กรกฎาคม 2010 - Page 2 of 4

แด่แฟนๆของ Apple : The iPhone Antenna Song

ต้องดูวีดีโอประกอบ ชอบคนร้อง ดูที่ตาเขานะเหมือนจะร้องไห้ ออกแนวน้อยใจ ได้อารมณ์สุดๆ เพลงอัพตอนวันที่ 15 july คิดว่าหลัง Apple แถลงข่าวเรื่องเสาอากาศของ iPhone4 (ว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาและแจก case ให้) ยอดคนดูน่าจะไปเร็วขึ้น เพราะ Steve Jobs เปิดมันก่อนขึ้นเวที อย่าลืมดูที่ chorus ด้วย(แรง) และ ย้ำอีกทีต้องดูที่คนร้อง

The iPhone Antenna Song
by Jonathan Mann

there’s an awful lot of hoopla
around the iphone 4 anttenna
when you grip it with the death grip
and you’re call slips away

the media loves a failure
in a string of success
the facts won’t ever matter
if they can make bigger messes

sure i can make it happen
but in terms of daily usage
i’ve yet to drop a call
so this whole damn thing is stupid

and you can call me a fanboy
i’ve been called worse things
but gizmodo just ridiculous
pulling their anti-Apple strings

you bought a stolen prototype
get over it and move on
or hey even better
let’s all sing this song
chorus: “If you don’t want an iPhone 4/Don’t buy it /If you bought one and you don’t like it/Bring it back.”

Download this song (and any song a day song) at:
https://jonathanmann.bandcamp.com/track/the-iphone-4-antenna-song

via : https://www.wired.com/underwire/2010/07/video-iphone-parody/

ไปดูมาแล้ว Inception จิตพิฆาตโลก

Inception คือหนังที่รอคอยมานาน หลังจาก The Dark Night ลาโรงไป บันทึกอันนี้มีสปอยนะครับ
(นอกจอนิดหนึ่ง) การนอนนั้นในทางการแพทย์มีงานวิจัยรองรับว่ามีการนอนหลายระดับจริง การนอนจะมีวงจรสลับกันเป็นขั้นๆ ข้อสังเกตนี้ได้มาจากการที่เวลาที่เราแอบเงียบหลับไม่กี่ชั่วโมง แต่สดชื่นมากกว่านอนหลายๆชั่วโมงได้ยังไง เขาอธิบายว่าคนที่ถูกปลุกในขณะที่นอนหลับในระดับลึกให้ตื่นทันทีจะรู้สึกว่านอนไม่อิ่ม สมองจะไม่สดชื่น ต่างจากคนที่ถูกปลุกตอนนอนในระดับตื้น จะรู้สึกสบาย สดชื่น ดูอ้างอิง มีโปรแกรมสำหรับปลุกให้สดชื่นด้วยในมือ Symbian ชื่อ HappyWakeUp

Inception คือ หนังที่สร้างกฏในเรื่องขึ้นมาเอง แล้วเดินเรื่องตามกฎที่ตั้งไว้ กฎนั้นดูจะผูกกับชีวิตประจำวันของเราอยู่แล้วนั้นคือ ฝัน
หนังมีรายละเอียดเยอะ ถ้าละสายตาไปสักพัก อาจพลาดรายละเอียดสำคัญของเรื่องไปได้
ช่วงเวลาในฝันยาวกว่าชีวิตจริง หรือเรียกว่าทำอะไรๆในฝันได้มากกว่า ชีวิตจริง 10 นาที ฝันในระดับแรก คือ 1 ชั่วโมง, ระดับที่ 2 คือ 6 เดือน และในระดับที่ 3 คือ 10 ปี แน่นอนว่าในหนังมีฝันทุกระดับเดินเรื่องพร้อมกัน และลึกล้ำกว่านั้น พระเอกและสถาปนิกก้าวเข้าสู่ขั้นที่ 4 ฝันในดินแดนที่พระเอกเคยอยู่จนแก่เฒ่ากับภรรยา
การกระทำอะไรก็ตามในโลกจริงจะกระทบโลกฝัน การกระทำอันใดก็ตามบนฝันระดับสูงกว่าจะกระทบถึงฝันระดับลึกลงไป ดังนั้นการจะโจรกรรม ความคิด(ความลับ) จากเป้าหมาย จึงต้องทำในที่นิ่ง (รถไฟฟ้า, เครื่องบิน) ที่หลับไม่นิ่งจะเกิดความไม่สมดุลเห็นได้ชัดตอนหลับบนรถทำให้โลกลำดับที่สามหมุนไปมา
ในความฝันจะไม่รู้ว่าเริ่มต้นเมื่อไหร่ ส่วนการตื่นคือ ทำได้โดยการ ตกจากที่สูง และตาย แต่การตายมีข้อยกเว้นในการตื่น ถ้าอยู่ในการหลับลึกจะติดอยู่ในห้วงของความฝันอีกขั้นตลอดการ (พระเอกจะตามไปปลุก)
โทเท็ม คืออุปกรณ์ที่พวกติดอยู่กับความฝันสร้างขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองรู้ตัวว่าตอนนี้คือฝันหรือโลกจริง ของพระเอกคือ ลูกข่าง ถ้าเป็นในฝันมันจะหมุนไม่หยุด
ในความฝัน สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ จิตใต้สำนึก เพราะควบคุมไม่ได้ อย่าสร้างฝันจากความทรงจำ
งานปกติของทีมคือการโจรกรรมข้อมูลผ่านทางฝัน แต่ภารกิจใหม่คือ Inception
Inception ในความหมายคือ ปลูกฝังความคิด ในหนังทั้งเรื่องคือการทำ Inception ในคนๆหนึ่ง ผมเรียกมันว่า การทำให้คนๆหนึ่งเชื่ออย่างสนิทใจในสิ่งที่เราต้องการให้เชื่อ
ปฎิบัติการ Inception ต้องทำเป็นทีม มีการวางแผนอย่างรัดกุม ตัวหลักที่สำคัญที่เขาหามาเพิ่มในทีม คือ สถาปนิก(ดูจะสำคัญมาก คือคนออกแบบฝัน โครงสร้าง องค์ประกอบต่างๆ ในฝัน ส่วนผู้คนที่อยู่ในฝันจะถูกสร้างโดยผู้ที่ฝัน) คนปรุงยานอนหลับ(ต้องการ การหลับที่ลึกตื่นยาก) คนปลอมแปลง (แปลงร่างเป็นคนที่ต้องเข้ามาอยู่ในแผนที่วางไว้) ส่วนคนอื่นๆจะเป็นคนช่วยในการปฎิบัติตามแผน ทุกคนต้องเข้าใจกฎต่างๆในฝันเป็นอย่างดี
การทำ Inception มีความเสี่ยงสูง และละเอียดอ่อน มีผลกระทบเป็นลูกโซ่ พระเอกทำให้ภรรยาเชื่อว่า ตัวเองฝันอยู่ ต้องตื่น ผลคืออยู่ในโลกจริงก็คิดว่าตัวเองยังคงฝันอยู่ และต้องตกจากที่สูงเพื่อตื่น (ผลคือตาย) (หรืออาจตื่นก็ได้)
ต้องมีอุปกรณ์เชื่อมความฝันของทุกคนเข้าด้วยกัน โดยจะมีคนที่เป็นเจ้าของฝันอยู่ด้วย ถ้าเจ้าของฝันตื่นก่อน โครงสร้างต่างๆในความฝันนั้นจะพัง
พระเอกเป็นคนมีปม ไม่กล้าฝัน ต้องเป็นคนเข้าไปอยู่ในฝันของคนอื่นๆ ตอนท้ายจะถูกบีบให้ฝัน
Inception เป็นหนังที่เล่าเรื่องฉลาด เดาเรื่องได้ยาก แว็ปหนึ่งผมเดาว่า ชายแก่ต้นเรื่องคือไซโต(ถูก) และเรื่องยังคงอยู่ในจุดประสงค์แรกคือ ขโมยความลับจากเขา (ผิด) ในชั่วแว็ป ผมคิดว่า มอล(ภรรยาของพระเอก) พูดถูกคนที่อยู่ในฝันคือพระเอกไม่ใช่เธอ (ไม่มีคำตอบ)
หนังให้อารมณ์เมื่อดูเสร็จแล้วเหมือนว่า “ตอนนี้กูฝันอยู่หรือเปล่าว่ะ”
หนังที่เมื่อดูจบแล้ว ยังค้างเรื่องให้คิดต่อในหัวอีกพักใหญ่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก หนังของพี่น้องตระกูลโนแลนยังคงทำให้เราตื่นเต้นและทึ่งในเรื่องราวที่เขาบอกเล่า
ตอนจบหนังไม่บอกว่า “พระเอกตื่นหรือยังคงอยู่ในฝัน” แต่มันไม่สำคัญแล้วว่าจะตื่นหรือไม่เพราะที่นั้นคือที่เขามีความสุขและพอใจที่จะมีชีวิตอยู่
หนังเหมือนจะจบอย่างลงตัว แต่เหลือช่องว่างให้คิดต่อได้เยอะ สามารถสร้างภาคต่อได้อย่างสบาย
ผมว่าดูรอบเดียวเหมือนจะไม่เพียงพอสำหรับหนังเรื่องนี้

ตัวอย่าง

https://www.youtube.com/watch?v=S3XzUYd6nrU

“สวัสดีบางกอก” หนังสั้น 9 เรื่อง 9 ผู้กำกับ

มาบันทึกตารางการฉายหนังสั้นชุด “สวัสดีบางกอก” ของผู้กำกับ 9 คน ที่อยากดู วันจันทร์-อังคาร เวลา 20.20 น. ทางทีวีไทย ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ต้องเอาลงปฎิทินไว้กันลืม

หนังแต่ละเรื่องมีจุดร่วมเดียวกันคือ กรุงเทพฯ

วันที่ 19 ก.ค.53 : มาหานคร กำกับโดย บัณฑิต ฤทธิ์ถกล
วันที่ 20 ก.ค 53 : ทัศนา กำกับโดย วิศิษฎ์ ศาสนเที่ยง
วันที่ 26 ก.ค. 53 : หลงแต่ไม่ลืม กำกับโดย ฤทัยวรรณ วงศ์สิรสวัสดิ์
วันที่ 27 ก.ค. 53 : Silence กำกับโดย เป็นเอก รัตนเรือง
วันที่ 2 ส.ค. 53 : Bangkok Blue กำกับโดย อาทิตย์ อัสสรัตน์
วันที่ 3 ส.ค. 53 : เสนห์บางกอก กำกับโดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว
วันที่ 9 ส.ค. 53 : พี่น้อง กำกับโดย ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล
วันที่ 10 ส.ค. 53 : กรุงเทพที่รัก กำกับโดย สันติ แต้พานิช
วันที่ 16 ส.ค. 53 : ผีมะขาม กำกับโดย คงเดช จาตุรนต์รัศมี

มีเกร็ดความรู้มาฝาก จากตอนแนะนำหนังสั้นทั้ง 9 เรื่อง เมื่อวันที่ 12-13 ก.ค. 53 ที่ผ่านมา
คำว่า “บางกอก” อาจเพี้ยนมาจาก “บางเกาะ” เพราะมีเกาะแก่งเยอะ หรืออาจมาจาก “บางมะกอก” เพราะมีต้นมะกอกเยอะ

ตัวอย่าง

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.thaipbs.or.th/

Picasa Web รวม Picnik แก้ไขภาพออนไลน์เข้ามาแล้ว

Google เข้าซื้อ Picnik [แนะนำ]เว็บแก้ไขออนไลน์เมื่อเดือนมีนาคม 2010 [ข่าว] หลายคนคาดการณ์ว่า Google อาจรวมเข้า Picasa ในเร็ววันนี้ ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวแล้ว คือ Google เพิ่มเมนูแก้ไขออนไลน์ด้วย Picnik (Edit in Picnik)เข้ามาใน Picasa Web Albums เป็นฟีเจอร์คล้ายกับที่อยู่ใน Flickr [รายละเอียด] แต่ผมทดลองเล่นดู พบว่าถ้าใช้ภาษาจะใช้งานไม่ได้ ต้องเปลี่ยนภาษาเป็นอังกฤษก่อน เมนูจึงจะคลิกได้

ตั้งค่า Picasa web แสดงภาษาไทย จะใช้งานไม่ได้

ให้เข้าไปตั้งค่าภาษาใหม่ โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า >>ทั่วไป ตรงช่อง การตั้งค่าภาษา: เลือกเป็น English(United States) เสร็จแล้ว save การตั้งค่าให้เรียบร้อย

ทดลองเข้าไปที่รูปใน Album ที่จะลองแก้ไข คลิกที่ เมนู Edit ตอนนี้เมนู Edit in Picnik ก็ Active พร้อมใช้แล้ว หรือจะคลิกที่ปุ่มเล็กๆมุมบนขวาของรูปก็ได้

เมื่อคลิก Edit in Picnik จะเปิด Lightbox ของ Picnik ขึ้นมา ไม่มีบัญชีของ Picnik ก็ใช้งานได้ เมื่อแก้ไขเสร็จแล้ว สามารถ save ลง Picasa Web Albums ได้เลย จะทับของเดิม หรือสร้างรูปใหม่ก็ได้

ตัวอย่างภาพที่แก้ไขด้วย Picnik

แก้ไข และตกแต่งภาพ ด้วย Picnik (คลิกเพื่อดูภาพใหญ่)

ข้อมูล : https://Googlesystem.blogspot.com

เปลี่ยนเครือข่าย ใช้เบอร์เดิมได้แล้ว

ผมรวบรวมข้อมูลมาจากรายการข่าวสามมิติ ช่อง 3 นะครับ รายละเอียดมีดังนี้

เราจะสามารถย้ายเครือข่ายโดยคงใช้เบอร์เดิมได้ ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. 2553
กทช. บอกว่าตอนนี้เราใช้เลขหมายโทรศัพท์ฟุ่มเฟื่อยถึง 63 ล้านเลขหมาย
บริการนี้จะเป็นที่ต้องการของประชาชนอย่างมาก เพราะความต้องการบริการที่แตกต่างกัน และโปรโมชั่นของผู้ให้บริการที่หลากหลาย
ผู้บริโภค คิดว่าการย้ายเครื่อข่ายตามโปรโมชั่นจะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายให้ได้อย่างมาก
คนจำนวนมากจะมีหลายเบอร์เพื่อรักษาเบอร์เดิมไว้ แต่ต้องการใช้โปรโมชั่นที่ถูกกว่า
กทช. คิดว่าการเปลี่ยนเครือข่าย ยังคงใช้เบอร์เดิมได้นั้น จะส่งเสริมให้มีการแข่งขัน และพัฒนาการให้บริการทั้งคุณภาพของบริการ และราคาที่ถูกลงอย่างมาก เพื่อดึงดูดลูกค้า ซึ่งจะทำให้เกิดผลดีกับผู้บริโภคโดยตรง
ขั้นตอนการเปลี่ยนเครือข่าย ผู้บริโภคติดต่อกับผู้ให้บริการรายใหม่ที่เราต้องการไปใช้ ผู้ให้บริการจะทำการตรวจสอบความถูกต้องของเบอร์โทรศัพท์ และตรวจสอบว่าไม่มีการค้างชำระค่าบริการก่อนจึงจะดำเนินการย้าย การยื่นเปลี่ยนเครือข่ายคงเบอร์เดิมจะต้อง เสียค่าธรรมเนียม 99 บาท กำหนดเวลาในการย้าย 3 วันทำการ มีเงื่อนไขต้องอยู่กับเครื่อข่ายใหม่เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน ก่อนที่จะย้ายเครือข่ายได้อีกครั้ง

อ้างอิง : ข่าว 3 มิติ ช่อง 3 ประจำวันที่ 12 ก.ค. 2553

แก้สมการด้วย Wolfram Alpha

เมื่อวาน @ac_nim ส่งสมการของเปรียบเทียบ Rf ของการรันเจลกับ Molecular weight มาให้ กราฟอยู่ในรูปของ log สมการคือ y=-0.035logx+0.1873 สิ่งที่อยากให้ช่วยคือ มีค่า y อยู่ชุดหนึ่งแล้วหาค่า x ให้หน่อย แก้มือหรือใช้เครื่องคิดเลขก็คงได้ แต่สิ่งแรกที่คิดถึง คือ Wolfram Alpha (อ่านรีวิว)ไม่รอช้ายัดสมการเข้าไปให้มัน คำนวณให้ ตัวอย่างเช่น y=0.0308 จึงอยู่ในรูปนี้

0.0308 = -0.035log(x) + 0.1873

ผลการแก้สมการ

เสร็จในเวลาอันสั้น ได้ทั้งกราฟ และค่า x ที่แก้สมการออกมา เปลี่ยนค่า y ไปเรื่อยๆ เสร็จในเวลาอันรวดเร็ว

Wolfam Alpha เหมาะกับทุกคนที่ใช้เป็น แม้แต่นักเรียนเองก็ตาม มันช่วยตรวจทานคำตอบที่ลองคิดเองก่อนได้ แต่ไม่ควรให้มันหาคำตอบให้เดี๋ยวจะกลายเป็นคนคิดเองไม่เป็น

ปล.หน้าแรกมันสวยมาก

9 เรื่องที่ต้องจดจำ ในฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้

การแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2010 ครั้งที่ 19 จบลงแล้ว มีเรื่องที่ต้องจดจำ ทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี 10 ข้อ ในตลอดการแข่งขันหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เอาความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ ใครไม่เห็นด้วยไม่ว่าอะไรครับ เริ่มเลย

9 เรื่องที่ต้องจดจำ ในฟุตบอลโลก 2010

สเปน ได้แชมป์ฟุตบอลโลก และเป็นครั้งแรกของพวกเขา แสดงให้เห็นว่าแชมป์ฟุตบอลโลกไม่ใช่ของทีมเดิมๆ
สเปน คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ภาพจาก fifa.com
หมึกพอล ทายผลทุกนัดที่เยอรมันลงแข่งขัน รวมทั้งนัดชิงแชมป์ถูกต้อง 100% ดูสถิติ
หมึกพอลทายผลฟุตบอลโลกถูก 100% ภาพจาก Reuters
วูวูเซล่า แตรสร้างทั้งความสนุก และเสียงรำคาญ เกมไหนที่เสียงเบารู้สึกว่าคิดถึงมันนะ
vuvuzela วูวูเซร่า ภาพจาก Filckr
จาบูลานี ลูกฟุตบอลที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้อย่างเป็นทางการในฟุตบอลโลก 2010 ไม่ใช้วิธีการผลิตแบบเย็บ กลมที่สุด รับยากที่สุด
Adidas Jabulani รูปจาก Flickr
รอบแบ่งกลุ่ม เกาหลีเหนือ-บราซิล เป็นนัดที่สนุก และได้เห็นฟอร์มอันสุดยอดของเกาหลีเหนือ แม้เกมส์นั้นจะแพ้บราซิลไป 2-1 แต่ได้ใจผมไปเต็มๆสำหรับทีมชาติจากเอเชีย
นัดแบ่งกลุ่ม บราซิลกับเกาหลีเหนือ ภาพจาก fifa.com
ลูกยิงของแลมพาร์ด ในนัดระหว่าง อังกฤษกับเยอรมัน รอบ 16 ทีม เข้าไปแล้วแต่กรรมการไม่ให้เป็นประตู สุดท้าย เยอรมันชนะอังกฤษไป 4-1 อันนี้เป็นความห่วยของฟีฟ่าโดยตรงที่ไม่พัฒนาการตัดสินให้มีประสิทธิภาพสักที
ลูกยิงของแลมพาร์ด ผ่านประตูเข้าไปแล้วแต่กรรมการไม่ให้เป็นประตู ภาพจาก https://www.telegraph.co.uk
หัตถ์พระเจ้าของ Luis Suarez ผู้เล่นทีมอุรุกวัย ใช้มือปัดบอลออกมาจากหน้าประตู แม้เขาจะโดนใบแดงออกจากเกม แต่สุดท้าย กาน่ายิงลูกโทษไม่เข้าและแพ้ในการดวลจุดโทษตกรอบไปอย่าน่าเสียดายผู้เล่นอุรุกวัยใช้มือปัดบอลออกมาจากหน้าประตู
ผู้เล่นอุรุกวัยใช้มือปัดบอลออกมาจากหน้าประตู ถาพจาก fifa.com
Waka Waka เพลงประกอบการแข่งขันฟุตบอลโลก โดย Shakira พร้อมท่าเต้นที่ประยุกต์มาจากเผ่าพื้นเมืองของแอฟริกาใต้
ในประเทศไทย ดูฟุตบอลผ่านจานดาวเทียมไม่ได้ด้วยที่ผิดลิขสิทธิ์ เพราะดาวเทียมยิงคุมพื้นที่หลายประเทศ ทำให้คนแห่ไปซื้อหนวดกุ้งมาดูบอลกันยกใหญ่
หนวดกุ้งขายดี ภาพจาก https://www.pattayadailynews.com

แต่การแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่เอฟริกาใต้ครั้งนี้ สนุกมากครับ เล่นเกมทายผลไปแม้ไม่ได้รางวัลอะไร แต่ก็สนุก แอฟริกาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันได้อย่างเต็มภาคภูมิ อีก 4 ปี ข้างหน้า เจอกันที่บราซิล

แชมป์ฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ คือ สเปน

เราได้แชมป์ฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้แล้ว นั้นคือ สเปน และเป็นการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งแรกของประเทศสเปนด้วย

ผลการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เนเธอร์แลนด์ 0-1 สเปน ต้องต่อเวลาถึง 120 นาที (90 นาทีเสมอ 0-0) คนทำประตูคือ Andres Iniesta ในนาทีที่ 117 หมดเวลาการแข่งขัน ทำให้ สเปน ชนะได้ในครั้งนี้

สถิติที่น่าสนใจในนัดชิงชนะเลิศ

ดูสถิติการแข่งขันเริ่มจากรอบ 16 ทีมสุดท้าย

สถิติการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2010 (คลิกดูภาพใหญ่)

เล่นกันหนัก ใบเหลืองเยอะมาก และผู้เล่นเนเธอร์แลนด์โดนใบแดงไปหนึ่งคน(J.Heitinga) สเปนบุกมากกว่า เนเธอร์แลนด์ก็เล่นได้ดี มีโอกาสทำประตูหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายให้สเปน

เงินรางวัลในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010

$8 million(258 ล้านบาท) – ทีมที่ตกรอบแรก (มี 16 ทีม)
$9 million(291 ล้านบาท) – ทีมที่ตกรอบในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ( มี 8 ทีม)
$14 million(452 ล้านบาท) – ทีมที่แพ้ในรอบ Quarter-final(บราซิล,อาร์เจติน่า,กราน่า,ปรากวัย)
$18 million(582 ล้านบาท)– อันดับที่ 4 (อุรุกวัย)
$20 million(646 ล้านบาท) – อันดับที่ 3 (เยอรมัน)
$24 million(776 ล้านบาท) – รองแชมป์ (เนเธอร์แลนด์)
$30 million(970 ล้านบาท) – แชมป์ (สเปน)

สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเงินรางวัล คือเกียรติยศ และชื่อเสียงของประเทศ ที่ประเมินค่าไม่ได้

ข้อมูล : https://en.wikipedia.org/wiki/2010_FIFA_World_Cup

สถิติการทายผลฟุตบอลโลก ของหมึกพอล ถูกต้อง 100%

ฟุตบอลโลกปี 2010 ที่แอฟริกาใต้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก “หมึกพอล” หรือ “Paul octopus” เป็นหมึกเกิดเมื่อ มกราคม 2008 เพศผู้ อาศัยอยู่ที่ Sea Life Centre ในเมืองโอเบอร์เฮาเซน(Oberhausen) ประเทศเยอรมัน หมึกพอลเริ่มทายผลครั้งแรกในฟุตบอลยูโร 2008 โดยทายผลในคู่ที่มีทีมชาติเยอรมันลงเตะ วิธีการทายผลก็ง่ายๆ คนให้อาหารจะมีกล่องใส่อาหารให้มันเลือกกิน 2 กล่อง โดยกล่องจะติดธงชาติของประเทศที่มีการแข่งขัน ถ้าหมึกพอลเลือกกินอาหารในกล่องใบไหนแสดงว่า มันทายทีมนั้นจะชนะการแข่งขัน มาดูสถิติที่มันทายผลเอาไว้ ในฟุตบอลโลก 2010

สถิติการทายผลบอลของ หมึกพอล ในฟุตบอลโลก ถูกต้อง 100%

ผลคือ ถูกต้อง 100% สุดยอดจริงๆ แต่อย่างไรก็ตาม มีบางคนตั้งข้อสังเกตว่ามันไม่ใช่สิ่งวิเศษอะไร เป็นแค่การทายผลตามสถิติ

ตาม facebook ของ หมึกพอล ได้ที่นี้ https://www.facebook.com/PsychicOctopusPaul

ที่มา : https://en.wikipedia.org

หนังหลังวันสิ้นโลก The Book of Eli และ The Road

ได้ดูหนังเรื่องเกี่ยวกับวันสิ้นโลก 2 เรื่อง คือ The Book of Eli และ The Road พบว่ามันมีจุดเชื่อมกันนิดๆ น่าจะเป็นความตั้งใจ หรือบทหนังมาจากที่เดียวกัน

The Book of Eli (2010)

หนังเล่าเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ชื่อ Eli(Denzel Washington) ในยุคหลังวันสิ้นโลก มนุษย์เหลือรอดเพียงนิดเดียว โลกเปลี่ยนไปแสงที่จากดวงอาทิตย์ทำให้ตาบอดได้ ทุกคนเมื่อออกกลางแจ้งต้องใส่แว่นตาดำ ตลอดทั้งเรื่องทุกคนจะใส่แว่นดำกันเกือบตลอด หนังออกโทนสีเหมือนอยู่ในทะเลทราย Eli ออกเดินทางไปที่แห่งหนึ่งพร้อมกับหนังสือเล่มหนึ่ง ด้วยจุดประสงค์บางประการที่เขาเองก็ไม่รู้ แต่เขารับรู้ว่าเป็นบรรชาจากพระเจ้าให้ต้องทำ มีหลายคนพยายามที่จะแย่งหนังสือเล่มนั้นจากเขา เพราะคิดว่ามันทำให้คนที่ครอบครองมีพลังและอำนาจ ถ้าใครยังไม่ได้ดูและอยากดูก็หยุดแค่นี้เพราะต่อไปจะสปอยแบบหมดเปลือก

มีเรื่องให้เซอร์ไพร์ตอนท้ายนิดหน่อย คือ Eli เป็นคนตาบอด ทั้งที่ตลอดทั้งเรื่องดูไม่ออกเลยว่าตาบอด ต่อสู้ได้เก่งมาก แต่จะบอกเป็นนัยๆว่าตาบอด ถ้าลองย้อนกลับไปดู และหนังสือที่เขานำไปนั้นเป็นคัมภีร์ไบเบิลเล่มสุดท้ายของโลก แต่ตอนท้ายเขาถูกยิงและโดนแย่งหนังสือไป และคนที่แย่งไปได้อ่านไม่ได้ เพราะมันเป็นฉบับอักษรเบลสำหรับคนตาบอด แต่ทุกตัวอักษรในหนังสืออยู่ในหัวเขาหมดแล้ว เขาบาดเจ็บหนักแต่ก็เดินทางต่อด้วยความช่วยเหลือจากผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเคยช่วยไว้ จนถึงจุดหมาย ที่นั้นคือ ห้องสมุดและโรงพิมพ์เป็นที่รวบรวมหนังสือและประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ คำภีร์ไบเบิลคือสิ่งที่พวกเขาค้นหาแต่ไม่เคยเจอ Eli ทำภารกิจของเขาต่อด้วยการท่องคำภีร์ไบเบิลแต่ละบทออกมาให้คนเขียนตาม เมื่อเสร็จเขาก็ตาย

The Road (2009)

หนังที่เล่าเรื่องหลังวันสิ้นโลกเช่นกัน เป็นการใช้ชีวิตและเดินทางของพ่อ(Viggo Mortensen) และลูก(Kodi Smit-McPhee) ในโลกที่ขาดแคลนอาหารสองคนเดินทางเพื่อหวังว่าจะเจออาหารและแหล่งที่อยู่ที่ดี ตลอดทางเจออุปสรรคอันตรายมากมาย ทั้งพวกที่กินเนื้อมนุษย์ วิ่งไล่จับกันมาขังไว้กินประทังชีวิต หนังสร้างเน้นสมจริง ฉากหลังเป็นอเมริกาที่ร้าง ต้องเดินทางเลี่ยงถนนเพื่อเลี่ยงกลุ่มคนไม่ดี

หนังทั้งสองเรื่องไม่ได้เล่ารายละเอียดของการสิ้นโลก แต่มาเล่าเรื่องช่วงของการใช้ชีวิตที่ยากลำบากหลังวันสิ้นโลก ยุคขาดแคลนอาหาร และกินกันเอง จุดที่ผมเห็นว่ามันเชื่อมกันอยู่มีนิดหนึ่ง คือ ระหว่างทางพ่อลูกคู่นี้ได้ช่วยชายตาบอดคนหนึ่งชื่อ Ely แต่เขาไม่ได้เก่งอะไร แม้ชื่อจะไม่ตรงกันซะทีเดียว ผมดู The Book of Eli ก่อน เมื่อมาดู The Road จึงสะดุดความคิด และก็มาบันทึกไว้

ลองค้นดูว่ามีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่า พบว่า Eli หรือ Ely ที่ปรากฎในทั้งเรื่องนั้น หมายถึง Elijah รายละเอียดของเขาในศาสนาคริส มีเยอะ และมีการอ้างถึงเขาแตกต่างกัน ลองอ่านดูยาวมาก