บันทึกไป Interlaken สุดสัปดาห์ 3 วัน

บันทึกไป Interlaken สุดสัปดาห์แบบด่วน วางแผนหลวม ๆ แล้วไปเลย ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ นั่งรถไฟจากดอร์ทมุนด์ตอนช่วงดึกไปสวิตเซอร์แลนด์จุดหมายคือเมือง Interlaken ใช้เวลาราวๆ 10 ชั่วโมง ถึงช่วงเช้าเอาของบางส่วนฝากไว้ที่ล็อกเกอร์ แล้วเที่ยวต่อทันทีเลย

วันที่ 1: เริ่มจาก Interlaken Ost ไปที่ Gschwandtenmaad จากนั้นเดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ราวๆ 5 กิโลเมตร จนถึง Schwarzwaldalp นั่งรถบัสกลับ Interlaken Ost จบทริปวันแรกวันที่

2: เริ่มจาก Interlaken Ost ไป Laubrennen ถ่ายรูปเล่นในรอบๆเมือง นั่งรถไฟไปที่เมือง Wengen แล้วเดินลงเขาลงมาที่เมือง Laubrennen เหมือนเดิมแต่เดินแบบอ้อมๆ ระยะทางราวๆ 9 กิโลเมตร นั่งรถไฟกลับ Interlaken Ost จบทริปวันที่สอง

วันที่ 3: เริ่มจาก Interlaken Ost ไป Grindelwald เดินไปขึ้นกระเช้าไปที่ ยอดเขา First เดินต่อไปที่ทะเลสาบ Bachalpsee ระยะทาง 3 กิโลเมตร นั่งเล่น ถ่ายรูป แล้วเดินจาก ทะเลสาบลงมาที่ Grindelwald ระยะทางราวๆ 10 กิโลเมตร นั่งรถไฟกลับมาที่ Interlaken Ost ขึ้นรถไฟรอบค่ำกลับดอร์ทมุนด์ เป็นอันจบทริป

ส่วนเสริม บันทึกไว้เกี่ยวกับ Interlaken

-ต้องจ่ายภาษีของเมืองที่โรงแรม แล้วเขาจะให้บัตรแขกบ้านแขกเมืองซึ่งใช้นั่งรถบัสภายในเมืองได้

-แอพ SSB mobile เหมือน DB ของเยอรมัน ใช้ดูตางรางเวลารถ สถานี และใช้ซื้อตั๋วได้ด้วย

-แทบจะทุกร้านค้า รถบัส ตู้ขายตั๋ว ใช้บัตรซื้อได้หมด ไม่ต้องพกเงินสดยังได้ ยกเว้นตู้ยอดล็อกเกอร์

-ห้องน้ำสาธารณะฟรี ความสะอาดค่อนข้างโอเค (อย่าเทียบกับเยอรมัน)

-ช่วงนี้ยังมีปัญหาโควิด นักท่องเที่ยวน้อย ร้านค้าเปิดแค่บางร้าน ร้านที่เปิดให้นั่งข้างในต้องแสดงวัคซีนพาสพอร์ตว่าได้รับวัคซีนครบแล้ว

-แอพนำทางและแนะนำเส้นทาง hiking ชื่อ Kamoot ปกติก็ใช้อยู่แล้ว แต่พอมาที่สวิตเซอร์แลนด์คิดว่าต้องเดินบนเขา กลัวว่าสัญญาณโทรศัพท์จะขาดหาย เลยซื้อแผนที่เดินป่าแบบออฟไลน์ไว้ด้วย ซึ่งก็ทำงานได้ดีที่เดียว แต่สัญญาณ 5G มีครอบคลุมทุกที่เดินไปเลย (อย่าเทียบกับเยอรมันออกเมืองไปนิดน้อย สัญญาณเริ่มเบาแล้ว)

-ค่าเดินทางพวกรถไฟ รถบัส กระเช้า กลุ่มที่ขึ้นเขาแพงอย่างโหด แต่ถ้าได้นั่งและเห็นเส้นทางที่รถวิ่งจะเข้าใจว่า ทำไมมันต้องแพง ทั้งสูง และอันตรายมาก ๆ ส่วนค่าเดินทางระหว่างเมืองด้านล่างก็ไม่แพงมาก แต่ก็ยังถือว่าแพงตามมาตรฐานสวิสต์อยู่ดี ซื้อตั๋วเหมาอาจจะเหมาะมากกว่า ตั๋ว Region กับ SwissPass ราคาพอกัน ส่วนตั๋ว Jungfrau ถูกกว่าแต่ได้พื้นท่องเที่ยวน้อยกว่า ต้องดูว่าจะเที่ยวตรงไหนบ้าง แต่ถ้าคนชอบเดิน hiking ไปแค่ขาเดียวซื้อเป็นเที่ยวๆก็ประหยัดกว่า

ตัวช่วยสายเที่ยว แอพเดียวจบ จองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก

Traveloka ตัวช่วยสายเที่ยว แอพเดียวจบ จองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก

ก่อนออกเดินทางท่องเที่ยว เราต้องมีการวางแผนการเดินทางกันเสียก่อน เช่น เส้นทาง สถานที่ท่องเที่ยว ตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พัก ฯลฯ วันนี้ขอแนะนำผู้ช่วย ทั้งจองตั๋วเครื่องบินและจองที่พัก

Traveloka ตัวช่วยจองเที่ยวบินและที่พักออนไลน์ มีให้ใช้ผ่านทั้งบนเว็บ และแอปพลิเคชั่นทั้งใน iOS และ แอนดรอยด์

สามารถดาวน์โหลดได้ที่ Play Store และ  App Store

 

หลังจากดาวน์โหลดและติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะแนะนำวิธีการใช้งานแบบง่ายๆให้ครับ ผมใช้มือถือแอนดรอยด์เป็นหลัก ดังนั้นการแนะนำวิธีการใช้งานก็จะแนะนำผ่านการใช้แอพพลิเคชั่นบนแอนดรอยด์ แต่ดูจาก UI แล้วก็ไม่น่าแตกต่างกันสำหรับคนใช้ iOS ก็ดูได้เหมือน

1. วิธีการใช้งานแอพ Traveloka ค้นหาและจองตั๋วเครื่องบิน

หน้าหลักของแอพ ค่อนข้างเรียบง่าย และมุงไปที่จุดประสงค์ของแอพเลยนั้นคือ การจองตั๋วเครื่องบินและจองโรงแรม

Traveloka หน้าหลัก

เมนูหลักอื่นที่น่าสนใจ ได้แก่ ข่าวสารและโปรโมชั่น การแจ้งเตือนราคาของตั๋วเครื่องบินเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายประหยัด รอโปรโมชั่นและตั๋วราคาถูก รายละเอียดการจองของเรา(e-ticket)

ขั้นตอนที่ 1 ค้นหาเที่ยวบินและเปรียบเทียบราคา

ค้นหาเที่ยวบินและเปรียบเทียบราคา

เมื่อกดเข้าไปในเมนู ค้นหาเที่ยวบิน ก็จะพบช่องใส่รายละเอียดของเที่ยวบินที่เราสนใจ ต้นทาง-ปลายทาง วันเดินทาง จำนวนผู้โดยสาร ชั้นโดยสาร เมื่อใส่รายละเอียดครบถ้วนแล้ว กด ค้นหา 

รอสักพัก แอพจะค้นหาเที่ยวบินจากสายการบินต่างๆมาให้เราได้เลือกและมีเปรียบเทียบราคาให้ โปรดสังเกตครับ จะมีคำว่า “ดีลสำหรับแอป” ซึ่งบอกว่าราคาถูกกว่า ผมตามไปแช็คแล้วว่ามันราคาถูกกว่าจองจากสายบินโดยตรงหรือไม่ คำตอบคือ ถูกกว่าจริงครับ ถึงจะถูกกว่าไม่กี่บาท แต่ก็ถูกกว่าครับ

จุดเด่นที่ขอแนะนำ เมื่อกดที่เมนู “จัดลำดับ” จะสามารถเรียงลำดับผลการค้นหาได้ตาม ราคาต่ำสุด เวลาออกเดินทาง เวลาถึงที่หมาย และระยะเวลาในการเดินทาง หรือถ้าต้องการ “จำกัดการค้นหา” ที่เฉพาะมากขึ้น เช่น บินตรง เฉพาะบางสายการบิน เป็นต้น

อีกฟังก์ชั่นพิเศษ ให้เราสังเกตคำว่า “Smart Combo” ที่จะช่วยจับคู่เที่ยวบินไป-กลับให้เราโดยอัตโนมัติ ทำให้ราคาตั๋วถูกลงอีก

ขั้นตอนที่ 2 จองและชำระเงิน

จองและชำระเงิน

หลังจากเลือกเที่ยวบินได้แล้ว กดใส่รายละเอียดการติดต่อและรายละเอียดผู้โดยสาร จากนั้นตรวจสอบรายละเอียดการจอง กดดำเนินการต่อ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการชำระเงิน

อีกหนึ่งข้อดีของ Traveloka คือการมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย เอาใจคนไทยสุดๆ ด้วย 4 ช่องทางการชำระเงิน ได้แก่ เคาน์เตอร์เพย์เมนต์ (7-11, Big-C, m-Pay, Pay@Post, TOT Just Pay, true money, FamilyMart และ Tesco Lotus), เอทีเอ็ม, บัตรเครดิต/บัตรเดบิต และ อินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง น่าจะครอบคลุมทุกอย่างที่มีในไทยแล้ว

2. วิธีการใช้งานแอพ Traveloka ค้นหาและจองโรงแรม

การใช้งานแอพ Traveloka ในการค้นหาและจองโรงแรม มีลักษณะการใช้งานใกล้เคียงกับการค้นหาตั๋วเครื่องบิน ค่อนข้างง่ายและขั้นตอนมีไม่เยอะ

ขั้นตอนที่ 1 ค้นหาโรงแรมและเปรียบเทียบราคา

ค้นหาและจองโรงแรม

เพียงเราใส่รายละเอียดปลายทาง วันเข้าพัก ระยะเวลา จำนวนผู้เข้าพัก และจำนวนห้อง แล้วกด ค้นหา

Traveloka จะค้นหาโรงแรมในพื้นที่ให้ พร้อมรายละเอียด ราคา คะแนน ฯลฯ เมื่อกดเลือกโรงแรมที่เราสนใจ แอพจะแสดงรายละเอียดของโรงแรมมากขึ้น สามารถดูภาพสถานที่ต่างๆของโรงแรม แผนที่สถานที่ตั้งของโรงแรม รวมถึงรีวิวและความคิดเห็นของผู้ที่เคยเข้าพัก (น่าจะเป็นส่วนของข้อมูลที่สำคัญ ที่ผู้ใช้อยากทราบรายละเอียดก่อนจองที่พัก)

เลือกห้องและจองห้อง

เมื่อดูรายละเอียดของโรงแรมโดยรวมเป็นที่พอใจแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือเข้าดูรายละเอียดของแต่ละห้อง ดูภาพตัวอย่างของพัก จากนั้นกด เลือกห้องพัก ใส่รายละเอียดผู้เข้าพัก ถ้าหากจองให้เพื่อนก็สามารถใส่รายละเอียดของคนเข้าพักได้ จากนั้นเลือก ดำเนินการต่อ เพื่อเข้าสู่ระบบชำระเงิน ซึ่งเราก็สามารถชำระเงินผ่าน 4 ช่องทาง ได้เช่นกัน ได้แก่ เคาน์เตอร์เพย์เมนต์, เอทีเอ็ม, บัตรเครดิต/บัตรเดบิต และ อินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง

ข้อดีของการจองโรงแรม เรามักจะเจอค่าอื่นๆอีกตอนจะชำระเงิน แต่ Traveloka รับประกันให้เราว่า ราคาที่แสดงอยู่บนผลลัพธ์การค้นหา คือราคาสุดท้ายที่เราจะต้องจ่ายจริง ไม่มีค่าธรรมเนียมการจอง ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงใดๆเพิ่มเติม ซึ่งก็รวมทั้งการจองตั๋วเครื่องบินด้วยเช่นกัน (อันนี้ดี)

สรุปโดยรวม

  • ราคาถูกกว่าจองโดยตรงจากสายการบินหรือโรงแรม
  • มีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย แทบจะครอบคลุมทุกระบบในไทย
  • ไม่มีค่าธรรมเนียม เพิ่มเติม ราคาจริงตามผลค้นหา
  • ระบบเปรียบเทียบราคา ระบบจัดเรียงข้อมูล ทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจ
  • มีโปรโมชั่นและระบบแจ้งเตือนราคา สำหรับคนรอตั๋วราคาถูก
  • มีบ้างในบางครั้งระบบการจองตั๋วเครื่องบินไม่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายของสายการบินได้
  • ปัจจุบันยังให้บริการครอบคลุมในบางประเทศ(ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์)

อื่นๆ ที่ควรทราบ

Traveloka มีบริการ 24 ชั่วโมง ผ่านทางโทรศัพท์ 02-118-5400 และผ่าน Live Chat ที่หน้าเว็บไซต์ และบนเฟสบุ๊คเพจ (FB Traveloka)

นอกจากการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น ยังสามารถเข้าไปใช้งานผ่านทางเว็บไซต์ได้ที่ Traveloka.com

Google Trips แอพช่วยวางแผนก่อนเที่ยว

เมื่อสุดสัปดาห์ได้ไปเที่ยวที่เบลเยี่ยมแบบ one day trip เราไปกัน 2 เมือง คือ Bruges และ Brussels ทั้งสองเมืองเรียกได้ว่าไปเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆของโลกเลยทีเดียว สวยและมีที่ท่องเที่ยวเยอะมากสำหรับวันเดียว

Grand Place in Brussels

แต่สิ่งที่อยากจะเล่าไม่ใช่เมืองที่ไปเที่ยวนะครับ แต่จะเล่าว่าได้ใช้แอพพลิเคชั่นตัวหนึ่งที่เพิ่งจะเปิดตัวได้ไม่นานนักชื่อ Google Trips เป็นช่วยตัวนำทาง ซึ่งถือว่ามันโอเคมากๆ

เมื่อเราจะไปเที่ยวเมืองๆหนึ่ง ทุกเมืองก็มักจะมี สิ่งที่ต้องทำ ที่ที่ต้องไป ร้านอาหารเครื่องดื่ม ฯลฯ ถ้าเอาแบบดั้งเดิม เราคงค้นดูในรีวิวที่คนอื่นไปมาแล้ว เอามาเล่าต่อแล้วพยายามไปตามนั้น พันทิพคงเป็นทางออก แต่ยอมรับว่าต้องเสียเวลาและพลังงานในการวางแผนเยอะ

ส่วนตัวแอพ Google Trips จะแนะนำสิ่งต่างๆเหล่านั้นให้เรา แล้วแนะนำได้ดีมากๆด้วยนะ

Google Trips – Travel Planner

Google มีฐานข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่มหาศาลอยู่แล้ว จึงสามารถแนะนำข้อมูลได้ดี(กว่าคนอื่น) นอกจากนี้ตัวฟีเจอร์ที่เยี่ยมที่สุด ที่ใช้กับทริปเบลเยี่ยมนี้ คือ โหมด offline ครับ เพราะในการเที่ยวเพียงวันเดียว ไม่อยากเปิด Data Roaming หรือซื้อซิมใหม่เพียงเพื่อจะใช้แค่วันเดียว แต่ส่วนจำเป็นที่สุดของการท่องเที่ยว คือ แผนที่ โหมด offline ที่โหลดข้อมูลต่างๆเก็บไว้ใช้ในวันเดินทาง ในตอนที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้นั้น มันดีและใช้ประโยชน์ได้จริง

Google Trips – Travel Planner

ในความจริงแล้ว Google Maps มีโหมด offline เหมือนกันครับ เราสามารถโหลดแผนที่ของเมืองที่เราจะไปมาเก็บได้ แต่ Google Trips จะต่างกันตรงที่ มีการจัดทริปให้ มีการเรียงลำดับสถานที่ท่องเที่ยวในที่ต่างๆให้ พร้อมดาวน์โหลดแผนที่แบบ offline ให้ ซึ่งมันมีประโยชน์มากสำหรับการเดินเที่ยวแล้วเปิด GPS ไปด้วย ทำให้ไม่หลงทาง หรือการเลือกสถานีรถไฟที่ใกล้กับจุดต่างๆที่อยากไปก็ง่ายขึ้น และยังบอกเวลาเปิด-ปิดของสถานที่ต่างๆ รวมทั้งประมาณระยะเวลาในการเดินทางระหว่างจุดท่องเที่ยวให้

Google Trips – Travel Planner แนะนำสถานที่และร้านอาหารนิยม

ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถทำ Get direction สร้าง Route การเดินทางได้ แต่แผนที่แบบ offline พร้อมกับมีตำแหน่งสถานที่ท่องเที่ยวให้ นั้นใช้ได้จริง และมีประโยชน์มาก ใครที่ท่องเที่ยวบ่อยๆลองทดลองใช้ดูเลยครับ ใช้ดีจึงแนะนำ

ดาวน์โหลด Google Trips สำหรับ Android หรือ iOS

กระเป๋าจาก One Plus

จากที่ได้ใช้มือถือ One Plus 3 มาสักระยะ รู้สึกประทับใจกับผลิตภัณฑ์ของเขามาก ทั้งการออกแบบและประสิทธิภาพที่ได้คุ้มค่าราคามาก เมื่อไม่นานมานี้ One Plus เปิดส่วนของ Gear มีเสื้อยืด กระเป๋า เป้สะพายหลัง เลยค่อนข้างมั่นใจว่าของน่าจะออกมาดี เปิดดูภาพสินค้าแล้วก็ดีไซด์สวยงาม เลยจัดการสั่งมา 2 ชิ้นเลย คือ

  • OnePlus Travel Backpack 50,00 €
  • OnePlus Travel Messenger Bag  50,00 €

One Plus Gear

หลังจากสั่งซื้อไป ใช้เวลา 3 วัน ของก็มาส่ง ก็เลยแกะกล่องมาให้ดู ต้องบอกว่าประทับใจ ของดูพรีเมี่ยมมาก

OnePlus Travel Backpack
OnePlus Travel Messenger Bag

มาแกะดูทีละชิ้นเลยดีกว่า อันแรก OnePlus Travel Backpack ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี้

https://oneplus.net/de/oneplus-travel-backpack

OnePlus Travel Backpack

ซองพลาสติกห่อมาอย่างดีเลย

OnePlus Travel Backpack

ด้านหน้า

Oneplus Travel Backpack

ทางด้านหลัง มีที่นุ่นๆซัพพอร์ตหลัง

Oneplus Travel Backpack

ด้านใน มีช่องสามารถ ใส่คอม เท็บเล็ต สมุด ปากกา ฯลฯ

และอีกชิ้น OnePlus Travel Messenger Bag รายละเอียดรูปแบบการใช้งาน ตามลิงค์

https://oneplus.net/de/oneplus-travel-messenger-bag

OnePlus Travel Messenger Bag

อันนี้เป็นเป้สะพายข้าง

OnePlus Travel Messenger Bag

Oneplus Travel Messenger Bag
ส่วนของสายสะพาย

Oneplus Travel Messenger Bag

เมื่อใส่สายสะพายเข้าไป ก็ออกมาประมาณนี้

Oneplus Travel Messenger Bag

ใส่ตำแหน่งที่สองก็ได้นะ จะทำให้ได้กระเป๋าที่ยาวขึ้น

Oneplus Travel Messenger Bag

ด้านในก็มีช่องให้ใส่หลายชั้น

โดยรวมทั้งสองกระเป๋า ทำออกมาดีมาก ออกแบบก็ดี เนื้อผ้าหนา น่าจะทนพอดู คงได้ใช้ตัว backpack สำหรับไปทำงาน ไปเรียน ส่วนตัว Messenger Bag ไว้ไปเที่ยวใกล้ๆ

 

ทริปอัมพวา ไหว้พระ เที่ยวตลาดน้ำ ชมหิ่งห้อย ชมวัง

ช่วงหยุดยาวหลายวันที่ผ่านมา ผมกับเพื่อนรวม 4 คนเดินทางไปเที่ยวกัน แบบที่คิดไว้ตอนต้นคือ one day trip ไปเช้ากลับเย็น แต่สุดท้ายก็ค้างหนึ่งคืนก่อนจะเที่ยวอีกวันแล้วค่อยเดินทางกลับ เที่ยวครั้งนี้ต้องยกเครดิตให้เพื่อนผู้เป็นทั้งคนขับรถและไกด์นำเที่ยว (Suradech Visasgan) เราไปกันแบบสบายๆ เดินทางเช้าวันอาทิตย์เวลาราว 7 โมงเช้า มุ่งตรงไปที่สมุทรสาคร ที่แรกที่ไปคือ วัดนักบุญอันนา วันอาทิตย์คนเยอะมาก เราแค่เดินผ่าน และแวะถ่ายรูป

วัดนักบุญอันนา

พื้นที่แถวนั้นวัดเยอะมาก จากนั้นเดินต่อไปที่วัดวัดสุทธิวาตวราราม ที่อยู่ติดกัน เข้าไปกราบพระ

วัดสุทธิวาตวราราม

เดินมาอีกนิดก็จะเจอ อุทยานพระปิยมหาราช รัชกาลที่ 5 และวิวสวยๆชมแม่น้ำท่าจีนในมุมโค้ง

อุทยานสมเด็จ พระปิยะมหาราช

จากนั้นเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งจะเจอวัดเจ้าแม่กวนอิม

วัดเจ้าแม่กวนอิม

จากนั้นออกเดินทางต่อไปดูป่าชายเลน

ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2

ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 อยู่ในเขตสมุทรสงคราม พื้นที่ป่าชายเลนดูอุดมสมบูรณ์ และกำลังมีการปรับปรุงทางเดิน น่าเสียดายที่ขยะในนั้นก็เยอะเช่นกัน น่าจะเป็นขยะที่มาจากทะเล ตอนน้ำขึ้น พอน้ำลงขยะก็ติดอยู่ในป่าชายเลน

ปลาตีน และปูหลากสีมีให้ดูเยอะ

ได้เวลาอาหารเที่ยง เราไปกินอาหารทะเล ที่ร้านริมทะเล แถวบางกระเจ้า บรรยากาศดีมาก ติดทะเล ลมเย็น อาหารอร่อย คนเยอะมาก โชคดีที่เราไปก่อนเที่ยงทำให้พอมีที่นั่ง ตอนออกมามีคนรอคิวยาวเลยทีเดียว ไม่ที่จอดรถกันเลย

ร้านอาหารริมทะเล

อาหารอร่อย ปลาหมึก-กุ้งเผาอร่อยมากครับ

อิ่มนำสำราญ ค่าอาหารหมดไปเฉลี่ยคนละ 250 กว่าบาท ตอนบ่ายเราเข้าไปนั่งทำงานในห้องแอร์ ที่กองก่อสร้างไฟฟ้า นอนพักเอาแรง ประมาณ 4 โมงเย็นกว่าๆ พวกเราก็ออกเดินทางไป ตลาดน้ำอัมพวา จ.สมุทรสงคราม พอไปถึงตะวันกำลังจะลับขอบฟ้า คนก็กำลังหนาแน่น ของกินเยอะ

ตลาดน้ำอัมพวา

เดินไปกินไป ชอบปลาหมึกย่างของยายที่ปากทางเข้า อร่อยมาก สด น้ำจิ้มเผ็ดเปรี้ยวได้ใจ

ป้าขายปลาหมึกย่าง เสียบกันแทบไม่ทัน

ปลาหมึกย่าง

ค่าเสียหาย 6 ไม้ 100 บาท

บรรยากาศตลาดน้ำ เมื่อยามเย็น มองจากบนสะพาน

ยืนกินบรรยากาศ สักพัก ก็หาซื้อของกินไปนั่งกินบริเวณ สวน ร. 2

นั่งกินขนม ที่สนามหญ้า สวน ร.2

นั่งจนถึง 2 ทุ่มกว่า เราเดินกลับเข้าตลาด คนเริ่มน้อยลงแล้ว แวะไปแต่งชุดท่านเจ้าคุณถ่ายรูปกัน ได้รูปมาสิบรูป กับค่าเสียหาย 500 บาท(ไม่กล้าเอามาโชว์ เก็บไว้ดูคนเดียว) เวลาประมาณ 3 ทุ่มเราไปนั่งเรือเที่ยวสุดท้ายไปชมหิ่งห้อย ราคา 60 บาท (ปกติ 80 บาท)

นั่งเรือไปชมหิ่งห้อย

นั่งเรือชมหิ่งห้อย ข้างแม่น้ำเป็นประสบการณ์ที่เยี่ยมมาก

วัดข้างคลอง

เกล็ดความรู้ที่ได้ ระหว่างชมหิ่งห้อย เพื่อนถาม เราจำ
– หิ่งห้อย อยู่เฉพาะต้นลำพู เพราะต้นลำพู เป็นไม่เนื้ออ่อนมีโพรงภายในให้ มันอาศัย
– แสงมีได้ทั้งตัวผู้และตัวเมีย
– มันจะออกมาตอนหัวค่ำ และตอนดึกจะค่อยๆกลับเข้าโพรง
– หิ่งห้อยกินน้ำค้างเป็นอาหาร วางไข่ที่เลน
– ต้นลำพู โตยาก ปลูกยาก
– การกระพริบของมันมีความถี่ ประมาณ 80 ครั้ง/นาที อันนี้ผมนับเอง delay ประมาณ 600-800 ms
– ข้อมูลนี้จำได้ตอนเรียน กระบวนการนี้เป็น Bioluminescence หิ่งห้อยใช้ เอนไซม์ Luciferase ย่อย Lucifin ได้ผลิตภัณฑ์เป็น oxyluciferin กับแสงที่เราเห็น โดยปฎิกิริยาจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีออกซิเจน จากการหายใจ แสดงว่าการกระพริบที่เราเห็นเป็นไปตามจังหวะการหายใจของมัน

ไม่มีรูปให้ดูครับ อยู่ในความทรงจำล้วนๆ ราคา 60 บาท ถือว่าคุ้มมาก ดูจนเบื่อเลยทีเดียว

เรามาพักค้างคืนที่ เพชรบุรี ตอนเช้าตื่นมากิน อาหารเช้า และไปเที่ยวต่อในเพชรบุรี ที่นั้นคือ  วังบ้านปืน วังของสมเด็จ ร.5

วังบ้านปืน

แล้วก็แวะซื้อ ของฝากก่อนจะเดินทางกลับ ดู Photosyth ของวังบ้านปืน

ขอบคุณเพื่อนสุรเดช เพื่อนยุ กับประสบการณ์การเที่ยว สนุกๆครับ โอกาสครั้งหน้า กำลังวางแผนขึ้นเหนือ หรือไม่ก็ลงใต้ฝั่งอันดามัน

Exit mobile version