บันทึกงาน Ignite Thailand ครั้งที่ 2 ช่วงที่ 1

ผมเขียนบล็อกเกี่ยวกับงาน Ignite มาหลายครั้งแล้ว ใครยังไม่รู้จัก ตามอ่านใน Tag  Ignite ได้เลย

การจัด Ignite Thailand ++ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ส่วนครั้งที่ 1 จัดที่สวนลุม ตามอ่านได้ที่ “บันทึกงาน IgniteTH ปลุกพลังบวก เปลี่ยนประเทศไทย ช่วงที่ 1 และ ช่วงที่ 2 ” ถ้านับรวมกับ Ignite Bangkok แล้ว การเข้าร่วมฟังงานแบบนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว แต่ผมยังตื่นเต้นที่จะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ จาก Igniter แต่ละท่าน ไม่ต่างจากครั้งแรกเลย ต้องขอบคุณทางทีมผู้จัดงานที่จัดงานดีๆแบบนี้ขึ้นมาครับ

Ignite Thailand ++ ครั้งที่ 2 จัดขึ้นในวันที่ 13 ต.ค. 2553  สถานที่ หอประชุมจุฬาฯ ขอให้ภาพประกอบการบันทึกครับ ใครสนใจอยากดูภาพทั้งหมด ที่ผมถ่ายไว้ดูได้ที่ลิงค์ https://picasaweb.Google.com/sarapukdee/IgniteTH2#

การจัดงานแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะมี Igniter 11 ท่าน และ ช่วงที่ 2 จะมี Igniter 10 ท่าน ซึ่งผมเองก็จะแบ่งการบันทึกออกเป็นสองช่วงเช่นกัน รายละเอียดประวัติส่วนตัวของ Igniter แต่ละท่าน ดูที่ https://www.ignite.in.th

งานครั้งนี้ คนเยอะขึ้น สถานที่ที่จัดงานก็ดีขึ้น และรู้สึกว่าทั้งคนฟังและคนที่เป็น Igniter ดูจะเข้าใจงานประเภทมากขึ้น

โตีะลงทะเบียน

เปิดลงทะเบียนตั้งแต่ 17.00 น. เจ้าของงานแจ้งว่า มีผู้ลงทะเบียนออนไลน์มาราว 1,300 คน สรุปมาจริงประมาณ 900 คน อ้างอิงทวีตของ “@iwhale: สรุปจำนวนผู้มางาน #IgniteTH ที่ลงชื่อหน้างาน 806 คน ยังไม่นับ Igniters, ผู้ติดตามและทีมงานอีกราว 100 ท่าน”

ไอติม

ที่หน้างานมีของกินเลี้ยง เหมือนครั้งที่แล้ว ได้แก่ น้ำใบบัวบก ไอติม ผลไม้ ผมกินไอติมไปหนึ่งถ้วย อร่อยดี

Ignite Chiang Mai

ก่อนหน้านี้ เครือข่ายพลังบวก ไปจัด Ignite ที่เชียงใหม่ ในวันที่ 4 ก.ย. 2553 หาอ่านได้ที่ https://www.ignite.in.th/ignite-chiang-mai.htm

หอประชุมจุฬาฯ

ภายในหอประชุมจุฬาฯ ตอนนี้คนยังไม่เยอะ ผมอยู่ใกล้เดินทางมาเร็ว ได้เห็นบรรยากาศ การเตรียมงานด้วย ที่จริงตอนบ่ายมีจัดแถลงข่าวโฆษณาชุดใหม่ของเครือข่ายพลังบวกไปแล้ว และจะใช้งานนี้เปิดตัวด้วย

เพลงราตรีสวัสดิ์

ระหว่างรอมีเปิดมิวสิควีดีโอให้ชมไปพลางๆ เพลงราตรีสวัสดิ์ เพลงฉันเป็นคนไทย เพลงสันติภาพ สลับกันไปมา บนเวที มีจอให้ Igniter ดูสองจอ ทั้งสไลด์ที่จะขึ้นจอใหญ่ และอีกจอเป็นนาฬิกาทำให้คุมเวลาได้ดีกว่า ครั้งก่อน

P2WARCHIP

เปิดตัวเริ่มเข้าสู่งาน Ignite ด้วยมินิคอนเสิร์ตของ P2WARCHIP เจ้าของผลงาน จอมยุทธ, อย่าอยู่อย่าอยาก ฟังเพลินๆขยับเท้าตามได้

@nuishow

@nuishow เป็นพิธีกรเหมือนเดิม ถือ iPad แทนกระดาษ สร้างสีสรรค์ให้งานได้ดีเหมือนเคย ยิงมุกออกมาให้ผู้ชมได้ขำ ได้อมยิ้มเป็นระยะๆ

เครือข่ายพลังบวก

ทีมงานเครือข่ายพลังบวก กล่าวเปิดตัว โฆษณาชุด “พลังในตัวคุณ – Power of One” มีหลายเวอร์ชั่นทั้งแบบ 30, 90, 120 วินาที เริ่มออกอากาศในวันที่ 14 ต.ค. 2553 เป็นต้นไป ติดตามได้ที่ https://www.youtube.com/user/igniteth

ผมเอาชุดที่ยาว 120 วินาที มาลงไว้ที่นี้ด้วย

ต่อไปเริ่มเข้าสู่ การจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ ของ Igniter ท่านแรก

คุณคงยศ วงษ์วิกย์กรณ์ หัวข้อ : คนขี้รำคาญ

Igniter: คุณคงยศ วงษ์วิกย์กรณ์  หัวข้อ : คนขี้รำคาญ

คุณ ป๋วย P2WARSHIP เพิ่งร้องเพลงจบลงไป ก็ขึ้นมาเป็น Igniter ท่านแรก พูดถึงเรื่อง “รำคาญ” โดยเฉพาะถ้าคิดถึง คำว่า กรุงเทพฯ เราก็มักจะคิดถึงคำว่า “รำคาญ” เขาอยากให้เรามองในอีกด้านของความรำคาญ เช่น
รถติด สร้างโอกาสให้เด็กได้ขายพวงมาลัยได้ สาวๆได้มีเวลาแต่งหน้า ลูกๆได้กินขนมไม่ต้องกลัวเลอะ ดูหนังฟังเพลง อ่านหนังสือก็ได้
ฝนตก ให้เราคิดว่า ชาวไร่ ชาวนา จะได้ทำไร่ไถนาปลูกข้าว อากาศเย็นสบาย มีน้ำในเขื่อนให้ใช้ในหน้าแล้ง ต้นไม่ผลิใบ ออกผล
แดดออก อากาศร้อน มีประโยชน์สำหรับทำนาเกลือ ตากปลาหมึก จะได้เล่นน้ำสงกรานต์สนุก เที่ยวทะเลสนุกสนาน

ประโยคที่เป็นหัวใจให้เราต้องคิดคือ ในความ “รำคาญ” ของแต่ละคน… ยังมีคำว่า “โอกาส” ของอีกคนเสมอ

คุณธวัชชัย แสงธรรมชัย

Igniter: คุณธวัชชัย แสงธรรมชัย  หัวข้อ: ฮีเล็ก

เขาบอกว่าเขาเป็นคนธรรมดาที่สุดเมื่อเทียบกับ Igniter แต่ละท่าน เขาเป็นผู้ชายธรรมดา ใช้ชีวิตธรรมดา สิ่งที่เขามาจุดประกายคือ ปลุกความเป็นอีโร่ในใจของแต่ละคน ในคนที่ธรรมดา เรามักหวังให้ฮีโร่ที่เก่งๆมาช่วยเหลือเรา แต่ฮีโร่เหล่านั้นไม่มีหลายคนนัก รับหน้าที่ช่วยเหลือทุกคนไม่ได้
ฮีโร่ + เล็กๆ = ฮีเล็ก  ฮีเล็กในสังคมมีอยู่มากมาย เช่น โค้ชแหง่น-โค้ชขาลีบ, เจ๊จง-หมูทอดใจรัก, โจน จันได, แม่ติ๋ว โฮมฮัก

เขาเปรียบเทียบว่า ท่านคาน ธี ช่วยเหลือคนได้ นับแสน นับล้าน แต่ฮีโร่อย่างท่านคาน ธี ไม่ได้มีมากมายในโลก แต่ถ้าเราคิดว่าตัวเองเป็นฮีเล็ก หรือฮีโร่ ตัวเล็กๆ ช่วยเหลือคนให้ได้สัก 7 คน แต่ถ้าทุกคนทำแบบนี้กันทุกคน เราก็จะช่วยเหลือคนอื่นได้อย่างมหาศาล (เยอะกว่า ท่านคาน ธี เสียอีก)

สุดท้ายเขาแนะนำ icareclub “ไอเดียดีๆ เพื่อโลกที่เราแคร์” เป็นพื้นที่สำหรับคนที่อยากนำเรื่องราวดีๆ มาเล่าให้คนอื่นได้ฟัง ติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/iCAREClub

ลุค แคสซาดี-ดอเรียน (Luke Cassady-Dorion) หัวข้อ : เปิดโอกาสให้ความบังเอิญ

Igniter: ลุค แคสซาดี-ดอเรียน (Luke Cassady-Dorion)  หัวข้อ: เปิดโอกาสให้ความบังเอิญ

ความบังเอิญของเขาถือว่าเป้นเรื่องที่น่าสนใจมาก ตอนแรกเขาเป็นโปรแกรมเมอร์ทำงานได้เงินเยอะ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย แต่เมื่อเศรษฐกิจตกต่ำ จากสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นความภูมิใจของเขา(น่าจะหมายถึง บ้าน รถ) กลับกลายเป็นภาระให้เขา เขาเลิกเป็นโปรแกรมเมอร์และกลายมาเป็นครูสอนโยคะ อาจารย์ของเขาแนะนำให้เขาเปิดโรงเรียนสอนโยคะ ที่ซานฟรานซิสโก แต่เหตุบังเอิญที่ให้เขาได้เดินทางมาเมืองไทย และเพื่อนชวนให้เขามาเป็นครูสอนโยคะที่ไทย เขาตัดสินอยู่ที่ประเทศไทย และกลับมาเรียนอีกครั้ง ตอนนี้เขาเรียนป.ตรี เอกภาษาไทยที่รามคำแหง

สิ่งที่น่าสนใจคือ สิ่งต่างๆไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป การเตรียมตัวที่จะเผชิญกับสิ่งต่างๆ กล้าเปลี่ยนแปลง และพร้อมเผชิญปัญหา คือสิ่งที่ได้จากการฟัง คุณลุค

คุณวิลาวัลย์ บุญจันทร์ หัวข้อ : การให้และรักที่ปราศจากเงื่อนไข

Igniter: คุณวิลาวัลย์  บุญจันทร์  หัวข้อ: การให้และรักที่ปราศจากเงื่อนไข

คุณวิลาวัลย์มาเล่าประสบการณ์ การใช้เวลาทุกวันพุธเข้ามมาดูแลเด็กกำพร้าที่บ้านปากเกร็ด สิ่งที่เธอคิดว่าจะนำมาให้เด็กๆ กลายเป็นว่า ตัวเองได้รับแทน นั้นคือ ความสุข เธอเล่าถึงเด็กคนหนึ่งที่ตอนแรกมีความเศร้าในใจ ไม่พูดคุยกับใคร เมื่อเธอได้พยายามช่วยเหลือ ให้ความรักแก่เด็กคนนั้น แล้วเด็กคนนั้นยิ้มอย่างมีความสุข เธอมีความสุขมาก เป็นความสุขที่ได้จากการให้ การให้และรักที่ปราศจากเงื่อนไข

Art Care

Igniter: คุณสมคิด ชัยจิตวนิช  หัวข้อ: Art Care

คุณสมคิดเอาภาพสวยๆ มาให้ดู แล้วบอกว่าภาพเหล่านี้เป็นภาพที่ถูกนำไปจัดแสดงอยู่ในโรงพยาบาล เพื่อให้โรงพยาบาลเป็นพื่นที่เหมือน Art Gallery ที่มองดูแล้ว รู้สึกสงบ สดชื่น ทำให้ญาติผู้ป่วย หรือผู้ป่วยที่กำลังทุกข์กับโรคภัย ได้มีอารมณ์ จิตใจที่ดีขึ้น โครงการนี้นอกจากจะนำภาพที่ถ่ายด้วยสมาชิกในกลุ่มไปแสดงแล้ว ยังมีการอบรมการถ่ายภาพให้บุคลากรที่อยู่โรงพยาบาลต่างๆด้วย เพื่อให้เขาเหล่านั้นสามารถที่ถ่ายรูปด้วยตนเอง และทำ Gallery ให้ดรงพยาบาลของตัวเองได้ และยังให้ความรู้สึกมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมนี้ด้วย นอกจากนี้เธอยังอยากให้ทุกคนที่อยู่ในชุมชนต่างๆช่วยเหลือกันทำให้โรงพยาบาลในเขตของตัวเอง น่ามอง สวยงาม ไม่หดหู่ เพื่อทุกคนในชุมชนของตัวเอง โดยไม่หวังพึ่งจากราชการอย่างเดียว

ผมได้ฟังโครงการนี้แล้ว นับว่าเป็นโครงการที่ดีจริงๆ ผมเชื่อว่าศิลปะ ภาพสวยๆ งามๆ ต้นไม้สีเขียว ใบไม้ หยดน้ำ มันช่วยในเรื่องจิตใจได้จริงๆ อยากให้หลายๆหน่วยงานมาสนุบสนุนโครงการนี้จัง

คุณปรีดา ลิ้มนนทกุล หัวข้อ : By Heart จากใจคนพิการ

Igniter: คุณปรีดา ลิ้มนนทกุล หัวข้อ: By Heart จากใจคนพิการ

คุณปรีดาประสบอุบัติเหตุ กลายเป็นคนพิการรุนแรง คนทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร ปัจจุบันเขาเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทที่ช่วยหางานให้กับคนพิการ ที่คนพิการสามารถทำงานผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การดาวน์โหลดภาพวาดวอลเปอร์ในมือถือ จากผีมือของคนพิการ การอ่านคำทำนายดวง ถอดเทปรายวิทยุ นอกจากนี้ยังมีการขายของออนไลน์ เช่นพวกงานงานหัตกรรม เป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดยคนพิการเพื่อคนพิการ เป็นการช่วยเหลือให้คนพิการสามารถช่วยเหลือตัวเอง

เข้าไปดูบล็อกของเขาได้ที่ https://byheartbuyheart.blogspot.com/

คุณรัฐภูมิ อยู่พร้อม

Igniter: คุณรัฐภูมิ อยู่พร้อม @1500miles หัวข้อ: 1500 ไมค์ (ผมตั้งให้เอง เพราะเขาไม่มีหัวข้อ)

คุณรัฐภูมิเล่าว่า เคยสัญญากับแม่ไว้ว่าจะพาแม่ไปเที่ยวทะเล แต่เมื่อแม่เขาถูกฆาตกรรมโดยเพื่อนของเขาเอง เขาหัวใจสลาย แต่ความรักที่มีต่อแม่มีมากเหลือเกิน อยากจะทำสัญญาที่เคยให้ไว้กับแม่ให้สำเร็จ เขาจึงออกพายเรืองรอบทะเลไทย ใช้เวลาเกือบสองปี และก็เกิด ชมรม 1500 ไมล์ ขึ้นมา ช่วงซึนามิโหมใส่ชายทะเลฝั่งอันดามัน ชมรมก็ลงไปช่วยพี่น้องชาวใต้ เป็นการรำลึกถึงความช่วยเหลือที่เคยได้ตอนที่พายเรื่องรอบทะเลไทย การช่วยเหลือของเขาไม่ได้จำกัดเฉพาะคนไทย เมื่อครั้งแผ่นดินไหวที่เฮติ เขาก็ได้เดินทางไปให้ความช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลก เขาบอกว่า การเยียวยาที่มีค่าที่สุดคือ “การสวมกอดพวกเขา

คุณจิตร์ ตัณฑเสถียร หัวข้อ : ขอคืนพื้นที่ใจ

Igniter: คุณจิตร์ ตัณฑเสถียร หัวข้อ: ขอคืนพื้นที่ใจ

เรามักตีกรอบของตัวเองไว้ ทำอะไรก็จะคิดถึงด้านเดียวของมัน ไม่เปิดใจมองอีกด้านอีกข้าง รูปวงกลมเป็นหนึ่งแนวคิดของเซน คือ ความว่าง ในความว่างนั้นมีอะไรอยู่มากมาย นั้นคือ สติ

แก้วน้ำ ถ้าเรามองมันเป็นแค่แก้วน้ำมันก็จะเป็นแค่นั้น เมื่อเราเปิดใจ ไม่ตีกรอบให้จิตใจ เวลาเติมน้ำเข้าไปมันก็จะเป็นแก้วน้ำ แต่ถ้าเราใส่ปลาเข้าไปมันก็็จะเป็นกรง(เขาพูดแบบนี้จริงๆ) ก่อนจะขำแล้วบอกว่า มันก็เป็นอ่างเลี้ยงปลา ถ้าเราคว่ำลงแล้วเอาดินสอเขียนมันก็จะเป็นวงเวียน ดังนั้นเรามาเปิดใจให้ว่าง เพื่อให้เห็นอีกมุมของสิ่งต่างๆ แล้ว กรอบรูปในสไลด์ก็ค่อยๆหายไปเป็นท้องฟ้าสีคราม กับปุยเมฆขาว

คุณภาณุมาศ ทองธนากุล (ใบพัด) หัวข้อ : ประกาศอิสรภาพ

Igniter: คุณภาณุมาศ ทองธนากุล (ใบพัด) หัวข้อ: ประกาศอิสรภาพ

คุณภาณุมาศเล่าเรื่องของเพื่อนคนหนึ่งที่ พ่อของเขาเกิดป่วยกระทันหัน ทำให้เพื่อนคนนั้นเป็นทุกข์ ไม่มีเงินมากพอที่จะใช้ในการรักษาพ่อ สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ตัวเรามีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ หรือพร้อมที่จะช่วยคนอื่นได้ มันคือ “การเก็บตังค์” มีน้อยเก็บน้อย มีเท่าไหร่เก็บเท่านั้น การใช้ชีวิตของเรา มันเหมือนเดินบนเชือกเส้นเล็กๆ การที่มีเงินเก็บ มันเป็นเหมือนการสร้างตาข่ายเล็กๆที่คอยรองรับเราได้เมื่อตกจากเชือก เมื่อคุณมีตาข่ายนี้แล้วจะทำอะไร ก็มีอิสระ อยากทำอะไรก็ได้ และคิดจะช่วยคนอื่นๆทำได้ดีขึ้น

เป็นแนวคิดที่สุดยอดมาก คือสร้างความมั่นคงให้ตนเองก่อน แล้วความมั่นคงนี้จะแพร่ไปที่คนรอบข้างด้วย

คุณสรกล อดุลยานนท์ (หนุ่มเมืองจันท์) หัวข้อ : "สิ่ง" เล็กเล็กที่เรียกว่า "ลบ"

Igniter: คุณสรกล อดุลยานนท์ (หนุ่มเมืองจันท์) หัวข้อ: “สิ่ง” เล็กเล็กที่เรียกว่า “ลบ”

แนวคิดของเขาเมื่อเห็นเครื่อหมายลบ (-) นั้น มันจะเปลี่ยนไปเป็น (+) ได้อย่างไร มีอะไรที่เกี่ยวข้องกัน สิ่งแรกที่เขาคิดได้คือ + = – ^2  บวกเท่ากับลบยกกำลังสอง หรือ บวกเท่ากับลบที่ตั้งฉากกันสองอัน เขาพยามคิดว่าทำยังไงให้ ลบ มันจะกลายเป็นบวกได้

สุดท้ายแล้วจึงคิดได้ว่า ลบนั้นมันมีสองอันที่ซ้อนกันอยู่เราต้องออกแรงผลักอีกอันให้มันตั้งฉากขึ้นมาให้ได้ แรงผลักนั้นอยู่ที่ตัวเราทุกคน กล้าที่เปิดใจ และกล้าที่จะทำ

ผมชอบจังหวะการพูดของคุณสรกลมาก มีแนวคิดแทรกอยู่กับมุกขำปนอมยิ้มตลอด เช่น การเก็บความคิดไว้ในลิ้นชัก 3 ชั้น ได้แก่ ใช่ ไม่แน่ใจ ไม่ใช่ ซึ่งเขาบอกว่าช่อง ไม่แน่ใจ จะใหญ่สุด โดนใจตรงนี้ สงสัยต้องหางานเขียนของ หนุ่มเมืองจันทร์ มาอ่านบ้างแล้ว

ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ (ปราชญ์ชาวบ้าน) หัวข้อ : วิจัยไทยบ้าน

Igniter: ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ (ปราชญ์ชาวบ้าน)  หัวข้อ: วิจัยไทยบ้าน

ครูบาสุทธินันท์เดินทางจากบุรีรัมย์ มาเพื่อจุดประกายควาามคิดสร้างสรรค์ให้เราโดยเฉพาะ เป็นการเล่าถึงสิ่งที่คนอีสานขาด และมีใช้ไม่พอ นั้นคือ ความรู้ จนต้องหนีเข้ากรุงมาหางานทำ ที่จริงแล้วที่บ้านเกิดมีความรู้นั้นมีอยู่มากมาย จึงมีการก่อตั้งกรมราษฎรส่งเสริม สถาบันฟื้นฟูศักยภาพภูมิปัญญาส่วนท้องถิ่นอีสานใต้ขึ้นมา ผมคัดคำจากสไลด์ของครูบาสุทธินันท์ เป็นประโยคที่สั้นๆ แต่มีความหมายลึกซึ่งจริงๆ และอยากให้มีศูนย์แบบนี้กระจายไปทั่วทั้งประเทศ

  • มหาชีวาลัยอีสาน คือยาขมหม้อใหญ่ ที่ปรุงขึ้นมาเพื่อรักษาไข้ใจของคนอีสาน
  • เป็นสถานที่ให้คนไทย  ได้มาศึกษาหาความรู้เรื่องะรรมชาติ
  • เรียนในห้องได้ความรู้ เรียนนอกห้องได้ความจริง เอาความรู้+ความจริง = เราได้จะรู้ความจริง
  • ย้ายห้องเรียนดีไหม? ห้องเรียนที่มีอ็อกซิเจนมากๆ สมองปลอดโปรง
  • เรียนวิชาเชิงรุก ต้องลุกจากเก้าอี้เสียก่อน
  • เรียนวิชาย่องเบาไปเอาความรู้

ครูบาสุทธินันท์ ได้เขียนรายละเอียดของการนำเสนอไว้ในบล็อกแล้วตามไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้   https://lanpanya.com/sutthinun/archives/5055

จบการบันทึกช่วงแรก…

ติดตาม บันทึกงาน Ignite Thailand ครั้งที่ 2 ช่วงที่ 2

1 usd to thb (9-10-2010)

1 usd to thb

1 usd to thb เอาคำนี้ไปพิมพ์ใน Google มันจะคำนวณอัตราการแลกเปลี่ยนให้

วันนี้ลองคำนวณเงินนิดหน่อย แม่เจ้า… เงินบาทไทย มันมีตัวเลขหลักสิบเป็น เลข 2 แล้วหรือนี้ (บันทึกไว้เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2010 เวลา 20:20 น.)

Blog Action Day 2010 : WATER

Blog Action Day : WATER

Blog Action Day จะจัดทุกๆปีในวันที่ 15 ตุลาคม โดยบล็อกเกอร์ทั่วโลกจะพูดถึงเรื่องเดียวกัน หัวข้อจะถูกกำหนดขึ้นแตกต่างกันไปในแต่ละปี จุดประสงค์เพื่อปลุกกระแสให้มีการเปลี่ยนแปลง และผลักดันให้มีการร่วมมือกันของคนทั่วโลก ถือว่าเป็นการรณรงค์ที่มีประสิทธิภาพเลยทีเดียว

ปีที่แล้ว 2009 หัวข้อคือ Climate change “โลกร้อน” ผมพลาดโอกาสร่วมด้วย ทั้งๆก็ลงทะเบียนไว้แล้ว(เป็นเหตุที่ได้อีเมลเตือนในปีนี้) ปีนี้จึงมาทำข้อผูกมัดตัวเองไว้ว่า จะต้องเข้าร่วมด้วยแน่นอน

Blog Action Day 2010 หัวข้อคือ WATER “น้ำ” จึงมาชวนเพื่อนบล็อกเกอร์ทุกท่าน เข้าร่วม Blog Action Day ในปีนี้ด้วยกันครับ เพื่อโลกที่น่าอยู่ยิ่งขึ้นครับ

ลงชื่อเข้าร่วมได้ที่ https://blogactionday.change.org/register หรือคลิกที่ widget บล็อกนี้ทางซ้ายมือนี้ได้เลยครับ

Blog Action Day 2010 : WATER

ปล.น่าจะมี Blog Action Day เฉพาะในประเทศไทยน่าจะดีนะ หัวข้อจะได้ มีประโยชน์กับไทยโดยตรง

Ignite Thailand ครั้งที่ 2 เปิดลงทะเบียนแล้ว

Ignite Thailand ครั้งที่ 2

Ignite Thailand คืองานประมาณว่า ให้คนที่เจ๋งๆ มาจุดประกายความคิดให้คนอื่นๆ ในเวลาจำกัด (ทำให้ได้ฟังหลายคน และเฉพาะแก่นของเรื่อง) ครั้งแรก ผมบันทึกไว้ บันทึกงาน IgniteTH ปลุกพลังบวก เปลี่ยนประเทศไทย ช่วงที่ 1 และ ช่วงที่ 2 ส่วนลิงที่เกี่ยวข้องกับงาน Ignite ดูได้ใน tag Ignite

Ignite Thailand++ ครั้งที่ 2

งานจะจัดในวันพุธที่ 13 ตุลาคม 2553 เวลา 18.00 – 21.00 น. (เปิดรับลงทะเบียนเข้างานตั้งแต่เวลา 17.00 น.) ณ หอประชุม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้แล้วที่ https://www.ignite.in.th

รายชื่อ ผู้จะมาจุดประกายความคิดให้ หรือ Igniters

  1. ดร. ประมวล เพ็งจันทร์
  2. ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
  3. คุณสิริยากร พุกกะเวส (อุ้ม)
  4. ดร. วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์
  5. ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ (ปราชญ์ชาวบ้าน)
  6. คุณธนา เธียรอัจฉริยะ
  7. คุณทนงศักดิ์ ศุภการ
  8. คุณสรกล อดุลยานนท์ (หนุ่มเมืองจันท์)
  9. คุณจิตร์ ตัณฑเสถียร
  10. คุณปรีดา ลิ้มนนทกุล
  11. คุณคงยศ วงษ์วิกย์กรณ์
  12. คุณรัฐภูมิ อยู่พร้อม
  13. คุณภาณุมาศ ทองธนากุล (ใบพัด)
  14. ดร. อาบทิพย์ ธีรวงศ์กิจ
  15. คุณสมคิด ชัยจิตวนิช
  16. คุณธวัชชัย แสงธรรมชัย
  17. คุณวิลาวัลย์  บุญจันทร์
  18. ลุค แคสซาดี-ดอเรียน (Luke Cassady-Dorion)

ภัยของอารมณ์โกรธ ฉบับโหด

เลือดสาด

เว็บชื่อดังแห่งหนึ่งเอาดราม่าในพันทิพมาให้อ่าน เป็นเรื่อง ภัยของอารมณ์โกรธ คิดว่าหลายคนคงได้ผ่านตามาบ้างกับ FWD mail อันนี้ลองอ่านดู

ขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังขัดล้างรถอย่างขะมักเขม้น ลูกชายวัย 4 ขวบ ก้มลงเก็บก้อนหินขึ้นมา แล้วบรรจงขูดขีดไปบนด้านข้างของตัวรถ

พักใหญ่ต่อมา…เมื่อพ่อได้ยินเสียงครูดของหิน ก็เกิดความฉุนเฉียว โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขากระชากมือลูกมา ตีลงบนมือน้อย ๆ นับครั้งไม่ถ้วน โดยไม่ทันนึกว่าตนได้ถืออะไรอยู่ในมือ

ณ โรงพยาบาล.. นิ้วลูกชายถูกตัดออก เพราะกระดูกแตก จนหมอไม่สามารถเชื่อมต่อได้ ขณะที่พ่อเข้ามาดูลูกในห้อง ลูกมองพ่อด้วยสายตาปวดร้าว แล้วถามพ่อว่า

“เมื่อไร นิ้วหนูจึงจะยาวเหมือนเดิม ? ”

คำถามนั้น…เหมือนคมมีดกรีดลึกลงไปในหัวใจผู้เป็นพ่อ เขารู้สึกละอายใจ รู้สึกผิด และเสียใจในการกระทำตนอย่างไม่อาจให้อภัย
เขาจึงกลับไปที่รถ เตะมันสุดแรงเกิดโดยไม่ยั้งจนเหนื่อยหอบ แล้วทรุดตัวลงนั่งข้างรถอย่างเศร้าใจ สายตาพลันเหลือบไปเห็นรอยขูดขีด เขาเบิกตากว้าง ! จ้องมองคำว่า

….รักพ่อ….

น้ำใส ๆ เริ่มเอ่อ แล้วไหลอาบแก้ม เขาเอามือปิดหน้า ร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับใจจะขาด รุ่งขึ้น… ชายคนนั้นได้ฆ่าตัวตาย อารมณ์โกรธ มีโทษมหันต์ ปัญหาของโลกในทุกวันนี้ คือ

คนบางคน..

“ รักรถ หวงรถ หรือสิ่งของอื่น ยิ่งกว่ารักและห่วงใยลูก หรือ เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ”

จำไว้เสมอว่า สิ่งของมีไว้ให้ใช้

และ

คนมีไว้ให้รัก

ประเด็นที่เอามาเขียน คือชอบใจ ความเห็นที่ 93 ของคุณ yatiko (yatiko) ที่แต่งเรื่องใหม่ อ่านแล้วมันส์ ขออนุญาติเอามาแปะไว้ในบล็อกหน่อย ให้อารมณ์ย้อนคิดไปถึง บอร์ดใต้ดินแห่งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ที่บ้าดีเดือด วิจารณ์อะไรแบบหนักๆ  แบบไม่เกรงใจใคร โดน ICT ไล่ปิดไปหลายครั้งจนตอนนี้ไม่รู้เหล่าสมาชิกไปสิงสถิตอยู่ไหนบ้าง ลองอ่านดู เรื่อง ภัยของอารมณ์โกรธ ฉบับโหด ต้นฉบับมาจากเว็บพันทิพที่ลิงค์นี้ ผมเรียกงานแนวนี้ว่า หลุดโลกสไตล์

ความคิดเห็นที่ 93 โดย yatiko (yatiko)

(อันนี้คือความจริงที่เกิดขึ้นครับ)

ตั้งแต่วันนั้นมา จิตใจของฉันก็เต็มไปด้วยความเคียดแค้น…

ฉันมองชายคนนั้น มองรถคันนั้น แล้วมองนิ้วตัวเอง…เจ็บปวดเหลือเกินกับสิ่งที่ฉันได้รับ…

“มันจะต้องเจ็บกว่าฉันเป็นสิบๆเท่า” ฉันพร่ำบอกตัวเองขณะที่นอนอยู่ในโรงพยาบาล แผนการต่างๆนาๆผุดขึ้นมาในหัว…ฉันพร่ำรอโอกาส รอวันสะสางบัญชีเลือดมาถึง

กระทั่งวันนั้น วันที่เขามารับฉันออกไปจากโรงพยาบาล เขาไม่กล้ามองหน้าฉัน ไม่กล้าสัมผัสตัวฉัน ได้แต่ใช้หางตาเหลือบมองนิ้วมือที่กุดด้วนของฉันด้วยใบหน้าเรียบเฉย…

ฉันนอนฝันร้ายแทบทุกคืน ภาพที่เขาเดินเข้ามาตีนิ้วมือของฉันจนแหลกละเอียดนั้นฉายไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า…ไม่มีที่สิ้นสุด

หากแต่วันหนึ่ง โอกาสของฉันก็มาถึง…

ชายคนที่ฉันเกลียดที่สุดในโลกนั่งอยู่ตรงนั้น…อยู่ข้างรถของมัน รถที่มันรักหนักหนา มันกำลังล้างรถของตัวเองอยู่เหมือนอย่างที่เคยทำ…

ฉันเริ่มดำเนินแผนการ…

ฉันตีสีหน้าให้ดูบริสุทธิ์ เคลื่อนกายเข้าไปที่รถช้าๆ ชายคนนั้นชะงัก หันมามองที่ฉันเขม็ง ในดวงตาเหมือนจะมีคำถามผสมปนเปกับความหวาดหวั่น…ฉันรู้สึกได้

“พ่อครับ ผมเจ็บเหลือเกิน” ร่างของเขาแข็งทื่อเหมือนถูกสาป…ฉันมาถูกทางแล้วจริงๆ

“ผมทำผิดอะไรครับ ทำไมพ่อถึงทำกับผมแบบนี้” มันได้ผล…เขาเริ่มร้องไห้ ซุกใบหน้าลงบนผ่ามือทั้ง2ข้าง

ฉันเดินเข้าไปในระยะประชิด เขาหันหน้ามาสบตาฉันแบบคนสำนึกผิด ฉันยิ้มหวาน…ชูมือด้วนๆของตัวเองขึ้น แล้วพูดออกไปว่า…

“พ่อจ๋า เมื่อไหร่นิ้วหนูจะยาวเหมือนเดิม”

สิ่งสุดท้ายที่ฉันจำได้คือ ชายคนนั้นกรีดร้องเสียงดัง วิ่งเข้าไปในบ้านก่อนที่จะวิ่งกลับออกมาพร้อมกับปืนในมือ…

ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น ฉันสัมผัสได้ถึงเของเหลวอุ่นๆที่กระเด็นมาเปรอะเปื้อนร่างกาย ชายผู้ที่เคยเป็นพ่อของฉันนอนจมกองเลือดอยู่ตรงหน้า ตาของเขาเบิกโพลง ขมับด้านซ้ายของเขาเป็นรูโหว่ ฉันแยกไม่ออกว่าสิ่งที่ทะลักออกมาคือเลือดหรือเนื้อสมองกันแน่…

ฉันยืนกอดตัวเองอยู่ตรงนั้น.. อยากเก็บความรู้สึกนี้ไว้ให้เนิ่นนาน ความแค้นนี้ได้ถูกชำระแล้ว หยดเลือดสีแดงฉานที่เปรอะเปื้อนร่างกายทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน…
.
.
ฉันยกมือที่นิ้วขาดวิ่นของตัวเองขึ้นมาดู รู้สึกราวกับว่า…นิ้วมือของฉันกำลังงอกขึ้นมาใหม่อย่างช้าๆ…

กลับบ้านต่างจังหวัด

ตอนแรกกะจะลองเขียนบล็อกที่บ้าน โดยใช้ EDGE ของ Dtac เจ้าอื่น True แทบจะไม่มีสัญญาณ ส่วน AIS พอๆกับ Dtac สุดท้ายก็ทำไม่ได้ เพราะการอัพโหลดรูปขึ้นเว็บทำไม่ได้เลยช้ามาก ส่วนตัวอักษรยังพอจะทำได้ ถ้ามี 3G อาจจะได้เห็นผมบล็อกที่บ้านเกิดสักครั้ง บันทึกไว้ดีกว่าว่าการบล็อกครั้งนั้นจะเกิดขึ้นห่างจากตอนนี้นานเท่าไหร่ นับตั้งแต่ วันที่ 18 กันยายน 2553 ณ วันที่พยายามบล็อกที่บ้านเกิด

ครั้งก่อนถ่ายรูปรอบบ้านดูว่าแม่ปลูกผักอะไรไว้บ้าง ครั้งนี้เดินทั่วทั้งหมูบ้าน ถ่ายภาพธรรมชาติ ช่วงนี้ข้าวกำลังเขียว แต่ยังไม่งามมากนักเพราะฝนเพิ่งมา ข้าวเพิ่งปักดำ บรรยากาศที่บ้านมีฝนตกลงมาเป็นระยะ เป็นวันเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน มีทั้งเรื่องดี เรื่องร้ายเกิดขึ้นมากมาย แต่เราจะเลือกจำเฉพาะเรื่องที่น่าจดจำ อย่างน้อยก็รูปสวยๆเหล่านี้ จะอธิบายรายละเอียดเล็กน้อยให้ได้รู้ถึงบรรยากาศช่วงนั้น

กลับมาถึงบ้านตอนเช้า พระมาบิณฑบาตรพอดี ได้เก็บภาพไว้ดู

หลังฝนตก อากาศที่บ้านมันดีเหลือเกิน หายใจได้เต็มปอด

ดอกไม้ หลังโดนฝนมันเบ่งบาน สดชื่น
เจ้าจ๋อ รับจ้างขึ้นมะพร้าว

บริการรับจ้างขึ้นมะพร้าว โดยเจ้าจ๋อ ตระเวนรอบหมู่บ้าน ถ่ายเกือบไม่ทัน

ไม่รู้ว่ามันชื่ออะไร แต่สวยดี
ดอกโป๊ยเซียน
แมลงเต่าทอง
รถมอเตอร์ไซต์รุ่นเก่า

คันนี้เจ้าของเขาบอกว่าซื้อมาด้วยเงิน 8 พันกว่าบาท เครื่องยังวิ่งได้ดี ดูคลาสสิคดีเลยถ่ายเก็บไว้

หนองโฮง ชื่อเดียวกับชื่อหมู่บ้าน
แมงปอ อาศัยอยู่ข้างริมหนอง
พี่ชายคนนี้ชื่อ นาวิน แกยิ้มมีความสุขดีเลยขอเอามาลงไว้ดูหน่อย
เห็ดขม มันขมสมชื่อของมัน

เห็ดขม มันขมสมชื่อของมัน มีกรรมวิธีทำให้หายขมได้ แต่หลายคนก็เลือกที่จะกินแกงเห็ดขม แบบขมๆ

ตอนเย็นแวะไปเดินตลาดนัด คนคึกคักน่าดู

วันสุดท้ายก่อนเดินทางเข้า กทม. คือ วันเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน

บรรยากาศการเฝ้าดูการนับคะแนน

ลุ้นด้วยใจจดใจจ่อ ผลออกมาก็ต้องมีฝ่ายที่ดีใจ และฝ่ายที่เสียใจ แต่ต้องคิดว่าเราคือ หมู่บ้านเดียวกันต้องสามัคคีร่วมกันพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนของตน เลิกแบ่งข้าง หันหน้าเข้าหากัน และเดินหน้าพร้อมกัน

ปล. ไม่ได้บล็อกหลายวัน หงุดหงิดเหมือนกันแฮะ

คุณคิดว่า การประมูล 3G ครั้งนี้ใครจะได้ไป

คุณคิดว่า การประมูล 3G ครั้งนี้ใครจะได้ไป

เมื่อสองสัปดาห์ก่อน มีข่าวเกี่ยวกับการประมูล 3G ค่อนข้างเยอะ การประมูลก็กำลังจะเริ่ม เลยลองสร้าง poll ให้คนอื่นลองมาทายเล่นๆ ทวีตไปครั้งเดียวเอง คนก็อุตสาห์โหวตมากัน ตั้ง 11 คน ปิดโหวตผ่านไป 1 สัปดาห์แล้ว แต่ก็ช่างเถอะ ยังไงก็มีคนโหวตแล้ว ก็เอามาลงบล็อกเก็บไว้หน่อย คนส่วนใหญ่คิดว่า TRUE จะชนะในครั้งนี้ ได้ไป 55% ส่วน AIS อันดับสอง 36% และอันดับสุดท้าย DTAC (บริษัทลูกเข้าประมูล) 9%  รอดูแล้วกันว่าจะแม่นไหม ขอบคุณคนโหวตทั้ง 11 ท่าน(รวมผมในนั้นด้วย 1 คน)

บันทึกความโง่ กับ sms 4568111 อีกแล้ว

เว็บประมูลสินค้าหลอกกินตังค์

เมื่อครั้งก่อนโดน SMS 4541441 แบบทดสอบ IQ หลอกกินตังค์ไปประมาณ 78 บาท คิดว่าตัวเองโง่แล้ว และเริ่มแอะใจกับ sms 4568111 ประมูลราคาสินค้าที่ลองเล่นเมื่อหลายเดือนก่อนมันยังส่งอัพเดตราคามาให้ทุกวัน(ไม่ใส่ใจเลย) มาจากเว็บ 12pramool.com ถามพี่กูเกิลอีกครั้ง และเปิดเข้ามาดูหน้าหลัก แม่เจ้า!!!!!!!!!! ขอตกลงด้านล่าง ใครอ่านออกบ้างถามหน่อย ถ้าไม่ซูมเข้าไปดู อันนี้หนักเลย เป็นหลายเดือนเลยทีเดียว จำไม่ได้เลยว่าตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ระดับมากกว่า 3 เดือนแน่นอน ตอนนั้นเล่นประมูล iPhone 3GS ตอนนี้มันประมูล iPhone 4 แล้ว  คูณ 6 บาทกับจำนวนวันเข้าไป นั้นคือค่าโง่

วิธียกเลิกไปเจอในบอร์ดนี้ คือ โทรไปที่ 02-2609020 แล้วบอกเบอร์กับคนรับสายไป

ในข้อมูลข้างล่างของหน้าเว็บบอกให้พิมพ์ STOP แล้วส่งไปที่ 4568111 ในบอร์ดบอกว่าไม่ได้ผลต้องโทร เลยใช้วิธีการโทร

สรุปว่า โง่ โดนหลอกอีกแล้ว และได้รู้อีกว่าที่ร้องเรียนของ สคบ.แบบออนไลน์ห่วยเช่นกัน จับภาพมาให้ดู

หน้าร้องเรียนของ สคบ.

เตือนคนอื่นให้ระวังอีกครั้ง เพราะตรูโดนอีกแล้ว

“ไม่มีหญิงสาวในบทกวี” รางวัลซีไรต์ ประจำปี 2553

ไม่มีหญิงสาวในบทกวี ผู้แต่ง : ซะการีย์ยา อมตยา

รางวัลซีไรต์ ประจำปี 2553 : ไม่มีหญิงสาวในบทกวี
ผู้แต่ง/ผู้แปล : ซะการีย์ยา อมตยา
สำนักพิมพ์หนึ่ง
Barcode : 9789742255244
ISBN : 9789742255244
ปีพิมพ์ : 1 / 2553
ขนาด (w x h) : 105 x 180 mm.
ปก / จำนวนหน้า : ปกอ่อน / 92 หน้า
หมวดหนังสือ : กลอน-กวี
ราคาปกติ : 85.00 บาท
รายละเอียดจาก : www.chulabook.com

ยอมรับว่า รางวัลซีไรต์มีอิทธิพลกับการเลือกซื้อหนังสือมาอ่านพอสมควร ค่อนข้างเชื่อถือได้ในระดับหนึ่งว่าซื้อมาแล้วไม่ค่อยผิดหวัง ปีนี้รางวัลซีไรต์เป็นรอบของหนังสือประเภทบทกวี ที่จริงแล้วไม่ค่อยชอบอ่านบทกวี เพราะอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง มีปัญหากับภาษาไทยนิดหน่อยเรื่องของวรรณยุกต์สะกดผิดๆถูกๆ อ่านผิดๆถูกๆเช่นกัน เป็นคนแต่งกลอนไม่ได้ แต่ปีนี้ได้เห็นชื่อเรื่อง “ไม่มีหญิงสาวในบทกวี” แล้วน่าสนใจ ราคาไม่แพง ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ลดแล้วเหลือ 76 บาท ชื่อคนแต่ง ซะการีย์ยา อมตยา ไม่เคยได้ยินมาก่อน แถมดูในเว็บของศูนย์หนังสือมีผลงานแค่เล่มเดียวคือเล่มนี้ ยังไงซะว่างๆจะแวะไปอุดหนุนมาสักเล่ม

รูปมาจาก : สำนักพิมพ์หนึ่ง

เตือนภัยจาก SMS 4541441 แบบทดสอบ IQ

แบบทดสอบ IQ

ผมลองเล่นไอ้แบบทดสอบ IQ เล่นๆไม่ได้คิดอะไรมาก เมื่อทำครบ 10 ข้อแล้ว จะให้กรอกหมายเลขโทรศัพท์ และบอกว่าให้ส่ง SMS ไปที่ 4541441 เพื่อรับระดับ IQ ของคุณ ตอนนั้น นึกยังไงไม่รู้เลยลองส่งไปดู ได้คำตอบกลับมาเป็นคะแนนกับคำว่าคุณปกติดีนะ ก็โอเคไม่ได้คิดอะไรมาก ทำเล่นๆ

แต่หารู้ไหมว่าตอนนั้นเราตกหลุมพรางไปแล้ว ที่ไม่อ่านรายละเอียดด้านล่าง ที่ตัวเล็กเหลือเกิน ว่าถ้าคุณส่ง SMS ไปแสดงว่าคุณสมัครบริการรับข้อความลิงค์ดาวน์โหลดวอลเปเปอร์บ้าบออะไรก็ไม่รู้ มันจะส่งมาวันละ 1 ข้อความ  6 บาท/ข้อความ(กินแบบเนียนๆ) ผมไม่รู้ตัวเลยว่าทุกวันโดนหักตังค์ไป วันละ 6 บาท แลกกับ ข้อความลิงค์อะไรสักอย่าง มันส่งมาทุกวันเราก็ไม่เอะใจ มือถือผมเป็นแบบเติมเงิน โทรศัพท์ไม่ค่อยได้โทรออกเท่าไหร่ และไม่ค่อยเช็คตังค์ในมือถือ หมดก็เติม วันนี้นึกยังไงไม่รู้เช็คตอนเช้า พอมันส่งข้อความมาตอนบ่าย เลยลองเช็คเงินอ้าว ยังไม่ได้โทรไปไหนตังค์หายไปไหนว่ะ จึงลองถามพี่กูเกิลดู พบว่ามีคนโดนเหมือนกัน ผ่านมา 13 วัน(ดูจากข้อความคะแนน IQ) นับจากวันที่ลองเล่น ซวยแล้วตรู

หาวิธีหยุดบริการแย่ๆนี้ หานานพอควร สุดท้ายก็มาเจอรายละเอียดที่น่าเดิมที่เราเคยเล่นนั้นแหละ

คือ ส่งคำว่า stop A6 ไปที่ 4541441 รอสักพักมันจะตอบกลับมาว่าขอบคุณที่ใช้บริการ (ไม่อยากใช้เลย)

งานนี้เลยเสียค่าโง่ไป 13×6 = 78 บาท สำหรับผมเยอะมากกับเรื่องที่ไม่ควรเสียเลย นึกในใจถ้าวันนี้ไม่เช็คตังค์มันคงเอาเงินเราไปเรื่อยๆ หากินง่ายจัง

ฝากเตือนทุกท่านระวังตัว โปรดอ่านรายละเอียดให้ดี ที่ดีไม่ต้องเล่นมันเลย และคิดว่าอะไรแบบนี้น่าจะมีอีกหลายรูปแบบต้องระวังให้ดี

ใครอยากรู้ว่ามันส่งลิงค์อะไรมาให้ผมลองทดสอบให้แล้วนะมันคือ ภาพวอลเปเปอร์สำหรับมือถือธรรมดาขนาด 240×320 px แต่ภาพละ 6 บาท ยังไม่รวมค่าโหลดอีก (ต้องบวกไปในค่าโง่อีกนะเนี้ย) เจ็บใจจริงๆ

Exit mobile version