ไปดูมาแล้ว ปัญญา เรณู

, , Leave a comment

ปัญญา เรณู

น่าจะเป็นหนังที่ยืนโรงอยู่ได้นานมากอีกเรื่อง เข้าโรงตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2554 นับว่ายังโชคดีที่ยังมีรอบให้ดู เข้าไปดูที่เอสเอฟ มาบุญครอง เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 13 มีนาคม 2554 เหลือเพียงรอบเดียว เวลา 13.00 น. ด้วยกระแสของโลกอินเทอร์เน็ตทำให้อยากเข้าไปดูบ้าง มีความคาดหวังนิดๆว่าจะต้องสนุก หลายคนเข้าไปดูหลายรอบ สื่อหลักเริ่มช่วยประชาสัมพันธ์ เป็นหนังฮิตเซอร์ไพรส์ในปีนี้ไปแล้ว จนประกาศสร้าง ปัญญา เรณู ภาค 2 กันแล้ว

  • หนังเรื่อง ปัญญา เรณู เป็นหนังเล่าเรื่องในมุมของเด็ก ร่วมกับมุมมองของผู้ใหญ่ ทำไมถึงพูดอย่างนี้ เพราะว่าในกลุ่มของหนังเด็กที่ผมนึกถึง คือ แฟนฉัน อนุบาลเด็กโข่ง เด็กหอ หนังเล่านี้เราจะได้เห็นภาพในมุมของเด็กๆ ที่คิดอย่างไร เล่นกันอย่างไร ต่างจากจาก ปัญญา เรณู เล็กน้อยตรงที่เราจะได้เห็นมุมของผู้ใหญ่ด้วย นี้คือจุดหนึ่งที่เห็นในหนังเรื่องนี้ เช่น ตอนที่ผู้ใหญ่ในหมู่บ้านปรึกษากัน เมื่อเกิดผู้ชายในหมู่บ้านเสียชีวิตพร้อมกันหลายคน
  • เขาว่าถ้า แฟนฉัน เป็นหนังรักในวัยเด็กของคนภาคกลาง ปัญญา เรณู ก็คือหนังรักวัยเด็กของคนอีสาน คิดว่าเป็นจริงดังนั้น
  • ฉากหลังของหนังเป็น จังหวัดอุบลราชธานี ใช้ภาษาอีสานเป็นหลัก มีซัพไตเติ้ลทั้งภาษาไทย และอังกฤษ คนอีสานจะดูหนังสนุกขึ้นอีกเพราะเข้าใจภาษาพูดกับวิถีชีวิตมากกว่า แต่ก็ไม่ได้ยากที่จะเข้าถึง
  • หนังเล่าเรื่อง เมื่อโรงเรียนจะต้องเข้าประกวดวงดนตรี แข่งกับอีกโรงเรียนที่มีดีกว่าทุกอย่าง เพื่อคัดเลือกตัวแทนดรงเรียนเข้าแข่งขันที่ตัวจังหวัดต่อไป เรื่องหลายๆเรื่องก็เกิดขึ้น เช่นการคัดเลือกนักร้อง ความพยายามหาทุนมาซื้อเครื่องดนตรีที่เริ่มจะพัง หาหางเครื่องมาร่วมวง
  • รถบัสของสาวจากกรุงเทพฯ เดินทางผ่านหมู่บ้าน เกิดรถเสีย ต้องใช้เวลาซ่อม 2 วัน เลยต้องมานอนพักค้างที่โรงเรียน ปัญญา มีโอกาสได้พบเพื่อนจากกรุงเทพฯ ปัญญาและเพื่อนๆได้อาสาพาเพื่อนจากกรุงเทพฯเที่ยวชมะรรมชาติ จนเกิดความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เพื่อนจากกรุงเทพฯจึงสัญญาว่าจะช่วยหาครูสอนเต้นกับหางเครื่องมาช่วยในวันแข่งขัน ทำให้วงดนตรีของดรงเรียนมีความหวังที่อาจจะชนะได้ และที่สำคัญ ปัญญาได้เจอ คุณมิว สาวน้อยน่ารักจากกรุงเทพฯ ที่เป็นเหตุให้ เรณู ผู้เป็นที่ฮัก บักปัญญา เกิดอาการหึงหวง จนเกิดเรื่องน่ารักน่าชังในแบบเด็กๆให้ได้ยิ้มกัน
  • ในหนังเรื่องนี้ เราได้เห็นวิถีชีวิตของชาวอีสาน ความเชื่อ การพึ่งพากัน หาอยู่หากินกับธรรมชาติ มีความสัมพันธ์พึ่งพากันระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียน ความมีน้ำใจ ตอนที่รถของเด็กจากกรุงเทพฯมาเสียที่หมู่บ้านแล้วต้อง มาพักที่โรงเรียน ชาวบ้านก็ช่วยกันนำผ้าห่ม เสื่อ หมอน มาให้ ถึงจะมีอันเดียวก็เอาให้ จนตัวเองจะไม่มีที่นอนก็ตาม
  • ความเชื่อและศรัทธาที่เราจะได้เห็นในหนังเรื่องนี้ การบนขอพรจากสิ่งศักดิ์(บนแล้วต้องทำตาม) เรื่องผีแม่ม้ายอาละวาด ผู้ชายต้องแต่งเป็นหญิง เจ้าเข้าทรง ขอยืนยันว่าปัจจุบันก็ยังมีอยู่
  • สิ่งที่ผมชอบที่สุดของหนังเรื่องนี้คือ ความเป็นเพื่อนกันของเด็กๆ โดยเฉพาะ ปัญญากับจอบ ช่วยเหลือกันตลอด มีแกล้งกันบ้างบางครั้ง ได้ของกินอะไรมาก็จะมาแบ่งกัน จะไปเที่ยวไหนก็ต้องไปด้วยกัน และการแสดงของหนูเรณู ที่แสดงได้น่ารัก ทั้งบทฮา และบทเศร้า
  • เกล็ดอีกอย่างที่ฉลาดมาก คือ ถ้าตัดเชือกสนตะพายควายแล้ว คนที่คิดจะขโมยจะไม่สามารถเอามันไปได้ (จูงจมูกไม่ได้) ถ้าไม่ใช่คนเลี้ยงควายจริงๆ คิดเรื่องนี้ไม่ได้แน่นอน
  • ผมชอบหนังเรื่องนี้ครับ มีครบทุกรส สนุก ฮา เศร้า ภาพสวย เพลงประกอบก็เพราะ
  • ให้คะแนน 8/10
 

Leave a Reply