รีวิวหนังสือ Algorithms to Live By: The Computer Science of Human Decisions

หนังสือ Algorithms to Live By: The Computer Science of Human Decisions (2016)

ผลงานการเขียนร่วมกันระหว่าง

-Brian Christian นักเขียนชาวอเมริกัน ที่เคยเขียนหนังสือ Bestseller อย่าง The Most Human Human (2011) (เล่มนี้มีข่าวว่าสำนักพิมพ์ salt เอาไปแปลแล้ว)
-Tom Griffiths ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาและวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจ(psychology and cognitive science) ที่ UC Berkeley ผู้อำนวยการ UC Berkeley’s Computational Cognitive Science Lab

หนังสือ Algorithms to Live By: The Computer Science of Human Decisions by Brian Christian (ซ้าย) and Tom Griffiths (ขวา)

ความจริงแล้วควรเขียนรีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อน รีวิวหนังสือ Hello World: Being Human in the Age of Algorithms เพราะได้อ่านก่อน เพราะไม่ได้คิดว่าจะเขียนรีวิวจริงจัง เขียนสั้นๆไว้ใน facebook แล้ว แต่ก็เสียดายเลยเอามาลงไว้ที่นี้อีกรอบ

หนังสือ Algorithms to Live By เป็นหนังสือที่บันเทิงมากกว่าที่คิด คนเขียนเอาหลักคณิตศาสตร์มาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่างสนุกสนาน และน่าสนใจมาก มีเรื่องให้เอาไปเล่าในวงสนทนากับเพื่อนๆได้อย่างสนุกสนาน เราจะรู้สึกแปลกใจกับผลลัพธ์ทางคณิตศาสตร์ ที่บางครั้งใช้สามัญสำนึกคิดไม่ได้ แต่คณิตศาสตร์ตอบปัญหาเหล่านั้นออกมาเป็นตัวเลขให้เราได้

ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าหนังสือเล่มนี้ ถ้าเรามีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคณิตศาสตร์บ้างจะอ่านสนุกขึ้น แต่ถึงไม่รู้เรื่องเลยก็ยังจะทำความเข้าใจกับกระบวนการคิดได้

ขอยกตัวอย่างบางส่วนมาให้อ่านกัน จะได้ประมาณได้ถูกว่าหนังสือจะเล่าเรื่องอะไร ให้เราได้ทำความเข้าใจกับ Algorithms และการนำไปใช้อย่างไรได้บ้าง

-ถ้ากำลังค้นหาบ้านเช่าหลังใหม่ เลขาคนใหม่หรือหาแฟนสักคน เราจะรู้ได้ยังไงว่าเมื่อไหร่ที่ต้องหยุดหาและตัดสินใจเลือกได้แล้ว สามารถใช้ secretary problem ในการแก้ปัญหาได้

อธิบายดังนี้ ถ้าเราสามารถตัดสินใจเลือกรับหรือไม่รับ ได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งแค่ครั้งเดียว (คุณคงจะไม่สามารถ say NO, YES กลับไปกลับมากับสาวที่เดทอยู่แล้วได้หรอกนะ) แล้วเมื่อไหร่ถึงจะตัดสินหยุดและเลือกตัวเลือกนั้น คำตอบคือ คนลำดับที่ 37% ของตัวเลือกทั้งหมดมี ใช้ได้กับการเลือกบ้าน เลือกเลขาหน้าห้อง เลือกห้องน้ำที่ music festival หรือแม้แต่แฟนสักคน ลำดับที่ 37% มี possibility ที่สูงที่สุดหลังจากนั้นจะค่อยๆลดลง

ถ้าสนใจดูคำอธิบายเพิ่มเติมได้ที่คลิปด้านล่าง

คำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ secretary problem
ดูคำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ secretary problem ได้ที่คลิปนี้

-เราจะตัดสินใจอย่างไรระหว่างทำอย่างเดิมที่คุ้นเคยหรือทำสิ่งใหม่ เช่น เย็นนี้จะกินอาหารที่ร้านเดิมที่ชอบหรือจะลองไปกินร้านใหม่ที่ไม่เคยกิน (Explore/Exploit trad-off)

ดูคำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Explore/Exploit trad-off ได้ที่คลิปนี้

-ถ้ามีเสื้อผ้าหลายตระกร้า ต้องซักก่อนแล้วค่อยปั้นแห้ง เวลาที่ใช้ของแต่ละเครื่องขึ้นกับชนิดและความเปื้อนของผ้า เช่น ผ้าสกปรกมากหน่อยก็ต้องซักนานกว่าปกติ ถ้าผ้าหนาหน่อยก็ใช้เวลาปั่นแห้งนานกว่าปกติ แล้วแบบนี้ เราจะจัดลำดับอย่างไร ให้การใช้เวลาในการทำงานน้อยที่สุด ไม่ให้มีช่วงที่ต้องรออีกเครื่องทำงานเสร็จก่อน หรือถ้ามีก็ให้มีน้อยที่สุด มีประสิทธิภาพมากที่สุด (Sorting, Johnson’s algorithm)

คำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Johnson’s algorithm ได้ที่คลิปนี้

เราจะได้เจออะไรแบบนี้ตลอดทั้งเล่ม เอาเป็นว่าแนะนำให้อ่านครับ สนุก
5/5
Algorithms to Live By: The Computer Science of Human Decisions by Brian Christian and Tom Griffiths

สร้างกราฟอัตโนมัติใน Excel ด้วย VBA

ได้ช่วยเพื่อนเขียนโค้ด VBA ใน MS Excel เพื่อสร้างกราฟอัตโนมัติ ขอบันทึกเตือนความจำแบบสั้นๆเก็บไว้

ข้อมูลที่ต้องการสร้างกราฟนั้นเป็นชุดข้อมูลที่เหมือนกัน สามารถประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับงานอื่นๆได้ แกน X เป็นปีที่เก็บข้อมูล เช่น ปี 1990-2017 ส่วนแกน Y เป็นชุดข้อมูลที่แตกต่างกันตามสนใจ อาจจะมีเป็นร้อยชุดข้อมูลเลยก็ได้ ถ้าจะมานั่งทำทีละกราฟ ทีละชุดข้อมูล และกราฟแต่ละอันยังมีรูปแบบเหมือนกัน จะค่อนข้างเสียเวลามาก โค้ด VBA จึงพอจะช่วยลดเวลาในการทำงานลงได้บ้าง

ตัวอย่างกราฟและชุดข้อมูลตัวอย่าง

จะอธิบายตามโค้ดที่เขียนเลย

-เปิด VB editor ของ Excel ขึ้นมา แล้ว insert module ใน sheet ที่มีชุดข้อมูลที่ต้องการสร้างกราฟแล้ว จะจัดให้ข้อมูลวางแนว Row หรือ Column ก็ได้ แล้วค่อยไปกำหนดเองในโค้ด VBA

Option Explicit

Sub WRYChart()

'ประกาศชนิดของตัวแปร
Dim parameterNum As Integer
Dim co As ChartObject
Dim ct As Chart
Dim sc1 As SeriesCollection
Dim ser1 As Series
Dim LC As Long

'ให้สามารถสร้างกราฟตามชุดข้อมูลที่สนใจได้ จึงกำหนดหมายเลขกำกับแล้วอิงจากตัวเลขนั้นเพื่อสร้างกราฟ
parameterNum = InputBox("What parameter would you like to chart?")

'กำหนดหมายเลขของชุดข้อมูลไว้ เท่าไหร่ก็ได้ต้องครอบคลุมจำนวนชุดข้อมูลที่มี เช่น อันนี้มี 100 กราฟที่ต้องสร้าง
If parameterNum > 0 And parameterNum < 100 Then

'ตำแหน่ง(A10) cells ใน excel ที่อยากจะสร้างและวางกราฟลงไป ชื่อและขนาดของกราฟ ในที่นี้มีหลายกราฟ จึงเลือก column ท้ายสุดของข้อมูล และ(offset)เลื่อนลง ตามลำดับชุดข้อมูล 
Set co = Sheet3.ChartObjects.Add(Range("A10").Offset(parameterNum, 1).Left, Range("A10").Offset(parameterNum, 1).Top, 450, 200) 'Chart location
co.Name = "parameter number" & parameterNum & "Chart"

'ใส่รายละเอียดของกราฟที่อยากได้ ชื่อกราฟ รายละเอียดของแกน x,y
Set ct = co.Chart
With ct
.HasLegend = True
.HasTitle = True
.Axes(xlCategory, xlPrimary).HasTitle = True
.Axes(xlCategory, xlPrimary).AxisTitle.Characters.Text = "Jahr" 'กำหนดป้ายของแกน x โดยเขียนเองเป็นข้อความ
.Axes(xlValue, xlPrimary).HasTitle = True
.Axes(xlValue, xlPrimary).AxisTitle.Characters.Text = Range("F3").Offset(parameterNum, 0).Value 'กำหนดป้ายของแกน y กำหนดให้เปลี่ยนตามข้อมูลใน cells ที่กำหนดไว้
.Axes(xlCategory).CategoryType = xlTimeScale 'ชนิดของข้อมูล
.Axes(xlCategory).BaseUnitIsAuto = True
.Axes(xlCategory).MajorUnit = 2 'กำหนดการแบ่งหน่วย
.Axes(xlCategory).TickLabels.Orientation = xlTickLabelOrientationUpward 'กำหนดการวางตัวป้าย

.ChartTitle.Text = Range("G3").Offset(parameterNum, 0).Value 'กำหนดชื่อ ให้เปลี่ยนตามข้อมูลใน cells (เริ่มที่ G3 เลื่อนตามหมายเลขเลือก) ที่กำหนดไว้
Set sc1 = .SeriesCollection 
Set ser1 = sc1.NewSeries

'รายละเอียดข้อมูลของกราฟที่จะสร้าง
With ser1
.Name = Range("G3").Offset(parameterNum, 0).Value 'ชื่อของข้อมูล
.XValues = Range(Range("G3").Offset(0, 1), Range("G3").End(xlToRight)) 'ชุดข้อมูลของแกน x (เลือกที่ตำแหน่ง G3 จนถึงตำแหน่งขาวสุด)
.Values = Range(Range("H3").Offset(parameterNum, 0), Range("L3").Offset(parameterNum, 0)) 'ชุดข้อมูลของแกน x (เลือกที่ตำแหน่ง H3 จนถึง L3)
.ChartType = xlXYScatterSmoothNoMarkers 'ชนิดของกราฟ
.Trendlines.Add(Type:=xlLinear, DisplayRSquared:=True).Select 'เพิ่มเติม การใส่ Trendline และค่า R Square ของเส้น

End With

End With

MsgBox ("That's Perfect!") 'แจ้งเตือนเมื่อกราฟสร้างเสร็จ

Else: MsgBox ("You must enter a parameter number between 1 and 100") 'แจ้งเตือนเมื่อใส่ตัวเลขผิดพลาด
End If

End Sub

ปล. กำหนดชุดข้อมูลของ x, y สามารถกำหนดในรูปแบบนี้ได้เช่นกัน

.Values = Range(Range("G3").Offset(parameterNum, 1), Range("G3").Offset(parameterNum, 1).End(xlToRight))

ข้อดีคือ สามารถเพิ่มชุดข้อมูลต่อไปได้เรื่อยๆ เพราะ End(xlToRight) จะวิ่งคลุมถึงตัวสุดท้ายของข้อมูล
ข้อเสียคือ ถ้าชุดข้อมูลไม่ต่อเนื่องมีขาดหรือหายไปในบาง cells มันจะไม่สามารถดึงข้อมูลทั้งหมดมาได้ ถ้าหากเป็นแบบนี้ต้องใช้การกำหนดระยะของขุดจ้อมูลเองดังตัวอย่างด้านบน

.Values = Range(Range("H3").Offset(parameterNum, 0), Range("AL3").Offset(parameterNum, 0))

ภาพประกอบอื่นๆ

การเรียกใช้ VB และ Macro ใน Excel

ตัวอย่างการใช้งาน

ตัวอย่างการใช้งาน

Google Pixel Buds หูฟังแปลภาษาแบบ real-time ใช้กับมือถือรุ่นอื่นได้ไหม?

Google เปิดตัวผลิตภัณฑ์หลายอย่างจาก Event ในเดือนตุลาคม เอาเป็นว่าเข้าไปดูได้ที่ https://store.google.com แต่มีอย่างหนึ่งที่น่าสนใจมากจนต้องมาเขียนถึงเลย คือ Google Pixel Buds หูฟังไร้สายที่ทำงานร่วมกับมือถือเพื่อแปลภาษาแบบ real-time ทำให้คนที่คุยกันคนละภาษาสามารถคุยโต้ตอบกันได้เลย มันเจ๋งมาก

Google Pixel Buds

มันทำงานแบบไหน และเจ๋งแค่ไหนลองดูได้ที่วิดีโอสาธิตการใช้งาน

ก่อนจะกดสั่งซื้อ เลยตั้งคำถามสำคัญก่อน

  • หูฟังแปลภาษาตัวนี้ใช้กับมือถือรุ่นอื่นได้หรือไม่?
    คำตอบ: ไม่ได้

เมื่อเข้าไปดูใน รายละเอียดของ Google Pixel Buds Requirements & Specifications

  • ระบุไว้ดังนี้ ใช้สำหรับเป็นหูฟังไร้สาย Bluetooth ใช้ได้กับ
    -Android 5.0 ขึ้นไป
    -iOS 10.0 ขึ้นไป
  • ถ้าอยากใช้ผู้ช่วย Google Assistant
    -Android 6.0 ขึ้นไป
  • แต่ตัวสำคัญ ถ้าต้องใช้ Google Translate เพื่อแปลภาษาแบบ real-time (ฟีเจอร์ที่อยากใช้)
    – ต้องใช้ร่วมกับมือถือ Pixel หรือ Pixel 2 เท่านั้น

สรุปว่ามันคือ Exclusive feature สำหรับ Google Pixel Phone ใช้ได้ทั้งรุ่นแรก และรุ่น 2 แต่ไม่รองรับมือถือแอนดรอยด์รุ่นอื่น

(เสียใจ)

[CeBIT2017] Lyric speaker ลำโพงพร้อมจอแสดงเนื้อร้อง

สัปดาห์ที่แล้วได้ไปเที่ยวงาน CeBIT 2017 (Centrum für Büroautomation, Informationstechnologie und Telekommunikation, (English)Center for Office Automation, Information Technology and Telecommunication) เป็นงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับเทคโนโลยี ปีนี้มีญีปุ่นเป็นพาร์ทเนอร์ในการจัดงาน

งานจัดที่ Hannover ปีที่แล้วก็ไปมา แต่ไม่ได้เขียนอะไรไว้เลย

ปีนี้มีหลายส่วนที่น่าสนใจ ก็เลยอยากเอามาแชร์ จะค่อยๆทยอยเอามาลง

ตัวแรกที่เห็นแล้ว น่าสนใจและอยากได้มาก สำหรับใครที่ชอบฟังเพลงแบบรู้เนื้อร้อง ประหนึ่งว่ากำลังดูคาราโอเกะแล้วต้องชอบลำโพงตัวนี้แน่ๆ ลำโพงตัวนี้ คือ Lyric speaker ลำโพงระดับ HiRes ที่มาพร้อมจอโปร่งแสง แสดงเนื้อเพลงของเพลงที่กำลังเล่น

Lyric speaker

เป็นสิ้นค้าจากญีปุ่น เชื่อมต่อกับมือถือได้ทั้ง iOS, Android

Lyric Sync Technology

ตอนที่ไปดูในบูธก็ให้เขาเปิดเพลงให้ดู แล้วก็กดอัดวิดีโอครับ แต่ดันกดอัดวิดีโอตอนเพลงที่ไม่มีเนื้อซะงั้น แต่ตอนเพลงที่มีเนื้อมันก็มีเอฟเฟ็คเท่ๆให้ดูนะครับ

เมื่อเข้าไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ก็มีให้ดูเป็นตัวอย่างนะครับ แต่ว่าตัวจริงดูเท่กว่ามาก เว็บไซต์ https://lyric-speaker.com

Lyric-speaker

มาถึงส่วนที่สำคัญ ราคา สิ้นค้าน่าใช้มาก เหมาะกับการเอามาตั้งไว้ที่บ้านมาก ราคาที่ถามกับคนเฝ้าบูธคือ 5,000 ยูโร (~190,000 บาท) ผมถามอยู่ 3 รอบว่าที่ได้ยินไม่ผิดใช่ไหม? แต่ได้คำตอบเดิมกลับมา

แต่ว่าๆ…ตอนกลับมาเช็คราคาในเว็บไซต์ของญี่ปุ่นและลองกดสั่งสิ้นค้าไป คำนวณจากเงินเยนออกมาได้ราว 2,500 ยูโร (~100,000 บาท) เท่านั้นครับ ก็ขอเชื่อตามเว็บไซต์ก็แล้วกัน (เพราะถูกตัวกว่า) คิดว่าคงเหมาะกับลูกค้าเฉพาะกลุ่มเท่านั้นครับ T_T

ในเว็บไซต์บอกรายละเอียดของลำโพตัวนี้อย่างละเอียดดังนี้

สเปค

Product Name: Lyric speaker
Model: LS1
Color: Black
Dimensions (Approximate): W52cm x D14cm x H35cm
Weight (Approximate): 11kg (Body 10.5kg, AC adapter 0.5kg, Power cord 0.2kg)

Display: 22inch Transparent LCD
Speaker:

  • Speaker Coaxial Loudspeaker x2,Drone Cone Speaker x2
  • Output(max) 20Wx2 (40W)
  • Enclosure Dual Passive Radiators
  • Frequency 40Hz – 40kHz

Wi-Fi®:

  • Standard IEEE 802.11 a/b/g/n/ac
    Security WPA2™ – Personal
    Frequency 2.4/5.0 GHz

Material: Body ABS / Galvanized Steel / Acrylic Plate
Power: Power 100W max *Power Consumption Operational
Included in the Box: Lyric speaker(body), Manual・Warranty, AC adapter, Power cord

เขียนถึง (วิเคราะห์) Sony Pictures ถูกแฮคครั้งใหญ่

Sony Pictures hack

เรียกว่าวิเคราะห์ก็เขินเกินไปที่จะเขียนแบบนั้น ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องคอมพิวเตอร์ขนาดนั้น เลยใช้คำว่า “เขียนถึง” ก็พอแล้วกัน ข่าววงการไอทีที่ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงนี้คือ ข่าวบริษัท Sony Pictures ถูกแฮคคอมพิวเตอร์ทั้งระบบ เรียกได้ว่าถูกเจาะทะลุปรุโปร่ง อีเมล ระบบงาน ไฟล์หนังสมบูรณ์ที่ยังไม่ได้ฉาย บทภาพยนต์ เอกสารเจรจาธุรกิจ ข้อมูลพนักงาน เอกสารลับในบริษัท และอื่นๆอีกมากมาย เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่สำคัญและน่าติดตาม จึงอยากจะบันทึกเรื่องต่างๆในมุมมองของตัวเองเก็บไว้

มีข่าวหลายที่ตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง

https://www.engadget.com/2014/12/10/sony-pictures-hack-the-whole-story/ 

https://www.bbc.com/news/technology-30530361

https://www.blognone.com/topics/sony-pictures (ภาษาไทย)

มีหลายสำนักโยงเรื่องการแฮคครั้งใหญ่นี้กับเกาหลีเหนือ ต้นเรื่องมาจากการทำหนังเรื่อง The Interview หนังตลกเกี่ยวกับการลอบสังหารผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ Kim Jong-un และการถูกขู่ให้ระงับการฉายหนังเรื่องนี้ก่อนที่เหตุการณ์การถูกแฮคจะเกิดขึ้น ยิ่งทำให้คนเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกัน แม้ว่าเกาหลีเหนือจะออกมาปฎิเสธแบบกรายๆว่าไม่ใช่ แต่จากการสืบสวนมีหลายอย่างที่มุงไปที่เกาหลีเหนือเป็นส่วนใหญ่ เรื่องนี้ไม่มีทีท่าว่าจบลงได้โดยง่าย แฮคเกอร์ยังมีข้อมูลหลายอย่างที่จะนำมาเผยแพร่ต่ออยู่อีกเรื่อยๆ

นามแฝงของแฮคเกอร์ #GOP

สิ่งที่พอจะมีความคิดเห็นกับเรื่องนี้ มีดังนี้

  1. ถ้าหากเป็นเกาหลีเหนือที่ทำจริง แสดงว่าเขามีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ที่แข่งแกร่งมาก พร้อมจะทำสงครามไซเบอร์กับใครก็ได้ ที่บอกว่าพร้อมจะโจมตีใครก็ได้เพราะดูจากการเลือกเป้าหมายที่โจมตีก่อน ไม่ใช่การเจอช่องโหว่ของระบบได้ด้วยความบังเอิญ หากแต่เป็นการมุ่งโจมตีเป้าหมายที่ต้องการจะโจมตี “ถ้าคุณยังยืนยันจะทำหนังล้อเลียนผู้นำของเราคุณจะถูกโจมตี” ในยุคที่ทุกอย่างแทบจะอยู่ในคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตหมดแล้ว ทำให้การโจมตีมาจากที่ไหนก็ได้ กลายเป็นว่าเกาหลีเหนือมีกองทัพไซเบอร์ที่น่ากลัวมาก
  2. โรงหนังของดฉายหนังเรื่อง The Interviews เพราะไม่อยากเป็นเป้าโจมตี ทำให้รู้สึกว่าเราอยู่ในยุคที่การโจมตี ไม่ใช่มาจากการโจมตีทางการทหารอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว การโจมตีทางไซเบอร์ทำความเสียหายให้กับเป้าหมายอย่างสูงมาก ในขณะที่ใช้กำลังพล กำลังทรัพย์น้อยกว่ามาก และการโจมตีเป้าหมายในระยะไกลคนละซีกโลกได้โดยง่าย
  3. ประเทศเรามีการพัฒนาหรือพร้อมกับเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน เท่าที่รู้เราไม่น่าจะมีกองกำลังที่จะโจมตีใครได้หรือจะดูแลตัวเองได้เลยด้วยซ้ำ ประเทศเราก็พึ่งพาคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตอยู่ไม่น้อย ทะเบียนราช ชื่อ-ที่อยู่ของทุกคนในประเทศ ระบบภาษี ธนาคาร งานบริการอื่นๆอีกมากมาย ระบบความปลอดภัยของเราพร้อมมากน้อยแค่ไหน เป็นอีกเรื่องที่น่าให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
  4. ถ้าหากการแฮคครั้งใหญ่นี้เกิดจากช่องโหว่ในระบบที่มีการแจ้งเตือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่ถูกเพิกเฉย เมื่อแฮคเกอร์ใช้ช่องโหว่นั้นแฮคได้สำเร็จ ได้ข้อมูลต่างๆไปมากมาย จากนั้นแค่นำเรื่องของเกาหลีเหนือมาเป็นข้ออ้างในการกระทำครั้งนี้ “Some Men Just Want to Watch the World Burn” ก็เป็นคราวซวยของ Sony Pictures ที่ฝ่ายไอทีเพิกเฉยกับเรื่องที่สำคัญเช่นนั้น แต่อย่างไรก็ตามผู้กระทำให้ผู้อื่นเสียหายดังกล่าวก็ควรได้รับการลงโทษตามกฏหมาย

เรื่องที่พอจะคิดออกและอยากเขียนถึงก็มีเพียงเท่านี้ ตอนแรกแค่อยากจะเขียนลงทวิตเตอร์แต่เขียนไปเขียนมามันเริ่มยาวเกินไปจึงนำมาเขียนในบล็อกเก็บไว้เลยดีกว่า ถ้ามีประเด็นไหนที่คิดออกอีกจะนำมาเขียนต่ออีกทีครับ

TED Talks ที่มีซับภาษาไทย

TED Talks ที่มีซับภาษาไทย

TED Talks เป็นที่นำเสนอไอเดียของเหล่าผู้มีชื่อเสียงในสังคมโลก เขียนถึงไปหลายครั้งแล้วดูได้ที่ tag TED แนวคิดของ TED คือกระจายแนวคิดออกไปให้ได้มากที่สุด จึงมีส่วนของการแปลภาษาเข้าไปด้วยเพื่อให้เข้าถึงคนทั่วโลกได้มากขึ้น ล่าสุดวีดีโอ TED Talks ที่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยมีอยู่ 165 คลิป แต่ละคลิปมีประโยชน์และน่าสนใจทั้งนั้น อยากให้ลองไปเปิดดู รับรองว่าจะเปิดมุมมองของเราให้กว้างเพิ่มขึ้นแน่นอน หัวข้อใหญ่ๆแยกเป็นหมวดหมู่ให้เลือกติดตาม คือ Technology, Entertainment, Design, Business, Science, Global issues ส่วนตัวผมชอบหัวข้อ Design กับ Science เป็นพิเศษ ถ้าสนใจแล้วอยากลองเข้าไปดูบ้างแล้ว ก็คลิกเลย TED Talks ที่มีซับภาษาไทย

นอกจากจะเชิญชวนให้ไปดูแล้ว อยากจะเชิญชวนคนที่มีความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษด้วยเช่นกัน TED เปิดรับอาสาสมัคร ให้ไปช่วยกันแปลการนำเสนอของเหล่า Speaker ระดับโลกที่ถูกบันทึกไว้ เพื่อให้สิ่งที่มีประโยชน์เหล่านั้นเข้าถึงคนในท้องถิ่นของตัวเองให้ได้มากขึ้นครับ (ผมฟังออกบางคำก็ดีแล้วครับ) คนที่เป็น TED Translator เท่าที่เห็นมี @fringer(คุณสฤณี อาชวานันทกุล)ครับ อยากจะให้คนก่งๆไปช่วยกันแปลเยอะๆครับ เข้าไปสมัครได้เลยที่ Become a translator

iPhone 5 กับ 5 คุณสมบัติที่จะต้องมี

iPhone 5

iPhone มีการอัพเดตออกตัวใหม่ทุกปี คิดว่า iPad ก็น่าจะใช้โมเดลแบบเดียวกัน ปีที่แล้ว iPad เปิดตัวในวันที่ 27 มกราคม 2010 ช่วงนี้จึงเริ่มมีข่าวหลุดของ iPad 2 ออกมาเรื่อยๆ คงเปิดตัวไม่เกินต้นเดือนกุมภาพันธ์แน่นอน

ส่วน iPhone ปกติจะเปิดตัวช่วงต้นเดือนมิถุนายน ด้วยความฮิตของมัน ก็มีหลายเว็บมักจะออกมาเก็ง ว่ามันจะมีเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆ ที่น่าจะถูกจับยัดใส่ใน iPhone 5 ในโพสนี้เลยหยิบการวิเคราะห์จาก cnet มาให้ดู เป็น 5 ฟีเจอร์ที่น่ามีใน iPhone 5

  1. Dual-core processing หน่วยประมวลผลแบบ 2 แกน
    หน่วยประมวลผล 2 แกน เพิ่มความสามารถในการประมวลผลการทำงานได้เร็วยิ่งขึ้น ปัจจุบันเทรนด์ของตลาดมือถือกำลังจะก้าวเข้าสู่หน่วยประมวลผล 2 แกน อย่างเช่น Nvidia Tegra 2 ยากยิ่งที่ Apple ผู้ผลิตมือถือสมาร์ทโฟนแถวหน้า จะปฏิเสธเทคโนโลยีนี้ Apple นั้นต้องการที่จะผลิตชิปเป็นของตัวเอง แต่มันต้องมีประสิทธิภาพที่เทียบเท่าหรือเหนือกว่ามือถือสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนของฝั่ง Android ถ้ายังต้องการรักษาฐานลูกค้าทั้งใหม่และเก่า ในระบบประมวลผล 2 แกน ยังมีข้อดีเรื่องประหยัดพลังงานแบตเตอรี่อีกด้วย Tegra 2 ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพดีกว่าหน่วยประมวลแบบ 1 แกนอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ทำงานต่ำๆ สมาร์ทโฟนที่ใช้หน่วยประมวลผล 2 แกน ปัจจุบันมี LG Optimus 2X, Motorola Atrix ใช้ Nvidia Tegra 2 เป็น Andriod OS ส่วน HTC ก็มีแผนที่จะออกสมาร์ทโฟน แบบ 2 แกนเหมือนกัน แต่จะใช้ CPU dual-core Snapdragon processors ของ Qualcomm จึงคาดการณ์ได้ว่า iPhone 5 จะต้องมีหน่วยประมวลผลเป็นแบบ 2 แกน
  2. HDMI connectivity เชื่อมต่อการแสดงผลบนจอทีวี
    HDMI Port แสดงผลบนจอ TV ขนาดใหญ่ เป็นเทรนด์ที่มาแรงในปีนี้ที่ แม้ว่า iPhone จะมีขนาดที่บาง แต่ Apple จะต้องหาทางใส่มันเข้าไป หรืออาจจะต้องทำเป็น adapter เชื่อมต่อขึ้นมา แม้ว่า iPhone จะมี AirPlay ที่เชื่อมต่อแบบไร้สายแล้วก็ตาม แต่การเชื่อมต่อด้วย HDMI จะได้อะไรมากกว่าการแสดงเฉพาะพวกมีเดีย แต่จะได้สัมผัสกับทุกแง่มุมของมือถือไม่ว่าจะเป็นการเล่นเว็บ การทำเอกสาร เล่นเกม นี้จึงเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ของปีนี้ที่มือถือสมาร์ทโฟนระดับสูงต้องมี
  3. Desktop-like application ทำตัวเหมือนคอมพิวเตอร์
    ถ้า Apple คิดทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่มีจอขนาดใหญ่ มันก็จะทำตัวเหมือนคอมพิวเตอร์ทั่วไป อย่างเช่น ในงาน CES ที่เราได้เห็นสมาร์ทโฟน Motorola Atrix 4G ที่สามารถเชื่อมต่อเพื่อแสดงผลบนจอ Notebook ได้ ระบบนี้จะทำให้มือถือของเราเป็นเหมือนศูนย์กลางของการทำงานทางด้านดิจิตอลของเราอย่างแท้จริง และมีประสิทธิภาพมาก เพราะตอนนี้เราก็ใช้ iPhone ทั้งเปิดเว็บ อ่านอีเมล เพื่อความบันเทิง เล่นบนรถ ในห้องนั่งเล่น หรือบนโต๊ะที่ทำงาน ซึ่ง iPhone 5 ต้องทำจุดนี้ได้
  4. Larger display จอใหญ่ขึ้น
    นี้เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ cnet บอกว่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในปีนี้ แต่การซื้อมือถือสมาร์ทโฟนที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมาก จอขนาด 3.5 นิ้วของ iPhone เริ่มจะถูกมองว่าเล็กเกินไปเมื่อเทียบกับจอขนาด 4 นิ้วขึ้นไปของ Samsung, HTC หรือเจ้าอื่นๆ
  5. Gorilla glass เครื่องที่ทนทานมากขึ้น
    iPhone 4 แม้จะมีการบอกว่ากระจกของมันทนทาน มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อสารเคมี เป็นกระจกชนิดเดียวกับที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ หรือกระจกด้านหน้ารถไฟฟ้าความเร็วสูง แต่มันก็มีข่าวกระจกแตก กระจกร้าวออกมาเป็นระยะ แสดงว่ามันไม่ได้ทนทานตามคำโฆษณา ไม่ว่า Apple จะใช้ Gorilla glass ที่ได้ขึ้นชื่อว่าทนทาน และได้รับความนิยมมากในการนำมาใช้กับสมาร์ทโฟน หรือจะหาวัสดุอื่นมาแทนกระจกหน้าหลังของเครื่องหรือไม่ แต่แน่นอนว่า Apple จะต้องหาบางสิ่งบางอย่างมาเป็นจุดขายเพื่อจะบอกว่ามันแข็งแรงกว่าตัวเก่า

โดยรวมเป็นการมองว่า iPhone 4 มีจุดด้อยตรงไหนบ้างที่ควรปรับปรุง รวมกับแนวโน้มของเทคโนโลยีที่กำลังจะมาในปีนี้ อีกอย่างที่น่าสนใจคือ iPhone 5 จะเป็นสมาร์ทโฟน ที่รองรับทั้งระบบ CDMA กับ GSM ในเครื่องเดียวกันเลยหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่น่าสนใจ คิดว่า Apple คงไม่อยากแยกผลิต iPhone แบบ CDMA ให้ Verizon กับ GSM ให้ AT&T อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ เป็นแน่แท้

BME CONCEPT แลกเปลี่ยนแนวคิดวิศวกรรมชีวเวช

BME CONCEPT 2010

BME CONCEPT 2010
วันที่ 30 พฤษศจิกายน 2010 ห้อง 203 ตึก 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์
ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 16.00 น.

เป็นงานที่คิดอยากจะจัดมานานแล้ว ประกอบกับทางหลักสูตรวิศวกรรมชีวเวช จุฬาฯ มีทุนสนับสนุนให้ ผมจึงคิดจะจัดงานสัมมนากึ่งวิชาการ แนวคิดคือ Biomedical engineering ประกอบปด้วยสาขาย่อยภายในหลายสาขา ส่วนใหญ่แยกจากกันชัดเจน เช่น Rehabilitation engineering กับ Tissue engineering แทบจะแยกเป็นคนละคณะได้เลย แต่ถ้ามองลึกๆแล้วเราจะพบว่า ทุกสาขามันเชื่อมโยงกันได้ แนวคิดของสาขาหนึ่งสามารถประยุกต์ใช้กับอีกสาขาได้ ถ้าเรามีเวลาพบปะพูดคุยกันมากพอ

รายละเอียดทั้งหมดดูที่ Biomed.in.th

ตอนนี้กำลังเตรียมงาน ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึก และโลโก้ ที่ได้เห็นนี้แหละ ที่ทำเสร็จแล้ว งานมีงบสนับสนุนจากหลักสูตรฯ จึงน่าจะมีอะไรพร้อมกว่าครั้งที่เคยลองจัดดูเมื่อนานมาแล้วดูที่นี้ มีอาหารเลี้ยง มีของว่าง มีของที่ระลึก อุปกรณ์ต่างๆที่พร้อมมากขึ้น คนพูดก็มากขึ้นด้วย (เพราะกึ่งบังคับ) งานนี้มีการจำกัดคนเข้าดังนั้นใครสนใจติดต่อมาที่ผมโดยตรง sarapukdee@gmail.com

บันทึก BarCamp Bangkok 4 วันที่หนึ่ง

BarCamp Bangkok 4 ที่ ม.ศรีปทุม จัดสองวัน วันที่ 23-24 ตุลาคม วันแรกจบลงไปแล้ว เป็นวันที่สนุกสนาน ได้ประสบการณ์ที่ดี งานนี้ได้น้อง @neopanich เป็นเพื่อนตลอดการเข้าฟังในห้องต่างๆ  ต้องขอบคุณด้วยนะครับ

ขอบันทึกวันแรกที่จบไปแล้ว ให้คนที่ไม่ได้ไป ได้ติดตามสักหน่อย ใช้ภาพประกอบการบันทึกนะครับ

BarCamp Bangkok 4

งานเริ่มให้ลงทะเบียนตั้งแต่ 09.00 น. ผมไปถึงก็เกือบจะ 10.00 น. แล้ว

ที่จัดงาน

ขึ้นตึกชื่ออะไรไม่รู้ ไปที่ชั้น 12 เป็นสนามบาสเก็ตบอล คนมากันเยอะ

ให้แต่ละคนโหวตหัวข้อที่สนใจ มันมีเยอะมาก

เริ่มโหวตกันไปเยอะแล้ว ผมส่งหัวข้อด้วยนะ สงสัยไม่ Geek พอ เลยได้คะแนนน้อย ส่วนใหญ่เป็นหัวข้อเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม

schedule

แล้วก็ออกตาราง แบ่งเป็นห้องๆ มีทั้งหมด 12 ห้อง ชื่อห้องตั้งชื่อตามผู้สนับสนุน ดูได้ที่ online schedule มันเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ ผู้ร่วมงานเลยต้องเปิดหน้านี้ดูตลอดว่าจะเข้าห้องไหน

เริ่มเข้าช่วงแรกของ BarCamp หัวข้อแรกที่ผมเข้าฟัง เรียงตามเวลา

11.00-11.30 น.  Android Development in 20 mins by @sugree

Android Development in 20 mins

@sugree พูดเรื่องการพัฒนา App บน Android ในเวลา 20 นาที อธิบายการเชื่อมโปรแกรมกับ Facebook และ Twitter เขาอธิบายว่าการเรียกใช้งานใช้โค้ดเพียงแค่ไม่มีบรรทัด

Facebook ใน SDK ของ Android มีเครื่องมือให้เรียกใช้ได้เลย ส่วน Twitter ไม่มีให้แต่เขียนเอง ง่ายมาก สุดท้ายมีแนะนำ แข่งขันการเขียน App บน android โดยใช้โค้ดเริ่มต้นจาก @sugree ให้เวลา 7 วัน ใครเขียนเสร็จ ครบถ้วน ก่อนคนนั้นรับไปเลย Dell Streak รายละเอียด https://www.ilovedell.com/dellstreak/intro.html

11.30-12.00 น. How to make money from Android by @Jimmy_LIVE

@jimmy_live

คุณหมอ @Jimmy_LIVE มาในนามของ HTC Thailand พูดเรื่องเราจะทำเงินจาก Android ได้อย่างไร เอา WP7 มาโชว์ด้วย เปิดตัวด้วยตัวเลขว่า 80% ของมือ Android ในไทยเป็นของ HTC นะ สิ่งที่เราต้องคำนึงเมื่อจะหารายได้จาก Android คือ

  • Device
    – more than 20 device a year
  • User Interface
    – Sense is more than an UI shell
    – Introduction to Sense.com
  • Application
    – Selected App
    – Market
    – Local Content (Selected App , Local Market)
  • รายได้ที่จะเข้ามา
    – Subsidize from Brands – MyHTC
    – Advertising – Agency Model
    – Local AppStore -MyHTC Market – HTC Apps in WP7 Market Place

สรุปโดยรวม คือ ดูว่าอุปกรณ์เป็นแบบไหน เลือกทำ app ที่คิดว่ามีคนใช้ รองรับตลาดในบ้านของตัวเอง ทำงานร่วมกับ Brand ดังๆ (เช่น HTC)

12.00 – 12.30 น. Iphone application development by Tot

Iphone application development

แนะนำวิธีการทำ Iphone App ตั้งแต่เริ่มต้น

  • ต้องมีเครื่อง Mac
  • ดาวน์โหลด SDK มาลงเครื่อง
  • ศึกษาวิธีการเขียน หนังสือ และจาก iTunes U หลักสูตรสอนการสร้าง App ของ Stanford ดีสุด
  • ทดลองเขียน App ง่ายๆให้ชมเลย
  • เขียนเสร็จก็ส่งให้ Apple ตรวจสอบ ขั้นตอนนี้เสียงตังค์ด้วยนะ

12.30 – 13.00 น. Making Music with Opensource Software by Siross

Making Music with Opensource Software

ชอบคำนี้ของคุณ Siross “Geek ใด ไม่มีโปรแกรมทำดนตรี ใน PC เป็นคนชอบกลนัก” ฮากันเลย โปรแกรมทำเพลงมีให้เลือกมากมาย ตัวที่เป็น Open source ที่เขาแนะนำคือ LMMS หรือ Linux MultiMedia Studio ดาวน์โหลด ได้ที่ https://lmms.sourceforge.net/download.php รองรับ Windows และ Linux

จากนั้นก็ทดลองทำเพลงให้ดูกันสดๆ เครื่องมือก็ใช้ง่าย ลากเสียงมาวางในห้องของจังหวะได้เลย กำหนดจังหวะการเกิดเสียง แล้วทดลองฟัง แต่งเสียงไปฟังไปพร้อมกันได้ ทำงานหลายเลเยอร์ และมีเลเยอร์ย่อยๆอีก ควบคุมเสียงดังเบาแบบละเอียดได้ วนเป็นลูปได้ และที่น่าจะทำให้โปรแกรมนี้น่าสนใจที่สุดคือ library ของเสียง ที่มาพร้อมกับโปรแกรมมีให้เลือกใช้เยอะมาก

…………………..

หยุดพักทานอาหาร มีอาหารอร่อย และมีให้เลือกเยอะ ผมก็จัดการไป 2 กล่องซะเลย

อาหารกลางวัน

เริ่มบาร์แคมป์ช่วงบ่าย ตอนเวลา 14.00 น.
14.00 – 14.30 น. การสอน Open Source ในสถานศึกษา by @winggundamth

การสอน Open Source ในสถานศึกษา by @winggundamth

@winggundamth ได้นำประสบการณ์การเปิดสอน Open Source ให้นักศึกษาปี 1 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มีสอนตั้งแต่ระดับทฤษฎี จนถึงปฎิบัติจริง เปิดตัวอย่างสไลด์ในดูเลย

มาดูกันว่าใน 1 เทอม มีการเรียนการสอนอะไรบ้าง

  • Week 1 – Social Network & Licensing
  • Week 2 – Introduction to Ubuntu
  • Week 3 – GIMP
  • Week 4 – OpenOffice.org Writer
  • Week 5 – OpenOffice.org Calc
  • Week 6 – OpenOffice.org Impress
  • Week 7 – Networking
  • Week 8 – Hardware
  • Week 9 – XHTML
  • Week 10 -CSS
  • Week 11 – Linux Command Line 1
  • Week 12 – Linux Command Line 2
  • Week 13 – Linux Command Line 3
  • Week 14 – BarCamp จัดภายใน

คู่มือของ OpenOffice โหลดได้จาก https://www.thaiopensource.org/node/1390

15.00 – 16.00 น. Mobile OS Showdown by Droidsans และชาวคณะ

Mobile OS Showdown นำทีมโดย Droidsans และชาวคณะ

เป็นการนั่งคุยกันแบบสบายๆ โดยให้แต่ละคนเป็นตัวแทนของ Mobile OS ได้แก่ Symbian, iOS, Android, Bada, WP7, BB จากนั้นเปรียบเทียบกันแต่ละ OS ด้วยหัวข้อต่างๆดังนี้

  • ภาษาไทย
  • Variety-ความหลากหลาย/fragmentation
  • Multi Tasking
  • Copy & Past
  • Customization-Contact/Home Screen/Dialer/Music/Keyboard/etc.
  • USB Thumbdrive/PC file transfer
  • PC Sync
  • Internet Tethering
  • Video Call
  • Browser & Flash
  • Application-จำนวน/วิธีการซื้อ/ราคา
  • Social Value-Modest Technology/จำนวนผู้ใช้/ความไฮโซ
  • User Experience-กล้อง/การสัมผัส/ความลื่นไหลของ OS/notification
  • Navigator
  • Phone Tracking (ตามหาเครื่องหาย)
  • มุมมอง Developer-จำนวน app/ความยากง่าย/share/piracy
  • อนาคต

บางเรื่องเป็นจุดเด่นของ OS หนึ่ง แต่เป็นจุดด้อยของอีกอันเปรียบเทัยบกันลำบาก ส่วน WP7 เพิ่งจะวางจำหน่าย และยังใหม่อยู่ก็ยากที่จะเปรียบกับชาวบ้าน แต่ที่ฟังดูแล้วน่าสนใจคือ Bada OS ของ Sangsung ในฐานที่เป็น User มันน่าสนใจเลยทีเดียว

ทีมงานสรุปสุดท้ายได้ดี ว่า “ไม่มีมือถือที่ดีที่สุด มีแต่มือถือที่เหมาะสมกับคุณที่สุด”

16.00 – 16.30 น. Testing Baby Foxes by @Dietrich from Mozilla

Testing Baby Foxes by @Dietrich

อธิบายว่า preview builds ของแต่ละตัวเป็นยังไง ผมไม่ใช่ developer ฟังแล้วไม่เข้าใจ ตอนที่เข้ามา เขาพูดไปได้เยอะแล้ว

Constant flux – Massive codebase,Unintended consenquences, Testing localized builds
Hold up – https://support.mozilla.com/en-us/kb/profiles
Trunk Nightlies https://night.mozilla.org
Profiles: Profile manager https://people.mozilla.org/~jgriffin/profilemanager/
Safety Dance – Backup with Dropbox, Tim Machine, etc. Firefox Synce, new in Firefox 4 (Weave add-on), Copy profiles, Sessionstore.js

Uh-oh: สุดท้ายอย่าลืม Feedback, Blog it, tweet it #firefox และ https://bugzilla.mozilla.org

16.30 -18.00 น. Thai Firefox Localization Sprint. Fixing l10n bugs

Thai Firefox Localization Sprint. Fixing l10n bugs

เป็นกิจกรรม ที่ทำร่วมกัน โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มตามความชอบ อยู่คนละมุมห้อง (ตามตำแหน่งปลั๊กไฟ)
กลุ่มที่ 1 ทำเรื่องการแปลหน้าเว็บ
กลุ่มที่ 2 แปลภาษาของ firefox 4
กลุ่มที่ 3 แปลภาษาของหน้าของนักพัฒนา
กลุ่มที่ 4 ทดสอบ bug

ผมอยู่กลุ่มทดสอบ bug อยู่ด้วยกัน 5 คน นำทีมโดย @Dietrich สิ่งที่เราทำคือ เข้าไปดูที่ sheet ว่าตอนนี้มี bug อะไรบ้าง ถ้าเจอตัวใหม่ก็เขียนลงไว้เลย แล้ว bug ดังกล่าวได้ทำการ fix แล้วหรือยัง

อย่างเช่น เราเข้าไปที่ Bug 425915 แล้วลองทดสอบดูที่เครื่องเรา ตามรายละเอียดที่เขาบอกไว้ ถ้ายังมี bug อยู่ ก็เขียนบอกด้านล่างว่า(ต้องสมัครสมาชิก ใช้แค่ email) ใช้ Firefox เวอร์ชั่นอะไร ใน OS อะไร

เป็น session ที่สนุกสนานดีครับ

ได้ของที่ระลึกมาดังนี้ครับ

ของที่ระลึกจาก Firefox

บันทึกของงาน BarCamp Bangkok วันแรก ขอจบลงเท่านี้ครับ

ใครอยากดูรูปทั้งหมดดูได้ที่นี้ครับ BarcampBKK4

Barcamp Bangkok 4 – Sripatum University Oct 23rd & 24th

Barcamp Bangkok 4 - Sripatum University Oct 23rd & 24th

I got an email from Barcamp Bangkok 4 Team.

Register Now, its free!

That’s right, 100% free, free food, free drinks, free T-Shirts, amazing speakers great sponsors and an incredible venue.

Places are limited and we are expecting over 1000 people this year, so hurry!

Register Now

Follow Us

  • Website
  • Twitter
  • Facebook
  • Exit mobile version