หุ่นยนต์อัตโนมัติ ต้นแบบของ Automaton ในหนัง Hugo(2012)

Artificial Intelligence: An Illustrated History

ได้อ่านอ่านหนังสือ Artificial Intelligence: An Illustrated History: From Medieval Robots to Neural Networks by Clifford A. Pickover เป็นหนังสือที่เล่าถึงการพัฒนาหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ จนถึงปัญญาประดิษฐ์ โดยเล่าย้อนตั้งแต่รากฐานของนวัตกรรมในอดีตผ่านสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ เกือบ 100 รายการที่พัฒนาต่อยอดขึ้นมากเรื่อย ๆ ตลอดช่วงเวลาระหว่าง 1300 ก่อนคริสตศักราชจนถึงยุคปัจจุบัน

Jaquet-Droz automata

สิ่งที่สะดุดตามากจนต้องหยิบมาเขียนเก็บไว้ คือ สิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า Jaquet-Droz automata ที่ถูกสร้างขึ้นโดยช่างทำนาฬิกาชาวสวิซต์ชื่อ Pierre Jaquet-Droz และลูกของเขา โดยถูกสร้างในช่วงปี 1768-1774 โดยประกอบด้วย automata ทั้งหมด 3 ตัว ได้แก่ หุ่นนักเขียน หุ่นนักดนตรี และหุ่นร่างแบบ หุ่นแต่ละตัวมีความซับซ้อนสูงมาก มีชิ้นส่วนประกอบตั้งแต่ 2,000-6,000 ชิ้นต่อตัว

ภาพวาดจากหุ่นร่างแบบ

พวกเขาสร้างขึ้นเพื่อใช้โฆษณาสำหรับขายนาฬิกาและสร้างความบันเทิงให้หมู่ชนชั้นสูงที่เป็นลูกค้า ปัจจุบันนาฬิกาแบรนด์ Jaquet-Droz ก็ยังมีอยู่นะ และที่พิเศษกว่านั้น automata ทุกตัวปัจจุบันยังทำงานได้ดี ถูกเก็บรักษาอย่างดีและเปิดให้เข้าชมได้ที่พิพิธภัณฑ์ Musée d’Art et d’Histoire of Neuchâtel ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

Hugo (2011)

เหตุที่ตัวเองสนใจ Jaquet-Droz automata เป็นพิเศษ ทั้ง ๆ ที่ในหนังสือกล่าวถึงระบบหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติอีกหลายอย่าง เพราะว่าหุ่น Jaquet-Droz ทำให้นึกถึงหนังเรื่องหนึ่งที่ชอบมาก ๆ นั้นคือ Hugo (2011) ของมาร์ติน สกอร์เซซี เป็นเรื่องของเด็กกำพร้าฮิวโก้ที่อาศัยอยู่บนหอนาฬิกาของสถานีรถไฟ และพยายามหาชิ้นส่วนเพื่อซ่อม automaton หุ่นที่เป็นเหมือนตัวแทนสิ่งที่เหลือไว้ของพ่อผู้จากไป ในท้ายที่สุดตัวหุ่นก็ถูกซ่อมให้กลับมาทำงานได้อีกครั้ง และมันก็วาดภาพฉากหนึ่งของหนังอันโด่งดัง A Trip to the Moon ของ Georges Méliès เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญของเรื่องเลยทีเดียว

ภาพที่ Automaton วาดออกมา

เกร็ดหลังจากได้ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ automaton ในหนัง Hugo ก็ไม่แปลกใจเลย ที่หนังเรื่องนี้ก็ได้รับแรงบรรดาลใจมาจากหุ่น Jaquet-Droz automata และหุ่นกลไกตัวนั้นถูกสร้างโดยนักสร้างพร๊อพ Dick George และมันสามารถทำงานได้จริง ตัวหุ่นถูกควบคุมผ่านคอมพิวเตอร์ที่อยู่ใต้โต๊ะ มือของหุ่นถูกเชื่อมต่อกับกลไกผ่านชุดแม่เหล็ก มันสามารถวาดภาพทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบได้ แต่ใช้เวลานานถึง 46-47 นาที

อยากรู้ว่ามีใครชอบหนังเรื่องนี้เหมือนกันไหมนะ

สิ่งประดิษฐ์มหัศจรรย์ นวัตกรรมของโรงงานอุตสาหกรรม

ปัจจุบันอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เป็นโรงงานผลิตสินค้า มีการแข่งขันที่ดุเดือดและเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ยุทธวิธีอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการ สามารถเข้าไปแข่งขันในตลาดโลกได้ เทียบเท่ากับต่างประเทศ คือ การใช้เทคโนโลยี เข้ามาช่วยในการผลิตสินค้าและบริการ หรือที่เรียกว่า การใช้งานเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมสนับสนุน โดยเฉพาะด้านการออกแบบและจัดสร้างระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติ เพื่อนำมาใช้ในกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรม 

แต่ต้องยอมรับว่า ประเทศยังกำลังพัฒนา เทคโนโลยีนี้ เพื่อให้เข้าสู่ตลาดโลกให้ได้ ยังคงใช้งานเทคโนโลยีที่รับมาจากต่างประเทศ ซึ่งมีต้นทุนและค่าซ่อมบำรุงที่สูง ยังไม่มีนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่สร้างขึ้นเอง ในประเทศไทย ถึงแม้ปี 2018 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ทำการก่อตั้งแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับระบบการทำงานของเทคโนโลยีแบบอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ประกอบการ มีความเข้าใจและมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลมากขึ้น เพื่อเปิดโลกอุตสาหกรรม ที่มุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมการผลิต ซึ่งกำลังพัฒนาต่อไปให้ดีขึ้น

นวัตกรรมของโรงงานอุตสาหกรรม มีผลต่อการดำรงชีวิตอย่างไร

ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา มีอุตสาหกรรม ผลิตเครื่องจักรกล เครื่องยานยนต์  รวมถึงเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เป็นหนึ่งในการส่งออกที่สำคัญ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้โรงงานอุตสาหกรรมดังกล่าว ต้องผลิตเครื่องมือเป็นจำนวนมาก จึงต้องใช้แรงงานคนเป็นจำนวนมากเช่นกัน

แต่ปัญหาด้านการขาดแคลนแรงงานก็เป็นปัญหาอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะสถานการณ์ปัจจุบัน ที่มีโรคระบาด โควิด 19 ที่คนงานทั้งหลาย ต้องพักกักตัวอยู่ที่บ้าน เพื่อระงับการแพร่กระจายของเชื้อ อีกทั้งงานบางประเภทก็มีการทำงานซ้ำซ้อน หรือเป็นงานที่เสี่ยงและอันตราย จึงมีผู้ที่เห็นปัญหาเช่นนี้ แล้วผลิตนวัตกรรมขึ้นมาชนิดหนึ่ง เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น เรียกว่า หุ่นยนต์ อุตสาหกรรม

ถือเป็นนวัตกรรมหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร หุ่นยนต์นี้ก็สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่เจ็บไม่ป่วยง่ายเหมือนมนุษย์ แถมยังทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์อีกด้วย แถมยังมีอดทนต่อสภาพแวดล้อมไม่ว่าจะร้อน หรือหนาว เจ้าหุ่นยนต์นี้ก็ไม่บ่น  และยังคงทำงานต่อไป  ถ้าเทียบอัตราการทำงานแล้ว หุ่นยนต์หนึ่งตัวเทียบเท่าการทำงานของคนถึง 10 คน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของหุ่นยนต์นั้นๆด้วย ด้วยเหตุนี้ หุ่นยนต์จึงถูกนำมาใช้แทนที่มนุษย์ และให้มนุษย์เป็นผู้ควบคุมแทน

แต่อย่างไรก็ดี จำนวนเงินลงทุนเกี่ยวกับหุ่นยนต์ที่จะนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น การสั่งซื้อหุ่นยนต์และการจัดจ้างบุคลากร ก็ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะปัจจุบันที่ความต้องการของท้องตลาดที่ต้องการเพิ่มกำลังการผลิตจึงมีการแย่งกันซื้อหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมไหนมีงบมากก็จะได้เปรียบในส่วนนี้ นอกจากนี้ยังมีค่าบำรุงรักษาหุ่นยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมออีกด้วย ว่าการสั่งซื้อมากยากแล้ว ต้องมีค่าบำรุงรักษาอีกด้วย เช่นนี้อุตสาหกรรมต่างๆต้องมีการบริหารจัดสรรงบของตัวเองให้ดี เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาภายหลัง

โดยปัจจุบันนี้นวัตกรรมหุ่นยนต์ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จากระบบที่ทันสมัยมากขึ้น ทั้งระบบอัตโนมัติต่างๆ หรือระบบการทำงานได้หลายอย่าง เกิดเป็นหุ่นยนต์ใหม่ๆ ที่ผลิตออกมามากขึ้น และยิ่งมีหุ่นยนต์ที่ดีมากเท่าไร ก็เป็นการเปิดโอกาสให้โรงงานอุตสาหกรรมนั้นๆ ได้ผลิตชิ้นงานได้อย่างหลากหลายตอบสองต่อความต้องการของท้องตลาด รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งวันนี้ จะขอแนะนำให้รู้จักกับนวัตกรรมต่างๆที่มีใช้ในอุตสาหกรรม ดังนี้

4 นวัตกรรมหุ่นยนต์ ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตในอุตสาหกรรม

เชื่อว่าโรงงานหลายๆโรงงาน ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ สิ่งที่โรงงานต้องการมากที่สุดคือ การผลิตสินค้าให้ได้จำนวนมากที่สุด หรือจำนวนที่สอดคล้องกับความต้องการของท้องตลาด ซึ่งการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตนั้น แน่นอนว่าอาจจะต้องเพิ่มต้นทุนในการผลิต แต่การเพิ่มต้นทุนที่คุ้มค่า ในระยะยาว คงหนีไม่พ้น การใช้หุ่นยนต์ช่วยในการผลิต ซึ่งหุ่นยนต์ที่ใช้ในโรงงาน มีดังนี้

1. หุ่นยนต์อเนกประสงค์

โดยส่วนมาก หุ่นยนต์ชนิดนี้ จะถูกพัฒนามาเป็น แขนหุ่นยนต์ เพื่อใช้ในการหยิบจับสิ่งของ และใช้ขนส่ง ช่วยส่งต่องานให้งานไหลลื่น นอกจากนี้สามารถติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อให้หุ่นยนต์ชนิดนี้ทำงานอย่างอื่นนอกจากการหยิบจับหรือส่งต่องานได้ด้วย เช่น งานตรวจสอบต่างๆ  

หุ่นยนต์อเนกประสงค์นี้ เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่จำกัด มีพื้นที่ใช้สอยที่แคบ ตัวหุ่นยนต์มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย และทนต่อสภาพแวดล้อม เช่น Nachi MZ07 ที่ใช้พื้นที่เพียงเล็กน้อยในการติดตั้ง ตัวเครื่องมีระบบป้องกันฝุ่นและหยดน้ำ เหมาะสำหรับการติดตั้งที่ง่าย ไม่ต้องจัดสรรหาพื้นที่มากมาย ทำงานได้รวดเร็ว แถมยังรองรับการทำงานระบบ ออโตเมชั่น ที่ง่ายต่อการออกคำสั่งของผู้ใช้งาน

2. หุ่นยนต์เชื่อม

นับเป็นหุ่นยนต์สำคัญ ที่มีส่วนช่วยในอุตสาหกรรมการผลิตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะโรงงานส่วนใหญ่ต้องใช้หุ่นยนต์ประเภทนี้ ช่วยในการผลิตยานยนต์ต่างๆให้สอดคล้องกับความต้องการของท้องตลาด  

ซึ่งมีลักษณะเป็นแขนหุ่นแบบตั้งโต๊ะ มีส่วยปลายแหลมเป็นหัวเชื่อมเหล็ก โดยส่วนมากจะทำงานร่วมกับระบบสายพานที่จะทำหน้าที่ส่งสิ่งของที่จะเชื่อมมายังระยะที่เหมาะสมกับแขนหุ่น และทำการเชื่อมแบบอัตโนมัติ ตามจุดที่ต้องการ และแน่นอนว่า หุ่นยนต์นี้ทำได้แม่นยำและรวดเร็วกว่ามนุษย์  เช่น Fanuc ARC Welding Robot หุ่นยนต์เชื่อมไฟฟ้า ซึ่งรับน้ำหนักได้ถึง 20 กิโลกรัม สามารถยื่นได้ยาวถึง 2 เมตร เชื่อมได้ทั้งไฟฟ้า เลเซอร์ หรือจะใช้เป็นงานตัดประเภทต่างๆได้

3. หุ่นยนต์จัดเรียงสินค้าและวัสดุ

เป็นหุ่นยนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างดี เนื่องจากมีการใช้งานทั้งในโรงงานและโกดังต่างๆ เป็นหุ่นยนต์ที่ถูกพัฒนามาขึ้น เพื่อจัดเรียงสินค้าในโรงงาน โดยเฉพาะในโรงงานใหญ่ๆที่มีผลผลิตมาก มีการพัฒนาหุ่นยนต์ตัวนี้ขึ้นมาใช้เอง ก็ได้แทนการใช้แรงงานมนุษย์ในการทำงาน

หน้าที่และบทบาทของหุ่นยนต์ชนิดนี้ สามารถทำให้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับการใช้งานในแต่ละโรงงาน และโดยทั่วไปแล้วจะมีหน้าที่หลักๆ ดังนี้  ทำหน้าที่จัดเรียงสินค้าลงกล่อง  ทำการแพ็จเกจหรือห่อสินค้า  ทำการจัดเรียงกล่องสินค้าลงบนพาเลท  หรือทำการยกและเคลื่อนย้ายพาเลทไปยังจุดต่างๆ  และขนส่งวัสดุต่างๆในโรงงาน  ด้วยลักษณะการทำงานจะเห็นว่า หุ่นยนต์ชนิดนี้หลายรุ่น สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ ในวงกว้างหรือพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำการขนส่งชิ้นงานให้ดำเนินการขั้นตอนการผลิตต่อไป และนอกจากนี้ยังมีความคิดที่จะพัฒนาหุ่นยนต์ในรูปแบบโดรน ขึ้นเพื่อทำการขนส่งสินค้าในโรงงานด้วยการบินอีกด้วย

4. หุ่นยนต์ตรวจสอบความปลอดภัย

ปัจจุบันมีอุตสาหกรรมมากมาย ดังนั้น ความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากขึ้น สำหรับอุตสาหกรรมหลายที่ งานบางงานที่ต้องทำ อาจเสี่ยงหรืออันตรายมากเกินไป หากให้มนุษย์เป็นผู้ดำเนินการด้วยตัวเอง หรือเป็นจุดที่มนุษย์ทั่วไปเข้าถึงได้ยาก ทำให้เกิดความยากลำบากในการทำงาน ด้วยเหตุผลนี้ หุ่นยนต์ชนิดนี้ จึงถูกออกแบบและพัฒนามาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานภายในโรงงาน ซึ่งบทบาททั่วไปของหุ่นยนต์ชนิดนี้ คือ ตรวจสอบ ซึ่งการตรวจสอบในที่นี้ จะเป็นการตรวจสอบที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ เช่น การตรวจสอบสารพิษที่รั่วไหลในโรงงาน ตรวจสอบระบบไฟฟ้าว่ามีความปลอดภัย ไม่มีไฟฟ้ารั่วไหล ด้วยอินฟาเรดหรืออุปกรณ์อื่นๆ ตรวจสอบปล่องควันหรือจุดที่อยู่สูง ตรวจสอบวัสดุในโรงงานหรือความพร้อมของวัสดุต่างๆ ที่ต้องใช้ในโรงงาน ซึ่งหุ่นยนต์ชนิดนี้ มีทั้งทำงานได้ด้วยตัวเอง และทำงานด้วยระบบที่มีมนุษย์ควบคุม

เมื่อเทคโนโลยี เข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตประจำวันมากขึ้น ความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันก็มากขึ้น โดยเฉพาะในโรงงานที่ต้องทำการผลิตให้มากขึ้น ที่มากเกินความสามารถของมนุษย์ทั่วไปที่จะทำให้ แต่มนุษย์สามารถพัฒนาและสร้างสิ่งที่ปฏิบัติแทนตัวเองได้ขึ้นมา ให้ในโรงงานเพื่อช่วยในการผลิต และแน่นอนว่า สิงที่พัฒนาและสร้างขึ้นมานั้น ทำหน้าที่แทนมนุษย์ได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และอดทนต่อสภาพต่างๆได้กว่ามนุษย์อีกด้วย

วิธีซื้อ Bitcoin ฉบับมือใหม่ ที่อยากลองมีเก็บไว้บ้าง

วิธีซื้อบิตคอยน์ Bitcoin ฉบับมือใหม่

Bitcoin trading

ออกตัวก่อนว่าผู้เขียนไม่ได้มีความเชี่ยวชาญอะไรเลย มือใหม่เหมือนกัน Lifestyle เป็นพวกดูหนังอ่านหนังสือเสียมากกว่า แต่อยากรู้ว่า cryptocurrency เขาซื้อขาย หรือทำงานยังไง ไม่ได้หวังกำไรหรือลงทุนอะไร ใช้เงินเพียงหลักร้อยในการซื้อ เสียหายหรือขาดทุนไปไม่ได้เดือดร้อน ส่วนใครอยากศึกษาหาความรู้ต่อเพื่อหวังลงทุนต่อก็ถือว่าอันนี้เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นก็แล้วกัน

เริ่มกันเลย

  1. ก่อนจะเก็บเงินดิจิตอลก็ต้องมีกระเป๋าดิจิตอลก่อน มีให้เลือกหลากหลายเจ้า เช่น Coinbase, Blockchain, Binance อื่น ๆ มีให้ใช้ผ่านแอพบนมือถือหรือผ่านบราวเซอร์ในคอม รีวิวจากหลายเจ้าบอกว่า Coinbase ดีสุด แต่เท่าที่ลองเล่น ๆ เหมือนว่า Coinbase, Blockchain จะไม่รองรับในไทยหรือเปล่าไม่รู้ เพราะทำธุรกรรมไม่ได้เลย สุดท้ายมาลงตัวที่ Binance ใช้ค่อนข้างง่าย และซื้อบิตคอยได้ ส่วนของในไทยไม่ได้ลองใช้เลยครับ

2. สมัครสมาชิก ยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย ใช้อีเมลหรือเบอร์มือถือในการสมัครก็ได้

สมัครสมาชิก ใช้ Referral ID ของคนเขียนได้นะครับ G2IHKVGI

3. เริ่มซื้อบิตคอยน์ได้เลย ได้ลองซื้อ 2 แบบ คือ 1. ซื้อโดยตรงผ่านบัตรเครดิตหรือโอนผ่านธนาคารมีขั้นต่ำ 15 USD และ 2. ซื้อแบบ P2P คือซื้อผ่านคนประกาศขายในบอร์ด ซึ่งรองรับการโอนเงินหรือทรูมันนี่แล้วแต่คน แต่ซื้อแบบนี้เป็นการตกลงราคากันเองทำให้ส่วนใหญ่ราคาจะสูงกว่าตลาดกลาง แต่ก็สามารถซื้อขั้นต่ำในหลักไม่กี่ร้อยบาทได้ (ต้องเลือกดูเอง)

ซื้อผ่านบัตรเครดิตหรือโอนเงินผ่านธนาคารเข้าบัญชีตัวเองในระบบ ขั้นต่ำ 15 ดอลล่าร์
ประกาศขายแบบ P2P ราคาขั้นต่ำหลักร้อย

4. เมื่อซื้อขายผ่าน ก็จะได้บิตคอยน์มาเชยชมในกระเป๋าดิจิตอล สามารถเอาที่อยู่กระเป๋าไปให้คนอื่นฝากเงินดิจิตอลมาให้ก็ได้นะ

ยอดเงินบิตคอยน์ในกระเป๋า BTC
ที่อยู่กระเป๋า BTC ของคนเขียน 1Dg1ENduUfp95wU4wiE3XaiokXkQ4k15eM

รีวิวหนังสือ Rita Hayworth and Shawshank Redemption

รีวิวหนังสือ เรื่องสั้นขนาดยาว Rita Hayworth and Shawshank Redemption
โดย Stephen King

รีวิว เรื่องสั้นขนาดยาว Rita Hayworth and Shawshank Redemption ของ Stephen King

น่าจะเป็นเหมือนคนส่วนใหญ่ที่ได้ดูหนัง Shawshank Redemption มาก่อนแล้วค่อยได้อ่านต้นฉบับที่เป็นหนังสือ หนังติดอันดับหนึ่งหนังยอดเยี่ยมตลอดกาลของ IMDB แบบที่ยังหาหนังเรื่องไหนมาล้มไม่ได้ วันนี้อ่านฉบับหนังสือจบแล้วจึงมาเขียนบันทึกแบบสั้น ๆ เก็บไว้ ส่วนใครสนใจหนังสือเล่มอื่น ๆ ตามไปอ่านได้ที่รีวิวหนังสือ

ก่อนอื่น ขอเริ่มแบบนี้เลย หลายคนอาจสงสัยว่าหนังชื่อ Shawshank Redemption แต่หนังสือชื่อ Rita Hayworth and Shawshank Redemption แล้ว Rita Heyworth คือใครอ่ะ? (ตอนแรกก็สงสัยเหมือนกัน)

คำตอบคือ เธอคือดาราที่อยู่บนโปสเตอร์ใบแรกที่ Andy สั่งจาก Red มาติดผนังของห้องขังซึ่งมีส่วนสำคัญในเรื่องมาก ๆ ที่จริงแล้วโปสเตอร์ถูกเปลี่ยนเป็นดาราหลายคนเลยทีเดียว ซึ่งคนสุดท้ายคือ Linda Ronstadt

โปสเตอร์ติดผนัง

ในหนังมีเปลี่ยนรายละเอียดหลายอย่างต่างจากหนังสือพอสมควร เช่น จุดจบของพัสดี เรื่องของ Tommy เด็กที่หนุ่มที่ได้ยินเรื่องราวของ Andy จากเพื่อนห้องขังจากที่อื่น แม้แต่เรื่องราวของ Red ก็ถูกเปลี่ยนเล็กๆน้อยๆ รายละเอียดการต่อสู้คดีของ Andy มีรายละเอียดมากขึ้น ไม่ได้รวบรัดเหมือนฉบับหนัง

แม้ว่าในรายละเอียดจะแตกต่างกันบ้างระหว่างหนังและหนังสือ แต่กลับพบว่าทั้งสองเวอร์ชั่นดูกลมกลืนกันมากๆ พอมาคิดดูก็สรุปได้ว่า ในแต่ละซีนที่สำคัญ ๆ ในหนัง ไดอะล็อกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเขายกในฉบับหนังสือมาใช้ทั้งดุ้นเลย ไม่มีการตัดหรือดัดแปลงเลย คำต่อคำเลยทีเดียว ทำให้หัวใจหลักของเรื่องราวมันจึงดูสมบูรณ์ตามแบบของต้นฉบับมาก ๆ คิดว่าส่วนหนึ่งอาจเพราะ Stephen King เข้ามามีส่วนร่วมในการเขียนบทด้วย ทุกอย่างเลยลงตัวมากๆ มีความกลมกลืนกันทั้งหนังสือและหนัง

สรุปส่งท้าย ถ้าชอบฉบับหนัง ตามไปอ่านฉบับหนังสือรับรองว่าจะไม่ผิดหวังครับ

Rita Hayworth and Shawshank Redemption Review

Rita Hayworth and Shawshank Redemption
by Stephen King

Rita Hayworth and Shawshank Redemption

For my Shawshank Redemption review, I am the most people who watched the Shawshank Redemption movie (and we love it, it is all time top-rated movie in IMDB) before reading the original book. The book gave us more details, the story of Andy’s crime was made clearer, he tried to fight the case very hard. Despite losing in the end, and finally made him be a prisoner of Shawshank. After comparing the book and the movie, I found that the movie has changed some details and went further than the book did, such as the end of Norton, the story of William. But in each important scene in the movie, they used the book’s dialogs, not cut even adapted it that made the movie kept the messages of the book so completely. However, I like them both.

For someone who might doubt who Rita Hayworth is?, how she was involved in this story?. because the title of the movie cut Rita Hayworth out to be just “Shawshank Redemption.” And the answer is, Rita Hayworth is the name of the model in the first poster that Andy hung on the wall of Cellblock no.5, It is the object that was very important in the story. It was showed how Andy broke the Shank even though, in the end, the last poster was Linda Ronstadt.

Rita Hayworth

The main idea of the book we can found in the letter that Andy wrote to Red.

“Remember that hope is a good thing, Red, maybe the best of things, and no good thing ever dies.”

see more about movies contents

The Handmaid’s Tale, a TV show is based on the book

The Handmaid’s Tale

The Handmaid’s Tale is Margaret Atwood’s dystopian novel published in 1985. The book was adapted as a television series on the streaming service Hulu, but we can now watch it on HBO GO.

It is one of the most dramatic and serious novels (for me). The plot is set in New England in the near future. It seems that after they lost a war, the country was under control by a strongly patriarchal and dictatorial government.

A handmaid is a woman from that country who is forced to “produce” children for commanders or leaders. You will see the book explain “the ceremony”, a highly ritualized sexual act where the husband is having sex with a handmaid while his wife is there to manage that ceremony.

The handmaids are restricted from freedom. Their accommodation is like a concentration camp. The government treats handmaids like an animal with only one purpose: to produce children for them.

The novel reflects the raw nature of human beings but acts like they have a noble culture (eventually are not). When I knew they were making a TV series, I couldn’t even watch a trailer (hopefully one day I can do that).

I also have some content about HBO series please check.

Exit mobile version