Graphic Design Principle 2nd edition หนังสือ หลักการและกระบวนการออกแบบงานกราฟิกดีไซน์

Graphic Design Principle second edition

ชื่อหนังสือ Graphic Design Principle 2nd edition: หลักการและกระบวนการออกแบบงานกราฟิกดีไซน์
ผู้แต่ง ปาพจน์ หนุนภักดี
บรรณาธิการ ปิยะบุตร สุทธิดารา
352 หน้า พิมพ์ครั้งที่ 1 : มีนาคม 2555
สำนักพิมพ์ DIGI ART
ราคา 295 บาท

หนังสือเกี่ยวกับการออกแบบกราฟิกดีไซน์ มีหัวข้อที่หลากหลาย อ่านเพลิน ข้างในมีกรณีศึกษาแยกตามหัวข้อเยอะ หัวข้อเด่นที่ตัวเองชอบมากที่สุดก็คือ ตัวอักษรในงานกราฟิกดีไซน์ ทำให้รู้เรื่องเกี่ยวกับตัวอักษรเยอะขึ้น ทั้งประวัติ และแนวคิดของผู้ออกแบบ แม้จะไม่ละเอียดยิบแต่พอจับทางเรื่องของอักษรได้บ้าง และการออกแบบสัญลักษณ์ เป็นการยกตัวอย่างโลโก้ของบริษัทชื่อดังทั่วโลกที่เราคุ้นตาดี นำมาอธิบายแนวคิด บางอันมีพัฒนาการของโลโก้ของบริษัทที่มีการรีแบรนด์อยู่บ่อยครั้ง ส่วนใหญ่เอาข้อมูลมาจาก Goodlogo.com ซึ่งเราก็รู้จักเว็บไซต์นี้จากหนังสือเล่มนี้เอง นอกจากนี้ยังมีส่วนอื่นๆที่น่าสนใจ เช่น ความหมายประวัติความเป็นมาของกราฟิกดีไซน์ แนวความคิดในการออกแบบ การออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ เป็นต้น

ตัวอย่างเนื้อหา

ตัวอย่างการออกแบบโปสเตอร์หนัง

จัดกลุ่มตามรูปแบบการนำเสนอที่คล้ายกัน (เหมือนจะเคยเห็นที่ไหน?)

ตัวอักษรในงานกราฟิกดีไซน์

ได้ความรู้เกี่ยวกับตัวอักษรมากขึ้น เพิ่งจะรู้ว่า Serif คือตัวอักษรที่มีติ่งเล็กๆ ส่วน Sans-serif คือตัวอักษรที่ไม่มีติ่งยื่นออกมา Time New Roman ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้ในหนังสือพิมพ์ The Times ตั้งแต่ปี คศ. 1931 ออกแบบโดย Victor Lardent เป็นฟอนต์อีกอันที่ใช้กันทั่วโลก และใช้งานต่อเนื่องยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน (คนออกแบบเนี้ย สุดยอดจริงๆ)

การออกแบบโลโก้

ตัวอย่างการออกแบบโลโก้รถยนต์ชื่อดังจากอิตาลี พร้อมประวัติความเป็นมาเป็นสั้นๆ น่าเสียดายหลายโลโก้กับระบุคนออกแบบเป็น นิรนาม ซึ่งในความคิดผมถ้าสืบค้นมากพอน่าจะหาเจอนะว่าใครเป็นคนออกแบบ หรือถ้าไม่รู้ ผมจะไม่ยกโลโก้นั้นมานำเสนอแม้จะเป็นกรณีศึกษาที่ดีก็ตาม

หัวข้อการออกแบบโลโก้ ทำให้รู้ว่าลุง Paul Rand มีงานออกแบบโลโก้ที่สุดยอดจริงๆ เช่น โลโก้ของ IBM, NeXT, Ford, YALE เป็นต้น

สรุปว่า เป็นหนังสืออีกเล่มที่อ่านสนุก เพลิดเพลิน ถ้าใครที่ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบ หนังสือเล่มนี้น่าจะเป็นหนังสือที่รวม case study ไว้เยอะพอสมควรเลยครับ สามารถเข้ามาหาแนวคิด แรงบันดาลใจข้างในหนังสือเล่มนี้ได้ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน ส่วนคนที่ชอบศิลปะทั่วไปก็อ่านสนุก และได้ความรู้เช่นกันครับ

Science Illustrated นิตยสารวิทยาศาสตร์ เล่ม 1

นิตยสาร Science Illustrated

เมื่อวานเดินไปแผงหนังสือ ไปเจอนิตยสารเล่มหนึ่งเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ชื่อ Science Illustrated ออกเป็นเล่มแรกด้วย เลยลองซื้อมาในราคา 110 บาท มีหน้าเนื้อหาอยู่ราว 80 หน้า บรรณาธิการกล่าวถึงว่าเป็นนิตยสารที่จะมีเนื้อหาหลักเกี่ยวกับ 4 ด้าน(เสาหลัก) คือ เทคโนโลยี การแพทย์ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม บรรณาธิการเขียนถึงเนื้อหาของเล่มนี้เป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่ได้แนะนำนิตยสารเล่มใหม่ให้คนอ่านได้รู้จักเลย(นี้มันเล่มแรกนะ!)

ส่วนตัวผมคิดว่าเล่มแรกควรจะแนะนำก่อนว่ามันมีที่มายังไง จะออกรายเดือนหรือรายสัปดาห์ แทนที่จะไปบอกว่าเล่มนี้มีเนื้อหาอะไร(บอกนิดเดียวพอ) ยกตัวอย่างจาก นิตยสารเล่มแรกของ Computer Art ที่เคยซื้อเล่มแรกเหมือนกัน แนะนำได้ดีกว่ามาก บอกเลยว่านำเข้ามาแล้วปรับปรุงส่วนไหนบ้างเพื่อให้เข้ากับคนไทยมากขึ้น แบบนั้นดูน่าดึงดูดมากกว่า ทำให้สนใจอยากติดตามอ่านในเล่มถัดไป

ลองค้นดูพบว่า Science Illustrated เป็นนิตยสารแนว popular science พิมพ์ขายครั้งแรกตั้งแต่ คศ.1984 ปัจจุบันมีการขายอยู่หลายสิบประเทศทั่วโลก จุดเด่นของมันคือการมีภาพประกอบเนื้อหา 4 ด้านหลัก ที่สวยงาม ถูกออกแบบมาอย่างดี ทั้งภาพถ่ายและภาพกราฟิก หลังจากเปิดดูแบบผ่านๆถือว่าสวย และทำให้เนื้อหาทางด้านวิทยาศาสตร์ดูน่าสนใจมากขึ้นอีกโข ถ้าอยากเห็นภาพให้ลองนึกถึงเปเปอร์ของเนเจอร์ที่ภาพประกอบถูกออกแบบมาอย่างดี แล้วมันก็ทำให้เราเข้าใจเนื้อหายากๆได้ง่ายมากขึ้น

น่าจะเป็นการดีที่เราจะมีนิตยสารด้านวิทยาศาสตร์ การแพทย์ ให้ได้เลือกอ่านเพิ่มขึ้นอีกเล่ม

ส่วนเนื้อหาภายในโดยละอียดยังไม่ได้อ่านครับ (2-3 วันนี้คงไม่ได้อ่านแน่นอน)

ปล. เล่มแรกมีแถมหนังสือภาพประกอบเล่มเล็กๆมาให้ด้วยอีกหนึ่งเล่ม

MyPaint โปรแกรมฟรี สำหรับวาดการ์ตูนดิจิตอล

Mypaint

MyPaint เป็นโปรแกรมโอเพนซอร์ส งานทางด้านกราฟิกทำภาพวาดดิจิตอล (Digital painters) ที่เร็ว และง่ายต่อการใช้งาน รองรับทั้ง Windows, Linux, Mac  ตัวติดตั้งโปรแกรมขนาดแค่ 8.6 MB ตัวโปรแกรมเบามาก รองรับการทำงานหลายเลเยอร์ เปิดโปรแกรมมาโล่งมาก มีพื้นที่ทำงานเยอะ เน้นวาดล้วนๆ หน้าจอเริ่มต้นโปรแกรมเปิดมามีกล่องเลือกสี กับกล่องเลือกแปรง เมนูด้านบนก็เล็กๆ ที่เหลือเป็นพื้นที่ไว้เขียน รองรับแรงกดของปากกา tablet

ด้วยรวมแล้วถูกใจมากเลย

หน้าเริ่มต้น MyPaint

ข้อดีอีกอย่างคือมีแปรงให้โหลดเพิ่มเติมอีกด้วย(Brush Packages) เมื่อทำงานเสร็จ save งานออกมาเป็นนามสกุล PNG, JPG, ORA ไฟล์นามสกุล ORA (OpenRaster File Format)ซึ่งเอาไปแก้ไขต่อได้ใน GIMP แต่ต้องลง Plugin เพิ่ม ดาวน์โหลดที่ https://registry.gimp.org

ดาวน์โหลดและรายละเอียด MyPaint https://mypaint.intilinux.com

via: https://www.howtogeek.com

เปรียบเทียบ Smartphone ใครคือ The Best of the Best

Smartphone

ผู้เข้าแข่งขันในวันนี้ได้แก่ iPhone 3Gs ,iPhone 3G ,Palm Pre ,Android G2 (HTC Magic) ,BlackBerry Storm งานนี้ไม่มี Windows mobile เข้าร่วมแข่งขันด้วยสาเหตุใดนั้นน่าจะเพราะยังไม่เป็นที่สนใจ ความสามารถที่จะทำการเปรียบเทียบ ได้แก่ Hardware ,Software ,และราคา ในการเข้าประกวดครั้งนี้จะไม่มีผู้ชนะ หรือผู้แพ้ แต่คนที่จะตัดสินคือผู้อ่านทุกท่านที่จะตัดสินใจเลือกตัวไหนครับ

หัวข้อแรกเรื่อง Hardware

smartphone hardware

เรื่องที่ดูได้แก่ screens, storage, graphics performance และ input
จอของ iPhone กับ Palm Pre เป็นแบบ Multitouch แต่ G2 กับ Storm เขาเรียกว่า pseudo-multitouch คือสั่งงานผ่านหน้าจอได้แต่ทำเหมือนตัวที่เป็น multitouch ไม่ได้ เรื่องความจุของเครื่อง iPhone 3Gs จุได้เยอะสุดคือ 16 GB/32 GB แต่ ตัว G2 กับ Storm สามารถ เพิ่มความจุได้ด้วย microSD แต่ Pre บอกว่าซับพอร์ต USB mass storage เรื่องการทำงานเกี่ยวกับ กราฟิก คงต้องยกให้ iPhone 3Gs ที่มีความสามารถด้านนี้มากกว่า ตัวอื่น เพราะออกแบบให้รองรับการเล่นเกมด้วย ส่วน Pre คงได้เปรียบที่มี QWERTY keyboard เข้ามา ที่เจ้าอื่นไม่มี และมันก็เป็นที่ต้องการของผู้ใช้อยู่มากเลยทีเดียว ส่วนเรื่องของแบตเตอรี่ไม่ค่อยมีความแตกต่างกันมากนักส่วนตัวอื่นๆดูในตารางนะครับ

หัวข้อที่สอง Software

smartphone software

แน่นอนเครื่องจะทำงานได้ดีก็ต้องขึ้นอยู่กับ Software ในแต่ละเจ้ามี OS ของตัวเอง และมี Store ไว้ขายโปรแกรมอีกด้วย เมื่อเปรียบเทียบตัวที่เห็นได้ชัดก็คงเป็น จำนวน app ที่ถูกพัฒนา เป้นทางเลือกให้เราเลือกใช้ มีเยอะ มีให้เลือกเยอะย่อมได้เปรียบกว่าเจ้าอื่นแน่นอน

หัวข้อสุดท้ายราคา

smartphone cost

แม้ว่าทุกอย่างดีกว่า แล้วราคาสูงกว่าอย่างมากก็ใช่ว่าจะถูกเลือก ต้องดูว่าความสามารถ
นั้นคุ้มราคาด้วยหรือไม่

สุดท้ายการเลือกมือถือที่เหมาะกับคุณ ราคาที่เหมาะสม ความคุ้มค่าของการใช้งาน เป็นสิ่งที่ต้องคำนึง
มากกว่ตามกระแส อย่างแน่นอน

ข้อมูงจาก GIZMODO

CG+ vs Computer Atrs Thailand นิตยสารกราฟิกพันธุ์ไทย

Computer Graphics Plus Versus Computer Arts Thailand

นิตยสารเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิกของไทยนับว่ามีน้อยมากในแผงหนังสือ ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบหนังสือประเภท ออกแบบ ศิลปะ คอมพิวเตอร์ หนังสือที่ต้องซื้อทุกเดือนคือ ต้นเดือนคือ Bioscope นิตยสารเกี่ยวกับหนัง และกลางเดือนจะมีอีกเล่มคือ CG+(Computer Graphic Plus) ซึ่งเป็นนิตยาสารที่ผมได้ติดตามอ่านมาได้กว่าสองปีแล้วครับ เริ่มอ่านครั้งแรกตอนตีพิมพ์เล่ม 3 และจนถึงปัจจุบันเล่ม ที่ 23 ครับ สองเล่มแรกซื้อทุกเดือนและ iDesign บางฉบับ แต่วันนี้แวะไปที่ร้านหนังสือประจำ ก็เดินไปที่วางหนังสือ CG+ ตามปกติ พบว่ามีนิตยสารใหม่ ออกเล่มแรก ฉบับที่ 01 ชื่อ Computer arts thailand ด้านบนเขียนว่า “การรวมตัวครั้งแรกของนิตยสาร Computer Arts และ 3D World” ผมเลยหยิบมาสองเล่มและทำการเปรียบเทียบกันดูเลยจะใครสนใจจะได้ตัดสินใจเลือกได้ถูก แต่สำหรับผมคงจะสนับสนุนทั้งสองเล่มครับ

หัวข้อ CG+ Computer Arts Thailand
ราคา 100 บาท 150 บาท
จำนวนหน้า
(ดูตามหมายเลขหน้าสุดท้าย)
114 หน้า 138 หน้า
เนื้อหา 1. News และแนะนำเว็บไซต์

2. Hot Stuff การรีวิว Gedget ใหม่ๆ

3.Mactivity มุมสำหรับคนชอบ mac

4.เนื้อแล้วแต่ละเดือน เกี่ยวกับ cg

5.สัมภาษณ์คนในวงการ computer graphic ทั้งคนไทย คนต่างประเทศ

6. มีริวิวโปรแกรมเกี่ยวกับ computer graphic บ้าง เกี่ยวไอทีทั้วไปบ้าง

7. student portfolio ผลงานของน้องใหม่

8.web ,book, hardware รีวิว

9.Tutorial

– ขั้นตอนการทำปก จะเป็นคนที่ถูกสัมภาษณ์นั้นเองที่ต้องทำภาพขึ้นปก

– 3Ds Max

– Photoshop

– Flash

– Illustrator

-Maya

แล้วแต่ละเดือน เดือนละ 4 tutorial

เนื่องจากเป็นนิตยสาร import จากต่างประเทศมาเนื้อหาค่อนข้างที่จะเป็นสากล

1. ผลงานของนัก computer graphic พร้อมสัมภาษณ์

2. Studio of the Month ทำความรู้จัก
ดูผลงาน สัมภาษณ์ studio นั้นๆ

3.In depth

เนื้อหาเกี่ยวกับ โปรแกรม การออกแบบ

เทคนิคใหม่ ฯลฯ

4.Technique

Tutorial โปรแกรม เช่น photoshop Flash , maya ,zbrush , blend มีทั้งหมด 8 Tutorial ในเล่ม

5.Pre-viz

ข่าวงานศิลปะ แอนนิเมชั่น

6.special Feature

งานแอนิเมชั่นของหนังเรื่อง Monsters vs Aliens

7.Need to Know

มี plug in Photoshop ,คำถาม คำตอบ

8.โชว์ผลงาน ,ฉบับหน้ามีอะไร

ของแถม

มีบ้าง ,ไม่มีบ้าง

DVD Resources & Tutorial

ถ้าดูแล้วเนื้อหาภายในของ Computer Arts Thailand ค่อนข้างจะดีกว่าหน่อย แต่ CG+ ก็ดีไม่น้อย และก็ติดตามมานานเข้าปีที่ 3 แล้ว ยังไงก็คงติดตามผลงานของ CG+ ต่อไป แต่ในแต่ละเดือนคงต้องเสียตังค์เพิ่มอีก 150 บาท เพื่อติดตามผลงานของ Computer Arts Thailands

อ้างอิง :  CG+ ฉบับที่ 23  ,Computer Arts Thailand ฉบับที่ 1

Exit mobile version