ภัยของอารมณ์โกรธ ฉบับโหด

, , 2 Comments

เลือดสาด

เว็บชื่อดังแห่งหนึ่งเอาดราม่าในพันทิพมาให้อ่าน เป็นเรื่อง ภัยของอารมณ์โกรธ คิดว่าหลายคนคงได้ผ่านตามาบ้างกับ FWD mail อันนี้ลองอ่านดู

ขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังขัดล้างรถอย่างขะมักเขม้น ลูกชายวัย 4 ขวบ ก้มลงเก็บก้อนหินขึ้นมา แล้วบรรจงขูดขีดไปบนด้านข้างของตัวรถ

พักใหญ่ต่อมา…เมื่อพ่อได้ยินเสียงครูดของหิน ก็เกิดความฉุนเฉียว โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขากระชากมือลูกมา ตีลงบนมือน้อย ๆ นับครั้งไม่ถ้วน โดยไม่ทันนึกว่าตนได้ถืออะไรอยู่ในมือ

ณ โรงพยาบาล.. นิ้วลูกชายถูกตัดออก เพราะกระดูกแตก จนหมอไม่สามารถเชื่อมต่อได้ ขณะที่พ่อเข้ามาดูลูกในห้อง ลูกมองพ่อด้วยสายตาปวดร้าว แล้วถามพ่อว่า

“เมื่อไร นิ้วหนูจึงจะยาวเหมือนเดิม ? ”

คำถามนั้น…เหมือนคมมีดกรีดลึกลงไปในหัวใจผู้เป็นพ่อ เขารู้สึกละอายใจ รู้สึกผิด และเสียใจในการกระทำตนอย่างไม่อาจให้อภัย
เขาจึงกลับไปที่รถ เตะมันสุดแรงเกิดโดยไม่ยั้งจนเหนื่อยหอบ แล้วทรุดตัวลงนั่งข้างรถอย่างเศร้าใจ สายตาพลันเหลือบไปเห็นรอยขูดขีด เขาเบิกตากว้าง ! จ้องมองคำว่า

….รักพ่อ….

น้ำใส ๆ เริ่มเอ่อ แล้วไหลอาบแก้ม เขาเอามือปิดหน้า ร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับใจจะขาด รุ่งขึ้น… ชายคนนั้นได้ฆ่าตัวตาย อารมณ์โกรธ มีโทษมหันต์ ปัญหาของโลกในทุกวันนี้ คือ

คนบางคน..

“ รักรถ หวงรถ หรือสิ่งของอื่น ยิ่งกว่ารักและห่วงใยลูก หรือ เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ”

จำไว้เสมอว่า สิ่งของมีไว้ให้ใช้

และ

คนมีไว้ให้รัก

ประเด็นที่เอามาเขียน คือชอบใจ ความเห็นที่ 93 ของคุณ yatiko (yatiko) ที่แต่งเรื่องใหม่ อ่านแล้วมันส์ ขออนุญาติเอามาแปะไว้ในบล็อกหน่อย ให้อารมณ์ย้อนคิดไปถึง บอร์ดใต้ดินแห่งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ที่บ้าดีเดือด วิจารณ์อะไรแบบหนักๆ  แบบไม่เกรงใจใคร โดน ICT ไล่ปิดไปหลายครั้งจนตอนนี้ไม่รู้เหล่าสมาชิกไปสิงสถิตอยู่ไหนบ้าง ลองอ่านดู เรื่อง ภัยของอารมณ์โกรธ ฉบับโหด ต้นฉบับมาจากเว็บพันทิพที่ลิงค์นี้ ผมเรียกงานแนวนี้ว่า หลุดโลกสไตล์

ความคิดเห็นที่ 93 โดย yatiko (yatiko)

(อันนี้คือความจริงที่เกิดขึ้นครับ)

ตั้งแต่วันนั้นมา จิตใจของฉันก็เต็มไปด้วยความเคียดแค้น…

ฉันมองชายคนนั้น มองรถคันนั้น แล้วมองนิ้วตัวเอง…เจ็บปวดเหลือเกินกับสิ่งที่ฉันได้รับ…

“มันจะต้องเจ็บกว่าฉันเป็นสิบๆเท่า” ฉันพร่ำบอกตัวเองขณะที่นอนอยู่ในโรงพยาบาล แผนการต่างๆนาๆผุดขึ้นมาในหัว…ฉันพร่ำรอโอกาส รอวันสะสางบัญชีเลือดมาถึง

กระทั่งวันนั้น วันที่เขามารับฉันออกไปจากโรงพยาบาล เขาไม่กล้ามองหน้าฉัน ไม่กล้าสัมผัสตัวฉัน ได้แต่ใช้หางตาเหลือบมองนิ้วมือที่กุดด้วนของฉันด้วยใบหน้าเรียบเฉย…

ฉันนอนฝันร้ายแทบทุกคืน ภาพที่เขาเดินเข้ามาตีนิ้วมือของฉันจนแหลกละเอียดนั้นฉายไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า…ไม่มีที่สิ้นสุด

หากแต่วันหนึ่ง โอกาสของฉันก็มาถึง…

ชายคนที่ฉันเกลียดที่สุดในโลกนั่งอยู่ตรงนั้น…อยู่ข้างรถของมัน รถที่มันรักหนักหนา มันกำลังล้างรถของตัวเองอยู่เหมือนอย่างที่เคยทำ…

ฉันเริ่มดำเนินแผนการ…

ฉันตีสีหน้าให้ดูบริสุทธิ์ เคลื่อนกายเข้าไปที่รถช้าๆ ชายคนนั้นชะงัก หันมามองที่ฉันเขม็ง ในดวงตาเหมือนจะมีคำถามผสมปนเปกับความหวาดหวั่น…ฉันรู้สึกได้

“พ่อครับ ผมเจ็บเหลือเกิน” ร่างของเขาแข็งทื่อเหมือนถูกสาป…ฉันมาถูกทางแล้วจริงๆ

“ผมทำผิดอะไรครับ ทำไมพ่อถึงทำกับผมแบบนี้” มันได้ผล…เขาเริ่มร้องไห้ ซุกใบหน้าลงบนผ่ามือทั้ง2ข้าง

ฉันเดินเข้าไปในระยะประชิด เขาหันหน้ามาสบตาฉันแบบคนสำนึกผิด ฉันยิ้มหวาน…ชูมือด้วนๆของตัวเองขึ้น แล้วพูดออกไปว่า…

“พ่อจ๋า เมื่อไหร่นิ้วหนูจะยาวเหมือนเดิม”

สิ่งสุดท้ายที่ฉันจำได้คือ ชายคนนั้นกรีดร้องเสียงดัง วิ่งเข้าไปในบ้านก่อนที่จะวิ่งกลับออกมาพร้อมกับปืนในมือ…

ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น ฉันสัมผัสได้ถึงเของเหลวอุ่นๆที่กระเด็นมาเปรอะเปื้อนร่างกาย ชายผู้ที่เคยเป็นพ่อของฉันนอนจมกองเลือดอยู่ตรงหน้า ตาของเขาเบิกโพลง ขมับด้านซ้ายของเขาเป็นรูโหว่ ฉันแยกไม่ออกว่าสิ่งที่ทะลักออกมาคือเลือดหรือเนื้อสมองกันแน่…

ฉันยืนกอดตัวเองอยู่ตรงนั้น.. อยากเก็บความรู้สึกนี้ไว้ให้เนิ่นนาน ความแค้นนี้ได้ถูกชำระแล้ว หยดเลือดสีแดงฉานที่เปรอะเปื้อนร่างกายทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน…
.
.
ฉันยกมือที่นิ้วขาดวิ่นของตัวเองขึ้นมาดู รู้สึกราวกับว่า…นิ้วมือของฉันกำลังงอกขึ้นมาใหม่อย่างช้าๆ…

 

2 Responses

Leave a Reply