Apple อัพโหลดวีดีโองาน WWDC 2012 Keynote ขึ้น Youtube ให้ได้ดูกันแล้ว

วีดีโองาน WWDC 2012 เปิดตัว Retina MacBook Pro, New Macs, OS X Mountain Lion, iOS 6 บน Youtube มาแล้ว

วีดีโองาน WWDC 2012 Keynote เปิดตัว Retina MacBook Pro, New Macs, OS X Mountain Lion, iOS 6 มีให้แฟนๆได้ติตามหลายช่องทางผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของ Apple เอง ดูรายละเอียดที่  บล็อกที่ผ่านมา วีดีโองาน WWDC 2012 นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดได้ผ่านทาง iTunes และล่าสุดคือดูผ่านทาง Youtube ด้วยความละเอียดระดับ Full HD 1080p กันเลยทีเดียว ดูได้เลยตามวีดีโอข้างล่างนี้

วีดีโองาน WWDC 2012 วันที่ 11 มิ.ย. 2012 ความยาว 1:54 ชั่วโมง

วีดีโองาน WWDC 2012 เปิดตัว Retina MacBook Pro, New Macs, OS X Mountain Lion, iOS 6 มาแล้ว

วิดีโอเปิดตัว Retina MacBook Pro, New Macs, OS X Mountain Lion, iOS 6 มาแล้ว

วีดีโอ keynote ของงาน WWDC 2012 มีมาให้ชมแล้วครับ ตัวเด่นๆที่เปิดตัวไปก็คือ Retina MacBook Pro, New Macs, OS X Mountain Lion, iOS 6 เข้าไปรับชมได้แล้วที่ https://events.apple.com.edgesuite.net/126pihbedvcoihbefvbhjkbvsefbg/event/index.html

Macs & OS X Mountain Lion

  • เปิดตัว Next-Generation Retina MacBook Pro  ราคา $2199 ประมาณ 69,608 บาท
  • MacBook Air อัพเดตสเปคทั้งแบบจอ 11″ และ 13″
  • MacBook Pro 13″ และ MacBook Pro 15″ อัพเดตสเปค
  • เปิดตัว OS X Mountain Lion ราคา $19.99 ประมาณ 632 บาท
  • Mac Pro เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

iOS 6 

  • เปิดตัว iOS 6 มาประมาณช่วงฤดูใบไม้ร่วง
  • เปิดตัวโปรแกรมแผ่นที่ใหม่
  • FaceTime ได้ด้วย 3G หรือ 4G
  • Siri เก่งขึ้น และใช้ได้ใน iPad 3

วิธีแก้ไข host file ใน Mac OS X

วิธีแก้ไข Host file ใน Mac OS X อันไหนที่ไม่ได้เขียนไว้มักจะได้ใช้บ่อยๆ คราวนี้ไม่พลาดแล้ว มาเขียนเก็บไว้ดีกว่า ขี้เกียจเปิดดูของคนอื่นแล้ว

วิธีแก้ไข host file ใน Mac OS X

  1. เปิดโปรแกรม Terminal
  2. copy โค้ดนี้ไปวางแล้ว enter
    sudo nano /private/etc/hosts
  3. ใส่พาสเวิร์ดของเครื่อง(พิมพ์ไปเลยมันไม่โชว์)
  4. แก้ไขตามต้องการ
  5. save file กด Control+O กด enter

    Host file เตรียมบันทึก

  6. บันทึกแล้วกดปิด Terminal ได้เลย

ค่อนข้างมั่นใจว่าจะต้องได้ใช้อีกแน่ อยากดูแบบละเอียดไปดูที่นี้ https://decoding.wordpress.com

iPod Touch ทำอะไรได้บ้างเมื่อไม่มีอินเทอร์เน็ต

iPod Touch music player

ได้ iPod Touch มาโดยบังเอิญ ใช้มาได้เกือบจะ 3 เดือนแล้ว แต่ไม่ได้เขียนถึงมันเลย ตัวที่ได้มาเป็น iPod Touch Gen 4 สีขาว ความจุ 8 GB บางมากจำได้ว่าตอนที่จับครั้งแรกกลัวทำตกมากเพราะมันถือไม่กระชับมือเอาซะเลย แต่พอหาเคสมาใส่ก็ช่วยได้บ้างเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้ถือมันเท่าไหร่จะยัดมันลงกระเป๋ากางเกง บางทีไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่ามันอยู่ข้างในต้องเอามือล้วงดูบ่อยๆ หลังจากที่ใช้มานานพอสมควรเลยอยากจะบันทึกไว้ว่าได้ใช้งานมันคุ้มค่าดังราคาค่าตัวของมันหรือป่าว? เนื่องจาก iPod Touch สามารถที่จะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ผ่านทาง Wifi เท่านั้น ผมจึงจะแบ่งสิ่งที่มันทำได้เป็นสองส่วนคือ แบบออฟไลน์ และแบบออนไลน์ ซึ่งแบบออนไลน์นั้นทำอะไรได้มากกว่าหลายเท่า แต่สิ่งที่เราได้ใช้งานจริงๆกลับเป็นส่วนที่อยู่ในแบบออฟไลน์ซะเป็นส่วนใหญ่ ลองมาดูกันครับว่าผมใช้มันทำอะไรบ้าง เมื่อไม่ได้ต่ออินเทอร์เน็ต

iPod Touch ทำอะไรได้บ้างเมื่อไม่มีอินเทอร์เน็ต (ออฟไลน์)

สิ่งที่มันทำได้ หรือทำได้ดีก็จะขึ้นกับ App ที่อยู่ในเครื่องทั้งที่เป็น App ที่มาพร้อมกับเครื่องและ App ที่โหลดเพิ่มเข้ามา แต่ที่ผมนึกออกและได้ใช้งานจริงๆมีดังนี้ครับ

  1. ฟังเพลง/ดูหนัง
    iPod Touch Gen4 8 GB

    แน่นอนว่ามันคือ iPod เครื่องเล่นมัลติมีเดีย เพลง หนัง นี้คือฟีเจอร์หลักของมัน และผมก็ใช้มันทำสิ่งนี้มากที่สุด เพลงอยู่ในเครื่องมีอยู่ราว 1,000 กว่าเพลง ใช้พื้นที่ไปราว 4 GB กินพื้นที่เยอะที่สุดจากพื้นที่ว่างที่มีให้ใช้งานจริง 6.4 GB แม้ว่าอยากจะฟังเพลงแบบ 320 kbps เป็นอย่างน้อย ซึ่งจะใส่เข้าไปได้ราว 200-300 เพลง ด้วยข้อจำกัดเรื่องของความจุจำกัดเลยต้อง convert ไฟล์ระดับ flac ในเครื่องเป็น 128 kbps AAC แต่เท่าที่ฟังดูก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมายนัก ผมใช้ร่วมกับหูฟัง Sony MDRZX300 นะครับ ประทับใจกับหูฟังตัวนี้มาก เสียงที่ได้กำลังดีเลย ทั้งเบส เสียงแหลม เสียงกลาง เยี่ยม! ส่วนหนังนั้นต้องใช้โปรแกรม HandBrake ช่วยแปลงไฟล์หนังก่อนจึงจะเอาเข้า iPod ได้ เอาลงทดสอบดูแล้วก็เอาออก(เปลืองเนื้อที่) ระบบสั่งงานด้วยเสียงของ iPod ถูกผมใช้งานเพื่อเปิดเพลงมากที่สุด สะดวกมากตอนที่เรามีเพลงในเครื่องเยอะๆ ทำเป็น playlist ไว้ แล้วเลือกเปิดตามใจ ณ ขณะนั้นๆ ตัวอย่างคำสั่งที่ใช้บ่อยที่สุด (กดปุ่ม home ค้างไว้ 3 วินาที) “play playlist …ชื่อ playlist…”

  2. เล่นเกม
    เกม cut the robe

    เกมใน iPod Touch ของผมมีไม่เยอะส่วนใหญ่เล่นจบแล้วก็ลบออก บางตัวยอมจ่ายตังค์ซื้อ ตัวอย่างเกมที่เล่นแล้วชอบ Fruit Ninja, Cut the Robe, Sudoku, Tap Tap Revenge, Infinity Blade, Jetpack joyride เป็นต้น

  3. วาดรูป/ตกแต่งภาพ
    วาดใน SketchBook

    มีโปรแกรมสองตัวที่เอาไว้วาดรูปเล่นคือ DrawCast (ฟรี) และ SketchBook ตัวนี้ยอมจ่ายตังค์ซื้อมาราคาไม่แพง แต่ทำอะไรได้เยอะมาก ถือว่าคุ้มเลยทีเดียว

  4. กล้องถ่ายรูป/วีดีโอ/อัดเสียง
    Photosynth ถ่ายภาพแบบรอบทิศทาง

    กล้องของ iPod ความละเอียด ประมาณ 1.2 MB ถ่ายภาพนิ่งได้ห่วย ถ่ายวีดีโอได้ในระดับ HD ใช้ถ่ายเล่นๆได้ จับ iPod ขึ้นมาสไลด์แล้วถ่ายได้เลย มีโหมด unlock เข้าแอฟถ่ายภาพได้เลย แต่ส่วนใหญ่จะใช้ผ่านทาง App ถ่ายภาพแปลกๆเสียมากกว่า เช่น DMD ทำเป็นภาพ 360 องศา, Photosynth ทำเป็นภาพกึ่งๆ 3D และ Instagram ที่เอาไว้ใส่ฟิวเตอร์แบบเท่ๆ ภาพที่ถ่ายใน iPod Touch ผมทำให้ Sync กับ iCloud ไว้เมื่อต่อเน็ตมันจะอัพโหลดอัตโนมัติสะดวกดี ส่วนการอัดเสียงไม่ค่อยได้ใช้งานเลย เคยลองอัดครั้งหนึ่ง เสียงก็พอใช้ได้ ไมค์ของ iPod Touch อยู่ข้างๆกล้องด้านหลังเครื่องเป็นรูเล็กๆ ถ้าจะอัดเสียงก็ต้องเอารูนั้นไปให้ใกล้แหล่งกำเนิดเสียง รวมทั้งตอนสั่งงานด้วยเสียงเช่นกันก็ต้องเอาไปให้ใกล้ๆไมค์

  5. สมุดโน๊ต/เตือนความจำ
    บันทึกส่วนตัว

    กลายเป็นว่าจดอะไรลง iPod เยอะมากเพราะเวลาคิดอะไรออก อยากจะจดไว้ที่ไหนสักที่แบบเร่งด่วน ทิ้งไว้นานกลัวลืม iPod Touch กลายเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้มือที่สุด จดง่ายสุด แถม Sync ขึ้น Google กับ iCloud ไว้ให้ด้วย พวกหมายเลขอะไรแปลกๆที่ไม่รู้จะจดไว้ที่ไหน จะอยู่ในนี้หมด เช่น รหัส wifi , serial ของกล้อง, หมายเลขสมุดบัญชีธนาคาร ฯลฯ ส่วน Reminder นั้นใช้บ้างเป็นบางครั้ง นานๆเปิดเข้าไปดูที ส่วนใหญ่เป็นการเตือนความจำว่าอยากทำอะไร แต่ไม่ได้สำคัญมากนัก เช่นเขียนบล็อกเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีกว่า คือไม่เขียนก็ไม่เสียหายอะไร พอทำเสร็จก็ค่อยลากทิ้ง

  6. ดิกชันน่ารี
    ดิกชันนารี ใน iPod Touch

    ใน iPod Touch ของผมใช้ดิกชันน่ารีของ Longdo Dict ซึ่งแปลได้ทั้งอังกฤษ-ไทย และไทย-อังกฤษ ซึ่งอันหลังต้องต่อเน็ตก่อนถึงจะทำงานได้ แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะใช้งาน อังกฤษ-ไทย โดยเฉพาะตอนนอนดูหนังในคอม จะ pause หนังไว้เพื่อมาเปิดศัพท์เนี้ยก็ขัดจังหวะเกิดไป ดิกชันน่ารีใน iPod Touch เลยกลายเป็นหนึ่งอุปกรณ์ที่ต้องถือไว้ตอนดูหนัง

  7. เครื่องคิดเลข
    เครื่องคิดเลขอย่างง่าย

    เครื่องคิดเลขใน iPod Touchจะถูกใช้งานมากที่สุด ตอนหลังอาหารมื้อที่ไปกันหลายคน แล้วต้องช่วยกันจ่าย เคยโดนเพื่อนร่วมโต๊ะว่าเอาแบบปนฮานิดๆว่า “พวกคุณจบระดับมาสเตอร์กันทุกคนค่าอาหารแค่นี้ต้องใช้เครื่องคิดเลขช่วยทุกทีเลยนะ” แล้วก็ฮากัน ก็มันจริงนิ พอเราไม่ใช้งานมัน(สมอง)บ่อยๆ มันจะคิดช้ามากแถมยังไม่แม่นยำอีกต่างหาก เครื่องคิดเลขเลยเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตไปแล้ว ในเครื่องมีเครื่องคิดเลขแบบ Pro ด้วย ซึ่งมีพวกการคำนวณทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ แต่นานๆใช้ที

  8. ปฏิทิน/นาฬิกาจับเวลา
    นาฬิกาจับเวลา

    ส่วนของปฏิทิน/นาฬิกาปลุก/จับเวลา อาจจะไม่ค่อยได้ใช้บ่อย แต่ก็มีประโยชน์มาก ปฏิทินใน iPod Touch ผม Sync ไว้กับ Google Calendar ซึ่งทุกอย่างอยู่ในนั้นทั้งหมด นัดหมาย กำหนดการ วันสำคัญต่างๆ ส่วนใหญ่ใช้งานบนคอม แต่ใน iPod Touch เปิดใช้บ้างตอนไม่ได้อยู่หน้าคอม ส่วนนาฬิกาจับเวลาตัวนี้ถูกเรียกใช้บ่อยๆช่วงทำแล็บเปียก ที่จำเป็นต้องจับเวลาแบบเป๊ะๆ

  9. อ่านหนังสือดิจิตอล
    iBook อ่านหนังสือดิจิตอล

    เคยโหลดหนังสือเข้ามาอ่าน 2-3 เล่ม แต่อ่านไม่จบซักเล่มเพราะมันจอเล็กและเวลาจ้องนานๆปวดตา รวมทั้งเวลาที่อ่านหนังสือส่วนใหญ่อยู่บนรถซะเป็นส่วนใหญ่ เวียนหัวได้อีก ที่ยังเหลือค้างไว้ในเครื่องเลยเป็นแค่หนังสือภาพ พวก CG, Computer Art เป็นส่วนใหญ่

  10. รีโมท Keynote/iTunes
    ใช้ iPod ควบคุมการเปลี่ยนสไลด์ในคอม

    iPod Touch สามารถเอามาทำเป็นเครื่องเลื่อนสไลด์ได้ด้วยนะ ต้องโหลด App ชื่อ Remote (เสียตังค์)มาก่อน แล้วใช้ร่วมกับ Keynote ในเครื่อง Mac OSX ข้อดีคือเราสามารถควบคุมการนำเสนอผ่านทาง iPod Touch ได้ มีโน๊ตให้ดูได้ด้วย เคยทำอยู่ครั้งหนึ่งใช้เลื่อนสไลด์อย่างเดียว ดูโน๊ตด้านล่างไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ต้องก้มไปดูอาจทำให้คนพรีเซ็นต์ดูไม่ดีเท่าไหร่ ส่วนการใช้เป็นรีโมทควบคุม iTunes ใช้แบบนี้ครับ เปิดคอมไว้ เสียบลำโพง เปิดเพลงให้ดังก้องบ้าน วาง iPod Touch ไว้ใกล้ตัว นั่งพักที่มุมไหนซักมุมของห้อง อยากเปลี่ยนเพลง หรือเลือกเพลงที่ชอบผ่านทาง iPod Touch ก็จิ้มเลย เยี่ยมไหมล่ะ

ยังมีอีกหลายอย่างที่มันทำได้ เช่น การเชื่อมกับรองเท้า Nike ตัดต่อวีดีโอ ทำเอกสาร แต่ที่เอามาแชร์ในโพสนี้เป็นอันที่เราได้ใช้จริงๆ ซึ่งอาจจะแตกต่างจากคนอื่นๆบ้างก็ได้ ลองคิดดูว่า iPod Touch ในมือของคุณใช้ทำอะไรบ้าง แล้วเอามาแชร์กันครับ

วิธีใช้ Dropbox สองบัญชีพร้อมกันในเครื่องเดียว สำหรับเครื่อง Mac

Dropbox

ผมมี Dropbox อยู่สองบัญชี อันแรกเป็นตัวที่ใช้บ่อย ทำงานต่างๆบนตัวนี้เป็นหลัก(24 GB) ส่วนอีกบัญชี(13 GB) ไฟล์ที่นานๆจะถูกเรียกใช้งานสักครั้งจะถูกเก็บไว้ที่นี้ ตอนใช้ Windows จะใช้วีธีตามลิงค์นี้ในการเปิดใช้งานสองบัญชีพร้อมกัน ส่วนการใช้บน Mac OS X ทำได้ง่ายกว่ามาก ดังนี้ครับ

วิธีใช้ Dropbox สองบัญชีพร้อมกันในเครื่องเดียว สำหรับเครื่อง Mac

  1. เปิดโปรแกรม Terminal
  2. พิมพ์คำสั่ง
    bash

    กด enter

  3. ใช้คำสั่ง(copy ไปวาง)
    HOME=$HOME/.dropbox-alt /Applications/Dropbox.app/Contents/MacOS/Dropbox &

    กด enter

  4. dropbox อีกบัญชีจะโชว์ขึ้นมาบน menu bar แล้ว
    Dropbox สองบัญชีรันพร้อมกัน

ข้อมูลจาก: https://www.makeuseof.com/

Convert Units แอฟฟรีแปลงหน่วยวัด

Convert Unit App

เจอปัญหาต้องแปลงหน่วยของปริมาตรสารเคมีอยู่บ่อยครั้ง อย่างเช่น ลิตร(L) ลูกบาตรเซ็นติเมตร(cu cm) เป็น ลูกบาตรเมตร(cu m) หรือ ลูกบาตรนิ้ว(cu in) นั่งคิดนานมาก คงโง่โดยแหละ! กลัวคำนวณผิดด้วย เลยลองหาเครื่องมือช่วย ค้นไปเจอแอฟฟรีตัวหนึ่ง ชื่อ Convert Units for Free พบว่านอกจากจะมีตัวแปลงหน่วยปริมาตรที่เราต้องการแล้ว ยังมีหน่วยวัดอื่นๆด้วย เช่น มุม พื้นที่ พลังงาน อุณหภูมิ เวลา น้ำหนัก ความยาว เป็นต้น ถือว่าเป็นแอฟฟรีตัวเล็กๆที่มีประโยชน์มาก ตอบโจทย์ตามที่ต้องการเลยล่ะ เลยเอามาบันทึกและแชร์ให้คนที่สนใจโหลดติดเครื่องไว้ไม่เสียหลายขนาด 5.7 MB รองรับทั้ง iPhone, iPod, iPad iOS 4.0 ขึ้นไป

ดาวน์โหลด Convert Unit for Free (iOS)

X Lossless Decoder(XLD) แปลงไฟล์เสียง flec เป็น m4a (Apple lossless)

X Lossless Decoder

X Lossless Decoder หรือ XLD เป็นโปรแกรมใช้แปลงไฟล์เสียงใน Mac OS X ใช้โปรแกรมนี้มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว หลักๆใช้แปลงไฟล์เพลงนามสกุล Flec เป็น m4a (Apple lossless) หรือทำ CD Rip โปรแกรมใช้ง่าย ฟรี กินพื้นที่น้อย แปลงได้เร็วดี

ตอนใช้งานครั้งแรกเข้าไปตั้งค่าใน Preference ก่อนว่าต้องการแปลงไปเป็นไฟล์อะไร จากนั้นเปิดไฟล์ที่จะแปลง โปรแกรมจะแปลงให้อัตโนมัติ

ดาวน์โหลดได้ที่ https://www.macupdate.com/app/mac/23430/x-lossless-decoder

เปิดการทำงาน Find My Mac และทดลองใช้งาน

ฟีเจอร์ตัวหนึ่งที่มาพร้อมกับ OSX Lion 10.7.2 คือ iCloud ซึ่งเป็นบริการเก็บข้อมูลไว้บนคอมพิวเตอร์กลุ่มเมฆ ลองดูวิธีการเปิดการใช้งานที่บล็อกอันเก่าที่ วิธีติดตั้ง iCloud ในเครื่อง Mac และ Windows หนึ่งในนั้นจะมี Find My Mac ที่จะช่วยให้เราติดตามตัวเครื่อง Mac ของเราได้ เมื่อโดนขโมย เหมือนกับ Find My iPhone นั้นเอง และสามารถควบคุมเครื่องในระยะไกลผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้เล็กน้อย ได้แก่ ส่งข้อความไปที่เครือง สั่งล็อกเครื่อง หรือลบข้อมูลในเครื่อง Mac ของเรา ในกรณีที่คุณอาจมีข้อมูลลับที่ไม่ต้องการให้ใครเห็นก็ทำได้

เครื่องของผมหลังจากได้อัพเดตเครื่องให้เป็น 10.7.2 จะมีฟีเจอร์ iCloud เพิ่มเข้ามาแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดการทำงาน Find My Mac ได้ ทิ้งปัญหานี้ไว้นานแล้ว เมื่อวานเลยนั่งดูว่าจะแก้ไขอย่างไรได้บ้าง จึงเกิดโพสนี้ขึ้นมา

เปิดการทำงานของ Find My Mac ไม่ได้

มันฟ้องให้อัพเดต Recovery system ตลอดเรา แม้ว่าเราจะสั่งอัพเดตไปแล้วก็เป็นเหมือนเดิม จึงลองค้นดูว่ามีคนเจอปัญหาในลักษณะนี้บ้างหรือไม่ พบว่ามีคนเจอปัญหาแบบนี้เยอะพอสมควร เลยลองเลือกทำตามขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหาของหลายๆเว็บพบว่า ที่นีให้รายละเอียดค่อนข้างดี https://www.macosliontips.com ทำตามแล้วมันสามารถแก้ไขปัญหาของเราได้เลยเอามาเล่าต่อ

วิธีแก้ไขปัญหาเปิดการทำงาน Find My Mac ไม่ได้

จะมีวิธีการแก้ไขปัญหาหลายวิธี บางคนแก้ไขได้ตั้งแต่วิธีแรก ลองทำตามไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าทั้งหมดนี้แก้ไขไม่ได้ ต้อง install OSX Lion ใหม่เลยแบบ Clean install ซึ่งเป็นอะไรที่ขี้เกียจมาก โชคดีของผมแก้ไขได้ในวิธีที่ 3

วิธีที่ 1 Enable Location Services

ให้เปิดใช้งาน Location Services ซึ่ง Find My Mac ต้องการใช้งานเพื่อระบุตำแหน่งของเครื่อง วิธีเปิดใช้งาน เข้าไปที่ System Preferences เลือก Security & Privacy ดูว่าที่ Enable Location Services ถูกติ๊กหรือไม่ ถ้ายังให้ติ๊กเลือกเพื่อเปิดการทำงาน แล้วลองกลับไป iCloud setting อีกครั้งเพื่อดูว่าสามารถเปิดการทำงานของ Find My Mac ได้หรือยัง ถ้ายังไม่ได้ต้องดูวิธีแก้ไขตัวต่อไป

Enable Location Services

วิธีที่ 2 Reinstall Lion Recovery Update

บางทีการเชื่อมต่อกับ server ตัวอัพเดตอาจจะมีปัญหา ดังนั้นลองดาวน์โหลด ตัว Recovery System มาติดตั้งเอง  https://support.apple.com/kb/DL1464 เมื่อติดตั้งเสร็จ restart รอบหนึ่งแล้ว เข้าไปดูว่าเปิดการทำงานของ Find My Mac ได้หรือยัง ถ้ายังดูขั้นตอนต่อไป

วิธีที่ 3 Repair Disk and Reinstall Client Combo Update

วิธีสุดท้ายนี้ค่อนข้างยากขึ้นนิดหนึ่ง นั้นคือสั่ง repair disk และลงตัวอัพเดต OSX Lion 10.7.2 ใหม่ แบบ Client Combo

  1. สั่ง Verify Disk โดยเข้าไปที่ Disk Utility (/Applications/Utilities) คลิกที่ฮาร์ตดิสที่ติดตั้ง OSX อยู่ แล้วคลิก Verify Disk อาจเจอข้อความ error ขึ้นมา

    สั่งให้ทำการ verify disk

  2. restart เครื่อง แล้วกดปุ่ม alt/option ค้างไว้ เลือกบูธใน recovery disk
    บูธเข้า Recovery HD

    จากนั้นเมื่อมี Mac OS X Utilities ปรากฏขึ้นมาให้เลือก Disk Utility

    เลือก Disk Utilites

    เลือก Disk ที่ลง OSX แล้วกด Repair Disk

    กด Repair Disk

    เมื่อ repair เสร็จแล้ว ให้รีบูตอีกครั้ง

  3. โหลดตัว OS X Lion Update 10.7.2 Client Combo มา https://support.apple.com/kb/DL1459 แล้วกดติดตั้ง เสร็จแล้ว restart อีกครั้ง
  4. เข้าไปดูที่ iCloud setting พบว่าตอนนี้สามารถ เปิดการทำงานของ Find My Mac ได้แล้ว(เย้ เย้)
    เปิดการทำงาน Find My Mac

    ขั้นตอนการแก้ไขในกรณีที่เปิดการทำงาน Find My Mac ไม่ได้ จบลงด้วยดี ถ้าใครที่ทำแล้วยังไม่สามารถเปิดการทำงานได้ อยากให้ลองรีสตาร์ทเครื่องอีกสักรอบสองรอบ ถ้ายังไม่ได้ทางสุดท้ายคือลง OSX Lion ใหม่แบบ clean install

ทดสอบการใช้งาน Find My Mac

หลังจากเปิดใช้งานแล้ว มาทดสอบดูสักเล็กน้อยในการใช้งาน Find My Mac

  1. เข้าไปที่ iCloud.com ล็อกอินด้วย Apple ID
  2. เข้าไปที่ Find My iPhone (ไม่ต้องงงครับมันอยู่ที่หน้าเดียวกัน)

    iCloud.com

  3. จะเห็นว่าเครื่องของเราตอนนี้อยู่ที่ไหน

    ตำแหน่งของเครื่องปัจจุบัน

  4. นอกจากนั้นเรายังสามารถทำการควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ดังนี้ครับ
    คำสั่งต่างๆที่ทำได้

    ส่งข้อความไปที่เครื่องพร้อมเสียงเตือน ล็อกเครื่อง ลบข้อมูล(ต้องสั่งล็อกเครื่องก่อน) เตือนให้ส่งอีเมลหาเราเมื่อตรวจพบเครื่อง

    หน้าสั่งล็อกเครื่อง

  5.  ทดลองส่ง ข้อความดูครับ
    ลองเขียนข้อความ แล้วกดส่งดู

    เมื่อมันเข้ามาที่เครื่องจะมีข้อความที่เราเขียนและมีเสียงเตือนขึ้นดังขึ้น(เสียงน่ารำคาญมาก) ทดลองใช้ภาษาไทยแล้ว ทำงานได้ปกติดีครับ

    ข้อความที่ส่งเข้าเครื่อง

พอเปิดใช้งาน Find My Mac ได้แล้ว หวังอย่างยิ่งว่าจะไม่ได้ใช้งานมันจริงๆนะ(ไม่อยากทำเครื่องหาย) แต่อย่างไรก็ตามมีไว้ก็เป็นเรื่องดี ถ้าหายจริงๆก็ยังพอมีเครื่องมือช่วยติดตาม หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านเช่นกันครับ

Apple Icon Devices ดาวน์โหลดฟรี

Apple Icon Devices

Free Icons: Apple Icon Devices

เว็บ IconShock และ MightyDeals เขาออกแบบผลิตภัณฑ์ของ Apple แล้วนำมาแจกฟรี เห็นว่าสวยดี ดาวน์โหลดมาแล้วมีให้ทั้งไฟล์ PNG และ AI เอาไปใช้ได้แต่ห้ามเอาไปขายต่อล่ะ  ไอคอนมีทั้ง iPod(shuffle, nano, classic, touch), iPhone, Apple TV, Macbook Air, iPad, iMac รวมกัน 10 อัน

เข้าไปโหลดได้ที่ https://www.mightydeals.com/deal/apple-device-icons.html 

ปล. ต้องกรอกอีเมลด้วยนะ แล้วเขาจะส่งลิงค์ดาวน์โหลดไปให้ทางอีเมล

เพิ่มแรมให้ Macbook Pro จาก 4 GB เป็น 8 GB ด้วยตนเอง

ทำไมต้องอัพแรมให้ Macbook Pro

Macbook Pro ที่ใช้อยู่มีแรมมาให้ 4 GB ซึ่งการใช้งานทั่วไปถือว่าโอเคแล้ว แต่เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมาได้ใช้งานโปรแกรมที่ทำงานเกี่ยวกับการประมวลผลด้วยภาพ และพวกโปรแกรมวาดภาพ โดนโปรแกรมฟ้องว่าแรมไม่พอใช้งาน ทำงานต่อไม่ได้เลย ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะ Mac OSX Lion มันกินแรมเยอะด้วยส่วนหนึ่ง และตอนที่รัน Parallel Windows ด้วยแล้ว แรมไม่เหลือเลย ด้วยเหตุนี้เลยคิดจะเพิ่มแรมให้ Macbook Pro เจอราคาอัพแรมใน iStudio พบว่ามันแพงมาก แถมบางอันต้องเทิร์นแรมตัวเก่าด้วย

ราคาอัพแรมของ Macbook Pro วันที่ 18 ต.ค. 2554

ข้อมูลจาก https://www.maccafethai.com/portable_macbookpro.html

ผมไม่มีข้อมูลนะว่าทำไมการเพิ่มแรมที่  iStudio ถึงแพงต่างกันเยอะขนาดนั้น เป็นเหตุให้ต้องหาข้อมูลวิธีการเพิ่มแรม Macbook ด้วยตนเอง ได้ข้อมูลมาดังนี้ครับ

  1. การเพิ่มแรมเอง ไม่เป็นเหตุให้ประกันหมด อันนี้โอเคแสดงว่าเราทำเองได้
  2. แรมที่มีขายตามท้องตลาด สามารถใช้ร่วมกันได้ (ชนิด,บัส ให้ตรงกันนะ)
  3. ในคู่มือที่ให้มาพร้อมเครื่องมีวิธีการเพิ่มทั้งแรมและอาร์ดดิสอยู่ด้วย สามารถเปิดดูแล้วทำตามได้เลย ในเว็บก็มี https://support.apple.com

เมื่อรู้ดังนี้จึงตัดสินใจจะเพิ่มแรมให้น้อง Macbook Pro ครับ ส่วนท่านที่สนใจจะเพิ่มแรมให้ Mcbook Pro ของตัวเองก็อยากให้ดูข้อมูลหลายๆด้านข้อดีข้อเสียก่อนจะตัดสินใจนะครับ

ขั้นตอนการอัพแรมด้วยตัวเอง

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมเพื่อเพิ่มแรมให้ Macbook Pro จาก 4 GB (2×2 GB)เป็น 8 GB (2×4 GB)

Ram ยี่ห้อ Kington กับชุดไขควง

แรมที่ซื้อมาคือ แรมสำหรับโน๊ตบุ๊ค ขนาด 4 GB /DDR3 /1333 MHz ยี่ห้อ Kington 2 อัน ราคาตัวละ 790 บาท (790×2=1,580 บาท) กับชุดไขควรซื้อที่ชั้นล่างห้างพันทิพนั้นแหละ ราคา 150 บาท ใครมีอยู่แล้วก็ใช้ได้เลย Macbook ต้องใช้ไขควรหัวแฉกครับ
ก่อนเพิ่มแรมในเครื่องเป็นแบบนี้นะครับ

ก่อนอัพแรมเป็น 2GB 2 ตัว

ขั้นที่ 1

หาอะไรนุ่มๆรองน้อง Macbook ก่อน แล้วคว่ำหน้าลง

Macbook คว่ำหน้าลง

ขั้นที่ 2

ไขน๊อตที่อยู่ด้านหลังออกทีละอัน มีอยู่ทั้งหมด 10 ตัว โดยมันจะมี 3 ตัว ด้านบนชวาจะยาวกว่าตัวอื่นๆ ควรหาอะไรใส่แยกไว้ว่าตัวไหนอยู่ตำแหน่งไหนด้วย เวลาประกอบกับเข้าไปจะได้ใช้ตัวเดิม

ไขน็อตที่ด้านออก

ผมเก็บน็อตไว้แบบนี้ครับ เอากาวสองหน้าติดไว้บนแผ่นพาสติกแล้วเอาน้อตติดไว้ตามตำแหน่งที่มันอยู่ เวลาหมุนกลับจะได้ไม่สับสน

น๊อตเรียงตามตำแหน่งบนเครื่อง Macbook

 ขั้นที่ 3

ยกฝากด้านหลังออก ก็จะเผยให้เห็นอุปกรณ์และวงจรไฟฟ้าของเครื่อง Macbook ถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบ

ยกฝาหลังออก
เปิดฝาหลังออก ก็จะเห็นอุปกรณ์ต่างๆภายใน

เห็นแรมแล้ว ตัวเขียวๆนี้เอง

แรมของ Macbook มีตราของซัมซุงอยู่นะ ใครผลิตให้น่าจะรู้กัน

ขั้นที่ 4

ถ้าดูตามขั้นตอนของ Apple เขาจะให้เราเอามือแตะตรงโลหะก่อนเพื่อเคลียร์ประจุไฟฟ้าสถิตจากร่างกายก่อน แต่ผมก็ไม่ได้ทำนะ เริ่มถอดแรมตัวเก่าออกเลย ถอดง่ายๆครับ เอามือถ่างขาล็อกด้านข้างออกแรมจะเด้งออกมาเอง

ถ่างขาล็อกออก แรมจะเด้งออกมา
แรมยกขึ้นแล้วก็ดึงเบาๆก็หลุดออกมาแล้ว

เมื่อถอดตัวแรกออกแล้วจะเห็นตัวที่สองอยู่ด้านล่าง วิธีถอดออกก็ทำเหมือนกัน

ถอดแรมออกหมดแล้ว

แรมตัวเก่า 2x2GB ถอดออกมาหมดแล้ว พร้อมที่จะใส่ตัวใหม่ 2x4GB เข้าแทนได้แล้ว
วิธีใส่แรมเข้าไป ก็เสียบให้ตรงร่องของมันแล้วก็กดลง ตัวล็อกจะยึดมันให้แน่น ดูให้ดีว่าลงร่องพอดี ตัวด้านล่างอาจจะใส่ลำบากนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร

แรมตัวใหม่ถูกใส่เข้าไปแทนตัวเก่าแล้ว

ขั้นสุดท้าย

ปิดฝา แล้วขันน๊อตตัวเดิมในตำแหน่งเดิมลงไป ตอนแรกผมจะยังหมุนแค่หลวมๆก่อน เผื่อว่ามีปัญหาจะได้ไม่ต้องมาไขใหม่ให้ลำบาก

พร้อมทดสอบแล้ว

เปิดเครื่องทดสอบดูว่าใช้งานได้หรือไม่  ถ้าไม่มีปัญหาค่อยกลับมาหมุนน๊อตให้แน่น(ปิดเครื่องก่อนด้วยก็ดี)

ใส่แรมเข้าไปแล้ว ตอนนี้มี 8 GB แล้ว 4 GB 2 ตัว

ดูการทำงาน ขณะที่เขียนบล็อกอยู่

การใช้งานแรม 8 GB

สรุปดังนี้ครับ ทำเองไม่ยากอย่างที่คิด ประหยัดกว่าตั้งเยอะ และอย่าลืมเก็บแรมตัวเก่าไว้ด้วยเผื่อว่าต้องเคลมเครื่องอาจจะต้องใส่กลับ กรณีที่ต้องเคลมทั้งเครื่องแบบเปลี่ยนเครื่องใหม่เลย ส่วนการซ่อมปกติไม่เป็นไร

การใช้งานหลังเพิ่มแรมเป็น 8 GB รู้สึกว่าทำงานได้เลื่อนขึ้นในโปรแกรมที่เคยมีปัญหา ถือว่าถูกใจที่ได้เพิ่มแรมให้น้อง Macbook Pro

ตอนนี้ Macbook Pro รุ่นใหม่สามารถเพิ่มแรมได้สูงถึง 16 GB แต่แรมตัว 8 GB ยังแพงอยู่มาก และคิดว่าตัวเองยังไม่มีความจำเป็นขนาดนั้น ถ้าราคาถูกลงและมีความจำเป็นค่อยว่ากันอีกที หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่อยากเพิ่มแรมให้ Macbook Pro ด้วยตนเองนะครับ

Exit mobile version