เล่าเรื่องพื้นที่เก็บภาพแบบฟรีของ Google+Photo

เราใช้ Google+Photo เป็นที่เก็บภาพมาตั้งแต่ที่ยังเรียกกันว่า Picasa Album ดีอย่างหนึ่งคือให้เก็บฟรีที่ความละเอียดภาพไม่เกิน 2048×2048 pixel แต่ถ้าเกินก็อัพโหลดได้แต่จะไปกินเนื้อที่ส่วนอื่น เราใช้ package ต่ำสุดของการจ่ายเงินเพื่อเพิ่มพื้นที่ ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากคือ 20GB 5$/year รวมกับโบนัสอื่นอีกที่ได้มา 16GB รวมเป็นพื้นที่ทั้งหมด 36GB ถือว่าเยอะพอสมควร แต่เมื่อวานตอนจะอัพโหลดภาพใหม่ขึ้น ระบบก็แจ้งเตือนว่าพื้นที่ใกล้หมด ทำเอางง? เพราะคิดว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะใช้ 36GB หมด ส่วนใหญ่ที่ใช้ก็มี Google Drive, Gmail เป็นหลักสองส่วนนี้ไม่น่าจะกินพื้นที่มาก ส่วนรูปภาพก็อัพกว้างไม่เกิน 2048pixel อยู่แล้ว แล้วอยู่ๆมันเกิดเต็มขึ้นมาได้ยังไง (ไม่ค่อยได้เช็คดูเท่าไหร่นัก) จึงเข้าไปตรวจสอบที่ละจุดว่าเกิดอะไรขึ้น ดูรายละเอียดการใช้พื้นที่ได้ที่ https://www.google.com/settings/storage?hl=en พบว่าพื้นที่ส่วนใหญ่หมดไปกับการเก็บภาพ ใช้ไปประมาณ 22GB ไหนว่าฟรีที่ความกว้างไม่เกิน 2048pixel?

จึงเข้าไปดูโปรไฟล์ของรูปที่เราอัพโหลดขึ้นไปจึงได้รู้ว่า ปรกติการทำรูปของเราจะใช้ LR เป็นตัว export รูปออกมาที่ความกว้าง 2048px (ตั้งค่าไว้แค่ตัวเดียว) จากนั้นใช้ Picasa อัพโหลดขึ้นไปแบบภาพต้นฉบับเลย มันเกิดปัญหาขนาดภาพใหญ่เกินโควต้าเมื่อภาพที่ export ออกมาเป็นแนวตั้งครับ ปรกติเราถ่ายภาพที่อัตราส่วน 4:3 จะได้ภาพที่ความละเอียด 2048x1365px แต่ถ้าเป็นภาพแนวตั้งจะได้ภาพขนาด 2048x3072px (เพราะมันถูก fix ค่าเฉพาะแนวกว้างไว้) ซึ่งภาพเหล่านี้เองที่ทำให้กินพื้นที่ที่ละเล็กทีละน้อยมาจนทำให้เยอะจนกินพื้นที่ไปกว่า 22GB

ภาพในแนวตั้งมีประมาณ 1 ใน 5 ของภาพทั้งหมด ขนาดราว 4-5MB แสดงว่ามีภาพแนวตั้งที่เราต้องแก้ไขให้ขนาดไม่เกินโควต้าอยู่ราว 4-5พันรูปเลยครับ หนักใจเหมือนกัน เลยลองมาคิดความคุ้มทุนที่อัพเกรดพื้นที่เป็น 100GB ดีหรือเปล่า ซึ่งราคาก็อัพขึ้นมาพอสมควรกับสิ่งที่ได้มาใช้ไม่มากนัก จึงเริ่มปันใจจะแก้ไขภาพบางส่วนให้ได้พื้นที่กลับมาสัก 10GB แล้วแบ่งภาพไปเก็บที่ Flickr ที่ให้พื้นที่ตั้ง 1TB หรือไม่ครั้งหน้าระวังเรื่องการอัพโหลดรูปให้มีขนาดตามโควต้าซึ่งอันนี้ไม่ยากแค่ตอนอัพโหลดใน Picasa ให้ตั้งค่า Image size เป็น Best for web sharing การตั้งค่านี้จะย่อรูปแนวตั้งของเราอัตโนมัติ

คิดไปคิดมาลดพื้นที่เก็บภาพลงมาดีกว่า จึงเริ่มปฏิบัติการโหลดภาพจาก Google+Photo ทีละอัลบั้มลงเครื่องไว้ก่อน จากนั้นก็ลบภาพบนเน็ตทิ้ง แล้วก็อัพโหลดขึ้นไปใหม่ให้ขนาดไม่เกินโควต้าซึ่งทำไปสักพักก็ได้พื้นที่กลับมาแล้วราว 2 GB แต่ก็เหนื่อยพอสมควร เน็ตต้องแรงทั้งขาอัพโหลด-ดาวน์โหลด อีกอย่างที่ต้องชมคือระบบของ Google+Photo ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ใช้งานง่ายดีทีเดียว ทำให้ทำได้ค่อนเร็ว

พื้นที่ว่างกลับมาบ้างแล้ว

Search within my feedly and ‘next & previous’ buttons

Search within my feedly

หลังจากที่ Google Reader ถูกสั่งปิดบริการไป ก็มีหลายบริษัทต่างๆพร้อมใจกันตบเท้าออกมาทำ Reader แข่งกัน ที่ได้ลองใช้ก็มี AOL Reader, Digg Reader, feedly สุดท้ายเราก็เลือกทีจะย้ายมาใช้ feedly การใช้งานโดยทั่วไปเมื่อเทียบกับ Google Reader ก็เรียกได้ว่าใช้ได้ดีเลยทีเดียว หากแต่ก็มีสองอย่างที่เราใช้ประจำใน Google Reader แต่ใน feedly ยังไม่มี ซึ่งเราก็อยากให้มีมากๆด้วย คือ

  1. ฟีเจอร์การค้นหาใน feedly ของเราเอง บางครั้งเราอยากอ่านเฉพาะเนื้อหาที่เราสนใจที่เกี่ยวกับคีย์เวิร์ดบางคำ ซึ่งเราอยากรู้ว่าในแต่ละสำนักข่าวมีความคิดเห็นเกี่ยวเรื่องๆเดียวกันแตกต่างกันอย่างไรบ้าง การค้นหาใน feed ตอบโจทย์เรื่องนี้ได้อย่างดี เพราะเราคัดเว็บไซต์ที่เราสนใจไว้แล้วถึงได้ดึง feed เว็บไซต์เหล่านั้นมาไว้ ซึ่งพอเปิดเข้าไปใน Suggestion ของ feedly ก็พบว่ามีคนอยากได้ฟีเจอร์นี้เหมือนเราเยอะเหมือนกัน และก็ได้รับการโหวตเป็นอันดับหนึ่งด้วย ซึ่งทีมงานก็รับรู้แล้วและเข้าไปอยู่ในแผนงานการพัฒนาแล้ว วางใจได้ระดับหนึ่งว่าเราจะได้ใช้แน่นอน
  2. อีกอย่างที่ถือว่าเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ กับรูปแบบการใช้งานของเราเอง คือ ปุ่ม next, previous สองอย่างนี้เป็นสิ่งที่รู้สึกว่ามันยังขาดอยู่ ติดนิสัยตั้งแต่ใช้ Google Reader มา โดยเราจะใช้เมาส์คลิกมากกว่ากดปุ่มคีย์บอร์ด j,k เพื่อเลื่อน article ถัดไป ซึ่งเราพบว่า ใน AOL Reader ก็มีปุ่มนี้อยู่นะ แต่ใน Digg Reader และ feedly กลับไม่มีซะงั้น อีกอย่างปุ่ม j,k ใช้ได้เฉพาะตอนที่คีย์บอร์ดเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ต่างจาก Google Reader ที่ตอนกด  ่, า ก็ใช้งานได้เหมือนกัน จะเห็นได้ว่าตอนนี้ก็มีคนเข้าไปโพส suggestion ไว้เหมือนกันฝากเพื่อนที่ใช้ feedly ทุกท่านเข้าไปโหวตให้เป็นฟีเจอร์ต่อไปที่ต้องทำด้วยนะครับ คลิกเข้าไปโหวตได้ที่ Add a next/previous button or arrow. (not using keyboard shortcuts)

หวังว่า feedly จะพัฒนาต่อๆไปให้เทียบชั้น Google Reader ให้ได้ เพราะยังไงเราก็ยังชอบอ่านข่าว บล็อก บทความ ผ่านทาง RSS อยู่ดี เพราะมันเก็บไว้อ่านได้ และเราคัดไว้แล้วว่าเว็บไหนน่าอ่าน และไว้ใจในเนื้อหาได้ ยังไงซะ Google Reader ก็ยังเป็นตัวที่ดีที่สุดที่เคยใช้ อาจจะเพราะความเคยชินด้วยส่วนหนึ่ง พยายามจะปรับตัวให้เข้ากับ feedly แล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ชินสักที แต่อย่างน้อยก็อยากได้สองฟีเจอร์ข้างบนเพิ่มอยู่ดี อาจจะทำให้อ่านได้คล่องตัวเหมือนเดิมก็เป็นได้ สุดท้ายฝากเข้าไปคลิกโหวตให้ทีมงานเพิ่มปุ่ม next/previous ให้ด้วยนะครับ

Control Center ใน iOS7 มีให้โหลดแล้วใน Android ???

Control Center

Control Center แอพพลิเคชั่นรวมคำสั่งควบคุมการทำงานของเครื่อง เช่น การเปลี่ยนโหมดการทำงาน เปิด-ปิด Wifi ไฟฉาย เพิ่ม-ลดเสียง แสงสว่างหน้าจอ เป็นต้น วิธีการใช้งานเพียงสไลด์ที่หน้าจอจากด้านล่างขึ้นบน ศูนย์ควบคุมก็จะถูกเปิดขึ้นมา เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ของ iOS 7 แต่ความจริงแล้วใน Android มีมานานแล้วและวิธีเปิดทำได้โดยการสไลด์หน้าจอจากด้านบนลงล่าง รวมอยู่กับ Notification แล้วยังไงต่อ ฟีเจอร์ของ iOS 7 มันมาอยู่ใน Android ได้ยังไง ทั้งๆที่ iOS 7 ยังอยู่ใน beta 4 อยู่เลย และยังไม่ได้ปล่อยอัพเดตให้ลูกค้าทั่วไปได้ใช้กันเลย แล้ว Android เอามาใช้ก่อนซะอย่างงั้น

อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือแม้ว่าใน Android จะมีฟีเจอร์นี้มานานแล้ว แต่ใน iOS 7 กลับทำออกมาดูดีกว่าซะงั้น ซึ่งถ้าดูจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านๆมา Apple ก็ทำแบบนี้อยู่เสมอเอาของคนอื่นมาทำต่อ(ลอก,แรงบันดาลใจ)แล้วก็มักจะทำออกมาได้ดีเสียด้วย Control Center น่าจะเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน

เอาเป็นว่ามาพูดถึงแอพพลิเคชั่น Control Center สำหรับ Android ที่ไป Copy&Past หน้าตาของ iOS 7 มาซะทุกอย่าง จน Apple ต้องรองขอให้ Google ถอดแอพพลิเคชั่นดังกล่าวออกจาก Play Store ซึ่ง Google ก็ทำตามคำร้องขอโดยถอดแอพพลิเคชั่นดังกล่าวออก แต่ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นก็ไม่หมดความพยายามเปลี่ยนชื่อแล้วส่งขึ้น Play Store ใหม่ ตอนนี้ก็ยังสามารถโหลดได้อยู่นะ ว่าแล้วไปโหลดมาลองเล่นดูได้นะครับ

ดาวน์โหลด Control Center สำหรับ Android ได้ที่ https://play.google.com ต้องรีบนะเดี๋ยวอาจจะถูกถอดออกอีกครั้งก็เป็นได้

แอพ Notes ที่เข้าถึงได้ง่าย ได้เร็ว จากทุกอุปกรณ์พกพา

Notes and Google Keep

แต่ก่อน ผมมีสมุดบันทึกเล่มเล็กๆติดตัวเสมอ เอาไว้จดข้อมูลเล็กๆน้อยๆ รหัส ข้อความสั้นๆ พวกข้อมูลส่วนตัว หรืออะไรอื่นๆที่อยากจะจด ต้องมีข้อมูลที่เข้าถึงได้เร็วเมื่อจำเป็น ถ้าสมุดเล่มเล็กๆนั้นเต็มจะมีเล่มใหม่มาแทน แต่ข้อมูลบางอันก็จะถูกย้ายมาด้วยเสมอ

แม้จะเข้ามาถึงยุคที่เรามีอุปกรณ์พกพาที่ทำอะไรได้หลายอย่าง แต่สิ่งที่ยังไม่เปลี่ยนไปเลยก็คือ การจดบันทึกสั้นๆ ตอนที่ใช้ iPod Touch ก็จะใช้ Notes จดบันทึก แต่เมื่อย้ายมาใช้ Android ก็เปลี่ยนมาใช้ Google Keep สิ่งหนึ่งที่จำเป็นและไม่เปลี่ยนเลยคือ การจดแบบสั้นๆ กับการเข้าถึงได้ง่ายจากทุกที่ที่ต้องการ ถ้าหากอยากได้ข้อมูลเหล่านั้นต้องสามารถ Copy&Pase ได้ หรือแม้แต่การส่งข้อมูลจากอุปกรณ์หนึ่งไปยังอีกอุปกรณ์หนึ่ง(มือถือ<–>คอมฯ) ตัวแอพนี้ต้องรองรับและทำได้อย่างรวดเร็วทันใจ จึงเป็นสิ่งคัญที่ขาดไม่ได้เสียเลย

สิ่งที่ต้องการจากแอพพลิเคชั่นแบบนี้มีแค่ 2 ข้อ

  1. เน้นเข้าถึงง่าย จดเร็ว จดง่าย Sync ข้อมูลได้เร็ว
  2. เข้าถึงได้จากหลากหลายอุปกรณ์ มือถือ แท็ปเล็ต คอมพิวเตอร์

ถ้าเป็น iOS ก็ต้องแอพ “Notes” ที่ติดมาพร้อมกับเครื่องอยู่แล้ว ส่วน Android ก็ต้องเป็น “Google Keep

แอพพลิเคชั่นลักษณะที่กล่าวถึงนี้จะต่างจากแอพพลิเคชั่นจดบันทึกแบบจริงจังอย่าง Evernote ที่เราก็ใช้อยู่เป็นประจำเหมือนกัน ซึ่งแยกกันอย่างชัดเจน หากบันทึกที่มีรายละเอียดเยอะ มีองค์ประกอบหลายอย่าง มีภาพ มีลิงค์ มีวิดีโอ จะใช้ Evernote เป็นหลัก

ก่อนที่ Google Keep จะเปิดตัว ยอมรับว่าการหาแอพพลิเคชั่นแบบนี้ใน Android แบบตามความต้องการแค่ 2 ข้อนั้นยากมาก แต่หลังจากที่ Google Keep เปิดให้ใช้งานจึงค่อนข้างตอบโจทย์ที่เราต้องการมาก ตอนนี้ถ้าคิดจะซื้ออุปกรณ์พกพาอะไรใหม่ รองรับ Notes ที่เข้าถึงได้จากทุกที่ได้หรือไม่ เป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาร่วมด้วยเสมอไป

ใช้งาน Google Keep ได้ที่ https://drive.google.com/keep

Google Keep (Android)

ติดตั้งแอพกล้องของ Android 4.2.2 ลงมือถือของคุณ ไม่ต้อง Root

Google เปิดตัวมือถือที่ใช้ Android รุ่นดั้งเดิมโดยไม่มีการปรับแต่ง หรือที่เรียกกันว่า Stock Android, Google Edition แล้วก็ปล่อยขายผ่านทาง Google Play จะเรียกว่าอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับ Nexus ก็พอได้เพราะจะเป็นรุ่นแรกๆที่จะได้อัพเกรด โดยมือถือที่เป็นเหล่านั้นเช่น  Galaxy S4 Google Play Edtion, HTC One  Google Play Edtion พอเหล่า Geek ทั้งหลายได้มือถือไปก็ไม่นิ่งเฉย ปรับโน้น แก้โน้น แก้นี่ แล้วก็เอามาแบ่งปันคนอื่นๆได้ใช้กัน ตัวที่กล่าวถึงคือแอพพลิเคชั่น Camera & Gallery

หน้าตาของมันแตกต่างจากของเดิมนิดหน่อย อาจจะใช้สะดวกมากขึ้น

เปรียบเทียบ 4.1.1 กับ 4.2.2 Camera

มือถือที่จะติดตั้งนั้นไม่ต้อง Root แต่อย่างใด และเมื่อติดตั้งแล้วมันไม่ได้ทับตัวเก่าสามารถเลือกใช้งานได้ แต่ไม่มี Photosheres ให้ใช้นะ แต่ตั้งถ่ายรูปมาก็ไม่เคยใช้เลยเหมือนกัน ใช้แค่ภาพธรรมดา กับ Paranoma ลองโหลดไปติดตั้งดู

ดาวน์โหลด Stock 4.2.2 Camera 

ที่มา: https://hackerspace.lifehacker.com

เล่าเรื่องการใช้ iconia B1 แท็บแล็ตราคาถูก

iconia B1

ไม่อยากเรียกว่ารีวิว เพราะมันไม่ถึงขนาดนั้น เอาเป็นว่าเล่าให้ฟังหลังจากใช้มาได้ราวสองสัปดาห์ก็แล้วกัน ราคาของ iconia B1 ประมาณ 3,750 บาท แต่ตอนเราซื้อได้คูปองลดมาอีกพันบาทตอนตัดสินใจซื้อเลยง่ายขึ้น ซื้อมาแล้วใช้ทำอะไรบ้างนั้น ส่วนใหญ่ก็เหมือนกับสมาร์ทโฟน เล่น facebook, twitter, ดูเว็บ ที่ต่างจากมือถือคือใช้อ่านข่าว อ่านการ์ตูน อ่านหนังสือ

แต่ว่าตัว iconia B1 ไม่มี 3G นะครับใช้เน็ตผ่าน wifi ได้เท่านั้น แต่โดยหลักแล้วเราก็ใช้ตอนที่ยู่ที่บ้านกับที่ทำงานเป็นส่วนใหญ่ อาจมีบ้างที่ไปเล่นที่สวนสาธารณะ ซึ่งที่เหล่านี้มี wifi ให้ใช้อยู่แล้ว มีบ้างที่ต้องเปิด wifi hotspot จากมือถืออีกทีหนึ่ง ถือว่าไม่ค่อยเดือดร้อนเรื่องออนไลน์เท่าไหร่นัก การใช้งานโดยทั่วไปถือว่าราบลื่นดี

แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง เวลาใช้ไปสักพักอาจจะต้องเคลียร์แรมทิ้งบ้างโดยเฉพาะถ้าเปิดหลายโปรแกรมพร้อมกัน อาจทำให้แรมเหลือไม่พอใช้เครื่องจะทำงานไม่ลื่นไหลเท่าไหร่นัก แม้เครื่องจะมีแรมมาให้ 512 mb แต่ถูกใช้ไปกับ system หลักกับแอพที่รันอยู่หลังบ้านเกือบหมดเหลือให้ใช้แค่ราวร้อยกว่าเม็กเท่านั้น อันนี้ขึ้นอยู่กับแอพที่ติดตั้งลงในเครื่องด้วยนะ

ขอแนะนำแอพที่ใช้บ่อยในเครื่อง iconia B1 ของผม

  1. Pantip อ่านกระทู้ในพันทิพ
  2. Perfect View อ่านการ์ตูน หาโหลดมาลงเองนะ
  3. Clean Master เคลียร์แรม(Task)
  4. feedly อ่าน rss
  5. Flipboard อ่านข่าว
  6. Google play music ฟังเพลง

โดยรวมถือว่าคุ้มค่าสมราคาของมัน ยังไม่ได้ลองเล่นเกม 3D แบบหนักๆไม่รู้ว่าจะรับไหวหรือป่าว แต่ที่อยากบอกคือลองเอาไปเล่น ingress แล้ว ใช้ได้นะแต่แบตหมดเร็วไปหน่อยถ้าเปิดทั้ง wifi และ gps ตอนเล่นเกมช่วงแรกๆจะลื่นไหลดี แต่พอเครื่องร้อนแล้วมีกระตุ๊กนิดหน่อย แต่ก็เล่นได้ล่ะ

สเปคของ iconia B1

  • ขนาดตัวเครื่อง: 197.4 x 128.5 x 11.3 mm (7.77 x 5.06 x 0.44 in)
  • น้ำหนัก: 320 g (11.29 oz)
  • หน้าจอ: TFT capacitive
  • 600 x 1024 pixels, 7.0 inches (~170 ppi pixel density)
  • CPU Dual-core 1.2 GHz
  • Chipset MTK 8317T
  • OS Android OS, v4.1 (Jelly Bean)
  • กล้องหน้า VGA, 640×480 pixels
  • ความจุภายในเครื่อง: 8/16 GB,แรม: 512 MB
  • รองรับเพิ่มความจุด้วย micro-SD สูงสุด 32 GB
  • WLAN Wi-Fi 802.11 b/g/n
  • Bluetooth Yes, v4.0
  • Sensors Accelerometer
  • มี GPS
  • แบตเตอรี่  Li-Po 2710 mAh

แจก invite สำหรับเล่นเกม Ingress

Ingress

วันนี้ทาง Niantic Labs แจก invite มาให้ agent ทุกคน คนละ 5 invite ถ้ารวมกับเพื่อนๆในกลุ่มแล้วน่าจะได้มาเยอะพอสมควรเลย ใครสนใจอยากเล่นเกมนี้ ลงชื่อไว้เลยครับ

ข้อกำหนด

  1. ต้องมีบัญชีของ Gmail 
  2. ต้องมีมือถือหรือแท็บเล็ต Android ที่รองรับการเล่นเกม (GPS, Wifi/3G) 

ถ้าคิดว่าตัวเองพร้อมแล้วก็เขียนคอมเม้นต์ไว้ข้างล่างว่าใช้มือถือหรือแท็บเล็ตรุ่นอะไร พร้อมกับอีเมล Gmail ของคุณ แล้วรอรับ invite ได้เลย

ปล. ใครอยากรู้ว่า Ingress คือเกมอะไร เล่นยังไง แนะนำให้อ่านได้ที่

มาก่อนได้ก่อนครับ

มาเล่นตัวต่อ LEGO บนเว็บกันดีกว่า [3D]

LEGO กับ Google ร่วมกันทำเว็บไซต์ Buid with Chrome (buildwithchrome.com) โดยมีตารางบนแผนที่ของออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เราสามารถกดเข้าไปสร้างอะไรก็ได้บนพื้นที่แปลงหนึ่ง ด้วยตัวต่อ  LEGO 1 พันชิ้น จากนั้นก็แชร์สิ่งก่อสร้างของคุณต่อไป มีข้อจำกัดอีกนิดหน่อย เช่น พื้นที่มีจำกัดใครมาก่อนได้สร้างก่อน หมดแล้วหมดเลย เมื่อเริ่มสร้างแล้วต้องทำให้เสร็จในคราวเดียว และต้องแน่ใจว่าเสร็จสมบูรณ์แล้วค่อยเผยแพร่ หากปิดเว็บไปมันไม่บันทึกให้นะ และยังมีข้อแนะนำอีกนิดหน่อยลองอ่านดูที่ลิงค์ https://www.buildwithchrome.com/static/legal

ส่วนใครไม่อยากอ่านข้อกำหนดต่างๆให้วุ่นวาย ก็ขอให้ตั้งใจสร้างให้สุดฝีมือ แล้วค่อยกดแชร์

LEGO Build with Chrome (ฝีมือห่วยๆของผมเอง)

การเข้าใช้งานเว็บไซต์ต้องใช้บราวเซอร์ที่รองรับ HTML5 ใช้งานได้ดีกับ Google Chrome

พอเล่นไปเริ่มสนุกขึ้นเรื่อยๆ ไม่น่าเชื่อว่าตัวต่อไม่กี่แบบมันจะทำอะไรได้เยอะแยะขนาดนี้ เป็นการตลาดที่ดีเลยละ เพราะเล่นไปสักพักผมก็อยากได้ LEGO ของจริงขึ้นมาเลยทีเดียว

เริ่มเล่น LEGO กันได้เลยที่ https://www.buildwithchrome.com/

via: https://www.howtogeek.com

Gmail Attachments To Drive เซฟข้อมูลจาก Gmail ไปที่ Drive

Gmail Attachments To Drive

Gmail Attachments To Drive เป็น Chrome Extension เมื่อติดตั้งเข้าไปแล้ว จะเพิ่มเมนู Save To Drive เข้ามาอีกอันใต้ไฟล์ที่ถูกแนบมากับอีเมล (Gmail) จากปกติที่มีเพียง View และ Download

หลังจาก Google เปิดตัว Google Drive ออกมาให้ใช้ได้ไม่นาน พวก extension ต่างๆที่จะคอยช่วยให้เราทำงานได้สะดวกมากขึ้นก็คงจะทยอยออกมาเรื่อยๆ ตัวแรกที่เห็นและได้ลองติดตั้งดูแล้ว ก็คือ Gmail Attachments To Drive ตัวนี้นี่เอง มีประโยชน์ไม่น้อยเลย เมื่อมีเมนูลัดเซฟข้อมูลจาก Gmail ไปที่ Drive ในคลิกเดียว บางคนอาจคิดว่าในอีเมลก็ถือว่าเซฟข้อมูลอยู่แล้ว แล้วจะเอาเซฟไปที่ Drive อีกทำไมให้เปลื้องที่ อยากตอบว่า การจัดการเอกสารและไฟล์ต่างๆของ Drive สะดวกและค้นหาง่ายกว่ามาก แถมยังแก้ไขไฟล์ได้อีกด้วย ถ้าใครมีอีเมลในแต่ละวันหลายฉบับ ยิ่งปวดหัวไปกันใหญ่ แยกเซฟบางตัวที่สำคัญไว้ที่ Drive สะดวกกว่าเยอะ แนะนำให้แยกเป็นโฟล์เดอร์ไว้ด้วยจะยิ่งดี นอกจากนั้นการเปิดด้วยอุปกรณ์อื่นๆ(Smart Device)ยังง่ายและสะดวกกว่าด้วย

เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วจะมีลิงค์เพิ่มขึ้นมาใต้ไฟล์ที่แนบมากับอีเมลแบบนี้

Save To Drive

ดาวน์โหลดได้ที่ https://chrome.google.com/webstore/detail/epoohehjbaenldfbahgcegdmlogakgin 

งานเปิดตัว Google Street View ประเทศไทย

เมื่อวาน (วันที่ 24 มีนาคม 2555)ไปงานเปิดตัว Google Street View ประเทศไทยมาครับ ในอีเมลเชิญไม่บอกว่าเป็นอะไรเขียนประมาณว่า “เปิดตัวนวัตกรรมล่าสุดของ Google สำหรับประเทศไทย” แต่คาดกันว่าคงจะเป็น การเปิดตัวการใช้งานแผนที่ Google Street View ในประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้าวันงานหนึ่งวันเราก็ได้ทดลองใช้งานแล้ว แต่ถือว่างานนี้เป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วกัน งานจัดที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร งานเริ่มตอนประมาณ 1 ทุ่ม

ขอเล่าผ่านรูปถ่ายนะครับ จะมีรายละเอียดแทรกตามไปด้วย

รถเก็บภาพ street view

กว่าจะเดินทางไปถึงที่หอศิลป์ฯก็เกือบจะ 1 ทุ่มครึ่งแล้ว อยู่ด้านหน้ามีรถที่ติดกล้องที่ใช้ในการเก็บภาพ Street view จอดโชว์อยู่ 2 คัน ได้รับความสนใจจากคนเดินผ่านไปมาพอสมควร มีการหยุดถ่ายรูปเป็นระยะ รถแบบนี้ในประเทศไทยทั้งหมด 15 คัน เปิดตัวตั้งแต่กลางปีของปีที่แล้ว

the Street View Trike

เมื่อเข้าไปในงานก็มีจักรยานที่ติดกล้องสำหรับเก็บภาพ street view สำหรับการเข้าไปเก็บภาพในที่ที่รถยนต์เข้าไม่ได้ หรือที่ที่ต้องการรายละเอียดเยอะๆเช่นโบราณสถาน ที่ท่องเที่ยว มันถูกเรียกว่า “the Street View Trike” ค้นไปเจอวีดีโอแนะนำ เลยเอามาแปะให้ดูด้วยครับ

ในห้องเปิดตัวเข้าไป กำลังอยู่ในช่วงพนักงานที่ขับรถ Street View ไปเก็บภาพทำแผนที่กำลังแชร์ประสบการณ์การทำงาน ที่ต้องเข้าทุกซอกซอยของกรุงเทพฯที่เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่มีซอยเยอะมากๆ

พนักงานทำ Street View กำลังมาเล่าประสบการณ์ในการทำงาน

พนักงานที่ขับรถทำแผนที่ตอนที่ออกไปทำงานเก็บภาพจะทำแค่คนเดียว หนึ่งคนต่อหนึ่งคัน ดังนั้นจะต้องมีทักษะด้านรถยนต์บ้าง ซ้อมรถเล็กๆน้อยๆ เปลี่ยนยางเองได้ มีความรู้เรื่องฮาร์ดแวร์ของกล้องบนรถบ้าง เดินทางไปต่างจังหวัดได้ ใครคิดว่ามีคุณสมบัติดังกล่าว ติดต่อทีมงานทาง Google+ ประเทศไทย หรือคุณพรทิพย์ ได้เลยครับ ทีมงานกำลังจะเปิดรับเพิ่ม

เปลี่ยนยางรถยนต์เอง ตั้งกล้องถ่ายเองด้วย

ลักษณะการทำงานก็จะเป็นมาตรฐานเดียวกัน คือ ออกไปเก็บภาพ ส่งเข้าระบบแสกนเบลอข้อมูลที่เป็นส่วนตัว ป้ายทะเบียนรถ หน้า บ้านเลขที่ เป็นต้น จะทำแผนที่ในถนนสาธารณะเท่านั้น มีวีดีโอเบื้องหลังการทำงานแบบการ์ตูนน่ารักๆให้ดูครับ

ทำการ์ตูนออกมาน่ารักจัง!

การเก็บภาพและการรวมเป็นภาพเดียว

การบันทึกภาพของ Google Street View จะเป็นการเก็บภาพทีละภาพ แล้วนำมาต่อกันเป็น แบบ 360 องศา ให้อารมณ์เหมือนว่าเรายืนอยู่ตรงนั้นพอดี

กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก๊ต

Google Stress View ของประเทศไทย เป็นประเทศที่ 35 ของโลกที่มี Street View กล้องที่ใช้ทำแผนที่เป็นรุ่นใหม่ทำให้ได้ภาพที่คมชัด ได้ภาพที่เคลียร์และดีกว่าหลายๆประเทศที่ทำไปก่อนหน้านี้ และตอนนี้เปิดให้ใช้แล้ว 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ใช้เวลาประมาณ 6 เดือนในการเก็บข้อมูล ทีมงานบอกว่าเนื่องเพราะน้ำท่วมช่วงปลายปีด้วยทำให้การทำงานล่าช้าไป ในจังหวัดอื่นๆต่อไปน่าจะเร็วขึ้น เป้าหมายของทีมงานคือเก็บให้ครบทุกจังหวัด

แคมเปญ My Miracle Thailand

Google ได้การท่องเที่ยวประเทศไทยเป็นพันธมิตร ทำให้ทำงานได้สะดวก และคิดว่าจังหวัดที่ถูกเก็บข้อมูลก่อนน่าจะเป็นกลุ่มจังหวัดท่องเที่ยวดังๆของไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยว ซึ่งก็มีแบบสำรวจก่อนหน้านี้ที่บอกว่าสถานที่ที่มี Google Street View มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นด้วย ข่าวที่น่าสนใจอีกอย่างคือ มีการเข้าไปเก็บ Street View ด้วยเรือในแม่อะเมซอนแล้ว อาจนำมาใช้ประเทศไทยที่มีการสัญจรทางน้ำเยอะอันดับต้นๆของโลก

ภาพตัวอย่าง การเก็บภาพ Street view ในต่างประเทศ ในสถานที่สำคัญๆ

นอกจากนี้ Google และการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ยังได้ออกแคมเปญร่วมกัน ชื่อ My Miracle Thailand โดยเปิดโอกาสให้คนไทยส่งสถานที่ที่อยากให้มี  Street View บนแผนที่และก็ช่วยกันโหวต สถานที่ที่ได้คะแนนสูงสุดจะถูกทำลง Street View ก่อน ด้วยเจ้าจัการยานปั่น Street View Trike คันนั้นนั่นเอง ในเว็บไวต์ตอนนี้ ปาย มีคะแนนนำนะครับ ใครอยากส่งบ้างเข้าไปดูรายละเอียดหรือร่วมโหวตได้ที่เว็บไซต์ My Miracle Thailand

Andrew McGlinchey

ถัดจากนั้น Andrew McGlinchey : Head Product Manager ของ Southest Asia ออกมาพูดเรื่องของ API การใช้งาน เชียร์ Android สุดๆ iOS ใช้ HTML5 เท่านั้น และเพิ่งรู้ว่ามีการนำ Street View ไปใช้ในเกมด้วยนะ และแนะนำการใช้งานทั่วๆไปเล็กน้อย (เขียนแยกอีกหัวข้อดีกว่าครับ)

มีถาม-ตอบ เยอะพอสมควร ที่น่าสนใจเช่น เน็ตบ้านเราผ่านทางอุปกรณ์เคลื่อนที่ค่อนข้างช้าการใช้งานอาจจะมีปัญหาได้ ยังไม่มีทางแก้ในทางเทคนิค ใช้ Wifi ไปก่อน! , นำ Street view ไปใช้ใน E-book ได้(HTML5), การใช้งานของ user ทั่วไปฟรี แต่ถ้าการดึงข้อมูลของ Google Street View ไปใช้เยอะเกินไปไม่ฟรีนะ!  เป็นต้น

แต่คำถามหนึ่งที่เป็นอีกมุมมองที่ควรให้ความสนใจเช่นกัน คือการนำข้อมูลของ Street View ไปใช้ในการก่อการร้าย วางแผนทำเรื่องไม่ดี คุณพรทิพย​์ ตอบคำถามได้ประทับใจผมครับ คือ การเปรียบเทียบกับมือถือที่มันมีประโยชน์อย่างที่ไม่มีใครปฎิเสธได้ แต่ก็มีคนร้ายนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการจุดระเบิด หรืออื่นๆในการก่อการร้าย ความผิดคงไม่ได้อยู่ที่มือถือ แต่อยู่ที่การใช้งาน เช่นเดียวกัน Google Street View มีประโยชน์มากมาย ทั้งการท่องเที่ยว การประชาสัมพันธ์ของท้องถิ่น การเดินทาง ฯลฯ ถ้าคนร้ายนำไปใช้ในอีกด้านก็เป็นไปได้ แต่เราชั่งน้ำหนักแล้วว่ามันมีประโยชน์กับคนส่วนใหญ่มากกว่า

สุดท้ายตามธรรมเนียมตอบคำถามแจกเบาะ

พี่ป้อม ภาวุธ ได้รางวัลไป

ขอจบบล็อกด้วยรถ Google Street View ครับ

รถ Google Street view
รถ Google Street view
รถ Google Street view

ใช้งาน Google Street View ได้ที่ https://maps.google.com/

Exit mobile version