50 สุดยอดเว็บไซต์ ประจำปี 2012 คัดเลือกโดยนิตยสาร TIME

50 Best Websites 2012

เว็บไซต์ของนิตยสาร TIME จะรายงาน 50 สุดยอดเว็บไซต์ (50 Best websites ) เป็นประจำทุกปี เพราะมีเว็บไซต์ใหม่ๆ บริการออนไลน์ใหม่เกิดขึ้นทุกปี หรือบางทีก็ปรับปรุงเว็บไซต์เดิมใหม่จนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิมให้จดจำ แต่ทุกๆคนก็พยายามที่จะพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นตลอดเวลา เช่น เร็วขึ้น ประหยัดเงิน ประหยัดเวลามากขึ้น อำนวยความสะดวกมากขึ้น หรือบริการรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย นิตยสาร TIME นั้นค่อนข้างคัดเลือกเว็บไซต์ได้ดีมากๆ เป็นเรื่องน่าเสียดายถ้าเราไม่เอามาบันทึกเก็บไว้ ต้องยอมรับว่าหลายเว็บไซต์พึ่งจะเคยได้ยินชื่อเหมือนกัน แต่พอเข้าไปสำรวจพบว่าเป็นเว็บไซต์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ โดยเฉพาะในหมวด Web Tools ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานที่ต้องพึ่งอินเทอร์เน็ตแทบจะตลอดเวลาของยุคนี้เป็นอย่างดี ขอเชิญชวนให้ท่านลองเข้าไปสำรวจเว็บไซต์สุดยอดเหล่านี้ดูครับ จะได้รู้ว่าเว็บไซต์ดีๆ ไม่ได้มีแค่ Google, Facebook, Twitter …

50 สุดยอดเว็บไซต์ ประจำปี 2012

แบ่งตามหมวดต่างๆ ได้ดังนี้ (อยากทราบรายละเอียดของแต่ละเว็บไซต์เข้าไปดูได้ที่ที่มาท้ายเรื่อง) Web Tools

Entertainment

Game

Education

News and Information

Family and Kids

Shopping

คำคม หมวดการอ่าน

ได้หนังสือเกี่ยว “คำคม” จากงานสัมมนาแห่งหนึ่งมาครับ เป็นหนังสือเล่มเล็กๆ ข้างในมีคำคมหลากหลายหมวด เช่น หมวดความรู้ หมวดวิทยาศาสตร์ หมวดศิลปะ หมวดอุดมการณ์ เป็นต้น ในหนึ่งคำคมจะมีถึง 3 ภาษาให้ได้อ่านกัน ได้แก่ ไทย อังกฤษ และจีน

พอได้อ่านแล้วมันช่างเพลิดเพลินและกินใจเหลือเกิน จึงอยากเอามาแชร์ต่อให้คนอื่นได้อ่านบ้าง ในหนังสือไม่ได้อ้างถึงว่าคำคมเหล่านี้ใครเป็นคนคิดหรือพูดไว้แต่อย่างใด หรือบางทีอาจจะหาที่มาไม่ได้แล้วก็เป็นได้

ขออนุญาติคัดหมวดที่เกี่ยวกับการอ่านมาให้ได้ดูดดื่มกันก่อนครับ คัดมาเฉพาะคำคมที่ตัวเองชอบเป็นการส่วนตัวครับ

หนังสือ คำคม
หนังสือ คำคม

หนังสือคือที่ปรึกษาใกล้ตัว
Books are the advisor in hand anytime.

หนังสือและเพื่อนไม่จำเป็นต้องมีมากแต่ต้องดี
Books and friends should be few but good.

หนังสือคือขั้นบันไดแห่งความก้าวหน้าของมนุษย์
Books are a flight of stairs for the human progress.

การพิจารณาหนังสือเพียงหนึ่งหน้าย่อมดีกว่าการกวาดตาหนังสือทั้งเล่ม
Digesting a page of book carefully is beter than reading a book hurriedly.

หนังสือเก็บซ่อนจิตวิญญาณแห่งอดีต
The soul of the past times hides in the books.

หนังสือทุกเล่มมีไว้เพื่อช่วยเสริมสร้างความคิด หากไม่ได้มีไว้เพื่อแทนที่ความคิดของคุณ
All books are written for helping your idea but not for replacing your idea.

หนังสือที่ดีควรมอบประสบการณ์จำนวนมากให้แก่คุณรวมทั้งความเหนื่อยล้าเพียงเล็กน้อยเมื่ออ่านจบ เพราะคุณผ่านการใช้ชีวิตมาหลายชีวิตขณะอ่านมัน
A great book should leave you with many experiences, and slightly exhausted at the end. You live several lives while reading it.

หนังสือไม่ได้มีไว้เพื่อประดับบ้าน แต่ก็ไม่มีเครื่องประดับชิ้นไหนจะงดงามเท่าหนังสือ
Books are not made for furniture, but there is nothing else that so beautifully furnishes a house.

หนังสือคือสิ่งมหัศจรรย์ที่เก็บซ่อนจิตวิญญาณของนักเขียน เมื่อเปิดหนังสือและปลดปล่อยจิตวิญญาณนั้นออกมา เขาจะแอบสนทนากับคุณอย่างลับๆ
A book is a miracle where the author’s soul is hidden. Open the book and release this soul and it will talk with you mysteriously.

หนังสือที่ไม่ดีก็เหมือนกับเพื่อนเลวๆ ซึ่งอาจสังหารคุณได้
A bad book is like a bad friend, who may kill you.

อ่านหนังสือดีๆ ทุกวันก็เหมือนกับการใช้เปลงเพลิงขจัดความโง่ทั้งหลายออกไปทีละเล็กทีละน้อย
All stupid thing will be gradually method in the reading of good books every day as if by a fire.

วัยเยาว์อ่านหนังสือเหมือนแอบมองพระจันทร์ผ่านช่องหน้าต่าง วัยกลางคนอ่านหนังสือดั่งแหงนมองพระจันทร์ใต้ลานบ้าน วัยชราอ่านหนังสือเหมือนดั่งชมจันทร์อยู่บนหอคอย
Reading in youth is like peeping the moon through a crack; at middle age, like looking over it in a courtyard; at old age, like playing it on platform.

ครั้งแรกที่ฉันได้อ่านหนังสือ ฉันรู้สึกดั่วได้รู้จักเพื่อนใหม่ เมื่อฉันได้อ่านมันเป็นครั้งที่สอง ก็เหมือนกับได้พบเพื่อนเก่า
The first time I read a book, I felt like knowing a new friend. When I read it a second time, it is like meeting with an old friend.

คุณเรียนรู้ความรัก การหัวเราะ และการก้าวเดินจากพ่อแม่แต่เมื่อเปิดหนังสือ คุณจะพบว่าตัวเองมีปีก
From your parent you learn love and laughter and how to put one foot before the other. But when books are opened you discover that you have wings.

ผู้มากด้วยประสบการณ์จะอ่านหนังสือด้วยดวงตาทั้งสองข้าง ข้างหนึ่งมองคำพูดของบนแผ่นกระดาษ ส่วนอีกข้างเห็นความหมายที่มีอยู่ในนั้น
An experienced man reads with two eyes, one seeing the literal word, the other seeing through the back.

หนังสือบางเล่มมีไว้เพื่อลิ้มรส หนังสือบางเล่มมีไว้เพื่อกลืนกิน แต่หนังสือไม่กี่เล่มมีไว้เพื่อเคี้ยวและย่อย ซึ่งนั้นหมายถึงหนังสือบางเล่มมีไว้เพื่ออ่านเพียงบางส่วน หนังสือบางเล่มมีไว้เพื่ออ่านอย่างคร่าวๆ และแน่นอนว่าหนังสือไม่กี่เล่มมีไว้เพื่อใช้สติปัญญาและความตั้งใจในการอ่านทั้งเล่ม
Some books are to be tasted, others to be swallowed, and some few to be chewed and digested; that is, some books are to be read only in parts, others to be read, but not curiously, and some few to be read wholly, and with diligence and attention.

หนังสือ ปลาที่ว่ายนอกสนามฟุตบอล (ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล ภาค 2) อ่านแล้วครับ

หนังสือ ปลาที่ว่ายนอกสนามฟุตบอล

ชื่อหนังสือ ปลาที่ว่ายนอกสนามฟุตบอล (ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล ภาค 2)
เขียนโดย วินทร์ เลียววาริณ
320 หน้า พิมพ์ครั้งที่ 1 : 2554
สำนักพิมพ์ 113
ราคา 215 บาท

หนังสือ “ปลาที่ว่ายนอกสนามฟุตบอล” เป็นภาคต่อของหนังสือ “ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล” ซึ่งผมก็ได้อ่านมาก่อนหน้านี้แล้ว เป็นหนังสือที่อ่านสนุก เป็นการตั้งคำถาม และหาคำตอบจากความรู้ที่เรามี ณ ปัจจุบัน อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ เราชอบเล่มแรก จึงไม่ค่อยลังเลที่จะอ่านเล่มที่สอง แต่ดองไว้นานมากกว่าจะถึงคิวโดนหยิบขึ้นมาอ่าน ถ้าช้ากว่านี้อาจจะหมดสนุกลงไปอีก โดยเฉพาะการตั้งคำถามเกี่ยวกับจักรวาลที่ไม่รู้ว่าชาตินี้เรา(มนุษยชาติ)จะหาคำตอบให้คำถามเหล่านั้นได้หรือไม่ แต่อย่างน้อยช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเรื่องของ Higgs boson (God(damn) particle) เพิ่งจะประกาศว่า “ถ้ามันมีจริง เราก็พบแล้ว!” ก็ช่วยเพิ่มความกระจ่างของคำถามในหนังสือเล่มนี้ได้เสี้ยวหน่อยหนึ่ง(นิดหนึ่งจริงๆ)

ขอแนะนำเลยว่าถ้าใครที่ชอบอ่านหนังสือแนวฟิสิกส์ จักรวาล มนุษย์ต่างดาว อะไรทำนองนี้ จะอ่านช่วงแรกสนุกมาก

นอกจากนี้ ยังมีคำถามเกี่ยวกับ ความเชื่อ ศาสนา การกลับชาติมาเกิด กฏแห่งกรรม จิต และอื่นๆอีก ต้องยอมรับว่าหลายๆคำถามค่อนข้างตรงกับ คำถามในใจของผมเอง และการพยายามหาคำตอบของคุณวินทร์จากข้อมูลที่มี ณ ปัจจุบัน ก็ต้องบอกว่ายอมรับได้กับคำตอบนั้น และค่อนข้างตรงใจ ตรงกับความคิดในหัวของผมพอจะคิดได้

หนังสือเล่มนี้จะอ่านเอาเพลินๆก็ได้ หรือจะเอาไปคิดต่อให้หัวแตกไปเลยก็ยังได้ มันแตกยอดความคิดไปได้ไกลเหลือเกิน ก็เพราะมันออกนอกสนามฟุตบอลไปแล้ว ไปไกลเกินกว่าสามัญสำนึกจะจินตนาการได้

จากใจผู้เขียน(วินทร์ เลียววาริณ) : “นี่เป็นหนังสือที่ดูจะ ‘หนัก’ แต่ไม่หนักเพราะไม่ใช่ตำรา เป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ที่พยายามปรุงให้เสพง่ายที่สุดแล้ว และน่าจะให้ความรู้ในเรื่องวิทยาศาสตร์สายต่างๆ ในระดับหนึ่งที่หาอ่านไม่ค่อยได้ในบ้านเรา เช่น จักรวาลวิทยา ฟิสิกส์ดาราศาสตร์ พันธุกรรมศาสตร์ ฯลฯ ไปจนถึงเรื่อง ‘อจินไตย’ ทั้งหลาย

บางส่วนเก็บความจากหนังสือต่างประเทศที่ไม่ได้รับการแปลเป็นไทย โดยตั้งใจให้เป็นหนังสือคานอำนาจทางปัญญากับหนังสือตระกูลไสยศาสตร์ที่เกลื่อนบ้านกลาดเมืองในเวลานี้!”

เรือของ Ponyo (เรือป๊อกแป๊ก)

มีใครยังจำหนังแอนนิเมชั่นของ Hayao Miyazaki แห่ง Ghibli Studio เรื่อง Ponyo (2008) ได้บ้าง ในเรื่องจะมีฉากหนึ่งที่ “ปอนโย๊ะ!” เสกเรือป๊อกแป๊กของโซสึเกะจากลำเล็กให้เป็นเรือลำใหญ่จนสามารถขึ้นไปนั่งได้เลย น่าประทับใจสุดๆ

เรือป๊อกแป๊ก ฝรั่งเรียก PopPop เป็นของเล่นโบราณ ชื่อของมันน่าจะมาจากเสียงของมันตอนวิ่งชิวไปบนน้ำพร้อมกับเสียง ป๊อกๆๆๆ นั้นแหละ  น่าจะเป็นของเล่นของเด็กในเมืองแหละ เพราะผมอยู่บ้านนอกยังไม่เคยได้เล่นอะไรแบบนี้เลย ขอรำลึกวิธีการเล่นดังนี้ครับ

วิธีการเล่นเรือป๊อกแป๊ก

เรือป๊อกแป๊ก ลำเล็ก

ตอนแรกต้องให้ปอนโย๊ะ! เสกเรือจากลำเล็กๆให้ใหญ่เสียก่อน

ขยายเรือ

พอเรือลำใหญ่แล้ว ก็เอาเรือลงน้ำได้แล้ว

ช่วยกันยกเรือลงน้ำ

ต่อไปดูให้ดี ที่ท้ายเรือจะมีท่อน้ำอยู่นะ

รูท่อน้ำ

ท่อนี้จะนำน้ำไปถึงด้านบนกระเป๊าะตรงโน้นเลยล่ะ

กระเป๊าะน้ำ

เอาล่ะต่อไปก็ต้องเป่าน้ำเข้าไปให้เต็ม

โซซึเกะ เป่าน้ำเข้าไปในท่อ

พอน้ำเข้าไปเต็มแล้ว ก็จุดเทียนเลย

จุดไฟทำเป็นเชื้อเพลิง

ไฟติดแล้ว ก็เอาเทียนไปลนบนกระเป๊าะน้ำ

ขยับเทียนให้ตรงกับกระเป๊าะน้ำ

รอสักครู่ ให้น้ำเดือดก่อนนะ

รอให้น้ำเดือดก่อนนะ

น้ำเริ่มจะเดือดแล้ว!

น้ำร้อนจนเดือดแล้ว

ไอความร้อนมีความดันสูงขึ้น มันก็ต้องหาทางออก ซึ่งทางออกก็อยู่ที่ท้ายเรือไง

แรงดันจากไอความร้อน เริ่มจะผลักออกมาตามท่อแล้ว

ดังนั้นเรือก็เลยถูกดันไปข้างหน้ายังไงล่ะ วิ่งไปเลย

วิ่งไปเลย

ถ้าอยากจะหยุดแล้วล่ะก็ ดับเทียนเลยนะ

เป่าเทียนให้ดับ

ดูเรือในการ์ตูนแล้ว มาดูเรือของจริงบ้างดีกว่า ผมซื้อมาจากคลองถม ราคาประมาณ 100 กว่าบาทมั้ง จำไม่ได้แล้ว ในกล่องมีตัวเรือกับเทียนสองเล่ม ซื้อมาตั้งแต่ช่วงน้ำท่วมปีที่แล้ว(พ.ย. 2554) เพิ่งจะเอามาเล่นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเรือไม่ค่อยเหมือนในหนัง แต่ก็หลักการเดียวกัน

เรือป๊อกแป๊ก ของจริง

ปล่อยลงกะละมัง จุดเทียน น้องๆหนูๆจะเล่นควรให้ผู้ใหญ่ช่วยจุดไฟนะครับ แล้วเรือก็ร้องเสียงดัง พร้อมวิ่งวนรอบอ่างน้ำ อย่าลืมปรับหางเสือด้ายนะ

เอ่าดูคลิปสั้นๆ ถ่ายมามืดมาก แต่ฟังเสียงเอาแล้วกัน

ค้นหาคำศัพท์บัญญัติ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน อังกฤษ-ไทย

ค้นหาคำศัพท์บัญญัติ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน อังกฤษ-ไทย

ถ้าใครต้องเขียนเอกสารวิชาการอย่างเช่น วิทยานิพนธ์ สิทธิบัตร โครงการขอทุน หนังสือ รายงานโครงการวิจัย ฯลฯ อาจจะจำเป็นต้องใช้ศัพท์บัญญัติที่ถูกต้องตามราชบัณฑิตยสถาน ซึ่งทางราชบัณฑิตยสถานก็มีเครื่องมือที่จะช่วยเหลือเราในการค้นหาคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ถูกบัญญัติใหม่ในภาษาไทย โดยอำนวยความสะดวกให้ด้วยการค้นหาผ่านเว็บไซต์  ซึ่ง ณ ตอนนี้ มีคำศัพท์บัญญัติที่ให้บริการ 19 ฐานข้อมูล

  1. ศัพท์คอมพิวเตอร์ อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๖,๔๘๒ ระเบียน
  2. ศัพท์แพทยศาสตร์ อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๓๑,๓๖๕ ระเบียน
  3. ศัพท์รัฐศาสตร์ อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๘,๕๒๗ ระเบียน
  4. ศัพท์การเชื่อม อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๑,๙๒๕ ระเบียน
  5. ศัพท์พลังงาน อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๑,๓๕๐ ระเบียน
  6. ศัพท์ประชากรศาสตร์ อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๔,๗๙๒ ระเบียน
  7. ศัพท์พฤกษศาสตร์ อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๖,๗๓๘ ระเบียน
  8. ศัพท์ปรัชญา อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๑,๒๗๑ ระเบียน
  9. ศัพท์ประกันภัย อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๓,๐๑๑ ระเบียน
  10. ศัพท์วรรณกรรม อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๑,๘๕๙ ระเบียน
  11. ศัพท์ปรับอากาศ อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๑,๘๗๕ ระเบียน
  12. ศัพท์สัทศาสตร์ อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๖๐๔ ระเบียน
  13. ศัพท์นิติศาสตร์ อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๑๕,๔๑๕ ระเบียน
  14. ศัพท์ศิลปะ อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๑,๘๔๕ ระเบียน
  15. ศัพท์เทคโนโลยีสารสนเทศ อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๓,๙๘๑ ระเบียน
  16. ศัพท์ยานยนต์ อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๓,๓๐๖ ระเบียน
  17. ศัพท์ทันตแพทยศาสตร์ อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๓,๕๓๔ ระเบียน
  18. ศัพท์ธรณีวิทยา อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๕,๘๑๑ ระเบียน
  19. ศัพท์คณิตศาสตร์ อังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษ จำนวน ๕,๔๖๑ ระเบียน

ผมได้มีโอกาสได้ใช้งานบ้างในบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่ศัพท์ที่ค่อนข้างเฉพาะทางก็ยังค้นไม่เจอ(เพราะยังไม่บัญญัติ) เราก็จำต้องใช้ทับศัพท์ไป แต่อย่างไรก็ตามบริการค้นหาคำศัพท์บัญญัตินี้ก็ช่วยได้เยอะทีเดียว ดังนั้นควร Bookmark เก็บไว้ครับ

ตัวอย่างการใช้งาน

ทดลองค้นหาคำว่า endothelium

เข้าใช้งานบริการค้นหาคำศัพท์บัญญัติ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน อังกฤษ-ไทย ได้ที่  https://rirs3.royin.go.th/coinages/webcoinage.php

* ถ้าเปิดเว็บไซต์เข้าไปแล้วไม่สามารถอ่านข้อความได้(เป็นภาษาประหลาด) ให้เปลี่ยน encoding เป็น Thai

ผ่าตุ๊กตาบาร์บี้ดูอวัยวะภายใน

ตุ๊กตาบาร์บี้ที่น่ารักของเด็กๆ ทั้งสวยสง่า แต่งองค์ทรงเครื่องได้หลากหลายแบบ เมื่อ Jason Freeny จับตัวเธอมาผ่าดูอวัยวะภายในจะเป็นยังไง ทั้งน่ารักและน่ากลัวปนกันไป หรือถ้าคุณอยากให้ลูกหลานตัวน้อยๆของคุณเป็นหมอก็ซื้อไปให้เล่นตั้งแต่เด็กๆได้เลย โตขึ้นจะได้ชินกับอวัยวะภายใน(ฮา)

แต่ช้าก่อน นี้เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างการผ่าดู Anatomy ผลงานของ Jason Freeny เขายังผ่าตุ๊กตาตัวอื่นๆที่คุณรู้จักดี เช่น มาริโอ้ คิตตี้(ยังโดนเลย) มิกกี้เมาส์ ตุ๊กตาจาก troy story, Star wars ฯลฯ ตามไปดูผลงานของเขาได้ที่ Facebook page แสดงขั้นตอนการทำให้ดูอย่างละเอียดเลยทีเดียว หรืออยากสั่งซื้อเอามาเก็บไว้ดูเล่นก็เข้าไปที่เว็บ Moist Production (น้องบาร์บี้ยังมีแค่เวอร์ชั่น Print อยู่นะครับ)

มาดูตุ๊กตาบาร์บี้โดนผ่า อย่างน้อยผมก็รู้แล้วว่าเธอเป็นผู้หญิงแน่นอน(ฮา)

The Real Anatomy of Barbie
The Real Anatomy of Barbie
The Real Anatomy of Barbie
The Real Anatomy of Barbie
The Real Anatomy of Barbie
The Real Anatomy of Barbie
The Real Anatomy of Barbie

ที่มา: https://www.bitrebels.com  via: https://scienceroll.com

วิเคราะห์การใช้งาน Facebook ของคุณด้วย Wolfram|Alpha

Wolfram|Alpha เป็นระบบค้นหาคำตอบอัจริยะ มันเก่งขึ้นเรื่อยๆ Siri ของ Apple ก็ดึงข้อมูลบางส่วนจาก Wolfram|Alpha ไปใช้งาน ถ้าอยากรู้จักมันให้ดีขึ้นลองอ่านบทความเก่าๆ ใน Tag  Wolframalpha ได้ครับ ผมเขียนถึงมันอยู่บ้างและก็ได้ใช้งานอยู่เป็นระยะ ความสามารถล่าสุดที่น่าสนใจของ Wolfram|Alpha ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปไม่นาน คือ “Facebook report” ครับ ลองมาดูว่ามันทำอะไรได้บ้าง

Facebook report by Wolfram|Alpha

Facebook report คือการวิเคราะห์การใช้งาน Faceook ของเรา โดยละเอียด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ยกตัวอย่าง ผลการวิเคราะห์

  • ข้อมูลส่วนตัว เกิดวันไหน ปีอะไร อีกกี่วันจะถึงวันเกิดอีกครั้ง
  • Activity ในแต่ละปีที่ใช้งานมา อัตราการโพส แชร์ลิงค์ อัพโหลดภาพ
  • ช่วงเวลาที่ใช้งานมากที่สุดในการโพส คำนวณคำที่ใช้โพส มีคีย์เวิร์ดอะไรเยอะที่สุดในโพส
  • เพื่อนคนไหนคอมเม้นต์ ใครแชร์ในโพสของคุณมากที่สุด
  • อัตราการใช้แอฟพิเคชั่น
  • ภาพไหนที่คุณโพสมีการคอมเมนต์และแชร์มากที่สุด
  • อัตราส่วนเพื่อนผู้หญิง-ผู้ชาย เฉลี่ยเพื่อนคุณมีสถานะอะไรบ้าง (โสด,แต่งงาน ฯลฯ)
  • ช่วงอายุของเพื่อน ใครแก่สุด ใครเเด็กสุด
  • เพื่อนอยู่ในประเทศอะไรบ้าง ใช้ภาษาอะไร ศาสนาอะไร
  • และอื่นๆ

วิธีการใช้งาน

เข้าไปที่เว็บไซต์ Wolfram|Alpha พิมพ์คำว่า facebook report ลงในช่องค้นหา enter

Facebook report

จากนั้นก็คลิกปุ่ม “Analyze My Facebook Data” ซึ่งระบบจะขออนุญาติเข้าถึงข้อมูล Facebook ของเราก็กดยอมรับไป สักพักระบบจะดึงข้อมูลของเราเข้ามา และรายงานผลการวิเคราะห์ให้ได้เห็น

Facebook report

ตัวอย่างการวิเคราะห์บัญชีของผมเอง คิดว่าถ้าเป็นบัญชี Wolfram|Alpha แบบ Professional คงจะได้ข้อมูลที่ละเอียดมากกว่า เพราะเทียบกับข้อมูลจากด้านบนของ Stephen Wolfram ของเขาเป็น account แบบ Pro ได้ข้อมูลการเชื่อมโยงของเพื่อน และอื่นๆที่ละเอียดกว่า

นอกจากนี้ยังสามารถกดแชร์ผลการวิเคราะห์ไปที่ social network อย่าง facebook, twitter, google+, linkedin ฯลฯ ได้ทันที

Share ผลการวิเคราะห์

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.wolframalpha.com/facebook

Exit mobile version