ลูกติดสบาย ไม่อดทน ปราบด้วยเกมจิ๊กซอว์

จิ๊กซอว์ เป็นหนึ่งในกิจกรรมโปรดของใครหลายคน นอกจากนิยมใช้เล่นยามว่างแล้ว ภาพสวย ๆ ยังกลายเป็นของสะสม ของตกแต่งบ้านได้อีกด้วย ความจริงแล้วการต่อจิ๊กซอว์ไม่ได้เหมาะกับผู้ใหญ่เท่านี้ แต่ยังเป็นของเล่นเสริมพัฒนาการให้เด็ก ๆ ด้วย เพราะอะไร ตามมาหาคำตอบพร้อม ๆ กัน

ย้อนกลับไปในยุคกรีกโบราณ จิ๊กซอว์ถูกประดิษฐ์ขึ้นจากนักคณิตศาสตร์คนหนึ่งโดยนำภาพแปะลงบนแผ่นไม้แล้วตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนจะเริ่มเล่นด้วยการประกอบภาพขึ้นใหม่จากชิ้นส่วนเล็ก ๆ นั้น ต่อมาในศตวรรษที่ 16 นักทำแผนที่ชาวอังกฤษได้ประดิษฐ์แผนที่ประเทศของตนเองด้วยการนำแผ่นกระดาษวาดเป็นแผนที่ของแต่ละเมือง ก่อนประกอบกันเป็นแผนของประเทศอังกฤษทั้งหมด จากนั้นจิ๊กซอว์นำมาเป็นเครื่องมือในการเรียนการสอนเรื่อยมาก่อนจะถูกพัฒนาให้มีลักษณะเป็นจิ๊กซอว์ที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน

บ้านไหนมีปัญหาลูกติดมือถือ ติดสบาย ขาดความอดทน คุณพ่อคุณแม่สามารถแก้ได้ด้วยการชวนให้ลูกน้อยเริ่มหัดเล่น จิ๊กซอว์ได้ตั้งแต่อายุราว 3 ขวบ เพื่อฝึกสมาธิ การสังเกต ประสาทสัมผัส การใช้มือและสายตาให้สัมพันธ์กัน โดยเริ่มต้นจากจิ๊กซอว์แผ่นโตจำนวนไม่เกิน 10 ชิ้นและภาพง่าย ๆ ก่อนชิ้นจิ๊กซอว์ให้มากขึ้น ภาพมีความละเอียดขึ้นตามความสามารถของลูก

ระหว่างเล่นจิ๊กซอว์ ลูกยังได้โอกาสซึบซับความสวยงามของศิลปะ ต่อยอดจินตนาการ และได้ใช้เวลาคุณภาพระหว่างพ่อแม่ลูก โดยไม่ตั้งความคาดหวังหรือกดดันให้ลูกต้องทำได้ตั้งแต่ครั้งแรก เพื่อให้ลูกสนุกกับการต่อจิ๊กซอว์และพัฒนาฝีให้ดีขึ้นได้ทุกวัน

สุดยอดจิ๊กซอว์น่าเล่น เอาใจเด็กทุกวัย

จิ๊กซอว์มีให้เลือกหลายแบบ คุณพ่อคุณแม่อาจเลือกไม่ถูกว่าจิ๊กซอว์แบบไหนบ้างที่เหมาะกับลูกน้อย ต่อสนุก ไม่เบื่อง่าย สวยงามน่าเก็บสะสม เรามีคำแนะนาจิ๊กซอว์ดี ๆ มากฝากกัน

  1. จิ๊กซอว์การ์ดคำศัพท์
    เหมาะใช้เป็นของเล่นเสริมภาษาอังกฤษ ที่เด็กๆ จะได้สนุกกับภาพสัตว์ พร้อมกับเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ คำอ่าน และคำแปล นำมาต่อเป็นจิ๊กซอว์ขนาดเหมาะมือ ทำจากวัสดุคุณภาพ ไม่หักง่าย ไม่มีส่วนแหลมคมที่เป็นอันตรายกับลูก แถมยังสร้างทัศนคติที่ดีกับการเรียนภาษาอังกฤษด้วย
  1. จิ๊กซอว์จากการ์ตูนดิสนีย์ อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ
    ที่เด็กๆชื่นชอบ ภาพคมชัด สีสันสดใส เหมาะกับเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไปที่สนใจนิทานก่อนอน คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้จิ๊กซอร์ประกอบการเล่านิทานเรื่องอะลาดินกับตะเกียงวิเศษให้ฟังก่อนนอน ช่วยให้เด็กๆ สนุกกับเรื่องเล่ามากขึ้น
  2. กับจิ๊กซอว์ 3 มิติ
    แฟนคลับสตรอว์เบอร์รี่ชอร์ตเค้กต้องไม่พลาด กับจิ๊กซอว์ 3 มิติของบ้านหลังน้อย ๆ ทรงสตรอว์เบอร์รี่ของตัวการ์ตูนในเรื่อง เหมาะกับเด็กอายุ 5 ขวบขึ้นไป ต่อเองได้ไม่ยากโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์มีคม จึงปลอดภัยกับเด็กทุกคน เมื่อต่อเสร็จเด็กๆจะได้บ้านสวยๆแบบเดียวกับที่อยุ่ในการ์ตูนเลย
  3. จิ๊กซอว์แม่เหล็ก ธีมชุดแต่งตัว
    จิ๊กซอว์แม่เหล็ก ธีมชุดแต่งตัว อีกหนึ่งรูปแบบขอจิ๊กซอว์ที่เล่นสนุก เหมาะกับเด็กที่เริ่มหัดเล่นครั้งแรก เพราะแม่เหล็กช่วยให้ต่อได้ง่ายขึ้น แถมยังได้เรียนรู้เรื่องการแต่งกายในแต่ละโอกาส และชุดของคนหลายๆอาชีพด้วย รับประกันคุณภาพด้วยจิ๊กซอว์แบรนด์ดัง Mindeer จึงแข็งแรง ทนทาน เล่นได้หลายครั้งไม่รู้เบื่อ
  4. จิ๊กซอว์ภาพต่อใหญ่ แผนที่ประเทศไทย
    ชวนลูกมารู้จักประเทศไทยให้มากขึ้นด้วย จิ๊กซอว์ภาพต่อใหญ่ แผนที่ประเทศไทย ให้น้องๆฝึกสังเกตและเรียนรู้จังหวัดแต่ละภาคของประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน แถมต่อเสร็จแล้วยังนำไปใช้ประกอบการเรียน การสอนของลูกน้อยวัยประถมได้อีกด้วย

สำหรับคุณพ่อคุณแม่สมัยใหม่ที่ไม่อยากเสียเงินซื้อเกมส์จิ๊กซอว์ตามที่แนะนำด้านบนนี้ ปัจจุบันการต่จิ๊กซอว์นั้นสามารถเล่นได้หลายรูปแบบและวันนี้เราจะมาแนะนำ แอปเกมส์ต่อจิ๊กซอว์ต้องแอปต่อจิ๊กซอว์อย่าง jigsawpuzzles.games นี่เลยค่ะ ที่มีคลังภาพจิ๊กซอว์ที่ใหญ่ที่สุดบนมือถือกว่า 20,000 ภาพ พร้อมอัปเดตเพิ่มทุกวัน

วันนี้เราขอนำเสนอเกมส์จิ๊กซอว์รูปนี้ GENIE168 ซึ่งมีจำนวนเข้าเล่นมากที่สุดในสัปดาห์นี้เป็นเกมส์จิ๊กซอว์ที่มาในรูป อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ ที่เด็กๆชื่นชอบภาพคมชัด สีสันสดใส และยังเล่นได้อย่างผ่อนคลายเหมาะกับเด็ก และสมาชิกในบ้านช่วยกันเล่น เพราะจิ๊กซอว์รูปนี้มาในระดับความยากที่มีจำนวนจิ๊กซอว์ 168 ชิ้น สามารถเล่นได้อย่างสนุกและผ่อนคลาย

รูปชิ้นส่วนแยกขยาย GENIE168
เกมส์จิ๊กซอว์ภาพ GENIE168

เพลิดเพลินไปกับจิ๊กซอว์ที่ผ่อนคลายเพื่อฝึกสมองและสงบความวิตกกังวลของคุณ เล่นเกมจิ๊กซอว์ HD หลายพันเกมฟรีสนุกสนานโดยไม่มีชิ้นส่วนที่ขาดหายไป ยินดีต้อนรับสู่โลกจิ๊กซอว์ที่ jigsawpuzzles.games เว็บเกมปริศนาจิ๊กซอว์ ระดับ HD สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ เป็นเกมปริศนาที่พร้อมยินดีต้อนรับให้เล่นและน่าติดตามได้บน jigsawpuzzles.games คุณสามารถดาวน์โหลดปริศนาจิ๊กซอว์ฟรี

ศิลปะอันงดงาม แอนิเมชั่นที่สวยงาม บรรยากาศอันมหัศจรรย์ นี่คือศิลปะแห่งปริศนา! ดื่มด่ำไปกับจักรวาลแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยสีสันที่สดใส ตัวละครที่เป็นเอกลักษณ์ และทิวทัศน์อันน่าทึ่ง! เกมที่ไม่เหมือนใครที่รวมตัวต่อและสมุดระบายสีเข้าด้วยกัน: รวบรวมชิ้นส่วนรูปภาพที่น่าทึ่ง โดยแต่ละชิ้นส่วนจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวในเทพนิยาย

ในเกมไขปริศนารูป GENIE168 สิ่งที่คุณต้องทำคือไขปริศนาจิ๊กซอว์ รับเหรียญ และรับสิ่งทันสมัยล้ำสมัยโดยในแต่ละรูปภาพจะมีให้เลือกเล่นมากมายหลายเลเวล คุณต้องเริ่มจากภาพแรกและเพื่อปลดล็อคภาพถัดไป เกมส์ปริศนาเป็นหนึ่งในเกมเพื่อความบันเทิง การพัฒนา และการศึกษาที่ต้องใช้ความอุตสาหะ ความแม่นยำ ความอดทน และที่สำคัญที่สุด ความเอาใจใส่ และเมื่อกดเข้ามาในเกม จะเจอกับหน้าหลักของเกมซึ่งจะมีทั้งหมด 3 ตัวเลือก ว่าผู้เล่นจะเลือกที่จะต่อจิ๊กซอว์ในระดับใด

คุณมี 3 โหมดสำหรับแต่ละภาพ :

ง่าย 49 ชิ้น
ปานกลาง 89 ชิ้น
ยาก 168 ชิ้น

เคล็ดลับสำหรับการบรรลุเป้าหมายการอ่านจาก Goodreads

Goodreads Reading Challenge

ใน Goodreads ในช่วงต้นปีจะมี Challenge ให้เราได้เล่นกัน โดยเราสามารถกำหนดเป้าหมายจำนวนของหนังสือที่เราตั้งใจจะอ่านให้จบในปีนั้นๆ ตอนท้ายปีก็มาสรุปอีกทีว่าอ่านอะไรไปบ้าง บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่

เคล็ดลับที่นำมาให้อ่านกันคือ เป็นทิปเล็กๆที่จะทำใหเราบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ง่ายขึ้น โดยคัดมาเฉพาะส่วนที่คิดว่าทำงานกับตัวเองได้ดีและคิดว่าน่าจะทำงานได้ดีกับคนอื่นด้วย

ทำให้ง่ายต่อการหยิบหนังสือมาอ่าน

ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปนิสัยจะบอกคุณว่ายิ่งคุณทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ง่ายเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งทำสิ่งนั้นได้มากขึ้นเท่านั้น วางหนังสือตรงตำแหน่งที่คุณจะอ่าน (โต๊ะข้างเตียง โซฟา ในกระเป๋าเป้สำหรับการเดินทางของคุณ อื่นๆที่ใกล้ตัว) คุณจึงไม่ต้องคิดเกี่ยวกับมัน แต่เพียงแค่หยิบหนังสือขึ้นมา และลองอ่านหนังสือสองสามเล่มพร้อมๆ กัน เพื่อที่คุณจะได้เลือกหนังสือที่เหมาะกับอารมณ์ตอนนั้นของคุณได้

ผลักดันตัวเอง แต่ให้นึกถึงความเป็นจริง

หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ประสิทธิภาพการอ่านตกต่ำด้วยการมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ (ความจริง คุณสามารถเพิ่มหรือลดเป้าหมายของคุณได้ตลอดเวลาตลอดทั้งปี เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สนุกในการสร้างแรงจูงใจให้กับตัวเอง ดังนั้นไม่ต้องกดดันตัวเอง หากคุณจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเป้าหมายก็เปลี่ยนได้ (ตั้งไว้ให้เยอะเพื่อสร้างแรงจูงใจ)

อ่านหนังสือที่คุณชอบ (ยกให้สำคัญสุด)

ฟังดูง่าย แต่บางครั้งเราลองอ่านหนังสือเพราะรู้สึกว่าเราควรอ่าน แต่ปรากฏว่ามันไม่ใช่ และไม่ชอบ คุณวางมันลงและไม่สามารถหาแรงจูงใจที่จะหยิบมันขึ้นมาอ่านต่อได้ บางทีก็ฝืนอ่านต่อ รู้สึกถูกบังคับ ส่งผลให้ไม่สนุกกับการอ่าน และมันจึงเริ่มปิดกั้นไม่ให้คุณอ่านอย่างอื่น ดังนั้นจงตัดจบและไปต่อ—ไม่มีกฎว่าคุณต้องอ่านหนังสือให้จบ! มีหนังสือที่น่าอ่านอีกมากมายรอคุณอยู่ ดังนั้นเปิดหนังสือใหม่และรักษานิสัยการอ่านของคุณต่อไป หาแรงบันดาลใจ หาดูหนังสือที่นักอ่านคนอื่นๆ ชื่นชอบ หรือหนังสือที่คนอื่นตั้งตารอ

ที่มา https://www.goodreads.com/blog/show/2465-tips-to-read-more-books-in-2023-with-the-goodreads-reading-challenge

All New Toyota Yaris Ativ อีโคคาร์แบบซีดาน 4 ประตู

All New Toyota Yaris Ativ อีโคคาร์แบบซีดาน 4 ประตู ตัวล่าสุดของทางโตโยต้า

ใครที่อยากมีรถสักคันที่ราคาไม่แพงมากและรถเป็นรถตลาดเมื่อไม่อยากใช้ หรือว่าขายต่อราคาไม่ตก หลายๆคนก็คงไม่ลืมที่จะนึกถึง ค่ายรถดังอย่าง Toyota รถตลาดที่เบื่อเมื่อไหร่ก็ขายได้ ราคาไม่ตกมาก และซื้อใหม่ก็ง่ายเหมือนกัน วันนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ “All New Yaris Ativ 2022 ” ที่ได้เปิดตัวให้ราคาน่ารัก และโปรโมชั่นจัดเต็มมากกว่า ว่าแต่ Toyota Yaris Ativ จะเป็นอย่างไรบ้าง มาดูกันว่าตัวนี้มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

ข้อมูลพื้นฐานของ All New Toyota Yaris Ativ 2022

ตัวถังเป็นแบบ Fastback style ถือว่าเป็นขุมพลังเครื่องยนต์ Dual VVT-iE ขนาด 2 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว โดยจะให้กำลังสูงสุด 94 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร แถมรถรุ่นนี้ต้องบอกเลยว่าช่างประหยัดน้ำมันแบบสุดๆเพราะว่าประหยัดได้สูงสุดถึง 23.3 กิโลเมตร/ ลิตร กันเลยทีเดียว
ระบบช่วงล่างด้านหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง สวิตซ์ปรับโหมดการขับขี่บนพวงมาลัยได้ถึง 3 แบบ ECO, NORMAL, SPORT และการทำงานของพวงมาลัย Toyota Yaris Ativ 2022 เป็นแบบพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ดิสก์เบรก 4 ล้อ ที่ต้องบอกเลยว่าเขานั้นได้ให้มาพร้อมไฟหน้าแบบ Full LED ล้ออัลลอยด์ Two tone ขนาด 16 นิ้ว

รีวิว All New Toyota Yaris Ativ รุ่น PREMIUM ตัวล่าสุดของทางโตโยต้า

All New Toyota Yaris Ativ รุ่น PREMIUM หรือรุ่นรองท็อป จุดเด่นที่มีเพิ่มเติมจากรุ่นย่อยอื่นๆคือระบบไฟส่องสว่างหลังจากดับเครื่องยนต์ Follow Me Home ที่ได้มีการปรับแต่งไฟท้ายแบบ Full LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential และมาที่ภายในก็ได้มีการตกแต่งด้วย Ambient light ปรับได้ 64 เฉดสี ส่วนที่ด้านของบริเวณคอนโซลกลาง มีระบบกรองฝุ่น PM 2.5 พร้อมยังมีจอแสดงสถานะ และภายในห้องโดยสารด้านของคนขับก็มี ระบบเบรคมือไฟฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรคอัตโนมัติ ABH

ความปลอดภัยครบครันจากรุ่น SMART ด้วยกล้องมองรอบคัน

All New Toyota Yaris Ativ รุ่น PREMIUM  มีสัญญาณเตือนกะระยะรอบคัน 6 ตำแหน่ง และยังมีระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกข้าง Blind Spot Monitor และทางค่ายก็ได้มีระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ Rear Cross Traffic Alert และระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ และยังมีในส่วนของดิสก์เบรก 4 ล้อที่ช่วยให้เบรกได้อย่างนุ่มนวล มั่นใจระยะเบรคสั้น ซึ่งระบบต่างๆที่เข้ามานั้นช่วยให้คนขับ ขับง่ายขึ้นใครที่เป็นคนขับผู้หญิงส่วนนี้บอกเลยว่าโดนใจสุดๆ

รีวิว ดีไซน์ All New Toyota Yaris Ativ

ต้องบอกเลยว่าค่ายนี้ถือว่าทำรถออกมาได้น่าใช้มากๆ ใช้ได้ทั้งชายและหญิง เพราะว่าเขาได้ออกแบบและดีไซน์ภายในเรียบหรูและมีหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว พร้อมทั้งยังรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto และได้ออกแบบระบบการทำงานของเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ และยังแถมช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า 12V บริเวณคอนโซลด้านหน้า ที่มีทั้งช่องต่อ USB 4 ช่อง และที่บริเวณคอนโซลด้านหน้าและด้านหลังคอนโซลกลางและรถคันนี้ยังมีระบบกรองฝุ่น PM 2.5 บอกเลยว่าขับขี่ปลอดภับสุขภายหายห่วงแบบสุดๆ และยังมีการแจ้งสถานะแจ้งเตือนระดับฝุ่นภายในห้องโดยสารอีกด้วย

รถสวย พวงมาลัย น่าสัมผัส

All New Toyota Yaris Ativ  นอกจากรถจะสวยแล้วนั้น เขายังมีการออกแบบพวงมาลัยที่มีการหุ้มหนังนุ่มพิเศษตกแต่งด้วยด้ายสีเทาและแถบสีเงินเมทัลลิก และเรื่องการขับขี่อย่างเอาใจใส่ เพราะว่ารถคันนี้นั้นเขามีระบบเบรกมือแบบไฟฟ้าที่มาพร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ และระบบ Push Start
และการให้ความเย็นภายในห้องโดยสาร ที่มีช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง และยังมีมาตรวัดแบบ Digital ที่มาพร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสี TFT ขนาด 7 นิ้ว และยังเอาใจสายขนของและสัมภาระเยอะ เพราะรถคันนี้นั้นได้มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายพร้อมแผ่นกั้นห้องและช่องเก็บของอเนกประสงค์ บอกเลยครบครันจริงๆรถคันนี้

All New Toyota Yaris Ativ  ผ่อนยาวๆ พิเศษ 96 งวด

All New Toyota Yaris Ativ นอกจากจะเอาใจสายผ่อนถูกสบายกระเป๋า ไม่ติดขัดเรื่องการเงิน ทาง All New Toyota Yaris Ativ ยังมีของแถมแบบจัดหนักจัดเต็มที่มีการแถมในเรื่องของชุดอุปกรณ์แต่งที่มีให้เลือกหลากหลายตามสไตล์ความชอบของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็น ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง LUSSO CHIARO และ PRESTO รวมถึง Package  หรืออยากได้แบบผ่อนยาวเป็นพิเศษ 96 งวด โดยราคาผ่อนต่องวดจะอยู่เพียงแค่ 6,900 บาท/เดือน เท่านั้น บอกเลยว่ามีรถขับสบายๆ เดินทางสะดวกแล้วเรื่องเงินยังสบายกระเป๋า เพราะว่าผ่อนเท่าที่ไหว ไม่หนักไปใช้งานรถได้ยาวๆ หรือจะเป็นการผ่อน  Sabuy:D แบบ 7 ปี ให้ลูกค้าผ่อนสบายพร้อมทางเลือกในงวดที่ 84 ราคาผ่อนต่องวด 5,900 บาท/เดือน และทางค่ายรถก็ยังมีการแถมในเรื่องของประกันภัยแบบ PHYD ที่ทำให้เบี้ยประกันถูกลงกว่าประกันภัยชั้น 1 ทั่วไป 10% กันไปเลย และเรื่องของการบริการหลังการขายต้องบอกเลยว่าที่นี่นั้นได้ทำการการตลาดได้มาอย่างดีเยี่ยมเพราะว่าดูแลลูกค้าดีแบบใส่ใจสุดๆ

ใครที่สนใจรถรรุ่นนี้สามารถเข้าไปดูข้อมูลรถได้ที่ https://www.autofun.co.th/cars/toyota/yaris-ativ/specs

เยี่ยมชมห้องคลีนรูม สำหรับทำงานวิจัยที่ Forschungszentrum Jülich (FZJ) เยอรมนี อย่างอลังการ

สัปดาห์ก่อนได้ไปที่ Forschungszentrum Jülich (FZJ) ข้อมูลเบื้องต้นคือ เป็นสถาบันวิจัยระดับชาติของเยอรมันที่ทำวิจัยหลายด้านมาก มีพนักงานประมาณ 6,800 คน มีสถาบัน 10 แห่งและสถาบันย่อย 80 แห่ง ถือเป็นหนึ่งในสถาบันวิจัยที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ข้างในเปรียบเหมือนเป็นเมืองอีกหนึ่งเลยทีเดียว มีโรงพยาบาล มีสถานีดับเพลิง และสิ่งจำเป็นอื่นๆอยู่ภายใน

เราไปทำธุระอย่างอื่น แต่เนื่องจากว่าเพื่อนร่วมงานเคยทำงานที่นั้นและคุ้นเคยกับคนที่นั้นอย่างดี เขารู้ว่าเราสนใจงานทางด้าน Miro and Nanofabrication เลยอาสาพาทัวร์ตึกคลีนรูมของที่นั้น

Helmholtz Nano Facility (HNF) คือห้องคลีนรูมขนาด 1200 ตร.ม. ตามมาตรฐาน ISO 1-3 ทำงานตามมาตรฐาน VDI DIN 2083 และ DIN EN ISO 14644 ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 ที่ศูนย์รับทั้งงานร่วมวิจัยภายในองค์กร และรับบริการภายนอกด้วย มีบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งเคยเข้ามาทำงานในนี้และบางบริษัทก็ยังเช่าห้องอยู่เพื่อทำงานวิจัยโดยใช้ Facility ของศูนย์ในการทำงาน หลายๆกลุ่มวิจัยก็ใช้ที่นี้สร้างชิพสำหรับควอนตัมคอมพิวเตอร์

ห้องคลีนรูมอธิบายให้เข้าใจง่ายๆคือห้องที่ควบคุมให้ห้องมีฝุ่นน้อยที่สุด การสร้างชิพหรือวงจรที่มีความละเอียดในระดับนาโน อนุภาคที่ปนเปื้อนเพียงเล็กน้อยก็ทำให้อุปกรณ์ที่สร้างอยู่เสียหายได้ จึงจำเป็นต้องสร้างห้องที่มีฝุ่นปนเปื้อนในอากาศให้น้อยที่สุด (ความจริงควบคุมหมดทั้ง อนุภาค ความชื่น อุณหภูมิ แรงดัน ทิศทางและการไหลของอากาศ)

คลีนรูมของที่นี้ต้องเรียกว่าอลังการมาก อาจเรียกได้ว่าทั้งตึกเป็นส่วนหนึ่งของคลีนรูม โดยสร้างตึกขึ้นมาครอบตึกอีกทีเพื่อให้สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมภายในได้ดียิ่งขึ้น เราจึงสามารถเดินชมห้องได้โดยรอบผ่านตรงจุดเชื่อมตึกที่ครอบและตึกด้านใน ด้านบนเป็นระบบควบคุมอากาศและอุณหภูมิ ชั้นกลางคือส่วนของห้องคลีนรูม ที่แบ่งย่อยเป็นห้องตามจุดประสงค์ในการทำงาน ด้านล่างเป็นส่วนของซัพพลาย เช่น ไฟฟ้า น้ำ แก๊ส ปั๊ม ฯลฯ เป็นระบบที่ออกแบบมาได้ดีมากๆ ลิสต์เครื่องมือมีพร้อมทุกอย่าง ตามไปดูในลิงค์ ภายในนี้สามารถออกแบบ ผลิตชิพ และร่วมทั้งทดสอบ งานจบได้ในที่นี่ เครื่องมือค่อนข้างใหม่มาก จนหลายคนที่นี้เรียกกันขำๆว่า โชว์รูมของ Oxford Instructions (บริษัทที่ออกแบบและผลิตอุปกรณ์งานทางด้านซิมคอนดักเตอร์) การได้เดินทัวร์ดูอุปกรณ์และระบบที่ออกแบบมาอย่างดีถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีทีเดียว คาดว่าน่าจะได้มีโอกาสเข้าไปใช้ Facility ของที่นี่ในอีกไม่นาน

เอาประสบการณ์มาเล่าให้ฟังประมาณนี้แล้วกันครับ

ปล. อยากเห็นศูนย์วิจัยของ TSMC จริงๆว่าจะอลังการขนาดไหนนะ

ข้อมูลเบื้องต้น
Wet bench
E-Beam Lithography
Surface characteristic
Air flow and temperature control center
ICP RIE, PECVD, SPUTTER
ปั๊มและเครื่องทำความเย็นแยกออกมาอยู่ด้านล่างของห้อง

บันทึกไป Interlaken สุดสัปดาห์ 3 วัน

บันทึกไป Interlaken สุดสัปดาห์แบบด่วน วางแผนหลวม ๆ แล้วไปเลย ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ นั่งรถไฟจากดอร์ทมุนด์ตอนช่วงดึกไปสวิตเซอร์แลนด์จุดหมายคือเมือง Interlaken ใช้เวลาราวๆ 10 ชั่วโมง ถึงช่วงเช้าเอาของบางส่วนฝากไว้ที่ล็อกเกอร์ แล้วเที่ยวต่อทันทีเลย

วันที่ 1: เริ่มจาก Interlaken Ost ไปที่ Gschwandtenmaad จากนั้นเดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ราวๆ 5 กิโลเมตร จนถึง Schwarzwaldalp นั่งรถบัสกลับ Interlaken Ost จบทริปวันแรกวันที่

2: เริ่มจาก Interlaken Ost ไป Laubrennen ถ่ายรูปเล่นในรอบๆเมือง นั่งรถไฟไปที่เมือง Wengen แล้วเดินลงเขาลงมาที่เมือง Laubrennen เหมือนเดิมแต่เดินแบบอ้อมๆ ระยะทางราวๆ 9 กิโลเมตร นั่งรถไฟกลับ Interlaken Ost จบทริปวันที่สอง

วันที่ 3: เริ่มจาก Interlaken Ost ไป Grindelwald เดินไปขึ้นกระเช้าไปที่ ยอดเขา First เดินต่อไปที่ทะเลสาบ Bachalpsee ระยะทาง 3 กิโลเมตร นั่งเล่น ถ่ายรูป แล้วเดินจาก ทะเลสาบลงมาที่ Grindelwald ระยะทางราวๆ 10 กิโลเมตร นั่งรถไฟกลับมาที่ Interlaken Ost ขึ้นรถไฟรอบค่ำกลับดอร์ทมุนด์ เป็นอันจบทริป

ส่วนเสริม บันทึกไว้เกี่ยวกับ Interlaken

-ต้องจ่ายภาษีของเมืองที่โรงแรม แล้วเขาจะให้บัตรแขกบ้านแขกเมืองซึ่งใช้นั่งรถบัสภายในเมืองได้

-แอพ SSB mobile เหมือน DB ของเยอรมัน ใช้ดูตางรางเวลารถ สถานี และใช้ซื้อตั๋วได้ด้วย

-แทบจะทุกร้านค้า รถบัส ตู้ขายตั๋ว ใช้บัตรซื้อได้หมด ไม่ต้องพกเงินสดยังได้ ยกเว้นตู้ยอดล็อกเกอร์

-ห้องน้ำสาธารณะฟรี ความสะอาดค่อนข้างโอเค (อย่าเทียบกับเยอรมัน)

-ช่วงนี้ยังมีปัญหาโควิด นักท่องเที่ยวน้อย ร้านค้าเปิดแค่บางร้าน ร้านที่เปิดให้นั่งข้างในต้องแสดงวัคซีนพาสพอร์ตว่าได้รับวัคซีนครบแล้ว

-แอพนำทางและแนะนำเส้นทาง hiking ชื่อ Kamoot ปกติก็ใช้อยู่แล้ว แต่พอมาที่สวิตเซอร์แลนด์คิดว่าต้องเดินบนเขา กลัวว่าสัญญาณโทรศัพท์จะขาดหาย เลยซื้อแผนที่เดินป่าแบบออฟไลน์ไว้ด้วย ซึ่งก็ทำงานได้ดีที่เดียว แต่สัญญาณ 5G มีครอบคลุมทุกที่เดินไปเลย (อย่าเทียบกับเยอรมันออกเมืองไปนิดน้อย สัญญาณเริ่มเบาแล้ว)

-ค่าเดินทางพวกรถไฟ รถบัส กระเช้า กลุ่มที่ขึ้นเขาแพงอย่างโหด แต่ถ้าได้นั่งและเห็นเส้นทางที่รถวิ่งจะเข้าใจว่า ทำไมมันต้องแพง ทั้งสูง และอันตรายมาก ๆ ส่วนค่าเดินทางระหว่างเมืองด้านล่างก็ไม่แพงมาก แต่ก็ยังถือว่าแพงตามมาตรฐานสวิสต์อยู่ดี ซื้อตั๋วเหมาอาจจะเหมาะมากกว่า ตั๋ว Region กับ SwissPass ราคาพอกัน ส่วนตั๋ว Jungfrau ถูกกว่าแต่ได้พื้นท่องเที่ยวน้อยกว่า ต้องดูว่าจะเที่ยวตรงไหนบ้าง แต่ถ้าคนชอบเดิน hiking ไปแค่ขาเดียวซื้อเป็นเที่ยวๆก็ประหยัดกว่า

วิธีซื้อ Bitcoin ฉบับมือใหม่ ที่อยากลองมีเก็บไว้บ้าง

วิธีซื้อบิตคอยน์ Bitcoin ฉบับมือใหม่

Bitcoin trading

ออกตัวก่อนว่าผู้เขียนไม่ได้มีความเชี่ยวชาญอะไรเลย มือใหม่เหมือนกัน Lifestyle เป็นพวกดูหนังอ่านหนังสือเสียมากกว่า แต่อยากรู้ว่า cryptocurrency เขาซื้อขาย หรือทำงานยังไง ไม่ได้หวังกำไรหรือลงทุนอะไร ใช้เงินเพียงหลักร้อยในการซื้อ เสียหายหรือขาดทุนไปไม่ได้เดือดร้อน ส่วนใครอยากศึกษาหาความรู้ต่อเพื่อหวังลงทุนต่อก็ถือว่าอันนี้เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นก็แล้วกัน

เริ่มกันเลย

  1. ก่อนจะเก็บเงินดิจิตอลก็ต้องมีกระเป๋าดิจิตอลก่อน มีให้เลือกหลากหลายเจ้า เช่น Coinbase, Blockchain, Binance อื่น ๆ มีให้ใช้ผ่านแอพบนมือถือหรือผ่านบราวเซอร์ในคอม รีวิวจากหลายเจ้าบอกว่า Coinbase ดีสุด แต่เท่าที่ลองเล่น ๆ เหมือนว่า Coinbase, Blockchain จะไม่รองรับในไทยหรือเปล่าไม่รู้ เพราะทำธุรกรรมไม่ได้เลย สุดท้ายมาลงตัวที่ Binance ใช้ค่อนข้างง่าย และซื้อบิตคอยได้ ส่วนของในไทยไม่ได้ลองใช้เลยครับ

2. สมัครสมาชิก ยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย ใช้อีเมลหรือเบอร์มือถือในการสมัครก็ได้

สมัครสมาชิก ใช้ Referral ID ของคนเขียนได้นะครับ G2IHKVGI

3. เริ่มซื้อบิตคอยน์ได้เลย ได้ลองซื้อ 2 แบบ คือ 1. ซื้อโดยตรงผ่านบัตรเครดิตหรือโอนผ่านธนาคารมีขั้นต่ำ 15 USD และ 2. ซื้อแบบ P2P คือซื้อผ่านคนประกาศขายในบอร์ด ซึ่งรองรับการโอนเงินหรือทรูมันนี่แล้วแต่คน แต่ซื้อแบบนี้เป็นการตกลงราคากันเองทำให้ส่วนใหญ่ราคาจะสูงกว่าตลาดกลาง แต่ก็สามารถซื้อขั้นต่ำในหลักไม่กี่ร้อยบาทได้ (ต้องเลือกดูเอง)

ซื้อผ่านบัตรเครดิตหรือโอนเงินผ่านธนาคารเข้าบัญชีตัวเองในระบบ ขั้นต่ำ 15 ดอลล่าร์
ประกาศขายแบบ P2P ราคาขั้นต่ำหลักร้อย

4. เมื่อซื้อขายผ่าน ก็จะได้บิตคอยน์มาเชยชมในกระเป๋าดิจิตอล สามารถเอาที่อยู่กระเป๋าไปให้คนอื่นฝากเงินดิจิตอลมาให้ก็ได้นะ

ยอดเงินบิตคอยน์ในกระเป๋า BTC
ที่อยู่กระเป๋า BTC ของคนเขียน 1Dg1ENduUfp95wU4wiE3XaiokXkQ4k15eM

รีวิวซีรี่ย์ His Dark Materials ที่สนุกมาก ดูได้ใน HBO GO

His dark materials

รีวิวทีวีซีรี่ย์ His Dark Materials ที่สนุกมาก แต่คนพูดถึงกันน้อย

เห็นหลายคนสมัคร HBO GO เพื่อดู Zack Snyder’s Justice League แล้วบอกว่าไม่รู้จะดูอะไรต่อใน HBO GO มีซีรี่ย์ที่จัดอยู่ในระดับ A list อยู่หลายเรื่อง เช่น

  • ซี่รีย์ในตำนานอย่าง Game of Thrones ที่จบไปแล้ว
  • Chernobyl มินิซีรี่ย์ที่ทำดีมาก
  • Westworld ใครที่เป็นแฟนคลับของ Christopher Nolan ต้องรู้ว่าน้องชายเขา Jonathan Nolan มีส่วนร่วมในการเขียนบทในหนังของ Nolan เกือบทุกเรื่อง ถ้าเขาจะคุมโปรเจคซีรี่ย์เรื่องนี้เราคนดูก็เชื่อใจได้ในระดับหนึ่ง และมันทำออกมาได้ดีจริง ๆ
  • Watchmen ฮีโร่สายดาร์คที่เข้มข้น

แต่วันนี้จะมาพูดถึงซีรี่ย์อีกเรื่องที่คนไม่คอยพูดถึงเลย คือ His Dark Materials (ชื่อแปลไทย ธุลีปริศนา)ซี่รีย์ที่ดัดแปลงมาจากนิยายแฟนตาซีในชื่อเดียวกันที่เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานของนักเขียน Phillip Pullman หนังสือมี 3 เล่ม Northern Lights (The Golden Compass), The Subtle Knife และ The Amber Spyglass ซี่รีย์ทำตามหนังสือแบบเล่มละซีซั่นพอดีเลย ตอนนี้จบถึงซีซั่นที่ 2 แล้ว และซีซั่นที่ 3 เริ่มถ่ายทำแล้ว มีแผนในการออกฉายในต้นปี 2022

หนังสือชุด His Dark Materials

รีวิวแบบสั้น ๆ คือ ดีมากกกก ดูเถอะสนุกมาก

รีวิวซีรี่ย์ His Dark Materials

The Golden Compass เคยทำเป็นหนังแล้วเมื่อปี 2007 ความจริงหนังไม่ได้แย่มากนะ แต่แผนของสตูดีโอที่อยากปั้นหนังจากหนังสือดังและทำต่อเนื่องหลายภาคต่อกันอย่างเช่นที่แฮรี่ พอร์ตเตอร์ ทำได้ในช่วงนั้น ซึ่งทำเงินให้สตูดิโออย่างมหาศาล ค่ายไหนก็อยากมีโปรเจคทำเงินยาว ๆ แบบนั้นบ้าง ช่วงนั้นเราเลยได้เห็นฮอลลีวู้ดพยายามเข็นโปรเจคหนังที่ดัดแปลงจากหนังสือมาลงจอใหญ่กันเยอะมาก แต่หลายโปรเจคก็ล้มและขาดทุนกันถ้วนหน้าและ The Golden Compass ที่ตั้งเป้าจะมีหลายภาคออกมาฉายก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ล้มเหลว เป็นยักษ์ล้มไปในปีนั้น

กลับมาที่ซีรีย์บน HBO GO ที่จะพูดถึงกัน ต้องบอกก่อนว่าผมได้อ่านฉบับหนังสือมาก่อนแล้ว 2 เล่ม คือ Northern Lights (The Golden Compass), The Subtle Knife เหลือเล่มที่ 3 ซึ่งคิดว่าถ้าซีซั่น 3 ออกฉาย จะกลับไปอ่านหนังสือก่อนแล้วค่อยมาดูซีรีย์ ดังนั้นจะเป็นรีวิวที่รู้เรื่องราวแล้วบางส่วน เหมือนคนที่อ่านหนังสือแฮรี่ พอร์ตเตอร์ แล้วเขาไปดูหนังอีกที

โดยปกติแล้วหนังที่ทำจากหนังสือจะออกมาสองแบบชัดเจนคือ ทำได้แย่จนแฟนหนังสือด่ากันยับ เช่น Mortal Engine, Dark Tower, Divergent และหนังที่ทำดีได้ใจทั้งแฟนหนังสือและแฟนหนัง เช่น Lord of the Ring, Harry Potter, The Hunger Games ส่วนตัวขออวยว่าซีรีย์เรื่องนี้อยู่ในกลุ่มหลังครับ ทำดีมีดัดแปลงบ้าง บางอันลงตัวกว่าในหนังสืออีก

เริ่มที่นักแสดง คัดมาดีมาก ๆ

  • James McAvoy เป็น Lord Asriel ในสองซีซั่นบทยังมีไม่มาก มาน้อยแต่ดีมาก
  • Ruth Wilson เป็น Marisa Coulter ได้ลงตัวกว่า Nicole Kidman จากฉบับฉายโรงอีก มีความเลือดเย็น เป็นผู้หญิงที่น่ากลัว ร้ายกับคนรอบข้าง รวมทั้งกับ Dæmon ของตัวเองด้วย
  • ส่วนน้อง Dafne Keen น้องตัวแสบ X-23 จาก Logan มารับบทเป็น Lyra Belacqua แสดงได้ดี มีความกล้าและแสบตามฉบับหนังสือ
  • Amir Wilson รับบทเป็น Will Parry พอได้กลาง ๆ
  • ส่วนตัวอื่น ๆ Roger Parslow, Lee Scoresby, กลุ่ม Gyptian ก็คัดมาได้ดี

ในยุคที่คอมพิวเตอร์กราฟฟิคทำได้ดีและเนียนขึ้น เหล่า Dæmon ภูตประจำตัวของแต่ละคนจึงดูสมจริงขึ้น และมีปฏิสัมพันธ์กับเจ้าของมากขึ้น และช่วยในการเดินเรื่องและบอกอารมณ์ของตัวภูติเองที่สะท้อนไปถึงเจ้าของด้วยได้ดี และเจ้าหมียักษ์ Iorek Byrnison ที่อยากให้ออกมาทุกตอนเลย

ซีนหนึ่งที่ชอบมากในซีรีย์ คือการแทรกเรื่องพิธีฉลองการหยุดเปลี่ยนรูปของ Dæmon ที่เปรียบเสมือนการเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ของเด็กหนุ่มของชาว Gyptian ซึ่งเป็นช่วงที่เปรียบเสมือนการก้าวสู่อีกวัยที่ทุกคนในเผ่าจะออกมาแสดงความยินดีด้วย แต่ในหนังสือจะไม่มีรายละเอียดในส่วนนี้เลย และเป็นการเติมเข้ามาในเรื่องที่ลงตัวมาก ในหนังสือเราจะเห็นว่าเด็กมักจะคุยกันว่าท้ายสุดแล้ว Dæmon ของตัวเองจะคงรูปเป็นสัตว์อะไรอยู่บ่อยครั้ง จึงถือว่าเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดช่วงหนึ่งของเด็ก ๆ และซีรี่ย์เลือกที่จะเล่าส่วนนี้เพิ่มเข้ามาถือว่าคิดมาดี และทำออกมาได้ดีมาก ๆ

พิธีฉลองของ Gyptian

ส่วนต่อไป ขอชมการออกแบบองค์ประกอบต่างๆ ในซีรี่ย์ทำได้ดีมาก เช่น สิ่งของสำคัญในเรื่อง เช่น Alethiometer ชื่อเรียกของ Golden Compass ในหนังสืออธิบายรูปทรงเป็นวงกลมตามแบบของเข็มทิศทั่วไป แต่ในซีรี่ย์ทำออกมาเป็นตลับสี่เหลี่ยม และรูปแบบสัญลักษณ์ต่างๆข้างในก็ทำออกมาดูดีทีเดียว ซึ่งบางทีก็จินตนาการไม่ออกว่ามันจะเป็นยังไง แต่ในซีรีย์ทำให้ภาพในจินตนาการออกมาเป็นภาพที่ชัดเจน และอื่นๆ เช่น ชุดเกาะของ Iorek, บอลลูนของ Lee, แม่มดบินด้วยการขี่กิ่งสน แต่ในซีรี่ย์ทำอีกแบบที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงเลย แต่ออกมาดีกว่ามาก ๆ (ไปดูเองในซีรี่ย์)

Alethiometer

การเล่าในซีรี่ย์จะเล่าต่างจากในหนังสือนิดหน่อย ในหนังสือจะมีเส้นเรื่องค่อนข้างตรงๆ ตามมุมมองของตัวเอก Lyra เป็นหลัก เดินเรื่องไปเรื่อยๆ แต่ในซีรี่ย์เล่าเป็นจักรวาลที่กว้างกว่ามาก แม้ว่าเส้นเรื่องหลักจะตามหนังสือแต่ละเล่มก็ตาม แต่ว่าเนื้อหาของหนังสือเล่ม 2-3 จะมีแทรกเข้ามาในเนื้อเรื่องช่วงซีซันแรกที่เป็นเนื้อหาของเล่ม 1 เป็นระยะ ๆ เพื่อเล่าขอบเขตที่กว้างกว่าและครอบคลุมมากกว่า เช่น รายละเอียดของ Magisterium ที่ลงรายละเอียดเยอะขึ้นมาก เพื่อวางโครงของจักรวาล ทำให้ดูเป็นองค์กรที่มีอำนาจสูงมากในโลกของ Lyra ส่วนเครื่องมือสำคัญอย่าง Alethiometer ก็มีรายละเอียดมากขึ้น กลายเป็นสิ่งผิดกฏหมายในโลก มีการอนุญาตให้ใช้งานได้เฉพาะใน Magisterium เท่านั้น แทนที่จะเป็นแค่ของหายากตามฉบับในหนังสือ

ตึกของ Magisterium รูปร่างคล้าย Alethiometer

เขียนมายาว สรุปว่าใครที่อ่านหนังสือแล้ว คุณจะรักฉบับซีรี่ย์ ใครยังไม่อ่านหนังสือก็จะเข้าถึงและได้เพลิดเพลินกับรายละเอียดต่างๆของจักรวาลในเรื่องได้ไม่ยาก ผมตื่นเต้นทุกครั้งที่ซีรี่ย์เนรมิตรฉากในจินตนาการจากตัวหนังสือออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหวให้ได้เห็น ชอบมาก ๆ ครับ ตามไปดูได้ที่ HBO GO ส่วนใครสนใจรีวิวหนังเรื่องอื่นๆ ติดตามได้ที่ลิงค์เกี่ยวกับหนัง

AMP ช่วยให้ผู้ใช้มาจากมือถือแซงเดสก์ท็อปแล้ว

อะไรคือ AMP? เกี่ยวข้องยังไงกับบล็อกนี้?

เรื่องเล่าวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับบล็อกของตัวเองที่เขียนๆ หยุด ๆ มานานพอสมควร ถ้านับเวลาน่าจะเกิน 10 ปีได้แล้ว โพสแรก ตัวบล็อกมันอยู่ได้ด้วยตัวของมันเองโดยมีค่าโฆษณาจาก Google Ads ที่ติดไว้คอยเลี้ยงดู ไม่ได้เยอะ แต่เพียงพอที่จะจ่ายค่าโฮสและค่าโดเมนรายปีได้ ทั้ง ๆ ที่บางปีเขียนเรื่องใหม่ไปแค่ 1-2 เรื่องเท่านั้น ต้องขอบคุณคนคลิกเข้ามาดู ที่สำคัญตลอดเวลาที่ผ่านมารายได้มาจากผู้ใช้งานเดสก์ท็อปเป็นหลัก


ในยุคปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่ไปอยู่ในแพลตฟอร์มโซลเชียลกันหมดแล้ว แต่แนวบล็อกหรือเว็บไซต์ก็ยังให้ความรู้สึกว่าชอบมากกว่า นั่งกดอ่าน feed ผ่าน RSS ก็ยังเป็นกิจวัตรประจำวันเหมือนเดิม คิดว่ายังคงต้องทำต่อไปเรื่อย ๆ

เข้าเรื่องหลักเลยแล้วกัน เมื่อราวสองเดือนก่อนตอนที่เข้าไปดูรายงานของ Google Adsense มีข้อความแนะนำจากระบบประมาณว่า
เฮ้ย…ไม่ปรับปรุงเว็บของแกให้แสดงผลให้เป็นมิตรกับคนใช้มือถือหน่อยหรอ คนใช้เยอะนะ
เอารายละเอียดของ AMP (Accelerated Mobile Pages )ไปอ่าน แล้วลองทำดูซ่ะนะ เลยลองทำตามคำแนะนำ

ซึ่งโดยปรกติแล้วอะไรที่เขานิยม ใน WordPress ก็จะมีปลั๊กอินรองรับอยู่แล้ว
จากนั้นแค่เข้าไปโหลด ปลั๊กอิน มาติดตั้ง คลิก 2-3 ที ก็เสร็จ
ง่ายเช่นกันในการเอา Google Ads ฝั่งลงไปในระบบ เข้าไปด้วย

สิ่งที่ได้หลังจากนั้นในช่วงที่ผ่านมา รายได้ใน Google Ads ผ่านมือถือแซงรายได้จากเดสก์ท็อปไปแล้ว ความจริงแล้วพอลองเข้าไปดูใน Google Analytic ดี ๆ จะพบว่าอุปกรณ์ที่เข้ามาในบล็อกนี้ก็เป็นโทรศัพท์มือถือระดับไฮเอนด์อยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดสก์ท็อปมาได้สักพักใหญ่ ๆ แล้ว แต่เพิ่งจะมาแซงตอนปรับให้มีเพจสำหรับมือถือ

ดังนั้นในเดือนนี้ต้องขอบันทึกไว้ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา 10 กว่าปี ตอนนี้รายได้จากคนใช้มือถือได้แซงฝั่งเดสก์ท็อปไปแล้ว คนอื่นอาจปรับตัวไปนานแล้ว แต่พวกไม่สนใจอะไรเพิ่งจะปรับตัวตาม (หมายถึงตัวเอง) เลยเพิ่งจะเห็นผล

แหล่งรายได้ของบล็อกนี้ จากโทรศัพท์มือถือมากกว่าเดสก์ท็อปแล้วในช่วงที่ผ่านมา

แต่ถ้าไปดูรายงานของทั่วโลกมือถือแซงเดสก์ท็อปไปตั้งแต่ปี 2016 แล้ว ลิงค์ข่าว

ปล. ในปีที่ผ่านมาเราได้เห็นแล้วว่าในอุตสาหกรรมเกม มือถือก็กำลังจะแซงเกมบนเดสก์ท็อปแล้วเช่นกัน

“ย้ำอีกที มือถือคืออุปกรณ์หลักของคนใช้อินเทอร์เน็ตนานแล้ว” ปรับตัวซะ

รวมแหล่งหาหนังสือน่าอ่าน

แต่ก่อนจะเชื่อว่าหนังสือทุกเล่มมีคุณค่าของมัน ควรค่าที่จะถูกอ่าน ให้ความเคารพ ไม่ข้ามไม่ทับ วางไว้ที่สูง ตามแนวทางครอบครัว conservation ที่มีคนในครอบครัวมีอาชีพเป็นครูสอนหนังสือ แต่เมื่อผ่านไปโตขึ้นความคิดก็เปลี่ยนไป เมื่อเวลาไม่ได้มีเหลือล้นการที่จะโยนหนังสือสักเล่มทิ้งไป โดยไม่แม้แต่จะบริจาคหรือเอาให้ใครฟรีๆ เลือกที่จะทิ้งยังดีกว่า หรือไม่ฝืนตัวเองให้อ่านให้จบ ไม่ได้รู้สึกแย่เหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว แม้แต่กองหนังสือที่วางทับกันรอให้หยิบมาอ่านจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่ได้ลำบากใจที่จะซื้อเล่มใหม่

คติใหม่จึงเป็น “ใช่อ่าน ไม่ใช่ก็วาง ดีแนะนำ ห่วยทิ้ง”

คำถามต่อมาคือ แล้วจะรู้ได้ไงว่าหนังสือเล่มไหนดีหรือไม่ดี หนังสือเล่มไหนควรโยนทิ้ง เล่มไหนควรอ่านซ้ำ ถ้าจะตอบแบบง่ายๆเลยก็ต้องอ่านดูก่อน แต่ถ้าไม่มีเวลาขนาดนั้น ก็ดูหนังสือที่คนอื่นแนะนำ หนังสือที่คนบอกต่อๆกันว่าดี ค่อนข้างไว้ใจได้ ประหยัดทั้งเวลาและเงินทอง

รวมแหล่งแนะนำหนังสือน่าอ่าน

ขอนำเสนอแหล่งหาหนังสือดี น่าอ่าน เอามาแชร์คนอื่น รวมทั้งเป็นการบันทึกส่วนตัวด้วย

  • Choiceawards ของ Goodreads ดีที่สุด หลากหลายครบทุกหมวด โหวตจากคนอ่าน อันไหนได้รางวัลก็ การันตรีได้ว่าดี เหมือนออสการ์ของหนังสือ คิดไม่ออกว่าจะอ่านเล่มไหน ในนี้มีคำตอบ ไม่ใช่ว่าดีแค่เล่มที่ได้รางวัล เล่มอื่นๆที่อยู่ในรายการถูกเสนอชื่อก็ไม่ได้ด้อยกว่ากันมากนัก
  • Goodbooks.io เลือกอ่านตามไอดอล คนดัง หลากหลายอาชีพ เว็บลักษณะนี้มีให้ดูหลายที่ แต่ Goodbook นำเสนอได้ดี ค้นหาคนที่สนใจได้ง่าย ถ้าคุณอยากรู้ว่าไอดอลที่คุณชื่นชอบ เป็นคนยังไง การได้อ่านหนังสือที่เขาอ่านจะทำให้เราเข้าใจความคิดเขาได้มากขึ้น มีแหล่งอ้างอิงประกอบ
    เว็บไซต์อื่นๆที่นำเสนอได้ใกล้เคียงกัน
    readthistwice.com
    bookauthority.org
    bookicious.com
    mostrecommendedbooks.com
  • Bill Gates ความจริงควรอยู่ในหัวข้ออ่านตามไอดอล แต่ขอแยกคนนี้ออกมาต่างหาก คนนี้คือหนอนหนังสือตัวจริงที่อ่านเยอะมาก ถ้าใครเคยดูสารคดี Inside Bill’s Brain: Decoding Bill Gates จะรู้ว่าเขาหิ้วหนังสือไปด้วยทุกที มีเวลาปลีกวิเวกไปอ่านหนังสือเป็นสัปดาห์ เขาจะแนะนำหนังสือพร้อมมีรีวิวให้แฟนคลับได้ตามไปอ่านปีละหลายครั้ง ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับเทคโนโลยี หลังๆเริ่มจะหลากหลายมากขึ้น ระดับบิล เกตท์ หนังสือแนะนำต้องดีแน่นอน
  • หนังสือแนววิทยาศาสตร์ที่ถูกรีวิวโดย Nature โดยเฉพาะจาก Andrew Robinson ที่จะมีบทความ Andrew Robinson reviews five of the week’s best science picks ที่ออกมาเกือบสัปดาห์ละ 5 เล่ม จินตนาการคนที่ต้องอ่านหนังสือวิทยาศาสตร์สัปดาห์ละอย่างน้อย 5 เล่ม ปีละประมาณ 360 เล่ม รับรองคุณภาพโดย Nature
  • New York Time: Book review เป็นอีกแหล่งที่ตามหาหนังสือน่าอ่าน แต่ถ้าอยากรู้ว่าช่วงนี้หนังสือเล่มไหนกำลังดัง Bestseller คือป้ายประกาศ ถ้าหนังสือแปลเล่มไหนได้ตรา New York Time Bestseller จะทำให้ดูดีขึ้นอีกหลายเปอร์เซนต์ และน่าจะขายได้มากขึ้นด้วย

ประมาณนี้ ถ้าใครมีแหล่งอื่นๆที่น่าสนใจ แนะนำกันด้วยนะครับ

Google Pixel Buds หูฟังแปลภาษาแบบ real-time ใช้กับมือถือรุ่นอื่นได้ไหม?

Google เปิดตัวผลิตภัณฑ์หลายอย่างจาก Event ในเดือนตุลาคม เอาเป็นว่าเข้าไปดูได้ที่ https://store.google.com แต่มีอย่างหนึ่งที่น่าสนใจมากจนต้องมาเขียนถึงเลย คือ Google Pixel Buds หูฟังไร้สายที่ทำงานร่วมกับมือถือเพื่อแปลภาษาแบบ real-time ทำให้คนที่คุยกันคนละภาษาสามารถคุยโต้ตอบกันได้เลย มันเจ๋งมาก

Google Pixel Buds

มันทำงานแบบไหน และเจ๋งแค่ไหนลองดูได้ที่วิดีโอสาธิตการใช้งาน

ก่อนจะกดสั่งซื้อ เลยตั้งคำถามสำคัญก่อน

  • หูฟังแปลภาษาตัวนี้ใช้กับมือถือรุ่นอื่นได้หรือไม่?
    คำตอบ: ไม่ได้

เมื่อเข้าไปดูใน รายละเอียดของ Google Pixel Buds Requirements & Specifications

  • ระบุไว้ดังนี้ ใช้สำหรับเป็นหูฟังไร้สาย Bluetooth ใช้ได้กับ
    -Android 5.0 ขึ้นไป
    -iOS 10.0 ขึ้นไป
  • ถ้าอยากใช้ผู้ช่วย Google Assistant
    -Android 6.0 ขึ้นไป
  • แต่ตัวสำคัญ ถ้าต้องใช้ Google Translate เพื่อแปลภาษาแบบ real-time (ฟีเจอร์ที่อยากใช้)
    – ต้องใช้ร่วมกับมือถือ Pixel หรือ Pixel 2 เท่านั้น

สรุปว่ามันคือ Exclusive feature สำหรับ Google Pixel Phone ใช้ได้ทั้งรุ่นแรก และรุ่น 2 แต่ไม่รองรับมือถือแอนดรอยด์รุ่นอื่น

(เสียใจ)

Exit mobile version