หนังสือ REWORK ยกเครื่องความคิด อ่านแล้วจ้า

หนังสือ ยกเครื่องความคิด Rework

หนังสือ ยกเครื่องความคิด Rework
ผู้เขียน:  Jason Fried, David Heinemeier Hansson
ผู้แปล: อาสยา ฐกัดกุล
จำนวน 288 หน้า ราคา 180 บาท 
สำนักพิมพ์ วีเลิร์น 

หนังสือ REWORK ผมได้ยินชื่อครั้งแรกจาก @imenn แล้วยังใจดี เขียนไว้ให้เราอ่านตั้งหลายตอนในบล็อกของบริษัทสามย่าน ในหัวข้อ “หนังสือ Rework, คำภีร์ของบริษัทสมัยใหม่” ลองตามไปอ่านตามลิงค์ดูได้ครับ เมื่อหลายวันก่อนเจอทวีตอันหนึ่งของ @arjin บอกว่า Rework ฉบับภาษาไทยออกแล้ว ด้วยความที่ไม่สะดวกเดินไปดูตามร้านหนังสือเท่าไหร่นัก จึงลองสั่งแบบออนไลน์ครั้งแรกจากเว็บไซต์ของ Se-ed ซึ่งถือว่าเป็นการสั่งซื้อหนังสือออนไลน์ครั้งแรกของเราด้วย ราคาที่ปก 180 บาท สั่งออนไลน์ราคา 171 บาท + 30 บาท(ค่าจัดส่ง) รวมเป็น 201 บาท รอประมาณ 5 วัน ก็ได้หนังสือห่ออย่างดี ถือว่าค่อนข้างโอเคกับประสบการณ์สั่งหนังสือออนไลน์ครั้งแรก

หนังสือ Rework เป็นการเล่าประสบการณ์ในการทำงานของบริษัท 37 Singals บริษัทผลิตซอร์ฟแวร์ขนาดเล็กมีพนักงานไม่กี่คน และยังอยู่กันคนละเมือง บางคนอยู่กันคนละทวีปด้วย(ทำงานกันได้ยังไง?) เป็นบริษัทที่คุมขนาดของบริษัทไม่ให้ใหญ่มาก แต่ก็ทำกำไรมาตลอดทุกปี แม้ในช่วงที่เกิดวิกฤตด้านการเงินที่สำคัญๆของโลก บริษัทก็ผ่านพ้นมาได้ด้วยดี

เนื้อหาของหนังสือจะมีลักษณะคล้ายกับเรากำลังนั่งอ่านบล็อกของใครซักคน ที่กำลังเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในบริษัทของตัวเอง แบบสั้นๆเข้าใจง่าย เนื่องจากเขาเล่าจากประสบการณ์จริง เหตุการณ์ต่างๆเหล่านั้นเกิดขึ้นจริงๆ พออ่านถึงบางบทเราจะสะดุ้งเฮือก! เฮ้ย! ไอ้แบบนี้ที่ทำงานของเราก็เป็นว่ะ แล้วไอ้อาการสะดุ้งแบบนี้ก็เกิดขึ้นตลอดการอ่านหนังสือเล่มนี้

สิ่งที่น่าประทับใจมากของหนังสือ Rework คือ เขารู้ว่าสิ่งนี้คือปัญหาของบริษัท เขาด่าสิ่งนี้ห่วย การกระทำแบบนี้แย่ แล้วก็ตบท้ายด้วยวิธีแก้ไขในแบบฉบับของพวกเขา แล้วก็บอกผลลัพท์ที่ได้ด้วยว่าเป็นอย่างไร

ในความคิดของผมหนังสือเล่มนี้เหมาะกับบริษัทเล็กๆไม่ใหญ่มาก หรือบริษัทที่เพิ่งก่อตั้ง(Startup) แต่คนทำงานแบบมนุษย์เงินเดือนก็อ่านได้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในที่ทำงานของตัวเองได้แน่นอน อยากได้เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษเหมือนกันนะ เพราะบทท้ายๆมีพูดถึงการใช้คำต่างๆในการสนทนา การโต้ตอบกับลูกค้า พอแปลเป็นภาษาไทยแล้วยังสื่อได้ไม่ค่อยดีนัก อยากรู้ว่าฝรั่งเขาสื่อสารกันยังไงด้วย

สรุปสั้นๆได้ว่า หนังสือ Rework เล่มนี้ ชอบมาก เป็นหนังสือที่จุดไฟในตัวเราได้ เหมาะสำหรับคนที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์แต่ยังไม่เริ่มทำ ให้ได้ฉุกคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว อ่านง่าย สนุก มีแนวคิดใหม่ๆในการทำงานเพียบ อ่านทบทวนหลายรอบได้

flickchart.com มาจัดอันดับหนังในดวงใจกันครับ

fickchart.com

Flickchart เป็นเว็บไซต์สังคมออนไลน์สำหรับคนที่ชอบดูหนัง และจัดอันดับ เปรียบเทียบหนังที่ตัวเองชอบ รูปแบบในการจัดอันดับก็ง่ายๆ คือระบบจะสุ่มหนังมาให้ทีละ 2 เรื่อง ถ้าเราเคยดู และชอบเรื่องไหนมากกว่าก็คลิกที่หนังเรื่องนั้น แต่ถ้ายังไม่เคยดู ก็กดผ่านไป เมื่อกดไปสักพัก เว็บไซต์จะจัดอันดับหนังที่เราชอบมาให้เป็น 20,  50, 250 อันดับ แต่ถ้าดูแล้วอันดับที่เว็บไซต์จัดมาให้ไม่ถูกใจ เราก็เข้าไปจัดทีละเรื่องได้ นอกจากนั้นยังมีรายละเอียดของหนังแต่ละเรื่องให้ดูอีกด้วยว่าคนส่วนใหญ่ให้อันดับเท่าไหร่ มีคนดูกี่เปอร์เซ็นต์ แล้วยังจัดเปรียบเทียบชนกันของหนังเจ๋งๆให้ได้โหวตกันอีก

ผมเคยทำหนัง 100 เรื่องที่ผมชอบ เอาลิสต์ลงไว้ใน Facebook เมื่อหลายเดือนก่อน วันนี้มาเจอเว็บไซต์นี้เลยถูกใจลองกดเล่นไปเรื่อยๆ ระบบก็จัดอันดับหนังมาให้ แล้วยังสามารถแชร์อันดับหนังในดวงใจของเราให้เพื่อนได้อีกด้วย เลยอยากชวนให้เพื่อนมาลองเล่นดูครับ

เข้ามาดูอันดับหนังในดวงในของผมได้ที่ https://www.flickchart.com/sarapuk ครับ

เอาคำจำกัดความ Flickchart ของ Mashable มาให้อ่านครับ เขาอธิบายได้ครอบคลุมดี

Flickchart is a social network for film lovers to rate, compare and share their favorite films through a unique game-like one versus one mechanism.-Mashable

และนี้คือ 20 อันดับหนังในดวงใจของผม จัดมาให้ถูกใจเลย

  1. Pan’s Labyrinth
  2. The Lord of the Rings: The Return of the King
  3. A Beautiful Mind
  4. Good Will Hunting
  5. The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring
  6. The Matrix
  7. Contact
  8. Spider-Man
  9. The Bourne Ultimatum
  10. The Matrix Revolutions
  11. Kill Bill Vol. 2
  12. The Lord of the Rings: The Two Towers
  13. The Dark Knight
  14. The Bourne Supremacy
  15. 300
  16. The Fifth Element
  17. The Exorcist
  18. The Matrix Reloaded
  19. Crouching Tiger, Hidden Dragon
  20. King Kong

สังเกตุเห็นว่ามีแต่หนังเก่า คิดว่าช่วงแรกๆอาจจะเอาหนังเก่าๆที่คนดูเยอะๆมาให้เลือกก่อน

วิธีหาเงินในโลกอินเทอร์เน็ต แบบสร้างสรรค์

How to Make Money on the Internet

คนที่สนใจอยากหาเงินจากอินเทอร์เน็ต เมื่อดูแล้วอาจจะได้รู้ไอเดียว่าเราควรจะอยู่ตรงไหน Social Graphic ตัวนี้ ผมชอบตรงที่มันเขียนโยงเป็นแนวคิดได้ดี และยกตัวอย่างเว็บไซต์ที่ใช้แนวทางนั้นๆ ให้เรานึกภาพออกว่า แต่ละเว็บไซต์เขาได้เงินจากไหน และถ้าเป็นเราจะหาเงินจากมันได้ยังไง ดูจะเป็นแนวทางที่สร้างสรรค์กว่า คือไม่ได้ฉาบฉวยอย่างเช่น โฆษณาที่เราเหมือนจะโดนถูกคุกคามใน Facebook ต้องมานั่งบล็อคกันรายวัน อย่างไรก็ตาม การจะได้มาซึ่งเงินทอง ยังไงซะคุณก็ต้องทำงาน จะทำงานผ่านทางความคิด หรือผ่านการลงแรง แต่จำไว้ว่า “คิดแล้วต้องทำ ไม่ทำก็ไม่เกิดผล” แต่มันควรสร้างสรรค์ไม่คุกคามผู้อื่นด้วย

via: https://socialwayne.com

Color Wizard โปรแกรมเลือกสีออนไลน์

โปรแกรมเลือกสี สำหรับเว็บไซต์

คิดไม่ออกว่าจะใช้สีอะไรในการทำเว็บไซต์ โปรแกรมนี้ช่วยได้ครับ ใช้งานค่อนข้างง่าย และไม่ต้องติดตั้งด้วย ทำให้ผมทำงานค่อนข้างสะดวก และง่าย ที่จริงที่เว็บเขามีทั้งหมดสามโปรแกรมที่เป็น tools เกี่ยวกับ การจัดการสีในเว็บไซต์ Color Contrast, Color Wheel และ Color Wizard ทีผมใช้ประจำ มีโทนสีให้เลือกมากมายเข้าไปดูได้ที่ https://www.colorsontheweb.com

ลองใช้ดูเลยครับ

IceFrog’s Blog บล็อกของทีมพัฒนา DotA

IceFrog-DotA

Defense of the Ancients (DotA) บางคนก็เรียก ดอท-เอ บางคนก็เรียก โดต้าเป็นแม็พหนึ่งในเกม Warcraft III ที่สนุกและเล่นออนไลน์เป็นทีมได้หลายคน ความสนุกอยู่ที่การเล่นเป็นทีมและมีฮีโร่ให้เลือกเล่นหลายตัว ความสามารถที่แตกต่างกัน ทีมพัฒนาคือ IceFrog มีการพัฒนาแม็พอย่างต่อเนื่องทำให้มีคนเล่นแม็พนี้ทั่วโลก จนมีการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ อยู่บ่อยครั้ง ทีม IceFrog ได้แยกออกมาจาก www.dota-allstars.com ได้ออกมาทำบล็อกของตัวเองที่ www.icefrog.com จะเป็นเว็บที่ให้ ข่าวความคืบหน้าของการพัฒนาแม็พในเวอร์ชั้นต่อไป และรับข้อคิดเห็นต่างๆ ซึ่งปกติก็สามารถส่งเข้าไปได้ที่
icefrog@gmail.comซึ่งในเว็บยังมีชื่อของฮีโร่ในโวตอีกด้วย และสามารถสมัครสมชิกได้ ล่าสุดก็มีการออกมาเปิดเผยข่าวของแม็พเวอร์ชั่น 6.60 ที่มีการปรับปรุงใหม่หลายจุด และอาจมีฮีโร่ใหม่ตัวสองตัวมาด้วยก็คอยลุ้นแล้วกันนะครับว่าจะออกมาเมื่อไหร่

ศูนย์หนังสือจุฬาฯ สั่งหนังสือจาก Amazon นะครับ

amazon-chula-book

วันนี้แวะเข้าไปดูหนังสือที่ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ สาขาศาลาพระเกี้ยว จุฬาฯ ขณะที่เดินไปเรื่อยอยู่นั้นที่หมวดหนังสือต่างประเทศเหลือบไปเห็นพี่พนักงานคนหนึ่งกำลังหนังค้นหาหนังสือจาก เว็บ Amazon.com คงไม่ต้องบรรยายให้มากความนะครับว่าเว็บนี้ทำอะไรบ้างเขาเป็นบริษัทธุรกิจออนไลน์ที่ใหญ่มากๆ มีบริการต่างๆมากมาย เช่น เพลง หนังสือ หนัง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิก และบริการออนไลน์อื่นๆอีกเพียบ ฯลฯ ผมเลยเข้าไปถามจากเจ้าหน้าที่ว่าที่ศูนย์หนังสือสั่งหนังสือผ่านทาง amazon หรือครับ ได้คำตอบว่า ปกติถ้าสั่งเยอะหนังสือชุดเดียวกัน ก็สั่งผ่านสำนักพิมพ์โดยตรง ถ้าสั่งน้อย และเป็นของสำนักพิมพ์ก็ จะสั่งผ่านทาง amazon และที่ศูนย์หนังสือก็มี บริการสั่งหนังสือให้ด้วย เยี่ยมเลยครับ จากกรณีนี้ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับแต่ผมรู้สึกว่าธุรกิจออนไลน์ทำเงินได้อยากมาก และยังขายของได้ทั่วโลกอีกด้วย อินเตอร์เน็ตนี้มันสุดยอดจริงๆครับ

Exit mobile version