ปัจจุบัน OS ของ smart device (smartphone, tablet, media player ) มีเยอะมาก แต่ละเจ้าก็อยากจะมี OS เป็นของตัวเอง แต่ถ้าจะบอกว่า 2 อันดับแรกเป็นอะไร? ปัจจุบันคงต้องบอกว่า iOS ของ Apple กับ Android ของ Google ที่สู้กันในระดับลมบนของตลาด มีบทความจาก lifehacker เขียนเปรียบเทียบกันของทั้งสอง OS ไว้ น่าจะเป็นสิ่งที่แฟนๆของแต่ละค่ายรู้ดีและเอามาโจมตีกันอยู่เรื่อย ผมสนใจเลยของแปลแบบบ้านๆเอาไว้อ่านเล่น โดยจะแบ่งเป็น 2 ตอน ให้เกียรติ iOS ก่อน Android เพราะเขาเกิดก่อน ใครอยากอ่านต้นฉบับไปอ่านที่ Top 10 Ways iOS Outdoes Android
10 อย่างที่ iOS ชนะ Android
ทั้ง iOS และ Andiod ในที่นี้ก็หมายความรวมทั้งอุปกรณ์พวก smart device ต่างๆ และสิ่งแวดล้อมโดยรวมของแต่ละ OS เลยนะ
- The iTunes Media Store
iTunes ที่เป็นศูนย์รวมสื่อบันเทิงต่างๆของ Apple ทั้งหมด ทั้ง application เพลง หนัง หนังสือ ฯลฯ เชื่อมต่อเข้ากับ smart device ของคุณได้ง่าย เข้าถึงได้ง่ายซื้อได้ในคลิกเดียว ในขณะที่ Andoid สื่อด้านบันเทิงแม้จะซื้อได้ใน Amazon แต่ความสะดวกสะบายยังห่างชั้นกันมาก
- AirPlay
เป็นคุณสมบัติที่ทำงานร่วมกันของ smart device ที่รัน iOS การสตีมมิ่งสื่อบันเทิงถึงกันทำได้ดีอย่างน่าประทับใจ เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่หาไม่ได้ใน Android
- Find My iPhone
การติดตามมือถือ iPhone (iPad, iPod touch)ที่หายไปของคุณทำได้โดยง่าย และฟรีด้วย เราได้เห็นตัวอย่างการตามล่าหา iPhone ของตัวเองจากหลายๆคนที่เจอและจับมือขโมยได้ด้วย ในขณะที่ใน Android ก็มีเหมือนกันแต่ต้องเสียตังค์ในการใช้บริการ
- A Better Support System
เมื่อเกิดปัญหากับ Android ของคุณ เมื่อถามคำถามไปที่โอเปอเรเตอร์ที่คุณซื้อเครื่องมาจะได้คำตอบอันน้อยนิด อีกทั้งยังแก้ปัญหาของเครื่องไม่ได้อีก ต่างจาก iDevices เมื่อเกิดปัญหาขึ้น คุณนำเครื่องไปที่ Apple Store ปัญหาต่างๆจะได้รับบริการแก้ไขอย่างดีเยี่ยม
- Better Battery Life and Management
ระบบจัดการแบตเตอรีที่ดีกว่า จะเห็นได้ว่า Apple จะให้ความสำคัญกับระยะเวลาในการใช้งานแบตเตอรีมากขึ้นเรื่อยๆ จะเห็นได้จาก iPad ที่มีระยะเวลาในการใช้งานที่นานขึ้น เราจะวางใจใช้อุปกรณ์ iOS ได้ตลอดวัน ในขณะที่เราจะไม่ค่อยวางใจได้กับ Andriod (น่าจะหมายถึงพวก tablet เพราะมือถือ android หลายตัวอยู่ได้นานกว่า iPhone เยอะ)
- iTunes and Tethered Syncing
iTunes เป็นโปรแกรมจัดการกับข้อมูลใน iDevices ได้ดีมาก คุณจะสามารถ backup หรือ restore ข้อมูลได้อย่างง่ายดาย ซึ่งใน Android แม้จะมีโปรแกรมจัดเหมือนกันแต่ทำได้ไม่ดีเท่าใน iOS
note: แต่มีหลายๆคนที่ไม่ชอบ iTunes เหมือนกัน เพราะมีข้อจำกัดในการใช้งานหลายอย่างเช่น ข้อมูลทุกอย่างต้อง sync ผ่าน iTunes และไม่สามารถ sync แบบไร้สายได้ - No Crapware
crapware หรือซอฟต์แวร์ที่ผู้ผลิตแถมมากับเครื่อง พบว่าใน Android จากหลายๆโอเปอเรเตอร์แถม crapware มาด้วย อาจจะมีทั้งที่เป็นประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์กับเรา แต่บางตัวไม่สามารถถอนการติดตั้งออกได้ ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะไม่เจอใน iOS
- A Bigger and Better Variety of Apps
iOS มี App มากกว่าและมีจำนวนของ app คุณภาพมากกว่า Android แนวโน้มในปัจจุบันจะพบว่าเกมที่เคยอยู่ในเครื่อง console emulator จะเพิ่มมากขึ้นใน iOS เป็นอีกทางเลือกที่สำคัญที่ทำให้ iOS น่าสนใจมากกว่า อีกทั้ง App store ยังเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้นักพัฒนา ทำให้จำนวน app ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- A Well-Designed, Intuitive User Interface
การออกแบบที่ดี มี UI ที่สวยงามใช้งานง่าย ให้ประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีกว่า ความหมายนี้พูดรวมทั้ง iOS และ app ต่างๆด้วย เราจะพบว่า app ต่างๆบน iOS จะถูกออกแบบมาดีกว่าบน Android
- Consistency
iOS จะไม่มีปัญหาเรื่อง fragmentation อย่างเช่น Android แน่นอน เมื่อ iOS มีการปรับปรุง อัพเดตเวอร์ชั่นใหม่ มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ของคุณจะได้รับการอัพเดตเช่นกัน ต่างจาก Android ที่มีความแตกต่างทั้งอาร์ดแวร์ และ OS ใช้ระยะเวลานานจนกว่าเครื่องของคุณจะได้รับการอัพเดตแม้ทาง Google จะออกอัพเดตมานานแล้วก็ตาม หรือบางทีเครื่องของคุณก็ไม่รับความสนใจจากผู้ผลิตที่จะการอัพเดตให้
ตอนต่อไป จะถึงคราวที่ Android อัด iOS กลับบ้าง โปรดติดตาม 10 อย่างที่ Android ชนะ iOS
รออ่าน android ดีกว่าไง
ส่วนตัวก็อยากเล่น Andriod อยู่ดีแม้จะรู้ว่า iPhone เหนือกว่า
สงสัยที่สนใจ เพราะเครื่องถูกกว่ามากละมั้ง?
แต่ยังไงก็ไม่เคยเล่นทั้งคู่อยู่ดี ไม่มีเงิน TwT
Dislike!!! พูดดูถูกเกินไป
ดีกว่าแค่ 10 อย่างปัจจุบัน android คือเทพแห่ง OS ไปแล้วกระทั้ง IOS5 ล่าสุดก็ก็อบทั้งแอนดรอยทั้งวินโดวโพนของไมดครซอฟมาผสมกัน แล้วมาบอกตัวเองคิดค้น แบบนี้เขาเรียกว่าอะไรดี สาวกมันไม่รู้ถึงมันรู้มันก็จำใจปกป้อง เหอะๆ
ค้าน ข้อ2 ครับ
Android ก็ทำได้ เช่นพวก AllShare ของSamsung หรือ SmartShare ของLG และค่ายต่างๆก็ทำได้ โดยผ่านเทคโนโลยี DLNA