกิน แต่ไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับคนที่ใกล้ชิด คนที่รัก เขารู้สึกเศร้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก หนังเรื่องนี้จึงเล่าถึงความหมายของการมีชีวิตอยู่ เพื่อส่งผ่านความห่วงใยไปสู่คนแปลกหน้าที่เราอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน  “เพราะกำลังใจ…ไม่ควรมีไว้ขาย” จะฉายในวันที่ 3 ก.ค. 53 นี้ที่ ลิโด้ สยามแสควร์ เวลา 15.30 น.-18.30 น. รายละเอียดเพิ่มเติม https://sunset-love-song.exteen.com/

ตัวอย่างของหนัง

นพ.จอม ชุมช่วย : สร้างเสริมพลังบวกให้ลูกรัก

Igniter ลำดับที่ 15 :นพ.จอม ชุมช่วย  หัวข้อ : สร้างเสริมพลังบวกให้ลูกรัก
คุณพ่อที่มาเล่าประสบการณ์การเลี้ยงลูกวัยเจ็ดขวบ ที่สนุกสนานและคอยแทรกการคิดแง่บวกให้ลูกเสมอๆ สัตว์เลี้ยงตัวแรกของน้องคือกิ้งกือ แต่ด้วยความที่เลี้ยงในกล่อง ทำให้กิ้งกือจะตาย คุณพ่อได้บอกให้น้องปล่อยมันให้มันได้รับอิสระสู่โลกกว้างเพื่อความอยู่รอดของมัน น้องฟังและยอมปล่อยมันไป สัตว์เลี้ยงตัวที่สองคือสุนัข มันถูกจับทำหมั้น ถูกวางยาสลบและผ่าตัด กลับมาบ้านต้องมีที่ครอบหัว น้องสงสารและทุกข์ใจ คุณพ่อปลอบให้กำลังใจ ว่าหมอที่ผ่าตัดเก่ง ดูแลมันอย่างดี ไม่นานเดี๋ยวมันจะดีขึ้น น้องสบายใจมากขึ้นและคลายความกังวล สิ่งสำคัญของผู้ที่เป็นพ่อแม่ที่จะคอยดูแลลูกนั้นคือ รับฟัง คอยรับฟังสิ่งที่ต่างๆที่เขาคอยบอก อย่างใส่ใจ สนับสนุนจินตนาการ ความคิดและจินตนาการต่างๆที่ออกมาไม่ใช่เรื่องไร้สาระ เรื่องต่างๆที่เขาคิดนั้นบริสุทธิ์  ชื่นชม เมื่อทำดี ก็ชื่นชมให้กำลังใจ สานสัมพันธ์ที่ดี มีการทำกิจกรรมร่วมกันสม่ำเสมอ ทิ้งท้ายด้วยคำคมของ  “โลกสิ่งที่เราคิดว่ามันเป็น ถ้าเราเปลี่ยนที่ความคิดของเรา เราก็เปลี่ยนโลกได้ “-H.M. Tomlinson

คุณสราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ (นิ้วกลม) : ความงามใต้หัวนมซ้าย

Igniter ลำดับที่ 15 : คุณสราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ (นิ้วกลม) @roundfinger  หัวข้อ : ความงามใต้หัวนมซ้าย
เป็น Igniter อีกท่านที่ประทับใจผมมาก คุณนิ้วกลม ขึ้นไปเล่าเรื่องราวของความงามใต้หัวนมซ้าย ด้วยบทกวี ผมตื่นเต้นกับความหมายของชื่อเรื่อง เขายังคงเอกลักษณ์ของเขาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ เรื่องเกี่ยวกับการเดินทาง เขาแอบไปพักโรงแรมถูกๆแทนที่จะไปพักโรงแรมหรูกับเพื่อน แต่การได้ไปพักที่โรงแรมแห่งนั้นกลับทำให้พบกับความงามที่น่าจดจำ ในระหว่างที่เข้าไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำที่ไม่มีหลังคากับตุ่มน้ำแสงแดดส่องเข้ามากระทบน้ำ สะท้อนเกิดรุ่งเล็กๆเกิดขึ้นที่ใต้หัวนมซ้าย เป็นความงามที่หาในโรงแรมหรูไม่ได้  เรื่องที่สองเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนแก่ที่ผิวหนังเหี่ยวหย่น แต่ใจดีเป็นห่วงเราทุกครั้งที่จะเดินทางออกจากบ้าน และเรื่องของเด็กใบ้ที่มอบภาพวาดให้เขา เขายังเก็บมันไว้ตลอดแม้จะยับยูยี ทุกอย่างๆความสุขของเรายังคงอยู่ที่ใต้หัวนมซ้ายนั้นก็คือ “หัวใจ” ผมประทับใจและอยากอ่านอยากฟังบทกวีนี้อีกครั้ง

ดร.สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ : ไลเคนดีด้วยวิถีจักรยาน

Igniter ลำดับที่ 16 : ดร.สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์  หัวข้อ : ไลเคนดีด้วยวิถีจักรยาน
ไลเคน เป็นสิ่งมีชีวิตที่เกาะอยู่ตามต้นไม้ ประกอบด้วยเห็ดราและสาหร่าย อาศัยอยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาอาศัยกัน ใช้เป็นตัวชี้วัดได้ถึงคุณภาพอากาศของสถานที่นั้นๆ มีงานวิจัยรายงานว่าปริมาณไลเคนสัมพันธ์กับมะเร็งปอดของผู้ที่อาศัยในบริเวณนั้น โดยพบว่าเมืองที่มีไลเคนน้อยจะมีภาวะเป็นโรคมะเร็งปลอดมากกว่าเมืองที่มีไลเคนเยอะ ดร.สรณรัชฎ์ ได้ตั้งกลุ่มเยาวชนมาช่วยกันสำรวจไลเคนในเขตต่างๆทั่วกรุงเทพฯ แม้จะยังไม่ครอบคลุม แต่มีข้อมูลบางส่วนว่ากรุงเทพฯนั้นปริมาณไลเคนบางพื้นที่น้อยมาก บ่งบอกถึงปริมาณมลพิษที่สูง เขาจึงอยากให้กรุงเทพฯถนนในกรุงเทพฯแบ่งเลนสำหรับจักรยาน และรณรงค์ให้คนใช้จักรยานให้มากขึ้น แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่อยากให้เกิดขึ้น “เราอยู่ได้ ถ้าไลเคนอยู่ได้”

คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย : ดีที่ได้ทำ

Igniter ลำดับที่ 17 : คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย หัวข้อ : ดีที่ได้ทำ
บอกเล่าประสบการณ์การดีเพื่อสังคม การช่วยเหลือพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนใต้  มีการรวบรวมความของบริจาคไปช่วยเหลือ และเดินทางไปสัมผัสที่นั้นจริงๆ และอยากปลุกจิตสำนึกของคนไทยให้รักและเป็นห่วงพี่น้อง 3 จังหวัด เพราะประเทศไทยมี 76 จังหวัดไม่ใช่ 73 จังหวัด ไม่อยากให้คนไทยทอดทิ้งพวกเขาเหล่านั้น วันหนึ่งเหตุการณ์ไม่สงบนั้นไม่ได้อยู่เฉพาะภาคใต้แต่มาอยู่ที่ราชประสงค์บ้านของเขา แต่สิ่งที่เขาทำคือ ส่งยิ้มให้เขาเหล่านั้น มองว่าเขาเป็นคนไทย แล้วก็ได้รับรอยยิ้มกลับมาเช่นกัน ,การไปให้กำลังใจ พูดคุยกับน้องๆในสถานพินิจทำให้เห็นว่าคนเราไม่ได้อยากเกิดมาเลว ช่วยกันทำดีเพื่อประเทศไทย

รศ.ดร.ปาริชาต สถาปิตานนท์ : เปลี่ยนโลก เริ่มต้นจากแปลงตัวตน

Igniter ลำดับที่ 18 : รศ.ดร.ปาริชาต สถาปิตานนท์  หัวข้อ : เปลี่ยนโลก เริ่มต้นจากแปลงตัวตน
อาจารย์นำภาพที่เพื่อนเขาถ่ายภาพหนูติดกาวดักหนูตายมาให้ดู(ซึ่งเขาเป็นคนวางเอง) เมื่อได้เห็นภาพนั้น เราจะคิดแตกต่างกัน เช่น เศร้าจัง, โหดร้ายรับไม่ได้, มันคงพ้นทุกข์ไปแล้ว, ใครฆ่ามัน เป็นต้น เมื่อเริ่มคิดจากร้อยก็จะกลายเป็นพัน และเป็นล้าน มีการเพิ่มเสริมปรุงแต่งเข้ามามากมาย ย้อนกลับไปที่คนถ่ายรูปภาพหนูคนนั้น เขาโทรมาสารภาพผิด ในสิ่งที่เข้าทำ รู้สึกผิด เศร้าใจ นั้นแสดงให้เห็นว่า หนูติดกับดักหนู ส่วนคนวางกับดักกลับติด “กับดักความคิด” อยู่กับความผิดที่หนู กระบวนต่างๆเหล่านี้ควรจะต้องเกิดขึ้นนั้นคือ  พูด-เล่า ตั้งใจฟัง ซักถาม-ถกกันทางความคิด จะทำให้เกิดการระบาย บำบัด-เยียวยา และส่งผลให้เกิดการเติมพลังให้ใจมีแรง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ หากเรายังติดกับดักทางความคิด จมปลักกับวงวนเดิมๆ แล้วยังไม่พอมันจะเกิดแรงดึงดูดสิ่งที่ไม่ดีอื่นๆเข้ามาด้วย หากเปรียบเทียบความคิดกับคอมพิวเตอร์ ต้องมีการเคลียร์ crash บ้าง ลบ(delete)ไฟล์ขยะออกบ้างเครื่องจะได้เบาคิดอะไรได้ง่าย ในเมื่อเลือกลบได้ ก็ต้องเลือก บันทึก(save)ได้เช่นกัน แต่บางทีไฟล์นั้นสำคัญ ลบ ไม่ได้จริงๆ ก็ควรย่อแล้วเก็บไว้ในที่ควรเก็บไม่ใช่เอาไว้หน้าจอ แล้วเก็บมาหลอกหลอนตัวเอง ต่อไปคือการค้นหาภาพดีแล้วบันทึกไว้ “วันวานเราฝึก…ท่องจำ วันนี้เราแค่ “search&save” ภาพแห่งความทรงจำดีๆ เอาไว้(แอบ)ยิ้มกนในยามยาก” (ให้ตายเถอะชอบสุดๆเลย)  ใครที่เบื่ออะไรก็ตามให้ลองมองหาอีกมุมที่สวยของมันให้เจอ ท้องต้องการอาหารที่มีประโยชน์ สมองก็เช่นกัน ความต้องการนั้นคือ คลังภาพที่งดงาม ความทรงจำดีๆ หากไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไร เริ่มที่เปลี่ยนที่ตัวตน ด้วยการฝึกวันละ 1 นาที นึกถึงภาพที่สวยงาม ที่น่าจดจำของวันนั้นก่อนเข้านอน พรุ่งนี้จะเป็นยังไง แค่คืนนี้ฝันดีก็ได้กำไรแล้วไม่ใช่หรือ  ผมว่านี้คือ วิธีคิดบวกที่ทรงพลังที่สุดแล้ว ขอบคุณครับ อ.ปาริชาต

คุณทรงกลด บางยี่ขัน : สิ่งที่ไม่ควรลืม

Igniter ลำดับที่ 19 : คุณทรงกลด บางยี่ขัน @zcongklod หัวข้อ : สิ่งที่ไม่ควรลืม
เขาเป็น Igniter ที่ไม่ขึ้นมาพูด แต่เอาเรื่องราวมาให้อ่าน ตัวอักษรปรากฎขึ้นมาทีละบรรทัด ตามจังหวะการอ่าน

“สวัสดีครับทุกท่าน
ผม, ทรงกรด บางยี่ขัน

เรื่องที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปนี้ เป็นหนึ่งในเรื่องที่เปลี่ยนชีวิตผม
สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ผมเคยเล่าเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แต่ผมไม่ได้เล่าเรื่องนี้นานแล้ว นานจนเกือบลืมไปแล้ว
โชคดีที่ผมไม่ลืมมัน

ผมเชื่อว่า
โลกเราหมุนไปด้วยแรงของใครบางคน
ที่ลงมือทำอะไรบางอย่าง ซึ่งแตกต่างไปจากเดิม

โลกนี้จึงมีคนอยู่ 2 ประเภท
คนที่ออกแรงหมุนโลก
กับ คนที่อยู่ในโลกที่กำลังหมุน

ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ผมเคยถามตัวเองว่า เรียนจบแล้วอยากทำอะไร
คำตอบคือ ผมก็ไม่รู้
รู้แค่ ผมอยากเป็นหนึ่งแรงที่ร่วมหมุนโลกใบนี้
(อาจจะฟังดูน่าหมั่นไส้ แต่ความฝันของหนุ่มสาวมักใหญ่เกินคัวเสมอ)

ตอนนั้น ผมเป็นประะานชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัย
เราไม่เคยทำงานเคลื่อนไหว คัดค้าน หรือเปลี่ยนแปลงอะไร
เพราะเชื่อว่า เราเป็นแค่นิสิตนักศึกษาตัวเล็กๆ
จะไปเปลี่ยนอะไรโลกใหญ่ใยนี้ได้

เราก็เลยทำแต่กิจกรรมที่อธิบายได้ด้วยคำเฝือๆว่า ปลูกจิตสำนึก
พาคนไปอยู่กับธรรมชาติ ให้รู้จักธรรมชาติ
และพาคนไปรับฟังปัญหาที่เกิดกับธรรมชาติ เพื่อให้เข้ใจปัญหา
ยิ่งเห็นะรรมชาติที่สวยสมบูรณ์แค่ไหน เราก็เกลียดผู้สร้างปัญหาแค่นั้น

ในวันที่เราเป็นแค่คนตัวเล็กๆ เราอาจเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้
แต่ถ้าเราไม่ลืมมัน
วันหนึ่งเมื่อเราตัวใหญ่ขึ้น เราจะเปลี่ยนแปลงมันได้
ไม่ช้าก็เร็ว ไม่มากก็น้อย

ในค่าย ผมชอบเล่าเรื่องอดีตนักศึกษาคนหนึ่งซึ่งผมอ่านเจอในหนังสือพิมพ์
เขาเคยเป็นเด็กค่าย เหมือนพวกเรา
ชอบแบกเป้ลุยป่า ชอบเรียนรู้วัฒนธรรมชนเผ่า เหมือนพวกเรา
เขาเห็นคุณค่าของธรรมชาติ และเห็นว่าคนกำลังฆ่าธรรมชาติ เหมือนพวกเรา

วันนั้น เขาเป็นแค่นักศึกษาตัวเล็กๆ ที่เห็นปัญหา แต่ไม่เห็นทางแก้
เขาไม่รู้ว่า จะมีส่วนในการแก้ไขปัญหานี้ได้ยังไง
เพราะมองไปทางไหน ก็เห็นแต่เงื่อนไขของปัญหาที่ใหญ่เกินตัว
วันนั้น เขาไม่ได้ลงมือทำอะไร แต่เขาไม่เคยลืมมัน

อีกหลายสิบปีให้หลัง
เขากลายเป็นผู้บริหารอันดับ 2 ของบริษัทการเงินแห่งหนึ่ง
เขากลายเป็นนักการเงินผู้มั่งคั่ง มีชีวิตที่สุขสบาย
ห่างไกลจากสิ่งที่เขาเคยเป็นเมื่อสมัยเรียนมหาวิทยาลัย

เขาบอกว่า เขาไม่เคยลืมความรู้สึกในตอนนั้น
วันนั้น เขาอาจจะทำอะไรไม่ได้ แต่เขาไม่เคยลืมมัน

เวลาผ่านไปหลายสิบปี เขายังไม่ลืมมัน
ในวันที่ประเทศไทยยังไม่รู้จักกฎหมายสิ่งแวดล้อม
เขาอออกกฎแปลกๆที่ทุกคนในบริษัทสงสัย
โครงการอุตสาหกรรมที่ขอกู้เงินกับบริษัทของเขา ต้องมีระบบบำบัดน้ำเสีย

ในที่สุด อดีตนักศึกษาตัวเล็กๆคนหนึ่ง
ก็สร้างการเปลี่ยนแปงให้เกิดขึ้นกับสิ่งที่เขารักได้

ความฝันของหนุ่มสาวมักเป็นเรื่องใหญ่เกินตัว
จึงไม่แปลกที่เมื่อเราดตขึ้น รู้จักโลกในความเป็นจริงมากขึ้น
เราจะหลงลืมความฝันที่เปี่ยมไปด้วยพลังเหล่านั้น
เพราะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้

ผมเสียดายที่ลืมชื่อนักการเงินคนนี้
แต่ผมไม่เคยลืมเรื่องนี้

ผมไม่เคยลืมเรื่องนี้
ตั้งแต่วันที่ผมเป็นนิสิตนักศีกษาตัวเล็กๆ
จนถึงวันที่กลายเป็นคนทำสื่อสิ่งพิมพ์ที่พอจะมีผู้อ่านอยู่บ้าง

ทุกคนอาจสงสัยว่า เวลาจะหมดอยู่แล้ว ทำไมผมถึงยังไม่พูดอะไรเลย
สิ่งที่ผมจะบอกก็คือ ผมไม่ใช่นักพูด
ถ้าผมพอจะสร้างการเปลี่ยนแปลให้โลกนี้ได้บ้าง
มันก็เกิดขึ้นจากตัวหนังสือของผม ผ่านผู้อ่านของผม

คุณผู้อ่านของผมครับ
สิ่งเดียวที่ผมอยากจะบอกกับพวกคุณในค่ำคืนนี้ก็คือ

ถ้าคุณมีความฝันอยากเปลี่ยนแปลงผู้คนรอบข้าง
เปลี่ยนแปลงปรเทศไทย หรือเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้น
แต่วันนี้คุณยังทำไม่ได้

จงจำความรู้สึกนี้ไว้
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จงอย่าลืมมัน
แล้ววันหนึ่ง ไม่ช้าก็เร็ว
คุณจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้

ผมหวังว่าทุกคนจะไม่ลืมมัน
ขอบคุณครับ”

แล้วเขาก็ลงจากเวที โดยไม่พูดอะไรเลย ความเงียบเปลี่ยนเป็นเสียงตบมือยาวนาน

คุณขัตติยา สวัสดิผล : การเมืองในครอบครัว

Igniter ลำดับที่ 20 : คุณขัตติยา สวัสดิผลหัวข้อ : การเมืองในครอบครัว
ผมรู้สึกถึงน้ำเสียงสั่นเครือตลอดการพูดของเธอ “ทุกคนที่นั่งอยู่ในที่นี้ ต้องมีบางส่วนที่ไม่ชอบคุณพ่อของเดียร์ เนื่องจากคุณพ่อของเดียร์เป็นผู้ฝึกการ์ดให้กับ นปช. แต่อยากขอโอกาสนี้พูดถึงคุณพ่อในอีกแง่มุมหนึ่งที่คุณพ่อมีต่อเดียร์และครอบครัวว่า ผู้ชายที่ชื่อเสธ.แดง พลตรี ขัตติยะ สวัสดิผล ในอีกแง่มุมหนึ่งแล้วเขาเป็นคนที่อ่อนโยนมากขนาดไหน”  เมื่อ 2 ปีก่อนคุณเดียร์เป็นข่าวขัดแย้งกับครอบครัวเนื่องจากไปชุมนุมกับพันธมิตรในขณะที่พ่อเป็นคนฝึกการ์ดให้ นปช. เธอเปิดเผยว่าแม้ข้างนอกเธอกับพ่อจะมีความแตกต่างทางความคิดแค่ไหน แต่เมื่ออยู่ที่บ้านแล้วสองพ่อลูกไม่เคยพูดถึงเรื่องการเมืองเลย ในบ้านคือ “พ่อลูกกัน” “เนื่องจากว่าเดียร์เป็นลูกสาวคนเดียว และคุณแม่เสียชีวิตไปเมื่อวันนี้(16 มิ.ย. 53) แต่เป็น 6 ปีที่แล้ว เมื่อเกิดเหตุพ่อถูกยิง ผู้ที่ตัดสินใจความเป็นความตายคือคนในครอบครัวเท่านั้น ไม่มีใครจะช่วยได้เลย “เดียร์อยากให้เอาข้อคิดข้อนี้ ไปถึงครอบครัวที่มีความแตกแยกกันว่า สุดท้ายแล้ว ณ วินาทีสุดท้ายของเรา เราจะไม่เหลือใครเลยนอกจากคนในครอบครัวของเรา ที่คอยดูแลเราอยู่ข้างๆเตียงที่โรงพยาบาล ไม่ใช่แกนนำ นปช. ไม่ใช่แกนนำพันธมิตรที่จะมาตัดสินว่า คุณควรจะย้ายไปโรงพยาบาลวชิรหรือไม่” วันนี้เธอไม่เหลือใครแล้ว แต่เธออยากให้ทุกคนคิดว่า เรายังมีชีวิตของเราที่เราจะต้องดำเนินต่อไป ให้ทุกคนใช้สิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่สอนมา ที่ผ่านมาทั้งหมดในชีวิตของเราเพื่อดำเนินต่อไปในอนาคต เป็นตัวแทนของเขาที่จะก้าวต่อไปในแต่ละวัน  สุดท้ายเธอบอกว่า “ถ้าเกิดใครไม่ชอบเสธ.แดง ขอโอกาสนี้ขอโทษให้คุณพ่อจริง ๆ ถ้าเกิดว่าคุณพ่อพูดอะไร หรือว่าทำอะไรให้ใครไม่ถูกใจคนหลาย ๆ คน แต่เชื่อเถอะว่าคุณพ่อมีเหตุผลส่วนตัว”

เป็นงานที่ดีจริงๆ จุดประกายความคิดได้ดีเหลือเกิน เป็นแรงบันดาบใจที่มีคุณค่าแก่การเผยแพร่ ผมขอเป็นส่วนหนึ่งของการเผยแพร่ข้อมูล ให้สังคมไทยคิดบวกให้มากขึ้น คิดถึงคนอื่นให้มาก เพื่อให้เป็นบ้านที่น่าอยู่ของทุกคน ขอบคุณผู้จัดงาน ขอบคุณ Igniters ทุกท่าน ขอบคุณเพื่อนร่วมงานทุกท่าน

ติดตามอ่าน “บันทึกงาน IgniteTH ปลุกพลังบวก เปลี่ยนประเทศไทย ช่วงที่ 1”

บล็อกเกี่ยวกับ IgniteTH ของท่านอื่น
เรื่องดีๆ มันจุดประกายกันได้ – ครึ่งแรก และ เรื่อง ดีๆมันจุดประกายกันได้ – ครึ่งหลัง โดย @suckoja
Ignite Thailand ++ – วันนี้คุณคิดบวกกันหรือยัง ? โดย @kajeaw
Ignite Thailand++ รวมพลังคิดบวก เพื่อเปลี่ยนประเทศไทย โดย @patsonic

บันทึกงาน IgniteTH ปลุกพลังบวก เปลี่ยนประเทศไทย ช่วงที่ 1

IgniteTH ปลุกพลังบวก เปลี่ยนประเทศไทย

IgniteTH เป็นงานที่ใหญ่ ดูจริงจังและเปิดกว้างมากกว่า IgniteBKK ที่เคยไปมา งานได้รับความสนใจจากคนจำนวนมา @nuishow พิธีกรดำเนินรายการ บอกว่ามีคนลงทะเบียนไว้ถึง 700 กว่าคน แต่มาจริงเท่าไหร่นั้นต้องรอทางผู้จัดสรุปตัวเลขอีกครั้งหนึ่ง เนื้อหาค่อนข้างเยอะดังนั้นผมจะแบ่งเนื้อหาเป็นสองตอน ตามช่วงของ ignite ที่แบ่งเป็นสองช่วงเช่นกัน รับรองว่าสนุก และสร้างสรรค์มากๆ ผมเริ่มจะรักงาน ignite ขึ้นมาแล้วสิ เสน่ห์ของมันคือ เร็ว กระชับ ตรงประเด็น มีเรื่องราว หลากหลาย  ถ้าเราได้อ่านประวัติของ igniters แต่ละท่านก่อนจะดีมาก เขาไปดูได้ที่ https://www.ignite.in.th และขอเริ่มการบันทึกงาน igniteTH นะบัดนี้ครับ

IgniteTH จัดขึ้นในวันที่ 16 มิ.ย. 2553 เวลาตั้งแต่ 18.00 น. เป็นต้นไป  ณ ลุมพินีสถาน (Lumpini Hall) การไป IgniteTH ครั้งนี้ ไปพร้อมกับรุ่นพี่อีก 2 คน เลยไม่เหงา เป็นผลพวงจากการแนะนำงาน IgniteBKK ให้พี่ๆได้รู้จัก และความน่าสนใจของ Igniters แต่ละท่านในงานด้วยอีกส่วนหนึ่ง

@nuishow พิธีกรในงาน igniteTH

ขอพูดถึงคุณ @nuishow พิธีกรผู้ดำเนินรายการเสียก่อน ล้ำหน้าด้วยการใช้ iPad แทนกระดาษเป็นตัวช่วยในการดำเนินรายการ ดำเนินรายการได้สนุกและมีมุกแทรกให้ฮาเป็นระยะ และเป็นอีกจุดหนึ่งที่ดีกว่าครั้งก่อนคือมีการแนะนำ Igniters แต่ละท่านอย่าละเอียด ก่อน Igniters จะขึ้นพูด ทำให้ผู้ฟังได้ทำความรู้จักเบื้องต้นกับผู้พูดก่อนล่วงหน้าลดเวลาการแนะนำตัวของ Igniters และเข้าเรื่องที่จะพูดได้ทันที

ช่วง Ignite Show โดย @Pi_Pooh

ช่วง Ignite Show คุณ @Pi_Pooh ได้เอาระบบ Augmented reality ที่ได้เขาพัฒนา มาสาธิตให้ดู เป็นระบบที่เปรียบเสมือนการเชื่อมโลกจริงกับโลกเสมือนเข้าด้วยกัน เป็นการใช้กล้องเว็บแคมถ่ายแสดงผลซ้อนทับกันของวัตถุที่สร้างจากโปรแกรมกับภาพจริงจากกล้อง  นามบัตรเมื่อดูผ่านเว็บแคมจะแสดงแผนที่บริษัทในแบบ 3 มิติ, แผ่นกระดาษแสดงตัวโน๊ต ที่สามารถเปลี่ยนเสียงเครื่องดนตรีได้ตามต้องการ และยังสามารถใส่เพลงเพื่อฝึกการเล่นได้ เหมือนเกมกีต้าฮีโร่ เป็นผลงานที่ต่อยอดมาจากโปรเจคจบเมื่อครั้งเรียนในคณะวิศวะฯ จุฬาฯ

แนะนำเครือข่ายพลังบวก

แนะนำเครือข่ายพลังบวก เป็นการรวมตัวของกลุ่มหลายอาชีพ ส่วนใหญ่เป็น วงการโฆษณา social network  organizer ฯลฯ ที่จะมาช่วยกันคิดในเชิงสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาประเทศ  Ignite Thailand คือหนึ่งในการกิจกรรมของเขื่อข่าย นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์ผ่านสื่อต่างๆ และได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา ชุด “ต่อไปนี้ถ้าเธอพูด ฉันจะฟัง”

คลิป credit: @iwhale

ความยาวประมาณ 2 นาที เนื้อหาเป็นการตั้งคำถามให้คิด ประกอบกับภาพความสูญเสีย โดนใจมาก เสียงคุ้นๆเหมือนโฆษณาแม่ต้อย บ้านโฮมฮัก ร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้ที่  https://facebook.com/PositiveNetwork

จุ๋ย จุ๋ย

เริ่มเปิดงานด้วย การแสดงของ จุ๋ย จุ๋ยส์ นักร้องเพลงอินดี้(ชอบเพลงบทที่ 1 ของเขามาก) เขามีโอกาสได้ทำเพลงในอัลบั๊มประกอบการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ครั้งนี้ด้วย ฟังเพลินดีครับ ขยับขาตามนิดๆ เป็นอีกหนึ่งของคนกล้าคิดนอกกรอบ กล้าที่จะแตกต่าง

@iwhale

igniter ลำดับที่ 0 : คุณปรเมศวร์ มินศิริ @iwhale หัวข้อ : IgniteTH พลังบวก Slide : ignite-thailand-igniteth

เป็นเหมือนการสาธิตรูปแบบการจัดงาน Ignite ให้ทุกคนได้รู้จักมากขึ้น พูดถึงการคิดในแง่บวก ใช้ความคิดในทางบวกเป็นแรงผลักดัน ในการดำรงชีวิต การสร้างสมดุลระหว่างความต้องการกับความเป็นจริง เล่าเรื่องน้องเนสเด็กที่ต้องผ่าตัดเพื่อรักษาหู แต่ค่ารักษาพยาบาลแพงเป็นล้าน พ่อแม่มีเงินไม่พอ แต่คิดและตั้งใจจะช่วยลูกให้ได้ จึงเขียนและเล่าเรื่อง ส่งไปที่ต่างๆเพื่อขอรับเงินบริจาค สุดท้ายได้รับน้ำใจจากคนใจดีช่วยกันบริจาคจนสามารถผ่าตัดหูให้น้องเนส ทำให้ไม่หูหนวก มันเป็นเรื่องของความพยายามแม้จุดหมายจะมองไม่เห็น ทิ้งท้ายให้ทุกคนตั้งใจฟังในสิ่งที่ Igniters ทุกๆคนมาเล่า มาจุดประกาย ความคิดบวกให้เรา

ท่านเจ้าคุณพระศรี ญาณโสภณ (ปิยโสภณ)

igniter ลำดับที่ 1 : ท่านเจ้าคุณพระศรี ญาณโสภณ (ปิยโสภณ)  หัวข้อ : พลังบวกสร้างชาติ

-รัฐนาวาไทย มีเรือลำหนึ่งล่องอยู่กลางทะเล มีลูกเรือมากมายหลายคน วันหนึ่งเกิดเรือเป็นรู นำซึมเข้ามา ทุกคนในเรือเกี่ยงกันว่าใครจะเป็นคนอุดซ้อมเรือ ไม่มีใครยอมทำ สุดท้ายเรือล่มต้องจบชีวิตกันทั้งลำ

-ครอบครัวทหารเกณฑ์ เขาไปรับใช้ชาติที่ 3 จังหวัดชายแดน ต้องเสียชีวิต เพื่อรักษาโฉนดที่ดินของประเทศไทยให้เป็นแผ่นเดียว แม้ตัวเองไม่มีแม้แต่ที่ทำกินเป็นของตัวเอง ดังนั้นเราต้องคิดว่า “เราจะคืนกำไร ให้แผ่นดินได้อย่างไร มิใช่แต่จะทำกำไรจากแผ่นดิน”

– ช่วยกันเติมเต็มความรักให้กัน โดยต้องพยายามฝึกตนดังนี้ 1.ฝึกหัดรักคนอื่น 2.ฝึกหัดมองคนอื่นด้วยความสงสารและเห็นใจ 3.ฝึกหัดยกย่องและชื่นชม 4.ฝึกหัดไว้ใจ เข้าใจ เห็นใจ และวางใจ

@hunt

igniter ลำดับที่ 2 : คุณศิระ สัจจินานนท์ @hunt หัวข้อ : No color – Truth has no color

พูดถึงเว็บ nocolor.org ที่มีสโลแกนว่า  the truth has no color ในช่วงเหตุการณ์ไม่สงบในประเทศไทย มีข้อมูลปล่อยออกมาสู่โลกออนไลน์มากมาย ทั้งคลิปวีดีโอ ภาพนิ่ง เนื้อหาอื่นๆอีก แต่เราไม่รู้เลยว่า “ความจริง” คืออะไรกันแน่ สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคือ เราได้ดูได้เห็นคลิปวีดีโออันหนึ่งแล้วก็วิพากษ์วิจารณ์ ไม่คิดที่จะหาข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติม ด้วยแนวคิดนี้จึงเกิดการรวมกลุ่มกันของคนที่รู้จักกันใน social network มาช่วยกันค้นหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ด้วยการเปิดรับ และรวบรวมข้อมูล ตรวจสอบความถูกต้อง คัดกรองเนื้อหาที่ปลอมแปลง เรียบเรียง และสรุปข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทีมงานมีใครบ้าง @fringer @imenn @warong @hunt @tpagon @neomatic @ipattt @iannnn @iampedd อ.สมชัย จิตสุชน, นภาพร  พิพัฒน์ ทิ้งท้ายดด้วยประโยคเด็ด “ถ้าหากคุณเชื่อว่าความปรองดองจะเริ่มต้นไม่ได้หากปรศจากความยุติธรรม และ ความยุติธรรมนั้นไม่อาจเกิดได้ถ้าปราศจาก “ความยุติธรรมของเรา” ที่ประกอบสร้างจาก “ความจริง” ของทุกฝ่ายทุกสี ขอเชิญมาร่วมค้นหาความจริงด้วยกันบน nocolor.org”-โดย @fringer

@rawitat

igniter ลำดับที่ 3 : คุณรวิทัต ภู่หลำท์ @rawitat  หัวข้อ : Positive Thinking in the Petsitive World : คิดบวก ในโลกที่โคตรติดลบ

ศัพท์ใหม่ Petsitive คือ คือลบกว่าติดลบ อยู่ในดลกที่เต็มไปด้วย petdo ต่อไปถ้าได้ยินคำว่า ไอ้ชั่ว ไอ้เชี่ย ไอ้เหี้ย ให้คิดว่าได้ยินคำว่า i sure, i cheer , i hear การคิดบวกเราต้องคิดเสมอว่า การทำให้สิ่งเล็กมีค่าเสมอ เมื่อเกิดปัญหาต้องร่วมช่วยกันแก้ ถ้าทุกคนทำเพื่อส่วนรวมแล้ว ทุกคนจะได้อะไรมากว่าทำเพื่อตนเอง ฝากเว็บ iampetdo.com ให้ติดตามพฤติกรรมของ petdo อ่านรายละเอียดเพิ่มที่ https://www.rawitat.com

คุณนที สรวารี

igniter ลำดับที่ 4 : คุณนที สรวารี   หัวข้อ : Just See Him ….. To FRIENDS

FRIENDS ประกอบด้วยคำย่อย ต่างๆดังนี้ F=Friendly เป็นมิตร ,R=Relax & Record ผ่อนคลายและจดจำ อย่างสนุกสนาน , Independent พึ่งตนเอง ความเป็นอิสระ, E-Education การเรียนรู้, N=Nature ธรรมชาติ, D=Dream ความฝัน , S=Spirit จิตวิญญาณ คำว่า FRIENDS เป็นการบอกเล่าเรื่องประสบการณ์ทำงานเพื่อคนในสนามหลวงของคุณนที การให้ความช่วยเหลือ การเอาใจใส่พวกเขาเหล่านั้น ผลที่ได้ตอบแทนมาคือ แทนที่เขาจะเป็นปัญหาสังคมเขาสามารถช่วยเหลือตนเองได้ สังคมก็จะที่ดีขึ้น

ผศ.ดร.สุชนา ชวนิชย์ : แอนตาร์กติก

igniter ลำดับที่ 5 ผศ.ดร.สุชนา ชวนิชย์  หัวข้อ : แอนตาร์กติก

แอนตาร์กติก เป็นทวีปที่ปกคลุมไปด้วยนำแข็ง ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่อย่างถาวร  ที่น่าสนใจคือแอนตาร์กติกคือที่รองรับขยะของโลก นั้นคือ CO2 การเกิดภาวะโลกร้อน ถ้าหากน้ำแข็งที่นั้นละลายหมดน้ำทะเลจะสูงขึ้นอีก 60 เมตร (เราจะไปอยู่ไหน) เราจะช่วยโลกใบนี้ได้อย่างไร ทุกคนต้องร่วมมือกัน สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้ง่ายๆ เพียงการลดใช้ถุงยางพลาสติก ลดการใชเโฟม เลือกที่จะไม่รับขยะเหล่านี้ เริ่มที่ตัวเราและค่อยๆขยายไปท่คนข้างเคียง มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ช่วยโลกก็เหมือนช่วยตัวเราเอง

คุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ : 3 เทคนิคนำความสุขมากระแทกตัว - เทคนิคส่วนตัวที่ใช้แล้วได้ผล..!

igniter ลำดับที่ 6 : คุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ @pawoot หัวข้อ : 3 เทคนิคนำความสุขมากระแทกตัว – เทคนิคส่วนตัวที่ใช้แล้วได้ผล..!

มากับอารมณ์สนุกสนาน

เทคนิคข้อที่ 1 อยู่กับปัจจุบัน อะไรที่ทำให้ไม่มีความสุข มันคือปัญหามากมายที่อยู่ในชีวิต สามารถแบ่งปัญหาต่างๆออกเป็น 2 กลุ่ม คือปัญหาในอดีต กับปัญหาในอนาคต  ส่วนตัวเราอยู่กับปัจจุบัน ณ ขณะ แล้วปัญหาต่างๆจะเล็กลง

เทคนิคข้อที่ 2 คิดบวก อย่าคิดมาก ยกตัวอย่าง คนอื่นคุยกันเรื่องอะไรไม่รู้ แต่กลับเป็นทุกข์เพราะคิดลบ คิดว่าเขานินทาตัวเองอยู่ ต้องตัดปัญหานี้ให้ได้ คิดในแง่บวกไว้

เทคนิคข้อที่ 3 คือพูดดี คำพูดสร้างพลัง ต้องพูดว่า “ผมทำได้” แล้วเราจะรู้สึกถึงพลังของความเป็นไปได้ หันไปพูดกับคนข้างๆว่าเราจะทำมันได้ แล้วมันจะเป็นไปได้

คุณชินวิทย์ โสดี : วัยรุ่นสายพันธุ์ใหม่ ใส่ใจจิตอาสา

igniter ลำดับที่ 7 : คุณชินวิทย์ โสดี หัวข้อ: วัยรุ่นสายพันธุ์ใหม่ ใส่ใจจิตอาสา

น้อง Igniter ที่มีอายุน้อยที่สุดของงาน  เป็นตัวอย่างที่ดีของเด็กวัยรุ่นที่มีการรวมกลุ่มกันในชมรมจิตอาสากุนนที มีกิจกรรมสร้างความสุขให้น้องๆที่อยู่ในโรงพยาบาลเด็ก ผ่านทางเสียงดนตรี การเล่านิทาน การเล่นเกม น้องๆหลายคนสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่ดีได้ด้วยกิจกรรมต่างๆที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น การจะทำความดีนั้นเริ่มต้นที่จิตใจ ไม่ใช่หน้าตา น้องชินวิทย์เชิญชวนให้วัยรุ่นให้ลุกขึ้นมาทำกิจกรรมเพื่อสังคม สร้างรอยยิ้มให้กันและกัน ผ่านทางกิจกรรมต่างที่ตัวเองชอบ กีฬา ศิลปะ ดนตรี และอื่นๆอีกมากมาย สิ่งที่น้องๆทำนั้นคือการ “ตามรอยเท้าพ่อ” ช่วยแบ่งปันภาระของพ่อ

คุณณัฐศักดิ์ ท้าวอุดม (ครูยุ) : ทำไมต้องสอนว่ายน้ำให้เด็กหูหนวก

igniter ลำดับที่ 8 :คุณณัฐศักดิ์ ท้าวอุดม (ครูยุ)  หัวข้อ: ทำไมต้องสอนว่ายน้ำให้เด็กหูหนวก

ครูยุ เป็นครูสอนว่ายน้ำให้เด็กหูหนวก ที่น่าชื่นชมมาก หลายคนถามเขาว่า ทำไมต้องสอนเด็กหูหนวกว่ายน้ำ คำตอบก็คือ เด็กธรรมดาเมื่อจมน้ำ ร้องให้คนช่วยได้ แต่ถ้าเป็นเด็กหูหนวจะเป็นใบ้ด้วยดังนั้นเขาจะร้องขอความช่วยเหลือไม่ได้ เริ่มต้นเขาพยายามที่จะเรียนภาษามือ หาโรงเรียนสอนก็ไม่มี ซื้อหนังสือภาษามือมาอ่านก็ช่วยไม่ได้ สุดท้ายได้น้องๆหูหนวกจากภาคเหนือช่วยสอนให้แลกกับการช่วยน้องๆขายของ ต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะสื่อสารได้ และแล้วเขาก็เปิดสอนน้องๆหูหนวกได้ด้วยห้องเรียนแรก 40 คน สิ่งที่เขาได้กลับมาคือ คำพูดเล็กของน้องๆหูหนวกผ่านทางภาษามือ “หนูเคยจมน้ำ ตอนนี้ฝึกว่ายน้ำ ไม่กลัวแล้ว ” ครูยุ พูดพร้อมทำภาษามือประกอบ ถึงได้รู้ว่าทำไมการนำเสนอของเขาถึงต้องมีขาตั้งไมค์บนเวทีต่างจาก igniter ท่านอื่น เงินทองจะไม่อยู่กับเรา สิ่งที่จะอยู่กับเราคือ “ความดี”  ครูยุพูดเสร็จลงจากเวที แต่เสียงตบมือดังยาวนาน

คุณปรัชญา สิงห์โต : อ๊อด อ๊อด

igniter ลำดับที่ 9 : คุณปรัชญา สิงห์โต @iannnnn  หัวข้อ: อ๊อด อ๊อด

เขาขึ้นสไลด์อันแรกด้วย สัญลักษณ์จัดเรตตี้ของทีวี  “สไลด์ที่ท่านจะได้ชมต่อไปนี้ ไม่สร้างสรรค์ ไม่ช่วยพัฒนาสังคม หรือสร้างแรงบันดาลใจใดๆทั้งสิ้น” แค่นี้ก็ฮาแล้ว เรื่องที่พูดคือ คาเร็คเตอร์ของบุคคลประเภทหนึ่งที่ให้ชื่อว่า อ๊อต อ๊อด เปรียบเหมือน ซึเนะโอะ ในการ์ตูนโดเรมอน เขามีนิสัยชอบทำลายบรรยากาศดีๆที่กำลังดำเนินอยู่ ชอบโอ้อวดทุกอย่างที่เขามี ถึงเขาไม่มีก็อวดได้ “พี่ที่ทำงานมี” ในหัวของเขามีแต่เรื่อง “useless facts” คือเรื่องจริงที่ไร้ประโยชน์  การออกเสียงหนังเรื่อง Iron man,เทคโนโลยีของ iPhone 4 ที่สุดเทพ แต่อย่างใดก็ตาม อ๊อตอ๊อต คือ พวกที่โหยหา ความรักความเมตตา

คุณพิทยากร ลีลาภัทร์ : เครื่องบินหลากสี

igniter ลำดับที่ 10 : คุณพิทยากร ลีลาภัทร์  หัวข้อ : เครื่องบินหลากสี

ผมชอบการเล่าเรื่องของ igniter ท่านี้มาก พูดเป็นระบบ และเชื่อมโยงเรื่องได้ดีมาก สิ่งที่เขาเล่าคือ เริ่มต้นการบิน (Take off) เครื่องบินมีหลากหลายสี แล้วแต่คนผลิตจะแต่งแต้ม เครื่องบินหลากสีสอนอะไรเราได้หลายอย่าง เครื่องบินถูกสร้างขึ้นมาโดยมนุษย์ มีวัตถุประสงค์และการใช้งานแตกต่างกัน ทฤษฎีของ Abraham_Maslow ว่าด้วยความต้องการของมนุษย์

1. ความต้องการทางด้านร่างกาย ( Physiological needs )

2. ความต้องการความปลอดภัย ( Safety needs )

3. ความต้องการความรักและความเป็นเจ้าของ ( Belongingness and love needs )

4. ความต้องการได้รับความนับถือยกย่อง ( Esteem needs )

5. ความต้องการที่จะเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง ( Self-actualization needs)

จะเห็นว่าจุดสูงสุดของการใช้ชีวิตคือ เข้าใจตนเอง ซึ่งเป็นทฤษฎีที่ตรงกับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เรียกว่า วิปัสสนา หมายถึง การรู้กายใจ ตามความจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่น เป็นกลาง , แยกแยะ แบ่งออก จำแนก แจกแจง, เห็นความจริงว่าตัวตนไม่มี มีแต่ความคิดว่านี่คือตัวตน , พ้นทุกข์ด้วยปัญญา เมื่อพิจารณาดังนั้น ถ้าหากเรามองและพิจาณาอย่างท่องแท้แล้ว จะรู้ว่าเครื่องบินนั้นมันไม่ใช่เครื่องบิน แต่ประกอบอุปกรณ์ต่างๆมารวมกัน เช่นเครื่องยนต์ เข็มไมค์ ล้อ ที่นั่ง เมื่อมองย้อนมาที่ตัวเรา เรายึดมั่นว่าสิ่งต่างๆเป็นของตัวเรา กาย ทุกข์ สุข ความคิด อารมณ์ ถ้าเราเข้าใจว่ามันไม่ใช่ของเรามันเป็นเพียงองค์ประกอบหลายๆอย่างมารวมกัน เมื่อนั้นเราจะเป็นต้นไม้ที่อยู่ในป่าไหนก็ได้ สีต่างกันก็อยู่ด้วยกันได้ และแล้วเครื่องบินก็ลงจอด(Landing)

คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม : สิ่งที่เห็นไม่ใช่สิ่งที่เป็น

Igniter ลำดับที่ 11 : คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม  หัวข้อ: สิ่งที่เห็นไม่ใช่สิ่งที่เป็น

ว่าด้วยการมองสิ่งต่างๆให้หลากหลายมิติ ปกติแล้วคนทั่วไปมองเห็นบางสิ่ง ด้านเดียว คนเก่งเข้เขาจะมองเห็น 2 ด้าน แต่คนที่เก่งกว่าจะเห็น 3 มิติ สิ่งต่างๆรอบตัวเรานั้นมีอย่างน้อย 2 องค์ประกอบ สรรพสิ่ง ค่อยๆเปลี่ยนแปลง สะสมจากปริมาณไปสู่คุณภาพ การเปลี่ยนแปลง มาจากปัจจัยภายใน ต้องสัมพันธ์กับปัจจัยภายนอก ประโยคต่างๆเหล่านี้อธิบายด้วย “น้ำ”  เมื่อเราเห็นน้ำในแก้ว เรามองมันเป็นแค่น้ำมันก็จะเป็นแค่นั้น เราต้องมองให้ลึกว่านั้น น้ำเปลี่ยนเป็นไอน้ำ เปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง นั้นคือทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเสมอ น้ำมีอยู่ 2 องค์ประกอบ ไฮโดเจน(H) ออกซิเจน(O) แล้วแต่ละส่วนนั้นยังมีความน่าสนใจอีก ไฮโดเจนสามารถติดไปเป็นเชื้อเพลิงได้ ออกซิเจนเป็นตัวช่วยให้ไฟติด แต่เมื่อ ไฮโดเจนสองส่วนรวมตัวกับออกซิเจนกลายเป็นน้ำที่สามารถดับไฟได้ การใช้ความคิดเมื่อเห็นอะไรบางอย่างต้องตั้งคำถามว่า อดีตคืออะไร ปัจจุบันมาจากไหน อนาคตจะเป็นอย่างไร และหาคำตอบ เช่น เมื่อเห็นท่อนไม้มองหาว่าต้นต่อมันมาจากไหน(ป่า) แล้วมันจะกำลังจะไปเป็นอะไร บ้าน โต๊ะ หรือเก้าอี้ ฯลฯ กระบวนการคิดแบบนี้จะนำไปสู่ความสำเร็จ มีการทดสอบการแบ่งวงกลมวงหนึ่งให้ได้มากที่สุด แต่วิธีการแบ่งวงกลมของเขาคือพื้นหลังนั้นมันประกอบไปด้วยวงกลมที่ซ้อนทับกันมีจำนวนไม่จำกัด เป็นแนวคิดที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

ช่วงแรกจบลงแล้ว โปรดติดตามช่วงที่ 2  พักทาน น้ำใบบัวบวก กับไอติมรวมมิตร

ติดตาม บันทึกงาน IgniteTH ปลุกพลังบวก เปลี่ยนประเทศไทย ช่วงที่ 2

Ignite Thailand ปลุกพลังบวก เปลี่ยนประเทศไทย

Ignite Thailand

IgniteBKK เปิดโลกทัศน์ผมได้อย่างมาก ด้วย Igniter ที่เก่ง และหลากหลาย  เป็นงานที่มีเสน่ห์มาก การกลั่นกรองความคิดที่อยู่ในตัวออกมาให้ผู้ฟังให้เข้าใจได้ภายในเวลา 5 นาที กับสไลด์ 20 หน้าได้ คนที่จะเป็น Igniter ที่ดีได้นั้น ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ สัปดาห์ของ Ignite กลับมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช้เฉพาะในกรุงเทพฯ แต่กระจายตัวทั่วทุกภาคของประเทศ กลาง(กรุงเทพฯ) เหนือ(เชียงใหม่) ใต้(หาดใหญ่) อีสาน(ขอนแก่น) จึงขอเชิญชวนทุกท่านที่สนใจเข้าร่วมงาน ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ลงทะเบียนสมัครได้ในเว็บอ้างอิงด้านล่าง

Ignite Thailand++ เป็นงานเพื่อจุดประกายความคิด จะจัดขึ้นในวันพุธที่ 16 มิถุนายน 2553 ต่อจากงานแถลงข่าวเปิดตัวเครือข่ายพลังบวก ที่ สมาคมนิสิตเก่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ ลุมพินีสถาน (Lumpini Hall) ผู้ฟังสามารถลงทะเบียนเพื่อสำรองที่นั่งได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

กำหนดการ

16.00 แถลงข่าวเปิดตัวเครือข่ายพลังบวก นำเสนอโรดแมพการทำงาน (for Press and Social Media)
18.00 Ignite Show ช่วงโชว์ผลงาน ที่ทุกท่านสามารถสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมานำเสนอกันได้ไม่ว่าจะเป็นงานศิลป์ งานประดิษฐ์ เพื่อจุดประกายความคิดเชิงบวก
ดำเนินรายการโดย พิธีกรอารมณ์ดี หนุ่ย พงษ์สุข หิรัญพฤกษ์ @nuishow และทีมงาน Show NoLimt
19.00 Ignite Talk ช่วงจุดประกายความคิด โดย Igniters ประมาณ 20 ท่าน บรรยายท่านละ 5 นาที ประกอบสไลด์ 20 แผ่น

รายชื่อ Igniters

  • พระศรญาณีโสภณ (ท่านปิยโสภณ วัดพระรามเก้า กาญจนาภิเษก)
  • คุณเดียร์ – ขัตติยา สวัสดิผล
  • ดร. วรภัทร์ ภู่เจริญ
  • คุณประภาส ชลศรานนท์
  • รศ.ดร. ปาริชาต สถาปิตานนท์
  • คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย
  • คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (หนูแก้ว)
  • คุณสราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ (นิ้วกลม)
  • คุณนที สรวารีี
  • คุณโรส – วริศรา (ลี้ธีระกุล) มหากายี
  • คุณพิทยากร ลีลาภัทร์
  • คุณทรงกลด บางยี่ขัน
  • คุณปรัชญา สิงห์โต
  • คุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ
  • คุณรวิทัต ภู่หลำ

ห้ามพลาดงานดีๆแบบนี้ครับ

ที่มา : https://www.ignite.in.th

สรุปงาน THINKcamp 3 เว็บสยาม บุกโลก

THINK camp คือ งานสัมมนาในลักษณะ BarCamp + Pecha Kucha night โดยเนื้อหาการพูดคุยจะเกี่ยวกับเว็บไทย นำเสนอหัวข้อละ 10 นาที 10 สไลด์ สไลด์จะถูกพลิกหน้าโดยอัตโนมัติทุก 1 นาที (คนเตรียมตัวพรีเซนต์ เหนื่อยสุดๆ) ตัวอย่างงานที่ใกล้เคียงกัน คือ  Ignite BKK

ผมมีโอกาสได้ร่วมงาน  ThinkCamp 2  เป็นงานที่ดีมาก มาครั้งนี้ ในชื่อธีมงาน “THINKcamp เว็บสยาม บุกโลก” จัดในวันที่ 6 มิ.ย. 2553 ณ มหาวิทยาลัยคริสเตียน ศูนย์ศึกษาสยามคอมเพล็กซ์ งานเริ่มตั้งแต่ตอนเช้าแล้วแต่ผมไปช่วงบ่าย ส่งหัวข้อพรีเซนต์ด้วย ให้ผู้ร่วมงานโหวตจัดอันดับ 15 หัวข้อ เว็บผมตกรอบเพราะมาช้าเขาโหวตไปนานแล้ว แต่อย่างไรก็ตามทีมงานเห็นว่าหัวข้อมีเพียง 18 หัวข้อเลยให้พรีเซนต์ทุกคน แต่น่าเสียดายคนสุดท้ายกลับไปก่อน ผมเลยได้นำเสนอเป็นคนสุดท้าย (เหงื่อตกเลย)

ขออนุญาติเอาหัวข้อของตัวเองขึ้นก่อนนะครับแล้วต่อไปจะเรียงลำดับตามคนพรีเซนต์

Biomed.in.th

Slide

หัวข้อ : Biomed.in.th เปิดโลกเทคโนโลยี วิศวกรรมชีวการแพทย์ นำเสนอโดย : พงษ์ศักดิ์ สาระภักดี @sarapuk
วิศวกรรมชีวการแพทย์ หรือ วิศวกรรมชีวการแพทย์ หรือ Biomedical Engineering เป็นสาขาที่นำความรู้ทางด้านการแพทย์ และวิศวกรรมศาสตร์ มาประยุกต์ใช้ร่วมกัน เพื่อออกแบบอุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องมือตรวจวัดค่าต่างๆในร่างกาย การนำข้อมูลทางด้านการแพทย์ไปวิเคราะห์ด้วยคอมพิวเตอร์ขั้นสูง การออกแบบและผลิตเครื่องมือวิเคราะห์คลื่นสมอง การสร้างภาพอวัยวะสามมิติจากฟิล์มเอ็กสเรย์ การสร้างเนื้อเทียมจากสารสังเคราะห์ การสร้างตัวส่งยาภายในร่างกาย การออกแบบและสร้างเครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ การออกแบบและสร้างเข่าข้อ เทียม เป็นต้น

Biomed.in.th อ่านว่า ไบโอเมด อิน ไทย จัดทำขึ้นโดยมีความตั้งใจจะให้เป็นแหล่งความรู้และให้ข่าวสารเกี่ยวกับ วิศวกรรมชีวเวช  ให้กับคนทั่วไป และความหวังสูงสุดคือเป็นที่พบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างผู้สนใจทั่วไปกับนักวิศวกรรมชีวเวช หรือระหว่างนักวิศวกรรมชีวเวชด้วยกันเอง

เริ่มสรุปงาน

Let’s the world know S!Mobile thru Android

หัวข้อ : Let’s the world know S!Mobile thru Android นำเสนอโดย : Jirawat Karanwittayakarn @jirawatee
มาแนะนำเว็บ sanook.com เวอร์ชั่น Mobile และได้มาเล่าประสบการณ์การทำ app สำหรับ Android OS โดยได้รับการช่วยเหลือเพื่อนในไอที สุดท้ายสามารถทำ sanook.com app สำเร็จส่งขึ้น Market ให้คนได้โหลดฟรี การนำเสนอของ @jirawatee ทำให้ผมอยากลองทำ app ของ Android ดูสักตัวขึ้นมาทันที อย่างน้อยก็สำหรับการดึงของมูลเว็บไปแสดง

1-2-3 ขั้นตอนเริ่มต้นขายโฆษณาเว็บไซต์อย่างมืออาชีพ

หัวข้อ : 1-2-3 ขั้นตอนเริ่มต้นขายโฆษณาเว็บไซต์อย่างมืออาชีพ  นำเสนอโดย: เจริญ ลักษณ์เลิศกุล @jarern
พูดถึงขั้นตอนการขายโฆษณาบนเว็บไซต์ ในรูปแบบต่างๆที่เว็บใหญ่ๆ มีจำนวนคนเข้าจำนวนมากให้ฟัง และมาบอกเล่าว่าถ้าเราทำเว็บเล็กๆจะขายโฆษณาอย่างไร เป็นการนำเสนอที่เปิดโลกเรื่องธุรกิจการโฆษณาบนเว็บไซต์ที่ไม่เคยรู้มาก่อนได้อย่างดีเยี่ยม สรุปง่ายๆสิ่งที่ต้องทำคือ เว็บควรมีความชัดเจน รู้ว่าใครบ้างที่เข้ามาดูเว็บไซต์ควรทำแบบสำรวจไว้จำนวนคนมากพอที่จะขายโฆษณาแล้วหรือยัง(แนะนำ 5,000 UIP ต่อวัน) มีตำแหน่งที่วางโฆษณาที่ได้มาตรฐาน โฆษณามาจากสองที่คือเจ้าของสินค้ากับ agency เขียนอีเมลแนะนำเว็บไซต์ไปที่ agency เมื่อมีโฆษณาแล้วควรคุยเรื่องการจ่ายเงินได้เข้าใจ เดี๋ยวจะกลายเป็นขึ้นให้ฟรี มีประโยชน์มากๆครับสำหรับคนทำเว็บไซต์หน้าใหม่

SMO (Social media optimization)

หัวข้อ : SMO (Social media optimization) นำเสนอโดย : อภิรักษ์ สิมารักษ์ @gootum
“SMO (Social media optimization) คือ การปรับเว็บไซต์ของเราให้มีการเชื่อมโยงกับ social network และเป็นเครื่องมือตัวหนึ่งในการช่วยปรับแต่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เว็บไซต์ของเรา ให้ถูกค้นหาเจอใน Search engine (SEO)”  ยกตัวอย่างเช่น การทำลิงค์ bookmark ไว้ที่เว็บไซต์ให้คนที่เข้ามาสามารถแชร์เนื้อหาได้ง่าย เอา API ของเว็บ Social network ที่ดังๆ facebook twitter มาใช้งาน ให้คนสามารถล็ออินเข้าระบบได้โดยง่าย เป็นบริการที่ฟรีไม่เสียเงิน เพิ่มจำนวนการเข้าเว็บไซต์และการค้นหาได้ดียิ่งขึ้น

ไอเดียทำเว็บจากเด็กในค่าย Junior Webmaster Camp 2

หัวข้อ : ไอเดียทำเว็บจากเด็กในค่าย Junior Webmaster Camp 2  นำเสนอโดย : Tawutchai kanghae @kajeaw
รวมไอเดียทำเว็บได้ 9 เว็บ ดังนี้  Ghost,Cartoon, Fashion,Love,Relax,Movie,Community,Brand,Technology ส่วนใหญ่เป็นไอเดียเว็บที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวัน

Panoramap

หัวข้อ : Panoramap.in.th นำเสนอโดย : ยุทธนา กังวล และเพื่อน
Panoramap.in.th เป็นเว็บไซต์ที่มีลักษณะเป็น Location based social network คือการถ่ายรูปจากมือถือแล้วส่งรูปภาพที่ถ่ายในสถานที่ต่างๆ ขึ้นไปแสดงพิกัดบน Google Maps และแสดงภาพนั้นบนเว็บไซต์แบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ

โหวตผมหน่อย ผมอยากพูดครับ (บรรยายคู่กับ ชยุตม์ สกุลคู)

หัวข้อ : โหวตผมหน่อย ผมอยากพูดครับ นำเสนอโดย :ศีล พิริยะนนท์ธนา, ชยุตม์ สกุลคู กลุ่ม @powerontv
กลุ่มน้องมัธยมจารายการ @powerontv มาพูดถึงเรื่องเด็กกับสื่อ ข่าวลือต่างๆ ต้องใช้ความคิดวิเคราะห์ข่าวก่อนเชื่อ และโยงไปที่ข่าวลือต่างๆ สุดท้ายแล้ว เขามาแนะนำเว็บ www.rumor.in.th นั้นเอง

Young Webmaster Camp ค่ายในฝัน ของเด็กทำเว็บ

หัวข้อ : Young Webmaster Camp ค่ายในฝัน ของเด็กทำเว็บ นำเสนอโดย : ไพศาล ธรรมวิทวัส และคณะฯ
แนะนำค่ายของคนที่สนใจด้านการพัฒนาเว็บไซต์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญในวงการทำเว็บดังมาอบรมให้ตลอดระยะเวลา 3 วัน เพื่อเรียนรู้เทคนิค การออกแบบ การพัฒนา และการประชาสัมพันธ์ จากผู้มีประสบการณ์โดยตรง รวมทั้งเรียนรู้เรื่องคุณธรรม จริยธรรม ของเว็บมาสเตอร์ และมีกิจกรรมสานสัมพันธ์กันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง เปิดรับสมัครทั่วประเทศเพียง 80 คนเท่านั้น รายละเอียด www.ywc.in.th

We are Social

หัวข้อ : We are Social นำเสนอโดย : บัญญพนต์ พูลสวัสดิ์ @daydev
Social media ตอนนี้เชื่อว่าทุกคนกับกำลังเสพติดมันอยู่ การใช้ชีวิตการบล็อก การถ่ายรูป การท่องเที่ยว มีการแชร์ข้อมูลให้กันและกัน หลักตอนนี้คนไทยเล่น facebook twitter และตัวที่กำลังเข้ามาคือ ระบบ AR เชื่อมระหว่างโลกจริงกับโลกเสมือนเข้าด้วยกัน Social media ช่วยในการโปรโมทประชาสัมพันธ์ ความมีตัวตนของเรา และความน่าเชื่อถือ และถ้าคุณรู้สึกอย่างไรก็แชร์ความรู้สึกนั้น แล้วจะมีคนที่เห็นด้วยเข้ามาร่วมสนับอย่าง facebook page ความเป็น social network สามารถช่วยเหลือเราได้ในยามคับขัน เพียงทวีตขอความช่วยเหลือออกไป และ @daydev ได้แนะนำเว็บ www.daydev.com ในเว็บมีการแจกโค้ดที่จะช่วยพัฒนา service ต่างๆให้ด้วย

นิตยสารเด็กไทย จะบุกโลกแล้วนะเธอว์

หัวข้อ : นิตยสารเด็กไทย จะบุกโลกแล้วนะเธอว์  นำเสนอโดย : ณัฐ เจนกิติวรพงศ์ และ สิระ สิมมี
เว็บ www.zincreativec.com เป็นเว็บที่จะทำนิตยสารออนไลน์ โดยเนื้อหาในแต่ละเล่มจะยก keyword มาคำๆหนึ่ง และคิดว่าคำนั้นสื่อความหมายได้อย่างไรได้บ้าง

QQ Total Effect, ลดเลือนริ้วรอยเว็บมาสเตอร์ไทยใน 7 ประการ

หัวข้อ : QQ Total Effect, ลดเลือนริ้วรอยเว็บมาสเตอร์ไทยใน 7 ประการ นำเสนอโดย : ธีรเดช ธนภพ @krucode
แนะนำโปรแกรม IM ที่ชื่อ QQ  ผ่านทางการใช้งานของเว็บมาสเตอร์ บอกข้อดีของโปรแกรมตัวนี้ มีดังนี้ สามารถจับภาพหน้าจอส่งให้คนที่คุยกันได้,จัดกลุ่มของคนที่คุยด้วยได้, เก็บข้อมูลการคุย และค้นหาการคุยกันย้อนหลังได้, สามารถรีโมท desktop เครื่องของคนที่คุยกันได้, ส่งข้อความเข้ามือถือได้(มีค่าบริการ), ไฟล์ข้อมูลใหญ่ เมื่อเน็ตหลุดสามารถส่งไฟล์ในส่วนที่เหลือต่อได้ และสุดท้ายส่ง profile ขึ้นเว็บ ให้คนที่สนใจ add เข้ามาคุยกัน หรือค้นหาเพื่อนที่สนใจได้บนเว็บ https://qq.sanook.com

แง่คิด 3 ประการ สานฝันไทยไปบุกโลก(กันเถอะ)

หัวข้อ : แง่คิด 3 ประการ สานฝันไทยไปบุกโลก(กันเถอะ) นำเสนอโดย : ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา @waiwaiworld
เริ่มต้นเป็นการแนะนำเว็บไซต์ Priceza.com เป็นเว็บที่ใช้ในการค้นหาราคาของสินค้าที่เราสนใจ ตามแหล่งร้านค้าดังๆ แสดงข้อมูลทั้งร้านที่อยู่บนเว็บ และร้านค้าจริงที่มีที่ตั้ง ต่อจากนั้นได้นำเสนอแง่คิดในการพัฒนาเว็บไซต์
1.ธุรกิจที่ “สร้างความหมาย และคุณค่า” ทำบริการที่มีประโยชน์กับคนใช้
2.ไม่ต้องรอให้เป็น full features เมื่อสามารถทำงานได้ระดับหนึ่งแล้วนำขึ้นทดสอบ
3.รับฟังความต้องการของผู้ใช้ ลูกค้ามาปรับปรุงตลอดเวลา

คนธรรมดา สู่วงการเวบข่าวไอที

หัวข้อ : คนธรรมดา สู่วงการเวบข่าวไอที นำเสนอโดย : ปรัชญา วงศ์วรกุล @aum2u
เล่าประสบการณ์ชีวิตตั้งแต่วัยเด็ก มีความชอบเรื่องไอทีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเริ่มเขียนข่าวต่างๆทางด้านไอทีที่บล็อกของโอเคเนชั่น จากนั้นได้เริ่มหันมาทำ อินเตอร์เน็ตทีวี จนเป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากสื่อหลัก การทำข่าว สามารถนำคำติเตือนของผู้ชมมาปรับปรุง พัฒนาบุคคลิภาพของตนเองได้ ตอนนี้พัฒนาการรายงานข่าวที่สามารถ streaming ผ่านมือถือ  ได้ข้อคิดว่า ให้ทำในสิ่งที่ตนเองรัก และสม่ำเสมอ แล้วผลจะตามมา สนใจเข้าดูเว็บไซต์ www.itcoolgang.com

เพิ่มความแรงเว็บกับ DMOZ สารบัญเว็บทั่วโลก

หัวข้อ : เพิ่มความแรงเว็บกับ DMOZ สารบัญเว็บทั่วโลก นำเสนอโดย : ธนพจน์ เศวตประวิชกุล
DMOZ หรือ The Open Directory Project คือกลุ่มอาสาสมัครที่ช่วยกันรวบรวมเว็บไซต์ต่างๆทั่วโลก เข้ามาเก็บไว้ร่วมกัน แบ่งเป็นหมวดหมู่อย่างมีระบบ search engine ต่างๆก็จะเข้ามาดึงฐานข้อมูลนี้ไปใช้งาน เว็บที่ติดเข้าไปใน DMOZ อาจจะ PR4 เลยทีเดียว เทคนิคในการ submit เว็บไซต์ มีพื้นฐานดังนี้  เป็นเว็บสมบูรณ์และไม่มีหน้า 404 page , ความเร็วในการโหลดว็บ ไม่นาน, เห็นแล้วสบายตา, ถ้าเป็นเว็บไทย title ควรเป็นภาษาไทย,คำอธิบายไม่ใช้คำสแปม ไม่ใช้คำโฆษณา ใช้คำเพียงสั้นๆ 25-30 คำ

มาเป็นนักท่องเว็บคลาส 2 กันเถอะ

หัวข้อ : มาเป็นนักท่องเว็บคลาส 2 กันเถอะ นำเสนอโดย : เอกสิทธิ์ เพิ่มพูนพิพัฒน์
การเป็นนักท่องเว็บคลาส 2 คือนอกจากจะเข้าไปที่เว็บนั้นๆแล้ว จะต้องตั้งคำถามว่า ทำไมเว็บนั้นคนเข้าเยอะ ทำไปทำไม มีรายได้เท่าไหร่ เพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงเว็บไซต์ของเราเองต่อไป ยกตัวอย่างการเช็ค เข้าไปดูสถิติยอดคนเข้าต่อวันของเว็บ ตรวจสอบ Google index การพัฒนาของเว็บไซต์ ฟีเจอร์ใหม่ โฆษณาที่เพิ่มขึ้น ตรวจสอบราคาของค่าโฆษณาว่าเดือนหนึ่งเว็บนี้มีรายได้เท่าไหร่  ต่อไปมามองที่ไอเดีย และจุดยืนของเว็บนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ เมื่อได้ไอเดียแล้วก็เริ่มทำเว็บของตัวเองได้เลย

Friendship on the Net: We are together

หัวข้อ : Friendship on the Net: We are together นำเสนอโดย : Preecha Lertchareonyong และ EJ eventpro in Thai
เล่าประสบการณ์การทำอินเตอร์เน็ตทีวีตั้งแต่เริ่มทำ โดยการชวนเพื่อนๆ น้องๆ ที่รู้จักกันผ่านทาง Social network มาเป็น EJ : Even Jockey (ถูกหรือป่าวบอกด้วยนะครับ)ได้รู้จักคำนี้ครั้งแรกที่นี้แหละ มีการแนะนำ EJ แต่ละคนมาจากไหน และอยู่ chanel ไหนบ้าง การทำจะเว็บหรือจะทำอะไรสักอย่างการหาเพื่อน สร้างกลุ่ม  ชักชวนกันมาทำสิ่งดี ก็เพิ่มกำลังใจในการทำงาน ติดตามผลงานได้ที่ www.eventpro.in.th

แบ่งปันประสบการณ์ ผ่านเว็บ thaifr

หัวข้อ : แบ่งปันประสบการณ์ ผ่านเว็บ thaifr นำเสนอโดย : วทัญญู บุณยสิทธิเดช
เป็นเว็บที่มีสองส่วนหลักคือ ส่วนรวมของข้อคิดเห็น (feedback) และบทวิจารณ์(review) ของผู้บริโภค โดยให้ผู้บริโภคร่วมกันเขียนข้อคิดเห็น และบทวิจารณ์ ต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจในการใช้บริการต่อไป เป็นการแชร์ประสบการณ์หลังจากได้เข้าไปใช้บริการสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม เป็นต้น ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับคนทั่วไปในการตัดสินใจ หรือหาข้อมูลในสถานที่นั้นๆ มีจุดหนึ่งที่ผมชอบโดยส่วนตัวคือโลโก้ที่แสดง ชี้ไปข้างขวาคือรีวิว ส่วนลูกศรย้อนกลับคือ feedback เข้าเยี่ยมชมได้ที่ https://www.thaifr.net

สรุปสุดท้าย : ได้ความรู้ใหม่ๆ และเปิดโลกทัศน์ได้มาก ขอบคุณทีมงาน THINK camp ที่จัดงานดีๆแบบนี้ และให้โอกาสได้นำเสนอเว็บ Biomed.in.th ไม่รู้ว่าจะได้รับการตอบรับอย่างไรบ้าง ตอนนี้มี mention บางอันที่ชมว่าเป็นเว็บที่ดี ก็ทำให้เราใจชื่นขึ้นมาได้บ้าง ขอบคุณคุณธนพจน์ (มด)จาก 108dog.com จะช่วยให้คำปรึกษาการเอา Biomed.in.th submit ขึ้น DMOZ เพื่อให้อันดับการค้นหาที่ดีขึ้น ขาดไม่ได้เลย @ac_nim ที่ไปให้กำลังใจและถ่ายรูปให้ตอนพรีเซนต์

ปล. เนื้อหาผิดพลาด หรืออยากให้เพิ่มส่วนให้แจ้งมาได้นะครับ
รวมรูปทั้งหมด ThinkCamp3

สรุปงานจากท่านอื่น
เก็บตกงาน Think camp 3
THINKcamp 3 – “เว็บสยาม บุกโลก” 17 ข้อเด็ดจากค่ายความคิด 3
THINKcamp ครั้งที่ 3 เค้ามีของมาแจก

วิธีเพิ่ม Thumbnail ให้ Facebook Recommendations Social Plugin

เอา Facebook Recommendations มาติดในเว็บเพื่อแนะนำเรื่องที่คนสนใจในบล็อกนี้ และที่ Biomed.in.th ด้วย มีพี่คนหนึ่งทักว่าทำไมมันแสดงหน้าคนเขียนแทนที่จะแสดง Post thumbnail อย่างที่บางเว็บใช้ก็แสดงเป็น thumb ที่จริงก็เห็นมาสักพักแล้วแต่ยังไม่มีเวลามาแก้ไข เมื่อคืนลองค้นดูว่ามีคนเคยทำบ้างไหม เจอเว็บหนึ่งแนะนำวิธีการทำ เป็นการเพิ่ม meta ให้ facebook โดยให้ดึงภาพจาก custom field ขี้เกียจต้องมานั่งเพิ่มใหม่ทุกอัน ที่จริงเราก็ลง Plugin ที่ชื่อ get the image ไว้แล้ว ดึงเข้ามาเลยง่ายกว่า

เพิ่ม Thumbnail ให้ Facebook Recomendations social plugin

วิธีทำ

  1. เราจะเพิ่มโค้ดนี้ที่หัว (head.php) เพื่อให้ facebook ดึงข้อมูลส่วนนี้ไปใช้
    
    
    
    
  2. ติดตั้ง Plugin ชื่อ Get The Image
  3. ตัวอย่างโค้ดที่ใช้ร่วมกับ Get The Image

    
    
    
     true, 'format' => 'array' ) ); ?>
    
  4. ลองคลิกเข้าไปดูสักโพส เพื่อตรวจสอบว่า meta data ถูกต้องหรือไม่
    เปิดดูโค้ดของแต่ละโพสว่าถูกต้องหรือไม่
  5. อาจต้องรอหน่อยให้ facebook อัพเดตข้อมูลใหม่

ทำให้โพสน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพิ่มคลิกให้โพสที่น่าสนใจได้เยอะเลยครับ ลองทดสอบดูนะครับว่า

via: https://green.cx

ปรากฎการณ์วาทะของ อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ กับอำเภอบล็อก

สถิติของบล็อก ตั้งแต่วันที่ 1-23 พฤษภาคม 2553

ปกติแล้วอำเภอบล็อก มีคนเข้ามาประมาณวันละ 400-600 UIP ส่วนใหญ่เข้ามาผ่านทางการค้นหาจาก Google เป็นส่วนใหญ่ แต่จากปรากฎการณ์ วาทะของ คุณ อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ในงานประกาศผลรางวัลนาฎราช ในคืนวันที่ 16 พฤษภาคม 2553 ด้วยคำพูดที่กินใจ ผมไม่ได้คิดอะไรมาก เอามาเขียนลงบล็อก และถอดคำพูดออกมาเก็บไว้อ่าน

ด้วยกระแสสังคมที่แรงทำให้ในวันที่สองของการโพส ยอดคนเข้าสูงถึงเกือบ 5,000 UIP กับ 46 คอมเม้นท์ มันอาจจะไม่เยอะเมื่อเทียบกับเว็บดังๆ แต่คิดว่าคงอีกนานกว่าที่บล็อกนี้จะทำลายสถิตินี้ลงได้ เวลาผ่านไปตอนนี้เริ่มกลับมาอยู่ในสภาวะปกติแล้ว อาจจะเป็นกระแสที่น้อยลง และอันดับการค้นหาใน Google หล่นลงมาสู้คนที่เข้าทำ SEO จริงจังไม่ได้

มีอีกอย่างที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น คือโพสที่พูดถึง ทำไมคนอีสานรักทักษิณ ที่คนคลิกเข้าไปอ่านจากดูโพสของคุณอ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ ซึ่งอย่างน้อยก็ทำให้คนได้รู้จักคนอีสานได้มากขึ้น

โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายคนใหม่ของทักษิณ

Robert Amsterdam

ทนายคนใหม่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คนใหม่ ที่กำลังเป็นที่สนใจของชาวไทยและต่างชาติอย่างมากในสถานการณ์ของการชุมนุมที่วุนวาย เขาคือ โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม แท้จริงแล้วหลายสำนักข่าวตั้งข้อสงสัยว่าคือ ทนายที่จะมาแก้ต่างเรื่องคดีต่างๆ หรือเป็นล็อบบี้ยีสต์ในคุณทักษิณกันแน่

มีศัพท์ใหม่ที่ไม่คุ้นหูเอาซะเลย คือ ล็อบบี้ยีสต์ (Lobbyist) พยายามค้นดูพบว่า เราจะเข้าใจคำว่า ล็อบบี้ (lobbying) ค่อนข้างดี มันคือ การความพยายามโน้มน้าวให้ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ในการตัดสินใจ หรือเปลี่ยนแปลงอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้ทำตามที่ต้องการได้ และ ล็อบบี้ยิสต์ ก็คือกลุ่มคน หรือคนที่ทำหน้าที่วิ่งเต้น ใช้เครื่องมือวิธีการต่างๆ รวมทั้งการใช้สื่อสารมวลชนต่างๆ ประชาสัมพันธ์(สร้างภาพ)ให้ลูกค้า เพื่อให้มีการล็อบบี้เกิดขึ้น

โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม (Robert Amsterdam) ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษากฎหมายระดับสากล Amsterdam & Peroff  ตั้งแต่ปี 1980 เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายธุรกิจระหว่างประเทศ และคดีความด้านการเมืองที่มีความซับซ้อน โดยเฉพาะคดีที่มีรัฐเป็นคู่ขัดแย้ง หรือถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจโดยไม่เป็นธรรมกับฝ่ายตรงข้าม จุดแข็งของเขาคือการมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับบรรดาสื่อระดับโลกทุกแขนง จึงมีการดึงประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับลูกค้าของเขาได้เป็นอย่างดี

ผลงานเด่นของเขา ทำให้นายมิคาอิล โคดอร์ฟสกี้ มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ที่ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกง เลี่ยงภาษี แม้ว่าสุดท้ายจะแพ้คดี แต่ทำให้ ชาวโลกมองว่าเป็นการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์เกี่ยวกับเสรีภาพของประชาชน และโจมตีว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เป็นรัฐที่กดขี่และใช้อำนาจรัฐเอาเปรียบประชาชน

นายอีลิจิโอ เซดิโน นายธนาคารเวเนซุเอลา ที่ถูกจับกุม ด้วยข้อกล่าวหาว่าทำผิดกฏหมายเกี่ยวกับเงินระหว่างประเทศ รัฐมีการสั่งกักขังนานกว่า 34 เดือน นายโรเบิร์ต อัมสเอตร์ดัม หยิบยกเรื่องการกักขังที่ละเมิดหลักเกณฑ์ของสหประชาชาติ(UN) สุดท้ายถูกปล่อยตัวแล้วหนีไปอยู่สหรัฐ

สิ่งที่ โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม จะทำคือ มาช่วยเหลือเสื้อแดงในข้อกฎหมายในการชุมนุม และทำในสิ่งที่เขาเชี่ยวชาญ คือบอกชาวโลกผ่านสื่อต่างๆ ทั้ง เว็บไซต์ บล็อก ทีวี นิตยสาร เครื่อข่ายต่างๆ หนังสือพิมพ์ดังๆ เขาจะพยายามทำให้ชาวโลกเชื่อว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ใช้อำนาจรัฐในการข่มเหง กดขึ่ประชาชาชน จำกัดสิทธิเสรีภาพ ละเมิดสิทธิมนุษยชนต่างๆ อย่างที่เคยทำในประเทศรัสเซีย เวเนซุเอลา ถ้าทำต่อเนื่องเรื่อยๆ ไม่ช้าทั่วโลกจะคิดว่าไทยเป็นอย่างนั้นจริงๆ เป็นการใช้ประชาคมโลกมาบีบประเทศไทยให้ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง(ล็อบบี้) ไม่เป็นผลดีกับประเทศไทยอย่างแน่นอนทั้งระยะสั้นและในระยะยาว ซึ่งประเทศไทยก็มีจุดให้เขาหยิบขึ้นมาโจมตีได้มากมาย  น่าห่วงและน่ากังวลยิ่งนัก

ซึ่งตอนนี้นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เริ่มจะออกสื่อโจมตีไทยแล้ว ซึ่งสื่อต่างๆก็ให้ความสนใจในตัวเขาด้วย และคิดว่าหลายๆอย่างที่จะโจมตีไทยจะตามมาอีกเพียบแน่นอน ควรรีบทำอะไรสักอย่าง

การให้สัมภาษณ์ของนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม โดยสำนักข่าวอัลจาซีรา

ข้อมูลจาก
กรุงเทพธุรกิจ : โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายหรือล็อบบี้ยิสต์ส่วนตัวทักษิณ
คมชัดลึก : “โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม”ทนายหรือล็อบบี้ยิสต์ส่วนตัวทักษิณ?
โลกวันนี้ : Amsterdam & Peroffที่“ทักษิณ”ส่งมาช่วยเสื้อแดง
facebook : ถอดหน้ากาก โรเบิร์ท อัมสเตอร์ดัม
The Daly Dose : ใครคือทนายที่พ.ต.ท.ทักษิณจ้างคนใหม่ ?? Robert Amsterdam

เว็บของ โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม www.corporateforeignpolicy.com , www.robertamsterdam.com

แนะนำปลั๊กอิน WordPress สำหรับเว็บที่มีนักเขียนหลายคน

ทำเว็บ Biomed.in.th เริ่มจะมีนักเขียนหลายคน ผมถามเพื่อนๆทาง twitter ไปว่ามีปลั๊กอินสำหรับ WordPress ที่ช่วยในการจัดการเว็บที่นักเขียนหลายคนไหม ได้รับคำตอบกลับมาจากหลายคน ผมขอยกตัวที่ผมเอาไปใช้จริงสองตัวมาให้ดู ได้รับการแนะนำมากจาก @sourcode

  1. Role Manager: เป็นปลั๊กอินที่ช่วยในการกำหนดสิทธิ user ให้มีสิทธิในการเข้าถึง หรือปรับแก้ส่วนไหนได้บ้าง ผมใช้เพื่อเวลานักเขียนส่งเรื่องเข้ามา ต้องผ่านการตรวจสอบจาก admin อีกทีเพื่อช่วยกันดูว่าส่วนไหนผิดพลาด และส่วนไหนต้องเพิ่มเติม ก่อนส่งเรื่อยเผยแพร่ การกำหนดสิทธิแยกเป็นเฉพาะตัวบุคคลได้ด้วย เป็นปลั๊กอินที่สำคัญสุดที่ต้องมีในเว็บที่มีนักเขียนหลายคนเมื่อทำการติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ในส่วนของ ผู้ใช้ (User) จะมีเมนูเพิ่มเข้ามาให้เราได้ใช้งาน
    User Manager

    เมนู Roles จะสามารถกำหนดสิทธิให้ user ในระดับต่างๆ ได้ทุกระดับขั้น จะลบ เปลี่ยนชื่อ กำหนดสิทธิ เพิ่มใหม่ก็ได้ในหน้านี้

    หน้ากำหนดสิทธิของลำดับขั้นของ นักเขียน

    เมื่อเราต้องการกำหนดสิทธิให้เฉพาะคน สามารถเข้าไปที่ Profile ของ User นั้นๆ แล้วด้านล่างจะมีช่องให้เลือกติ๊กสิทธิของ user คนนั้น

    เมนูกำหนดสิทธิเฉพาะคน

  2. Author Exposed :ปลั๊กอินตัวนี้ เมื่อเราคลิกที่ชื่อของคนเขียน จะมีบ๊อบอัพแสดงรายละเอียดของคนเขียนคนนั้น ขึ้นมาและบอกด้วยว่าเขียนมาแล้วกี่เรื่อง เมื่อคลิกเข้าไปจะแสดงเฉพาะเรื่องที่คนนั้นเขียนไว้ เป็นประโยชน์กับคนเขียนเองเพื่อตรวจสอบว่าตัวเองได้เขียน อะไรไปแล้วบ้าง และคนอ่านอยากติดตามเฉพาะเรื่องของคนนี้ก็สามารถแยกออกมาให้ด้วย วิธีใช้เมื่อลงปลั๊กอินแล้ว ให้ใส่โค้ดนี้แทนในตำแหน่งที่จะแสดงชื่อของคนเขียน
    
    

    ตัวอย่างการใช้งาน  เมื่อคลิกที่ชื่อ จะแสดงรายละเอียด

    คลิกที่ชื่อจะแสดงรายละเอียดของคนเขียน

    See Authors Posts (จำนวนโพสที่เขียนโดยคนนี้) เมื่อคลิกเข้าไปจะเปิดหน้าที่แสดงเฉพาะบทความที่คนนี้เขียน

    แสดงหน้าที่เขียนโดย นักเขียนคนเราสนใจ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังทำเว็บอยู่นะครับ ส่วนปลั๊กอินต่างๆที่เกี่ยวกับการจัดการกรณีมีนักเขียนหลายคนลองเข้าไปดูที่เว็บที่มาครับ

ที่มา : https://www.hongkiat.com
Via : @sourcode

Exit mobile version