วิธีแก้ไข host file ใน Mac OS X

วิธีแก้ไข Host file ใน Mac OS X อันไหนที่ไม่ได้เขียนไว้มักจะได้ใช้บ่อยๆ คราวนี้ไม่พลาดแล้ว มาเขียนเก็บไว้ดีกว่า ขี้เกียจเปิดดูของคนอื่นแล้ว

วิธีแก้ไข host file ใน Mac OS X

  1. เปิดโปรแกรม Terminal
  2. copy โค้ดนี้ไปวางแล้ว enter
    sudo nano /private/etc/hosts
  3. ใส่พาสเวิร์ดของเครื่อง(พิมพ์ไปเลยมันไม่โชว์)
  4. แก้ไขตามต้องการ
  5. save file กด Control+O กด enter

    Host file เตรียมบันทึก

  6. บันทึกแล้วกดปิด Terminal ได้เลย

ค่อนข้างมั่นใจว่าจะต้องได้ใช้อีกแน่ อยากดูแบบละเอียดไปดูที่นี้ https://decoding.wordpress.com

เที่ยวกรุงเทพฯ ในหนึ่งวัน วัดระฆัง มิวเซียมสยาม เยาวราช

ไปเที่ยวกับเพื่อนๆที่ทำงาน เอาภาพพร้อมบรรยากาศว่าไปเที่ยวไหนมาบ้าง มาให้ชมกันครับ เราเดินทางไปเที่ยวกันตอนวันเสาร์ที่แล้ว 2 ก.ค. ครับ เริ่มที่สนามหลวง มีการจัดงานเนื่องในวันวิสาขบูชา เดินดูนิทรรศการต่างๆเล็กน้อย

ที่สนามหลวง

จากนั้นเข้าไปรอเพื่อนคนอื่นๆในวัดมหาธาตุข้างถนนพระจันทร์ ร่มรื่นดีครับ วันนั้นแดดไม่แรงมาก แต่ก็ร้อนอบอ้าวพอสมควร แต่ดีที่ตลอดทั้งทริปฝนไม่ตก

นั่งรออยู่ใต้ต้นไม้

เมื่อเพื่อนมากันครบแล้ว ก๋็เดินทางต่อ เนื่องจากตรงท่าพระจันทร์ปิดปรับปรุงเลยต้องไปขึ้นเรือข้ามฝากที่ ท่าวัดมหาธาตุ

ท่าวัดมหาธาตุ กับเรือข้ามฝาก

ค่าโดยสาร 3 บาท ขณะนั่งข้ามฝากก็ถ่ายภาพเล่นไปด้วย เรือเราออกจากท่าอีกรำก็จะเสียบแทนต่อเลย

ท่าวัดมหาธาตุ

ขึ้นฝั่งที่ท่าวังหลัง เข้าไปที่ร้านอาหารสั่งข้าวมากิน ระหว่างรออาหารก็ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ไปพลางๆก่อน เป็นอะไรที่มีเสน่ห์มากเลยนะ

เจ้าพระยา ถ่ายจากฝั่งท่าวังหลัง(คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่)
แม้น้ำเจ้าพระยา (คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่)

สั่งอาหารมารับประทาน เอาแรงก่อนออกเดินทาง

กระเพราเนื้อ

เมื่อิ่มท้องแล้ว ก็ออกเดินเท้าไปที่วัดระฆังโฆสิดารามวรมหาวิหาร (วัดระฆัง) ไม่ไกลมากนัก เดินย่อยอาหารพอดี

เดินทางไปวัดระฆัง

เข้าไปไหว้พระในวัดระฆังฯ

ไหว้พระที่วัดระฆัง

ในโบสต์เย็นสบายดีมาก อยากนอนเล่นให้หายร้อนสักชั่วโมงสองชั่วโมงยิ่งนัก

คนเยอะเหมือนกันนะ

จากนั้นออกมาให้อาหารปลา อาหารนก ที่ท่าเรือ

ให้อาหารนก/ปลา

จากวัดระฆังฯ เราไปเที่ยวกันต่อที่มิวเซียมสยาม นั่งแท็กซี่กลับไปฝั่งพระนคร

มิวเซียมสยาม

ค่าเข้าชมเราไปกัน 6 คน ถือว่าเป็นหมู่คณะ ได้ราคาถูกกว่าเล็กน้อย จ่ายสำหรับคนไทย 50 บาท และชาวต่างชาติ 100 บาท ถือว่าคุ้มค่ามากเพราะมีอะไรให้เล่นเยอะ แถมเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ให้เราจับต้อง เล่นได้ จริงๆ

รอชมหนังสั้นแนะนำมิวเซียม

มิวเซียมสยามจะแบ่งเป็นห้องๆ กำหนดเส้นทางให้เราเดินย้ายห้องไปเรื่อยๆ เรื่องราวต่างๆจะผูกระหว่างอดีตกับปัจจุบันเหมือนดั่งเราเดินทางย้อนเวลากลับไป แต่ละห้องมีหนังสั้นอธิบายเรื่องราว ดูสนุก มีมุกฮาๆ ภาพสวย ถ้าเด็กไปน่าจะชอบเพราะมีของให้เล่นเยอะดี

หลุมศพของคนสมัยก่อน
ชาติพันธุ์
จำลองเมืองในอดีต
เรือสำเภาจำลอง ห้องการติดต่อกับนานาประเทศ
เล่นเกมยิงปืนใหญ่
กสิกรรม ทำไร่ ไถนา
ของเล่นจากธรรมชาติ
cafe สมัยโบราณ
เมื่องไทยยุคใหม่

หลังจากสนุกกับมิวเซียมสยามเต็มที่แล้ว ท้องเริ่มหิวอีกแล้ว เลยไปหาอะไรกินกันหน่อยที่ ร้านโรตีมะตะบะ ร้านอยู่ตรงข้ามป้อมพระสุเมรุ

ร้านโรตีมะตะบะ

ร้านค่อนข้างแคบ คนเยอะ มีชั้นสอง แอร์เย็นมาก

โรตี อร่อยดี
มีข้าวหมกไก่ และอาหารที่เป็นมื้อหลักขายเหมือกัน

จากนั้นก็ไปนั่งเล่นที่ สวนสันติชัยปราการ ชมทิวทัศน์ของสะพานพระราม 8 สักพักหนึ่ง

ร่มรื่นดี ที่สวนสันติชัยปราการ

จากนั้นเดินทางต่อไปที่เยาวราช เป้าหมายไปที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร

เยาวราช
วัดไตรมิตรฯ

ขึ้นไปไหว้พระบนเจดีย์

เข้าไปไหว้พระ

เมื่อไหว้พระเสร็จแล้ว พวกเราเดินกลับไปที่ถนนเยาวราช ไปหาอะไรอร่อยๆ กินกัน ร้านที่เลือกก็คือ ร้านฮั่วเซ่งฮง

ร้านอาหารฮั่วเซ่งฮง

สั่งอาหารมากินกันตามที่ชอบ

ทอดหอยอร่อยมาก
อาหารทะเล น้ำจิ๊มอร่อยมาก

นอกนั้นก็มี ทอดซีโครงหมู ผัดหมี่ เป็ดย่าง ฯลฯ พออิ่มท้องแล้ว ออกจากร้านมาฟ้าก็มืดแล้ว เราก็แยกย้ายกันเดินทางกลับบ้าน จากตรงนั้นเลย

เยาวราชตอนฟ้าเริ่มมืด

เป็นการเที่ยวกรุงเทพฯในวันเดียวที่สนุกดีครับ อาจจะเหนื่อยบ้าง ร้อนบ้าง แต่ก็ประทับใจ บางทีเราก็ไม่ต้องออกจากเมืองไปไกลๆ ในเมื่อในกรุงเทพฯเรายังเที่ยวไม่หมดเลย

สวัสดีครับ เจอกันทริปหน้า

iPod Touch ทำอะไรได้บ้างเมื่อไม่มีอินเทอร์เน็ต

iPod Touch music player

ได้ iPod Touch มาโดยบังเอิญ ใช้มาได้เกือบจะ 3 เดือนแล้ว แต่ไม่ได้เขียนถึงมันเลย ตัวที่ได้มาเป็น iPod Touch Gen 4 สีขาว ความจุ 8 GB บางมากจำได้ว่าตอนที่จับครั้งแรกกลัวทำตกมากเพราะมันถือไม่กระชับมือเอาซะเลย แต่พอหาเคสมาใส่ก็ช่วยได้บ้างเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้ถือมันเท่าไหร่จะยัดมันลงกระเป๋ากางเกง บางทีไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่ามันอยู่ข้างในต้องเอามือล้วงดูบ่อยๆ หลังจากที่ใช้มานานพอสมควรเลยอยากจะบันทึกไว้ว่าได้ใช้งานมันคุ้มค่าดังราคาค่าตัวของมันหรือป่าว? เนื่องจาก iPod Touch สามารถที่จะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ผ่านทาง Wifi เท่านั้น ผมจึงจะแบ่งสิ่งที่มันทำได้เป็นสองส่วนคือ แบบออฟไลน์ และแบบออนไลน์ ซึ่งแบบออนไลน์นั้นทำอะไรได้มากกว่าหลายเท่า แต่สิ่งที่เราได้ใช้งานจริงๆกลับเป็นส่วนที่อยู่ในแบบออฟไลน์ซะเป็นส่วนใหญ่ ลองมาดูกันครับว่าผมใช้มันทำอะไรบ้าง เมื่อไม่ได้ต่ออินเทอร์เน็ต

iPod Touch ทำอะไรได้บ้างเมื่อไม่มีอินเทอร์เน็ต (ออฟไลน์)

สิ่งที่มันทำได้ หรือทำได้ดีก็จะขึ้นกับ App ที่อยู่ในเครื่องทั้งที่เป็น App ที่มาพร้อมกับเครื่องและ App ที่โหลดเพิ่มเข้ามา แต่ที่ผมนึกออกและได้ใช้งานจริงๆมีดังนี้ครับ

  1. ฟังเพลง/ดูหนัง
    iPod Touch Gen4 8 GB

    แน่นอนว่ามันคือ iPod เครื่องเล่นมัลติมีเดีย เพลง หนัง นี้คือฟีเจอร์หลักของมัน และผมก็ใช้มันทำสิ่งนี้มากที่สุด เพลงอยู่ในเครื่องมีอยู่ราว 1,000 กว่าเพลง ใช้พื้นที่ไปราว 4 GB กินพื้นที่เยอะที่สุดจากพื้นที่ว่างที่มีให้ใช้งานจริง 6.4 GB แม้ว่าอยากจะฟังเพลงแบบ 320 kbps เป็นอย่างน้อย ซึ่งจะใส่เข้าไปได้ราว 200-300 เพลง ด้วยข้อจำกัดเรื่องของความจุจำกัดเลยต้อง convert ไฟล์ระดับ flac ในเครื่องเป็น 128 kbps AAC แต่เท่าที่ฟังดูก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมายนัก ผมใช้ร่วมกับหูฟัง Sony MDRZX300 นะครับ ประทับใจกับหูฟังตัวนี้มาก เสียงที่ได้กำลังดีเลย ทั้งเบส เสียงแหลม เสียงกลาง เยี่ยม! ส่วนหนังนั้นต้องใช้โปรแกรม HandBrake ช่วยแปลงไฟล์หนังก่อนจึงจะเอาเข้า iPod ได้ เอาลงทดสอบดูแล้วก็เอาออก(เปลืองเนื้อที่) ระบบสั่งงานด้วยเสียงของ iPod ถูกผมใช้งานเพื่อเปิดเพลงมากที่สุด สะดวกมากตอนที่เรามีเพลงในเครื่องเยอะๆ ทำเป็น playlist ไว้ แล้วเลือกเปิดตามใจ ณ ขณะนั้นๆ ตัวอย่างคำสั่งที่ใช้บ่อยที่สุด (กดปุ่ม home ค้างไว้ 3 วินาที) “play playlist …ชื่อ playlist…”

  2. เล่นเกม
    เกม cut the robe

    เกมใน iPod Touch ของผมมีไม่เยอะส่วนใหญ่เล่นจบแล้วก็ลบออก บางตัวยอมจ่ายตังค์ซื้อ ตัวอย่างเกมที่เล่นแล้วชอบ Fruit Ninja, Cut the Robe, Sudoku, Tap Tap Revenge, Infinity Blade, Jetpack joyride เป็นต้น

  3. วาดรูป/ตกแต่งภาพ
    วาดใน SketchBook

    มีโปรแกรมสองตัวที่เอาไว้วาดรูปเล่นคือ DrawCast (ฟรี) และ SketchBook ตัวนี้ยอมจ่ายตังค์ซื้อมาราคาไม่แพง แต่ทำอะไรได้เยอะมาก ถือว่าคุ้มเลยทีเดียว

  4. กล้องถ่ายรูป/วีดีโอ/อัดเสียง
    Photosynth ถ่ายภาพแบบรอบทิศทาง

    กล้องของ iPod ความละเอียด ประมาณ 1.2 MB ถ่ายภาพนิ่งได้ห่วย ถ่ายวีดีโอได้ในระดับ HD ใช้ถ่ายเล่นๆได้ จับ iPod ขึ้นมาสไลด์แล้วถ่ายได้เลย มีโหมด unlock เข้าแอฟถ่ายภาพได้เลย แต่ส่วนใหญ่จะใช้ผ่านทาง App ถ่ายภาพแปลกๆเสียมากกว่า เช่น DMD ทำเป็นภาพ 360 องศา, Photosynth ทำเป็นภาพกึ่งๆ 3D และ Instagram ที่เอาไว้ใส่ฟิวเตอร์แบบเท่ๆ ภาพที่ถ่ายใน iPod Touch ผมทำให้ Sync กับ iCloud ไว้เมื่อต่อเน็ตมันจะอัพโหลดอัตโนมัติสะดวกดี ส่วนการอัดเสียงไม่ค่อยได้ใช้งานเลย เคยลองอัดครั้งหนึ่ง เสียงก็พอใช้ได้ ไมค์ของ iPod Touch อยู่ข้างๆกล้องด้านหลังเครื่องเป็นรูเล็กๆ ถ้าจะอัดเสียงก็ต้องเอารูนั้นไปให้ใกล้แหล่งกำเนิดเสียง รวมทั้งตอนสั่งงานด้วยเสียงเช่นกันก็ต้องเอาไปให้ใกล้ๆไมค์

  5. สมุดโน๊ต/เตือนความจำ
    บันทึกส่วนตัว

    กลายเป็นว่าจดอะไรลง iPod เยอะมากเพราะเวลาคิดอะไรออก อยากจะจดไว้ที่ไหนสักที่แบบเร่งด่วน ทิ้งไว้นานกลัวลืม iPod Touch กลายเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้มือที่สุด จดง่ายสุด แถม Sync ขึ้น Google กับ iCloud ไว้ให้ด้วย พวกหมายเลขอะไรแปลกๆที่ไม่รู้จะจดไว้ที่ไหน จะอยู่ในนี้หมด เช่น รหัส wifi , serial ของกล้อง, หมายเลขสมุดบัญชีธนาคาร ฯลฯ ส่วน Reminder นั้นใช้บ้างเป็นบางครั้ง นานๆเปิดเข้าไปดูที ส่วนใหญ่เป็นการเตือนความจำว่าอยากทำอะไร แต่ไม่ได้สำคัญมากนัก เช่นเขียนบล็อกเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีกว่า คือไม่เขียนก็ไม่เสียหายอะไร พอทำเสร็จก็ค่อยลากทิ้ง

  6. ดิกชันน่ารี
    ดิกชันนารี ใน iPod Touch

    ใน iPod Touch ของผมใช้ดิกชันน่ารีของ Longdo Dict ซึ่งแปลได้ทั้งอังกฤษ-ไทย และไทย-อังกฤษ ซึ่งอันหลังต้องต่อเน็ตก่อนถึงจะทำงานได้ แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะใช้งาน อังกฤษ-ไทย โดยเฉพาะตอนนอนดูหนังในคอม จะ pause หนังไว้เพื่อมาเปิดศัพท์เนี้ยก็ขัดจังหวะเกิดไป ดิกชันน่ารีใน iPod Touch เลยกลายเป็นหนึ่งอุปกรณ์ที่ต้องถือไว้ตอนดูหนัง

  7. เครื่องคิดเลข
    เครื่องคิดเลขอย่างง่าย

    เครื่องคิดเลขใน iPod Touchจะถูกใช้งานมากที่สุด ตอนหลังอาหารมื้อที่ไปกันหลายคน แล้วต้องช่วยกันจ่าย เคยโดนเพื่อนร่วมโต๊ะว่าเอาแบบปนฮานิดๆว่า “พวกคุณจบระดับมาสเตอร์กันทุกคนค่าอาหารแค่นี้ต้องใช้เครื่องคิดเลขช่วยทุกทีเลยนะ” แล้วก็ฮากัน ก็มันจริงนิ พอเราไม่ใช้งานมัน(สมอง)บ่อยๆ มันจะคิดช้ามากแถมยังไม่แม่นยำอีกต่างหาก เครื่องคิดเลขเลยเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตไปแล้ว ในเครื่องมีเครื่องคิดเลขแบบ Pro ด้วย ซึ่งมีพวกการคำนวณทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ แต่นานๆใช้ที

  8. ปฏิทิน/นาฬิกาจับเวลา
    นาฬิกาจับเวลา

    ส่วนของปฏิทิน/นาฬิกาปลุก/จับเวลา อาจจะไม่ค่อยได้ใช้บ่อย แต่ก็มีประโยชน์มาก ปฏิทินใน iPod Touch ผม Sync ไว้กับ Google Calendar ซึ่งทุกอย่างอยู่ในนั้นทั้งหมด นัดหมาย กำหนดการ วันสำคัญต่างๆ ส่วนใหญ่ใช้งานบนคอม แต่ใน iPod Touch เปิดใช้บ้างตอนไม่ได้อยู่หน้าคอม ส่วนนาฬิกาจับเวลาตัวนี้ถูกเรียกใช้บ่อยๆช่วงทำแล็บเปียก ที่จำเป็นต้องจับเวลาแบบเป๊ะๆ

  9. อ่านหนังสือดิจิตอล
    iBook อ่านหนังสือดิจิตอล

    เคยโหลดหนังสือเข้ามาอ่าน 2-3 เล่ม แต่อ่านไม่จบซักเล่มเพราะมันจอเล็กและเวลาจ้องนานๆปวดตา รวมทั้งเวลาที่อ่านหนังสือส่วนใหญ่อยู่บนรถซะเป็นส่วนใหญ่ เวียนหัวได้อีก ที่ยังเหลือค้างไว้ในเครื่องเลยเป็นแค่หนังสือภาพ พวก CG, Computer Art เป็นส่วนใหญ่

  10. รีโมท Keynote/iTunes
    ใช้ iPod ควบคุมการเปลี่ยนสไลด์ในคอม

    iPod Touch สามารถเอามาทำเป็นเครื่องเลื่อนสไลด์ได้ด้วยนะ ต้องโหลด App ชื่อ Remote (เสียตังค์)มาก่อน แล้วใช้ร่วมกับ Keynote ในเครื่อง Mac OSX ข้อดีคือเราสามารถควบคุมการนำเสนอผ่านทาง iPod Touch ได้ มีโน๊ตให้ดูได้ด้วย เคยทำอยู่ครั้งหนึ่งใช้เลื่อนสไลด์อย่างเดียว ดูโน๊ตด้านล่างไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ต้องก้มไปดูอาจทำให้คนพรีเซ็นต์ดูไม่ดีเท่าไหร่ ส่วนการใช้เป็นรีโมทควบคุม iTunes ใช้แบบนี้ครับ เปิดคอมไว้ เสียบลำโพง เปิดเพลงให้ดังก้องบ้าน วาง iPod Touch ไว้ใกล้ตัว นั่งพักที่มุมไหนซักมุมของห้อง อยากเปลี่ยนเพลง หรือเลือกเพลงที่ชอบผ่านทาง iPod Touch ก็จิ้มเลย เยี่ยมไหมล่ะ

ยังมีอีกหลายอย่างที่มันทำได้ เช่น การเชื่อมกับรองเท้า Nike ตัดต่อวีดีโอ ทำเอกสาร แต่ที่เอามาแชร์ในโพสนี้เป็นอันที่เราได้ใช้จริงๆ ซึ่งอาจจะแตกต่างจากคนอื่นๆบ้างก็ได้ ลองคิดดูว่า iPod Touch ในมือของคุณใช้ทำอะไรบ้าง แล้วเอามาแชร์กันครับ

วิธีใช้ Dropbox สองบัญชีพร้อมกันในเครื่องเดียว สำหรับเครื่อง Mac

Dropbox

ผมมี Dropbox อยู่สองบัญชี อันแรกเป็นตัวที่ใช้บ่อย ทำงานต่างๆบนตัวนี้เป็นหลัก(24 GB) ส่วนอีกบัญชี(13 GB) ไฟล์ที่นานๆจะถูกเรียกใช้งานสักครั้งจะถูกเก็บไว้ที่นี้ ตอนใช้ Windows จะใช้วีธีตามลิงค์นี้ในการเปิดใช้งานสองบัญชีพร้อมกัน ส่วนการใช้บน Mac OS X ทำได้ง่ายกว่ามาก ดังนี้ครับ

วิธีใช้ Dropbox สองบัญชีพร้อมกันในเครื่องเดียว สำหรับเครื่อง Mac

  1. เปิดโปรแกรม Terminal
  2. พิมพ์คำสั่ง
    bash

    กด enter

  3. ใช้คำสั่ง(copy ไปวาง)
    HOME=$HOME/.dropbox-alt /Applications/Dropbox.app/Contents/MacOS/Dropbox &

    กด enter

  4. dropbox อีกบัญชีจะโชว์ขึ้นมาบน menu bar แล้ว
    Dropbox สองบัญชีรันพร้อมกัน

ข้อมูลจาก: https://www.makeuseof.com/

ถ้าบ้านไฟไหม้ หิ้วของได้จำกัด จะหยิบอะไรออกไปด้วย?

เห็นจากทวีตของพี่ @kaninnit แนะนำเว็บไซต์ theburninghouse.com มีไอเดียเก๋มาก แต่บางคนอาจไม่ชอบก็ได้ ด้วยการตั้งคำถามว่า

“ถ้าบ้านของคุณไฟไหม้ อะไรคือสิ่งที่คุณจะเอาไปด้วย รับรองว่ามันจะเกิดเป็นความขัดแย้งในใจว่าจะเอาอะไรไปดี อะไรที่จำเป็น อะไรที่มีค่า และอะไรที่มีคุณค่าทางจิตใจมากที่สุด ไม่ว่าอะไรก็ตามที่คุณเอาไป จะสะท้อนถึงความสนใจของคุณ ภูมิหลัง และการให้ลำดับความสำคัญกับอะไรบางอย่างเป็นพิเศษ”

คิดซะว่ามันเป็นคำถามที่ถามถึงสิ่งต่างๆเหล่านั้นในคำถามเดียว แทนที่จะถามว่า คุณสนใจอะไร อะไรที่คุณให้ความสนใจเป็นอันดับหนึ่ง ชอบอะไรเป็นพิเศษ ถามเลยสั้นๆ “ไฟไหมบ้าน จะเอาอะไรไป?”

เป็นไอเดียที่เจ๋งมาก แล้วเขาก็เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปแชร์อะไรที่คุณจะหยิบไป โดยให้บอกชื่อ ที่อยู่ ทำงานอะไร และบอกว่ารายการของสิ่งที่จะหยิบไป พร้อมทั้งถ่ายรูปมาให้ดูด้วย ส่วนใหญ่ก็ประมาณสิบกว่าชิ้น

ไม่น่าเชื่อว่าของแค่ไม่กี่ชิ้นบอกอะไรเกี่ยวกับเจ้าของได้เยอะมาก เราพอจะเดาได้เลยว่าคนนี้ชอบดนตรี รักสัตว์ (รายการของมีแมว หรือสุนัขด้วย!) นักเขียนที่เขารัก (หนังสือโปรด) ชอบถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ บางอันก็รู้เลยเนี้ยต้องเป็นผู้หญิงแน่ๆ (มีเครื่องสำอาง) บางคนถึงกับจัดฉากแสดงสถานการณ์จริงๆ เอาสีดำมาทาหน้าทาตัว พร้อมหอบข้าวของพะรุงพะรังเหมือนกำลังหนีเอาตัวรอดจากไฟไหม้บ้านจริงๆ ทำให้ยิ้มได้เหมือนกันนะ

สรุปว่าชอบไอเดียมากเลย ไม่คิดว่าเรื่องที่น่าจะเศร้าปานนั้นจะทำให้ยิ้มได้(เมื่อมันยังแค่เป็นเรื่องสมมติ) แต่อย่างน้อยก็เตือนใจเราว่าอะไรกันแน่ที่สำคัญกับเราจริงๆ ว่าแล้วเลยลองทำรายของตัวเองบ้าง ทำตามข้อบังคับของ theburninghouse ด้วย อาจจะเอาไปส่งร่วมแชร์กับคนอื่นที่เว็บไซต์ด้วย(คงต้องถ่ายรูปใหม่)

ถ้าบ้านไฟไหม้ จะเอาของต่อไปนี้ไปด้วย

ของที่จะเอาไป ในรูปไม่มีกล้องนะเพราะใช้ถ่ายรูปนี้อยู่

Name: Pongsak Sarapukdee
Age: 28
Location: BKK, Thailand
Occupation: Research Assistant
Website: https://www.amphur.in.th
List:

  • Macbook
  • Nokia N76
  • iPod
  • Headphone
  • Wallet
  • Momoo, Cocoa, Kekee (TEDDY BEAR)
  • Canon DSLR 600D(Kiss X5)
  • Wristwatch
  • External HDD

ลองคิดรายการสิ่งของที่คุณจะเอาไปด้วยดูนะครับ  แล้วเอามาแชร์ดูบ้าง มันบอกอะไรหลายอย่างในตัวคุณเองได้เยอะเลย ถ้าจะให้เข้ากับสถานการณ์ของไทย อาจบอกว่า “ถ้าน้ำท่วมบ้าน จะหยิบอะไรออกไปด้วย” ลองคิดเล่นๆดูสนุกดีครับ

อ้างอิงเว็บไซต์: https://theburninghouse.com

ไปดูมาแล้ว หนังเรื่อง I MISS U รักฉันอย่าคิดถึงฉัน

เมื่อวานไปดูหนังเรื่อง “I MISS U รักฉันอย่าคิดถึงฉัน” มาครับ เป็นหนังของค่าย M39 ซึ่งช่วงหลังๆพอจะไว้ใจได้ถึงความสนุก หนังมีจุดขายเด่นเป็นเรื่องรักสามเส้า ชายหนึ่งหญิงสอง แต่หญิงอีกฝ่ายคือคนที่ตายแล้ว จากข่าวที่ออกมาก่อนเปิดฉายเพียงไม่กี่วัน ว่าตอนจบของหนังจะมีถึง 3 แบบ (เฉยๆกับข่าวนี้นะ!) หนังเรื่อง I MISS YOU นั้นผมมองว่าเป็นการตามรอยหนังดราม่าเข้มข้นที่มีผีเป็นฉากหลังอย่างหนังเรื่อง “ลัดดาแลนด์” (GTH) แต่เรื่องนี้คือหนังรักโรแมนติกที่มีเรื่องผีเป็นฉากหลัง ส่วนหนังตลกที่รวมอยู่กับหนังผีเราเห็นกันเกลื่อนแล้ว

หนังเรื่อง I MISS U รักฉันอย่าคิดถึงฉัน

ตอนแรกลังเลอยู่ว่าจะเขียนถึงดีไหม แต่พอมาคิดดูอีกทีมีฉากหนึ่งที่ติดตาเรามาก เป็นฉากธรรมดาๆ ที่ไม่ธรรมดาเลย นั้นคือ ฉากสนทนากันระหว่างหมอธนา(พี่ติ๊ก) กับหมอบี(สายป่าน) ในร้านอาหารหรือร้านกาแฟเนี้ยแหละ

ขณะที่หมอธนากำลังเล่าเรื่องต่างๆในอดีตให้หมอบีฟัง เธอตอบกลับไปว่า

“ถ้าเราพยายามจำแต่ความสุข มันจะทำให้เราลืมความทุกข์ได้ยากขึ้นไม่ใช่หรอ…?”

ประโยคนี้ทำให้หมอธนาเกิดอาการซาโตริขึ้นทันที พี่ติ๊กแสดงอาการนี้ได้สุดยอดมาก ทั้งแววตา ท่าทาง การแสดงท่าทางอาการฉุกคิดนั้น เยี่ยมสุดๆเลย ทำให้เราเชื่ออยากสนิทใจเลยว่า ว่าเขากำลังวนอยู่ในอ่างของความทุกข์แล้วมีคนมาชี้ทางให้ เป็นช่วงสั้นๆเพียงไม่กี่วินาที แต่ติดตาเอามากๆเลย

อีกคนที่แสดงได้เยี่ยมมากคือ ทราย เจริญปุระ แม้จะมีแค่ไม่กี่ฉาก โดยเฉพาะฉากที่ปะทะคารมกันกับหมอบี บทสนทนานั้นแสดงให้เห็นเบื้องหลังของความรักที่หลายคนมองว่าสวยงาม แต่ความจริงแล้วไม่สวยงามอะไรเลย มีแต่การแย่ชิงกันไม่เว้นแม้แต่ผีก็หนีเรื่องนี้ไม่พ้น เป็นอีกหนึ่งมุมมองของตัวละครตัวนี้ (สรุปว่าเป็นสี่เส้านะไม่ใช่สาม ชายหนึ่ง หญิงสอง ผีอีกหนึ่ง!)

รักฉันอย่าคิดถึงฉัน

หนังปูเรื่องมาอย่างดีว่า หมอนก(จ๋า) พยายามจะไปแล้วแต่หมอธนาไม่ให้ไป แต่ตอนจบกับปิดลงไม่สมบูรณ์ซะงั้น อย่างน้อยฉากจบที่ผมได้ดูก็ไม่ตรงกับที่คิดไว้ คิดว่าถ้าเป็นอีกแบบทุกอย่างจะสอดคล้องและสมบูรณ์ว่า เนื้อเรื่องบางอันยังขัดๆกันเองอยู่นะ ฉากผี และฉากน่ากลัวต่างๆ คนที่ไปดูด้วยบอกว่าน่ากลัวมาก ผมกลับไม่ได้รู้สึกมากขนาดนั้น(สงสัยดูหนังผีคนเดียวบ่อยเกินไป)

I MISS U รักฉันอย่าคิดถึงฉัน

ตอนจบของหนังแสดงให้เห็นว่าคนรอบตัวของคนตายต่างหากที่ไม่ยอมให้เขาไปสู่สุขคติ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังเป็นแค่ส่วนหนึ่งของเหตุกาณ์ในลักษณะนี้ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอด ทุกคนในครอบครัวพยายามบอกให้หมอยือชีวิตคนที่รักเอาไว้ให้นานที่สุด การอ้อนวอนให้เขากลับมา การเศ้าโศกเสียใจ ฯลฯ เหตุการณ์เล่านี้เห็นได้ชัดมากขึ้นเมื่อฉากหลังเป็นโรงพยาบาล

ให้คะแนนดีกว่า 7/10 ที่ชอบคือ เนื้อเรื่องหลัก บทพูด ที่ไม่ชอบคือ หลายฉากขัดกันเอง ตอนจบที่ไม่ได้ดั่งใจ


ใน MV ฉันอยู่ตรงนี้ข้างๆเธอ ของ Klear มีฉากที่ผมกล่าวถึงด้วยนะ

I MISS U :รักเธอทั้งหมดของหัวใจ โดย วันวาน เวอร์ชั่นนี้ฟังแล้วขนลุกได้เหมือนกับพี่โจ้ร้องเลยทีเดียว

ต้นฉบับ รักเธอทั้งหมดของหัวใจ
https://www.youtube.com/watch?v=HD39PFOaf-s

Exit mobile version