เรื่องย่อ ลุงบุญมีระลึกชาติ

เมื่อนานมาแล้ว ได้มีโอกาสได้ดูหนังเรื่อง “ดอกฟ้าในมือมาร” ของคุณเจ้ย เป็นหนังขาวดำ ออกแนวสารคดี ที่สัมภาษณ์คนไปเรื่อยๆ โยงเรื่องไปถึง ครูดอกฟ้า มันไม่มีบท ถ่ายทำไปเรื่อย ดูวิว ดูวิถีชีวิตของคนไทยไปเรื่อยๆ ผมไม่ใช่คนที่ชอบดูหนังของคุณเจ้ย ดูบางเรื่อง ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ ต้องตามมาอ่านบทวิจารณ์ที่คนอื่นพูดถึงจึงจะเข้าใจมากขึ้น หนังเรื่องล่าสุดของของคุณเจ้ย “ลุงบุญมีระลึกชาติ” ได้รับรางวัลปาล์มทองคำ จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ อดคิดไม่ได้ว่านอกจากคุณภาพของหนังแล้ว มีเรื่องของการเมืองเข้ามาร่วมด้วยหรือไม่ เป็นเหมือนอีกแรงใจให้คนไทยได้มีกำลังใจ และเป็นที่สนใจของชาวโลก

เมื่อดูตัวอย่างแล้ว ใช้ภาษาถิ่น เป็นเรื่องปกติของหนังเขาอยู่แล้ว คนอีสานน่าจะดูได้อินกว่าคนอื่นๆ

ลุงบุญมีระลึกชาติ : Uncle Boonmee who can Recall his Past Lives (Lung Boonmee Raluek Chat)
โดย อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล

เรื่องย่อ
ลุงบุญมี พำนักอาศัยอยู่ที่จังหวัดเลย เขาทำสวนมะขามซึ่งรายล้อมด้วยภูเขา ลุงบุญมีป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังมาเป็นระยะเวลานาน เขาจึงรู้จักร่างกายของตัวเองว่าเขากำลังจะตายภายใน 48 ชั่วโมง ดังนั้นเขาจึงโทรเรียกให้ญาติห่าง ๆ ของเขาคือ เจนจิรา มารับเขาจากโรงพยาบาลเพื่อกลับไปตายที่บ้านสวน

เจนจิรามาจากกรุงเทพพร้อมกับศักดิ์ดา ซึ่งเป็นเพื่อนของเธอที่แสดงภาพยนตร์มาด้วยกัน ที่นั่นพวกเขาได้เจอกับวิญญาณของฮวย ซึ่งเป็นภรรยาที่เสียชีวิตไปนานแล้วของลุงบุญมี   เธอปรากฏร่างขึ้นเพื่อมาดูแลสามีที่ป่วย ไม่เพียงแต่ภรรยาที่กลับมาเท่านั้น บุญส่ง ลูกชายของลุงบุญมีที่หายสาบสูญไปหลายปีก็กลับมาที่บ้านด้วย เขาออกมาจากป่าในร่างของมนุษย์ลิง ลูกชายของเขามีเมียเป็นสัตว์ประหลาดที่รู้จักกันในตำนานพื้นถิ่นว่า ‘ลิงผี’ และอาศัยอยู่ด้วยกันในป่ามานาน ระหว่างอาหารมื้อเย็นลุงบุญมีเล่าให้ฟังถึงความมหัศจรรย์ของการนั่งสมาธิ ซึ่งทำให้เขาระลึกชาติได้ เขาใช้เวลายามค่ำคืนเล่าเรื่องต่างๆในอดีตชาติให้แขกผู้มาเยือนฟัง และในคืนที่สองเมื่อเขาเล่าเรื่องจบลง

ลุงบุญมีก็ตัดสินใจเดินทางไปยังสถานที่ที่ภรรยาของเขาพูดถึงคือบนภูเขาสูงลิบ ทุกคนออกเดินทางเข้าไปในป่ากลางดึก ป่าที่เต็มไปด้วยสรรพสัตว์และวิญญาณ และในที่สุดพวกเขาก็มาถึงถ้ำบนยอดเขา ลุงบุญมีจำได้ว่าถ้ำนี้เป็นที่ที่เขาเกิดในชาติแรกที่เขาสามารถระลึกได้ จากนั้นเขาก็เสียชีวิต

เจนจิราและศักดิ์ดานำศพลุงบุญมีมาทำพิธีในเมือง เรื่องราวของลุงบุญมีได้ปิดฉากลงพร้อมกับความทรงจำที่ถูกถ่ายทอดแก่ชายหญิงสองวัยผู้ซึ่งกำลังจะมุ่งหน้ากลับกรุงเทพ

ภาพประกอบ

ลุงบุญมีระลึกชาติ
ลุงบุญมีระลึกชาติ
ลุงบุญมีระลึกชาติ
ลุงบุญมีระลึกชาติ
ลุงบุญมีระลึกชาติ

ที่มา : https://www.thaicinema.org/kits229lung.asp
https://www.animateprojects.org/films/by_date/2010/uncle_boonmee

คำสอนจากหนังเรื่อง ขงจื้อ

https://www.youtube.com/watch?v=YgiM1ubNCYc

ได้ดูหนังเรื่อง ขงจื้อ[1](Confucius)[2] พบว่ามีคำสอนมากมายในหนังเรื่องนี้ เอาไว้เตือนใจได้ ให้เสียงภาษาไทยโดยพันธมิตร ทำให้คำพูดดูคล้องจอง ฟังแล้วจับใจ ดูไปทวีตไปด้วย สุดท้ายเลยรวมเอามาไว้ในบล็อกเก็บไว้อ่าน และแบ่งปันได้ท่านอื่นที่สนใจได้อ่านบ้าง

  • ถ้าเรานำผู้สัตย์ซื่อมารับราชการ เหล่าคนพาลก็จะหมดสิ้นไป-ขงจื้อ
  • ผู้รักตัวรักครอบครัว ย่อมรักผู้อื่นได้เช่นกัน-ขงจื้อ
  • จงจำสุภาษิต 2 บทนี้ไว้ตลอดชีวิต จงเห็นบ้านเมืองสำคัญกว่าชีวิตเรา และ อุปสรรคมีมากมาย จงสำรวมใจให้เข้มแข็ง-ขงจื้อ
  • ยอมสูญเสียก่อน แล้วจะได้มา-เล่าจื้อ
  • ขงจื้อผู้เป็นอาจารย์ถามศิษย์ตัวเอง “เจ้าลองบอกข้าสิ ข้าผิดพลาดตรงไหนบ้าง”-ขงจื้อ
  • ถ้าเรามิอาจเปลี่ยนโลก ถ้าหากเรามิอาจเปลี่ยนสิ่งที่อยู่รอบตัวเราได้ เราก็ควรกลับมาเปลี่ยนที่ตัวเองจากข้างใน-ขงจื้อ
  • ไม่มีหลักจริยะในการปกครอง บ้านเมืองมีแต่ความวุ่นวาย-ขงจื้อ
  • ข้าไม่เคยพบใครที่นึกถึงเรื่องจริยะ ก่อนเรื่องตัณหาเลย-ขงจื้อ
  • กวี ตำรา จริยะ ดนตรี เราต้องมั่นเรียนรู้-ขงจื้อ
  • ฤดูหนาว ต้นสน ยืนหยัดให้เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริง-ขงจื้อ
  • ขุนนางนั้นก็แค่ใส่ชุดเป็นขุนนาง นิสัยสะท้อนถึงจิตใจ อย่าลืมเด็ดขาด อย่าชายตามอง หรือฟัง หรือพูด หรือทำสิ่งใดที่ผิด-ขงจื้อ
  • “ผู้กล้า” เมื่อถึงคราวตายต้องตายเยี่ยงบุรุษผู้สง่างาม-ขงจื้อ
  • ข้าต้องการสอนหนังสื้อเท่านั้น ขออย่าให้พวกเขาเอาปัญหาการเมืองมาสุ่มหัวให้ข้าอีก-ขงจื้อ
  • หากโลกจะรู้จักข้า ก็ให้ผ่านบันทึกนี้เทิด หากตำหนิข้าก็ให้เพราะบันทึกเล่มนี้-ขงจื้อ

อ็อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ในงานประกาศรางวัลนาฏราช

https://www.youtube.com/watch?v=qtgJMOEREMw

คลิปพงษ์พัฒน์ ในงานประกาศรางวัลนาฏราช

อ็อฟ -พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ได้รางวัลจากนาฎราช จากละครพระจันทร์สีรุ้ง ในบทพ่อของบี้ เดอะสตาร์ ตอนขึ้นไปรับรางวัลได้กล่าวขอบคุณสั้นๆ และพูดเรื่อง พ่อ ฟังในคลิปได้ ถ้าใครอยากอ่านผมถอดคำพูดมาให้คำต่อคำ

“ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้รางวัลนี้เลยครับ กราบขอบพระคุณสำหรับ สมาพันธ์ สมาคมผู้ประกอบการวิทยุโทรทัศน์ ขอบคุณทุกๆคน พี่ๆในวงการและก็เป็นรางวัล ที่ได้จากบทบาทเกี่ยวกับพ่อ ขออนุญาติพูดเกี่ยวกับ พ่อ นิดหนึ่งก็แล้วกันครับ

พ่อเป็นเสาหลักของบ้านนะครับ บ้านของผมหลังใหญ่ หลังใหญ่มาก เราอยู่กันหลายคน ผมเกิดมาในบ้านหลังนี้ก็สวยงามมากเลย สวยงามและอบอุ่น แต่กว่าจะเป็นแบบนี้ได้ บรรพบุรุษของพ่อ เสียเหงื่อ เสียเลือด เอาชีวิตเข้าแลก กว่าจะได้บ้านหลังนี้ขึ้นมา

พ่อคนนี้ ก็ยังเหนื่อยที่จะดูแลบ้าน และดูแลความสุขของทุกๆ คนในบ้าน ถ้ามีใครสักคน โกรธใครมาก็ไม่รู้ ไม่ได้ดั่งใจเรื่องอะไรมาก็ไม่รู้ และก็พาลมาลงที่พ่อ เกลียดพ่อ ด่าพ่อ คิดจะไล่พ่ออกจากบ้าน ผมจะเดินไปบอกคนๆ นั้นว่า

ถ้าเกลียดพ่อ ไม่รักพ่อแล้ว จงออกไปจากที่นี่ซะ เพราะที่นี่คือบ้านของพ่อ (ทุกคนเริ่มปรบมือ) เพราะที่นี่คือแผ่นดินของพ่อ ผมรักในหลวงครับ และผมก็เชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในที่นี้รักในหลวงเหมือนกัน พวกเราสีเดียวกันครับ ศีรษะนี้มอบให้พระเจ้าแผ่นดิน ขอบคุณครับ “

ทุกคนยืนปรบมือ เสียงดังยาวนาน….

ขอแถมอีกคลิป ความฝันอันสูงสุด

คลิปอัพโหลดโดย b2v2b และ gnixanon

ไปดูมาแล้ว องค์บาก 3

องค์บาก 3

องค์บาก 3 ภาคจบของการเล่าเรื่องที่มาของ “องค์บาก”  ไปดูมาหลายวันแล้ว วันนี้เลยขอบล็อกเป็นข้อๆอีกครั้ง อาจจะไม่ตรงใจท่านอื่นบ้างแต่นี้คือมุมมองของผมนะครับ

  • ต้องตามมาดูให้จบ เพราะภาค 2 ทำอารมณ์ค้าง
  • เปิดเรื่องได้งงสุดๆแม้จะได้ดูภาค 2 มาก่อนก็ตาม
  • อารมณ์แรกที่รู้สึกได้คือ เหมือนละครช่องเจ็ดที่เรตตี้ดี คุณแดงสั่งยืด เพิ่มตอน จึงมีภาพพระเอก นางเอก คิดเรื่องเก่าๆ ภาพเก่าๆ น้ำเยอะ เนื้อน้อย ในช่วงต้นๆเรื่อง
  • บางตอนไม่ค่อยสมเหตุผลเท่าไหร่ โดยเฉพาะการหลุดจากการประหารของเทียน(จา พนม) มีราชองค์การจากอโยธยาให้ปล่อยตัว มาได้ไง? และสั่งนักฆ่าตามไปฆ่าทีหลัง
  • ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องที่ไม่ประทับใจ สิ่งประทับใจผมมาก คือการรำของ พิม (จ๊ะจ๋า-พริมรตา เดชอุดม) ดูแล้วเหมือนนางอัปสรมาก ท่ารำคล้ายทางรำตอนชมรมอีสานจุฬาฯ ไปค่ายที่บุรีรัมย์ ตอนรำคู่กับเทียนที่ทำตัวสั่นๆเก็งๆหลังจากพยายามทำกายภาพบำบัดตัวเอง ดูสมจริงมาก ดูกลมกลืนกันดี

    เทียน กับ พิม

  • ฉากที่เกิดรอยบากบนพระพุทธรูป ไม่ค่อยประทับใจผมเท่าไหร่ น่าจะเป็นตัวเอกที่ทำให้เกิดรอยบากมากกว่าจะเป็นแค่ลูกกระจ๊อกที่ฟันพลาดไปโดน
  • ท่าการต่อสู้แบบใหม่ของ จา พนม ที่ประยุกต์มาจากโขน ดูเท่ เป็นเอกลักษณ์มาก  จำได้แค่ท่าหมุนหัว กับท่าเดินขาแข็ง ตอนกระดูกหัก และพยายามเดิน พยายามดัดตน แสดงได้น่าทึ่งมาก
  • ท่าต่างๆที่เราได้เห็นใน ต้มยำกุ้ง จะโผล่แว็บๆเข้ามาไม่แน่ใจว่าตั้งใจให้โยงถึงกันหรือปล่าว ฉากการต่อสู้ดูสมจริงดี มองไม่เห็นเป็น step by step เหมือน จีจ้า ดื้อ สวย ดุ

    การต่อสู้บนหลังช้าง

  • อีกความประทับใจคือน้ำเสียงของ ครูบัว (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) ช่างนุ่มลึก น่าเลื่อมใส ฟังแล้วสบายใจ
  • พระยาราชเสนา (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) คำพูดของเขาติดหูผมเลยแฮะ  “ป่นกระดูกมันให้ละเอียด!!”
  • ภูติสางกา (ชูพงษ์ ช่างปรุง) หน้าคล้าย จา พนม มาก แยกเกือบไม่ออกนึกว่าคนเดียวเล่นสองบท และผมไม่ชอบเสียงเอฟเฟ็กที่ทำให้เสียงฟังไม่รู้เรื่อง
  • หนังเลือดสาด หัวขาด แทงทะลุ หนังสำหรับ 18+ เด็กนั่งดูเพียบเพราะ จา พนม เป็นขวัญใจเด็กๆ
  • ไอ้เหม็น (หม่ำ จ๊กม๊ก) มีมุกแทรกให้ฮาบ้าง
  • visual effect ในเรื่องไม่สมจริง ทั้งกา ทั้งคนนอนตาย ทั้งหัวครุฑยักษ์ที่หล่นลงมาไม่ค่อยเนียน ที่จริงฉากอลังการ และสวยมากอยู่แล้ว ไม่ควรใส่พวกนี้เข้ามามากนัก
  • ผมยังมองว่า องค์บาก ภาค 3 คือส่วนต่อของภาค 2 ที่ควรจะรวมกัน เป็นภาคเดียวจะเจ๋งมาก เพราะในภาคสามมันดูเกินๆ ยัดๆเข้ามา ไม่เพียงพอจะเป็นภาค 3

ถ้าถามว่าควรดูไหม? ต้องตอบว่า “ควรดู” ผมยกให้ จา พนม + พันนา ฤทธิไกร เป็นผู้กำกับคิวบู๊ ออกแบบท่าต่อสู้ ได้น่าดูที่สุดในโลกแล้วในตอนนี้

Iron Man 2 ไปดูมาแล้ว

Iron Man 2

Iron Man 2 ผมชอบหนังฮีโร่ กับ visual effect เป็นทุนเดิม ชอบภาคแรกแล้ว เอาฝาโค้ก 5 ฝา ไปแลกได้ฟรีอีก 1 ที่นั่ง

  • หนังสำหรับ 13+ ผมว่าเด็กก็ดูได้นะ ออกแนวการ์ตูนมากกว่าเป็นหนังเลือดสาด
  • นักแสดงแต่ละคนแสดงได้ดีมาก
  • Tony Stark ,Iron Man(Robert Downey Jr.) มาดกวนๆ กับนิสัยชอบสาวสวยๆ ยังอยู่ แต่มาคราวนี้ Iron Man ดูจะเป็นฮีโร่ที่มีปัญหา ทั้ง Arc reactor เป็นพิษ รัฐบาลอยากได้ชุด มีฉากที่ใส่ชุดเกาะเมาเหล้า ทั้งเต้น ทั้งฉี่ โดนเพื่อนอัดอีก เป็นฮีโร่หมดสภาพที่น่าเวทนามาก  (ไม่เข้าใจว่าทำไมเครื่องตรวจเลือดต้องจิ้มเอาเลือดมาตรวจด้วย หนังไฮเทคขนาดนั้น ปัจจุบันตรวจเลือดเขาใช้แสงหมดแล้ว อันนี้แค่กวนใจนิดๆ )
  • Justin Hammer(Sam Rockwell) เจ้าของบริษัทสร้างอาวุธที่ไม่เคยตาม Stark Industry ได้ทัน สะดุดตาตั้งแต่ตอนเปิดฉากว่าความแล้ว ออกแนวกวนประสาทหน่อยๆ เหมือนจะฉลาดแต่โง่ เป็นตัวร้ายแบบไม่ตั้งใจ เพียงแค่สนับสนุนตัวร้ายตัวจริง แต่จำภาพ Sam Rockwell มาจากหนังเรื่อง Charlie’s Angels จากท่าเต้นตอนขึ้นเวทีนี้ใช่เลย
  • Ivan Vanko (Mickey Rourke) ทำให้ขนลุกได้เลย สัมผัสได้ถึงแรงแค้นที่มีต่อตระกูล Stark  เป็นวายร้ายที่เราดูแล้วสู้กับ Iron Man ได้อย่างสบาย คิดในใจว่าคนเก่งๆท่าคิดในทางที่ผิดนี้น่ากลัวชะมัด
  • Natalia Romanova (Scarlett Johansson) ตอนเธอเป็น  Black Widow โคตรเท่ สวย ผมชอบมาก (คนนี้เอานะ)
  • Pepper Potts (Gwyneth Paltrow) ยังเข้าขากับ Tony Stark ได้ดี ฉากโต้เถียงกัน ยังสนุก
  • Colonel James  Rhodes (Don Cheadle) ผมสรุปว่าแทน  Terrence Howard ไม่ได้ ผมยังติดกับภาพนายทหารเพื่อนสนิท ฉากมองไปที่ชุดเกาะแล้วพูดว่า “เอาไว้ก่อน” นึกว่าจะได้มาเห็นใส่ชุดในภาคนี้
  • Nick Fury(Samuel L. Jackson) มีบทบาทในเรื่องมากขึ้น ปูทางให้ Avengers เยอะพอควร เป็นตัวชี้ทางให้ Iron Man ด้วยว่า รบคนเดียวได้ยาก ยังแสดงความเหนือว่าแกไม่ได้มีของดี ฉลาด รอบรู้อยู่คนเดียว
  • มีฉากเด็กใส่ หน้ากาก Iron Man ทำให้นึกถึงเกม Augmented reality game ที่ให้เลือกใส่หน้ากาก Iron Manได้  และนึกถึงคนที่ใส่หน้ากาก Iron Man ไปร่วมงาน Engadget show ep8
  • ฉากเปิดตัว Iron Man ในงาน Expo ที่ Pepper จุ๊บตรงหมวกแล้วโยนลงจากเครื่องบินใน Trailer หายไปไหน? โดนตัดออกรึ?
  • มีโล่ของ Captain America โผล่มา แต่โดน Tony Stark เอาไปเป็นที่รองท่อยิงอนุภาค CERN ซะงั้น ฮา
  • ฉากจบมีการขุดหลุม แว็ปแรกนึกถึงคนที่ถูกขุดเป็น Captain America หรือปล่าวเพราะในการ์ตูนถูกขุดเหมือนกันแต่ขุดจากธารน้ำแข็ง สุดท้ายเฉลยเป็น Thor และ Marvel มีแผนทำ Thor ก่อนทำ Avengers อยู่แล้ว บอกเป็นนัยว่าตามดู Thor ต่อนะ มันเนื้อเรื่องต่อกัน

ชุดที่จะได้เห็นใน Iron Man 2

  • ชุดเรียงกันตามลำดับ ในห้องของ Tony Stark

    ชุดเกาะ Mark I,II,III,IV เรียงตามลำดับ

  • ชุดหลักที่ใช้ยังเป็น Mark IV ไฟตรงอกจะเป็นวงกลม

    Mark IV ไฟตรงอกจะเป็นวงกลม

  • ชุดเกาะ Mark V ที่เพิ่มเข้ามาใหม่เป็นกระเป๋าถือ ชุดนั้นเป็นชุดที่ผมอยากดูมากที่สุด ตอนใส่มันเท่มาก แต่เสียดายมันมีเท่ากับในโฆษณานั้นแหละ ไม่มีกล่าวถึงเพิ่มเติมเลย

    ชอบที่สุดแล้วชุดนี้ Mark V เป็น Portable ด้วย

  • ชุดเกาะ Mark VI หลังจากได้ arc reactor อันใหม่มา มันก็โผล่มาเลย ไฟตรงอกเป็น สามเหลี่ยมตามรูปทรงของ arc reactor เหมือนเตารีดติดอก มีอาวุธใหม่แรงใช้ได้ครั้งเดียวด้วย

    Mark VI ไฟตรงอกเป็นสามเหลี่ยม

ชุด War Machine เป็นชุดพัฒนามาจาก Mark II  คนที่ใส่คือ James Rupert Rhodes ใส่อาวุธมาเต็มขั้น

War Machine
  • ชุดของ Ivan Vanko ก็เท่สุดๆ อาวุธมาพร้อม คนเก่งถ้ามี Resource ดีๆ ก็เทพได้เช่นกัน

สรุปว่าผมชอบนะ ฉากแอกชั่นไม่ได้เยอะมากนัก นักแสดงทุกคนแสดงได้เยี่ยม มีมุกแทรกมาเรื่อยๆ ทิ้งท้ายด้วยประโยค “Iron Man ผ่าน แต่ Tony Stark ไม่ผ่าน” อย่าพึ่งงงกับประโยคนี้ ไปดูจะรู้ว่าหมายความว่าอะไร

ตัวอย่าง

https://www.youtube.com/watch?v=FNQowwwwYa0

ปาฏิหาริย์ รักต่างพันธุ์ หนังดีที่ควรดู

ปาฏิหาริย์ รักต่างพันธุ์ / Deep in the jungle

ปาฏิหาริย์ รักต่างพันธุ์ / Deep in the jungle
กำกับการแสดงโดย : ธีระวัฒน์ รุจินธรรม
นำแสดงโดย : เจษฎาภรณ์ ผลดี ,พลอย จินดาโชติ ,พศิน เรืองวุฒิ ,ศักดิ์ดา แก้วบัวลี
ประเภท : Romance / Horror
วันที่เข้าฉาย : 31 ธันวาคม 2551
ค่ายภาพยนตร์ : พระนครฟิล์ม

วันนี้นึกยังไงไม่รู้หยิบหนังเรื่อง “ปาฎิหาริย์ รักต่างพันธุ์” มาดู โดยไม่ได้คาดหวังอะไรกับหนังเรื่องนี้เลย
เคยดูหนังเรื่อง “คู่แท้ ปาฎิหาริย์” ของ ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ เรื่องนั้นค่อนข้างแย่ เลยส่งผลให้ไม่มีแรงดึงดูด
ให้ไปดูเรื่อง “ปาฎิหาริย์ รักต่างพันธุ์” ในโรงเมื่อครั้งที่เข้าฉาย

เนื้อเรื่องเปิดเรื่องด้วยด้วยการเล่าประวัติของชนเผ่าหนึ่งที่อาศัยอยู่ชายแดนพม่า-ไทยเป็นเผ่าที่มีความพิเศษ
คือก่อนอายุ 19 จะมีร่างเป็นมนุษย์ ร่างที่เป็นมนุษย์เป็นแค่เปลือกทางผ่าน เรื่องนี้ถูกอธิบายในตอนกลางเรื่อง
ว่าในพุทธกาลเคยมีคนหนึ่งที่ศรัทธาในพุทธศาสนาที่พยายามจะขอบวชแต่พระพุทธเจ้าไม่สามารถบวชให้ได้
นั้นคือคนเผ่านี้นี่เอง เผ่านี้ได้เดินทางจากโลกไปกันหมดเหลือเพียงแค่พี่น้องคู่สุดท้ายที่ต้องรอให้ถึงกำหนดก่อน

เจษฎาภรณ์ ผลดี -ปาฏิหาริย์ รักต่างพันธุ์

ร้อยเอกวินทร์ (เจษฎาภรณ์ ผลดี) ปฏิบัติภารกิจปราบยาเสพติดที่แนวชายแดนซึ่งเป็นที่ที่เขาได้เจอ
จิน(พลอย จินดาโชติ) ที่ถูกจับขังไว้ เขารู้สึกได้ถึงความผูกผันที่มีให้เธออย่างประหลาด แม้จะถูกส่วนกลาง
บอกให้ยกเลิกภารกิจ แต่เขาคัดคำสั่งพยายามช่วยเธอ แต่ช่วยไม่ได้ จนเมื่อรอดกลับมาทุกคนในหน่วยถูกสั่งเก็บ
เกือบหมดทำให้เขาพยายาม หาความจริงของเรื่องที่เกิดขึ้น จาย (ศักดิ์ดา แก้วบัวลี) พี่ชายของจินที่มีพลังลี้ลับได้
พยายามช่วยเธอให้หนีจากการถูกจับตัว

และด้วยพรหมลิขิตหรือความบังเอิญ วินทร์ได้ช่วยเธอไว้ตอนที่พยายามหลบหนีจาก การถูกจับส่งตัวให้คนที่
พยายามจะหาความลับของเผ่าพันธุ์ของเธอ ทั้งคู่หนีการตามล่า ไปอยู่หมู่บ้านเล็กๆบนเขา ที่นั้นเองที่เป็นที่บ่ม
เพาะความรัก

พลอย จินดาโชติ -ปาฏิหาริย์ รักต่างพันธุ์ / Deep in the jungle

บทผูกเรื่องได้อย่างมีเหตุมีผล ดำเนินเรื่องได้อย่างน่าติดตาม และในเรื่องจะได้เห็นวิวของภูเขา น้ำตก หมอก
ตัดกับแสงแดดยามเย็นอ่อนๆ ภาพสวยมาก ทำให้ ทั้งเรื่องที่น่าติดตาม และภาพสวย กลบเรื่องของคอมพิวเตอร์กราฟิก
ที่หนังไทยอ่อนเรื่องนี้ อย่างสิ้นเชิง ทำให้ผมถึงกับพยายามหาว่าผู้กำกับเรื่องนี้เป็นใคร ที่ทำงานออกมาได้ดีอย่างนี้

ผู้กำกับ ธีระวัฒน์ รุจินธรรม(เปีย)

ผู้กำกับคือ ธีระวัฒน์ รุจินธรรม(เปีย) รางวัลการันตี ฝึมือของ ธีระวัฒน์ รุจินธรรม ได้แก่

  1. รางวัลสุพรรณหงษ์ ถ่ายภาพยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง ซุ้มมือปืน ปี 2005 จัดโดยสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ
  2. รางวัลพระสุรัสวดี ถ่ายภาพยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง ขุนแผน ปี 2002 จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิง
  3. รางวัลพระสุรัสวดี ถ่ายภาพยอดเยี่ยม จากเรื่อง 14 ตุลา สงครามประชาชน ปี 2001 จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิง
  4. รางวัลสปิริตอวอด์ ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเรื่อง เจนนี่กลางวันครับกลางคืนค่ะ ปี 1997 โดยนิตยสาร Cinemag

ผลงานการกำกับภาพของ ธีระวัฒน์ รุจินธรรม
ประวัติการทำงาน ผู้กำกับภาพ

  • – 2007 “แรกบิน” (อาร์เอส ฟิลม์, ไทเกอร์ทีม)
  • – 2007 “โจรสลัดตาเดียวกับเด็ก 200ตา (สหมงคลฟิลม์, ถนัดหนัง)
  • – 2007 “นาคปรก” (สหมงคลฟิลม์, บาแรมยู)
  • – 2007 “โอปาติกะ” (สหมงคลฟิลม์, บาแรมยู)
  • – 2006 “มากับพระ” (พระนครฟิลม์)
  • – 2006 “เขาชนไก่” (สหมงคลฟิลม์, บาแรมยู)
  • – 2006 “โคลิก” (สหมงคลฟิลม์, บาแรมยู)
  • – 2006 “เกมล่าท้าผี” (ที่ฟ้า, NGR)
  • – 2006 “ไทถีบ” (นาคาเซีย, อาร์เอส ฟิลม์)
  • – 2005 “ซุ้มมือปืน” (สหมงคลฟิลม์, ตังค์อา)
  • – 2005 “อุกาบาติ” (ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น)
  • – 2004 “102ปิดกรุงเทพปล้น” (สหมงคลฟิลม์, ไทเกอร์ทีม)
  • – 2004 “แมนเกินร้อย” (ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น
  • – 2002 “ขุนแผน” (ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น)
  • – 2001 “14 ตุลา สงครามประชาชน” (ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น)
ปาฏิหาริย์ รักต่างพันธุ์ - Deep in the jungle

ด้วยประสบการณ์การทำงานที่โชกโชนเรื่องกำกับภาพ ทำให้ไม่แปลกใจเลยที่ภาพออกมาสวยมาก ขอชื่นชม
ผลงานการกำกับเรื่องนี้ครับ ดูรายละเอียดของผู้กำกับของพระนครฟิล์ม

หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ ทำให้คิดได้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในหนังไทยคือมีทั้งหนังที่ดีและไม่ดีปนกันอยู่
เราเสียทั้งเงินและเวลาเข้าไปดูหนังแน่นอน เราคาดหวังว่าเราจะได้อะไรกลับมา ซึ่งมีหลายครั้งที่เราผิดหวัง
กับหนังไทยออกมา จึงมีหลายคนไม่อยากเข้าไปเสี่ยงกับหนังไทย หรือเลือกหนังที่มีคนเข้าไปดูแล้วบอกว่าสนุก
ปากต่อปาก รอดูกระแสสักพักก่อน แต่เริ่มต้นมีคนเข้าไปดูน้อยกระแสก็น้อยตาม คนไทยจึงหันไปดูหนังต่างประเทศที่มีโปรดักชั่นใหญ่ๆ ลงทุน มหาศาล ที่ฝากความหวังไว้ได้ และเสี่ยงน้อยกว่า

สุดท้ายอยากฝากให้คนไทยอุดหนุนหนังไทย และอยากให้กำลังใจกับคนทำหนังไทยทำหนังดีๆให้เราดู

พลอย จินดาโชติ -ปาฏิหาริย์ รักต่างพันธุ์ / Deep in the jungle

Exit mobile version